วันเวลาผันผ่านนานนับกว่าพันปีในดินแดนปีศาจหลังเฮยตงถูกกำจัดโดยกองทัพพันธมิตรหกพิภพ เฉิงเคอผู้เป็นอาของเฮยตงก็ได้รับการสถาปนาขึ้นเป็นราชาปีศาจ แต่ค่อนข้างแก่ชรา ทายาทเพียงคนเดียวคือโจวซุ่นก็ละทิ้งดินแดนปีศาจไปแล้ว ต้องใช้เวลานานกว่าจะตามหาพบและยินยอมกลับมาอยู่เผ่าปีศาจ ร้อยกว่าปีผ่านไปเฉิงเคอสิ้นชีวิตโจวซุ่นจึงขึ้นเป็นราชาปีศาจแทน
เจ้าของร่างเล็กบอบบางทรุดลงวางดอกไม้แล้วคำนับหน้าแท่นป้ายชื่อมารดาของตน
“ดอกไม้ที่ท่านแม่ชอบเจ้าค่ะ”
นางพึมพำพร้อมยิ้มบาง
“ท่านพ่อไม่ว่างมากับข้าในวันนี้ ท่านแม่อย่าโกรธท่านพ่อนะเจ้าคะ อีกอย่างเอาใจช่วยให้ข้าจับปีศาจฆ่าคนให้ได้ด้วยนะเจ้าคะ”
เจ้าตัวเอ่ยราวแอบกระซิบกระซาบก่อนลุกขึ้นแล้วหันกลับไปก็เจอคนของตนซึ่งขยับเข้ามาหาพร้อมสีหน้าไม่ดีนัก
“ธิดาน้อย ท่านเจ้าปีศาจให้ท่านไปโลกมนุษย์เพื่อเก็บดอกไป่เหอก็จริง แต่นี่ท่านยังจะกลับไปจับปีศาจที่นั่น หากท่านเจ้าปีศาจรู้เข้าคงไม่พ้นถูกดุแน่เจ้าค่ะ”
“ตอนนี้ท่านพ่อไม่อยู่ เราก็แค่รีบไปรีบกลับ”
ใบหน้างดงามของโจวซีหรูไร้ซึ่งความกังวล ทั้งแววตายังวิบวับเห็นเป็นเรื่องสนุก
“เรื่องผดุงความยุติธรรมช่วยเหลือมนุษย์ ไม่ใช่หน้าที่เราเผ่าปีศาจสักหน่อยเจ้าค่ะ อย่าไปเลยนะเจ้าคะ มันอันตราย”
เกาถิงจับแขนนายตนพร้อมรั้งอย่างไม่เห็นด้วย
ผู้เป็นนายยืนนิ่ง นางเองก็ไม่ได้สนใจมนุษย์นักหรอก บิดาบอกเสมอว่าห้ามเข้าใกล้มนุษย์เด็ดขาด พวกเขาทั้งกลัวและเกลียดชังปีศาจ แม้ท่านจะอนุญาตให้ไปที่นั่นในวันนี้ก็เนื่องด้วยเป็นวันเกิดของมารดา ซึ่งในทุกปีนางจะไปเก็บดอกไป่เหอสีขาวที่มารดาชอบยังดินแดนมนุษย์ หากก็ย้ำเสมอว่าจงอยู่ให้ห่างและระมัดระวังตัวจากมนุษย์
สำหรับโจวซีหรูแม้จดจำวันที่มารดาจากไปไม่ได้ หากก็คิดว่าท่านไม่เคยจากไปไหน ความทรงจำเพียงหนึ่งเดียวของนางคือท่านชอบดอกไม้ชนิดนี้ และวันเกิดของตนก็จะเอามาให้มารดาเช่นกัน
ขณะลงไปยังโลกมนุษย์ก็ได้รู้ว่ามีปีศาจร้ายกำลังก่อความวุ่นวายที่นั่น แรกทีเดียวนางตั้งใจกลับมาบอกเล่าให้บิดารับรู้เพราะท่านเป็นราชาปีศาจ เมื่อมีปีศาจแตกแถวทำผิดกฎของเผ่า บิดาของนางย่อมต้องส่งผู้คุมกฎไปจัดการ แต่บิดายังไม่กลับมาจากราชกิจสำคัญที่แดนไกลซีหรูจึงคิดไปกำราบด้วยตนเอง
“แต่มีปีศาจทำผิด อย่างไรเผ่าปีศาจก็ควรดูแลความเรียบร้อย”
“เช่นนั้นท่านก็ควรรอท่านเจ้าปีศาจ หรือไม่ก็ต้องบอกกับผู้คุมกฎทั้งสองสิเจ้าคะ”
เกาถิงขอร้องอย่างหนักใจ ธิดาน้อยของนางเก่งกาจก็จริง แต่ไม่เคยต้องสู้รบกับผู้ใดอย่างจริงจัง แม้ฉลาดเฉลียวหัวไว ฝึกฝนพลังปราณก้าวหน้าได้เร็ว คล่องแคล่วในเชิงการต่อสู้ ทว่าทุกอย่างล้วนเป็นการเรียนรู้ภายในเผ่าปีศาจ ไม่เคยผ่านการใช้งานจริง
“ปีศาจตนนั้นแข็งแกร่งเพียงใดไม่อาจรู้ได้ ลำพังแค่ท่านกับข้าอาจจัดการมันไม่ได้”
ซีหรูไม่ได้เกรงกลัว แต่คิดว่าหากดื้อแพ่งบอกว่าจะไปจับปีศาจนอกรีดมาสำเร็จโทษให้จงได้เกาถิงย่อมต้องคัดค้านไม่จบสิ้น ฉะนั้นนางจึงเลือกที่จะพูดให้คนของตนคล้อยตามแทน
“เราแค่ลงไปดูลาดเลาก่อนก็ได้ แค่ได้ยินข่าวมา ยังไม่รู้เลยว่าจะเป็นปีศาจจริงหรือไม่ มนุษย์คิดว่าทุกอย่างที่ตนมองไม่เห็นเป็นปีศาจร้ายไปเสียหมด แท้จริงแล้วอาจเป็นมนุษย์ด้วยกัน หรือสัตว์ร้ายก็เป็นได้”
นางเอ่ยอย่างให้ดูมีเหตุผล ตนกับเกาถิงเพียงได้ยินชาวบ้านพูดคุยกันอย่างหวาดผวาว่ามีบางอย่างทำร้ายมนุษย์ตายในป่าไปหลายรายในรอบหลายปีมานี้ ทั้งบาดแผลเหวอะหวะและปราศจากเลือดในร่างกาย และเรียกว่า ‘ปีศาจดูดเลือด’
เกาถิงนั้นโดยปกติแล้วก็ไม่อาจทัดทานนายตนได้ แม้นางจะอายุมากกว่าหากก็เป็นพี่เลี้ยงที่นับว่าตามใจธิดาน้อย กระนั้นก็เอ่ยเตือนในสิ่งที่เห็นว่าไม่สมควร
“ข้ายังเห็นว่าเราควรบอกท่านผู้คุมกฎก่อนอยู่ดี”
ซีหรูทำหน้าเบื่อหน่าย อีกฝ่ายรู้ว่านางต้องการหาเรื่องไปเที่ยวเล่นยังโลกมนุษย์เมื่อมีโอกาส แม้ไม่ได้ชื่นชอบเป็นพิเศษแต่นางก็รู้สึกคุ้นเคย ลงไปเก็บดอกไป่เหอเมื่อไรก็จะแวบเดินเข้าหมู่บ้าน เที่ยวตลาด ดูเครื่องประดับ กินอาหารของมนุษย์ที่รสชาติถูกปากตน
ตอนเด็กบิดาพานางไปเก็บดอกไม้มาให้ท่านแม่ เนื่องจากดอกไม้ในแดนปีศาจล้วนมีพิษ กระทั่งนางโตและภารกิจของท่านพ่อมากขึ้นหลังขึ้นครองดินแดนปีศาจ นางจึงขอเดินทางไปด้วยตนเอง มีเพียงเกาถิงเป็นผู้ติดตาม หากก็ถูกกำชับว่าให้รีบไปรีบกลับ แม้แรกๆ จะเชื่อฟังแต่หลายปีเข้านางก็แอบเตร็ดเตร่
“มาเถอะน่าอาถิง ข้าแค่อยากรู้ว่าใช่ปีศาจจริงหรือไม่เท่านั้นเอง หากไม่เกี่ยวกับเผ่าเราก็กลับ”
นางพูดพลางชุดมือของเกาถิงให้ตามมา หากขืนมัวช้าบิดากลับมาก่อนแล้วหานางไม่พบจะถูกดุเข้าจนได้ อย่างไรเวลาที่ดินแดนมนุษย์ก็สั้นกว่าเผ่าปีศาจอยู่แล้ว
“อ๊าก!!”
เสียงกรีดร้องแสนโหยหวนดังในป่าหนาทึบ พร้อมชายหนึ่งคนวิ่งออกมาตรงชายป่าด้วยท่าทางหวาดกลัวสุดชีวิต เขาเป็นเพียงคนเดียวที่รอดกลับมาหลังจากเข้าไปล่าหมูป่ากับสหาย แม้จะรู้ว่าแถบนี้เกิดเรื่องบ่อยในช่วงหลังมานี้ แต่เพราะต้องทำมาหากินเอาหมูป่ามาขายจำเป็นต้องเสี่ยง
เขาวิ่งลนลานหันกลับไปมองข้างหลังอย่างพะวักพะวนแล้วก็ชนเข้ากับใครคนหนึ่งจนล้ม แต่เมื่อหันกลับมาเห็นว่าเป็นคนก็จับขาอีกฝ่ายไว้
“หนีเร็ว!”
“เกิดเหตุอันใดขึ้นหรือ”
ชายหนุ่มอีกคนที่ยืนอยู่ใกล้ๆ เป็นผู้เอ่ยถามพร้อมทั้งเข้าไปช่วยพยุง
“ปีศาจ ปีศาจร้าย มันฆ่าทุกคนหมดแล้ว”
คนบอกเสียงแหบพร่าด้วยความกลัวทั้งยังหน้าซีดเผือด
“พวกท่านรีบหนีไปจากป่านี่เสีย ข้าไม่อยู่แล้ว”
หลังพูดจบก็รีบวิ่งจนเกือบจะสะดุดล้ม หากตั้งหลักได้จึงเผ่นหนีชนิดไม่เหลียวหลังกลับมาอีก
เจ้าของร่างสูงใหญ่ยืนนิ่งไม่ได้มองตามและไม่มีทีท่ากริ่งเกรงแต่อย่างใด ขณะที่คนข้างตัวเอ่ยขึ้น
“ปีศาจออกอาละวาดอีกแล้ว แปลกนัก ข้าส่งทหารลงมาเมื่อใด มันกลับหลบซ่อนได้ดีราวนกรู้ จนไม่อาจหาตัวเจอ แต่เมื่อเป็นมนุษย์มันกลับออกมาทำร้าย”
“มันอาศัยดื่มกินเลือดมนุษย์กับเซียนน้อยที่พลังปราณยังไม่แข็งแกร่ง ปีศาจที่ใช้เลือดคนเป็นอาหารคงเป็นอสูรร้ายไปแล้ว”
“ข้าจะรีบไปจัดการมัน”
“ไม่รู้ว่าตอนนี้มันจะซ่อนตัวหรือยัง ข้าจะไปกับเจ้าด้วย”
“แต่เพียงแค่ปีศาจธรรมดา คงไม่ต้องให้ถึงมือไท่...”
ยังเอ่ยไม่ทันจบนายของตนก็นำไปก่อนจึงต้องรีบขยับตาม สองร่างเคลื่อนไหวรวดเร็วจนเห็นเพียงเงาวูบหนึ่งชั่วพริบตา
ในป่าลึกใครผู้หนึ่งกำลังใช้พลังสูบเลือดเนื้อมนุษย์ซึ่งลอยกลางอากาศตรงหน้า โดยมีอีกร่างที่ไร้วิญญาณและซูบเซียวนอนบนพื้นไม่ห่างนัก แล้วก็ชะงักเมื่อรับรู้ได้ถึงพลังเคลื่อนไหวไม่ห่างจากตนนัก จึงรีบขยับตัวเพื่อจะหลบเลี่ยงโดยกลายร่างเป็นเงาดำวูบหลบไปตามต้นไม้ใบหนา หากก็มีเงาตามมาอย่างรวดเร็วจนทัน ทั้งยังปะทะกันกลางอากาศหลายครั้ง ปีศาจดูดเลือดรู้สึกได้ถึงพลังที่แข็งแกร่งกว่าของอีกฝ่ายจึงหาทางหนีไปโดยเร็ว
การเคลื่อนไหวที่ปลายหางตาทำให้เจ้าของร่างสูงใหญ่เบนทิศทาง ขยับวูบเดียวก็ถึงเป้าหมาย พร้อมกระบี่ขยับออกจากฝักเล็กน้อย คมมีดจ่อขวางหน้าคอเล็กทำเอาเจ้าตัวหยุดกึก หากช้ากว่านี้เพียงนิดคออาจขาดได้ ขณะอีกร่างที่ตามมาก็ชะงักตามพร้อมกรีดร้องขึ้น
“ว้าย!”
ดวงตาเข้มคมกริบกวาดมองร่างเล็กบอบบางพร้อมกับก้าวมายืนเผชิญหน้า เห็นชัดว่าอีกฝ่ายหน้าซีดทว่าตาคู่สวยกลับแข็งกร้าว
“คิดว่าจะหนีข้าพ้นหรือปีศาจน้อย”
เสียงเข้มเอ่ยขึ้น พร้อมจ้องนิ่งที่ปีศาจสาวใบหน้างดงามชวนตะลึง
‘คงตั้งใจแปลงกายเป็นหญิงงามเพื่อหลอกชาวบ้าน คิดหรือว่าจะตบตาไท่จื่อสวรรค์เช่นข้าได้’
======