“ค่ะ” อยากนั่งเบียดนักก็เบียดไป เธอไม่สนใจเขาแล้ว เธอหิว เธอจะกินข้าว
หมอวินปล่อยมือจากเอวบาง เขามองคนที่ได้ขึ้นชื่อว่าเมียอย่างเอ็นดู
สามีภรรยาใหม่หมาดนั่งกินข้าวกันเงียบ ๆ คนหนึ่งกินด้วยความหิวโหย คนหนึ่งกินไปก็มองหน้าเมียไปด้วย ยิ่งอยู่ใกล้ ยิ่งได้มองเธอบ่อย ๆ เขาก็รู้สึกว่า เมียเขาน่ารักน่าเอ็นดู ให้นั่งมองทั้งวันก็ไม่เบื่อ
พอกินข้าวอิ่มแล้ว แสนรักก็ยกสำรับเข้าไปเก็บในครัว หมอวินช่วยยกกระติ๊บข้าวไปเก็บ เมื่อทั้งสองเดินออกมาจากห้องครัว ก็พากันมาหยุดยืนอยู่กลางโถงบ้าน
แสนรักไม่รู้จะไปไหน จะเข้าห้องนอนก็กลัวเขาคิดว่าเธออ่อย จะเดินลงจากบ้าน ก็ไม่รู้จะลงไปทำไม
“รัก...”
“คะ”
“ไปหากาแฟกินกันเถอะ”
“ไปคาเฟ่ตาหวานนะคะ”
“ครับ”
แสนรักยิ้มกว้างสดใส ไปหาพี่ชาย พี่สะใภ้ กับหลาน ๆ ที่คาเฟ่ตาหวาน เธอจะได้ไม่ต้องอยู่กับเขาสองต่อสอง
จากบ้านไปคาเฟ่ตาหวาน ระยะทางไม่ไกล แสนรักจึงเสนอว่าขับมอเตอร์ไซค์ไปดีกว่า
“พี่ขับเอง”
พอเขาเสนอตัวขับ แสนรักก็ยื่นกุญแจรถให้เขา ส่วนเธอเป็นคนนั่งซ้อนท้าย
หมอวินขับรถไปเรื่อย ๆ ไม่รีบเร่ง ระหว่างทางที่ขับผ่านเขตชุมชน เขาจะชะลอความเร็ว บางครั้งก็ทักทายพ่อใหญ่แม่ใหญ่ที่นั่งอยู่หน้าบ้าน บางทีก็ยิ้มให้คนที่ปั่นจักรยานสวนทางมา
มันเป็นเรื่องปกติของคนบ้านนอกบ้านนา ที่ผ่านไปผ่านมาก็ทักทายกัน แต่แสนรักรู้สึกว่ามันไม่ค่อยปกติก็ตรงที่ สายตาของชาวบ้านที่มองเธอมันผิดปกติ พวกเขามองเธอแล้วก็ยิ้มแปลก ๆ
กระทั่งหมอวินขับรถมอเตอร์ไซค์พาเธอมาถึงคาเฟ่ตาหวาน พอทั้งสองเดินเข้าไปในร้าน ตาหวานกับตาตั้มที่นั่งอยู่บนโซฟาก็พากันวิ่งเข้ามากอดอารัก
แสนรักย่อตัวลงนั่งคุกเข่า เธอโอบกอดหลานทั้งสองไว้ในวงแขนคนละข้าง หอมหัวหอมแก้มด้วยรักและเอ็นดู เด็ก ๆ ก็พากันหอมแก้มอารักคืนด้วย
พอหอมแก้มอารักเสร็จแล้ว ตาหวานก็เงยหน้ามองลุงหมอที่เดินตามหลังอารักเข้ามาในร้าน
“สวัสดีค่ะ ลุงหมอ”
ตาหวานประนมมือไหว้อย่างน่ารัก
พอเห็นพี่สาวยกมือไหว้สวัสดี ตาตั้มก็ทำตาม
“สวัสดีครับ ลุงหมอ”
“สวัสดีครับ ตาหวาน ตาตั้ม”
หมอวินยิ้มทักทายเด็กน้อยทั้งสอง
“ลุงหมอขา” ตาหวานเรียกแล้วก็เอียงคอมองลุงหมออย่างสงสัย
“ครับ”
“ลุงหมอไม่สบายหรือเปล่าคะ ทำไมมีรอยสีแดง ๆ เต็มตัวเลย”
“เปล่าครับ ลุงสบายดี”
“แล้วทำไมถึงมีรอยแดง ๆ เต็มตัวเลยล่ะคะ”
“ลุงโดนกัดครับ”
ตาหวานเบิกตากว้างตกใจ
“โดนอะไรกัดเหรอคะ ทำไมถึงได้โดนกัดเยอะขนาดนี้ล่ะคะ”
“โดน...”
หมอวินยังพูดไม่ทันจบ แสนรักก็รีบลุกขึ้นยืน แล้วเอามือปิดปากเขาไว้
ตอนนี้นี่เอง แสนรักจึงได้เห็นว่า หมอวินแกะกระดุมเสื้อเชิ้ตเม็ดบนออกถึงสองเม็ด แล้วเจ้าสาบเสื้อตัวดีของเขาก็แยกกว้าง เปิดเผยให้เห็นร่องรอยที่เธอเป็นคนกระทำย่ำยีอย่างชัดเจน
กมลฉัตรที่ยืนทำงานอยู่หลังเคาน์เตอร์รีบเดินออกมาหาลูกทั้งสอง เธอต้อนลูก ๆ ไปนั่งที่โซฟาชิดผนัง และบอกกับเด็ก ๆ ว่า
“เด็ก ๆ นั่งรอตรงนี้นะคะ ให้ลุงหมอกับอารักสั่งกาแฟก่อนนะคะ”
“ค่า/ครับ”
พอแยกลูกออกจากจุดเกิดเหตุได้แล้ว กมลฉัตรจึงเดินกลับมาหาคู่แต่งงานใหม่ เธอยังไม่ได้พูดอะไรเลย แสนรักก็จับคุณหมอหันหน้าไปหา แล้วลงมือติดกระดุมเสื้อให้สามีทุกเม็ด ติดไปยันกระดุมคอเสื้อเม็ดบนสุด
“รัก... พี่อึดอัด”
“อึดอัดก็ช่างค่ะ ติดเอาไว้อย่างนี้แหละดีแล้ว”
ขนาดติดทุกเม็ดแล้ว บนลำคอแกร่งก็ยังมีอีกตั้งหลายรอย ต้องโทษที่เขาผิวขาวด้วยแหละ ก็เลยเห็นรอยชัดเจนเต็มไปหมด
“พี่ฉัตรคะ ขอกาแฟสำหรับพี่หมอ แล้วก็... รักขอเป็นชาเขียวเย็นค่ะ”
“ได้จ้ะ”
เห็นแก้มแดง ๆ ของแสนรักแล้ว กมลฉัตรก็ไม่ถามอะไรเพิ่มให้มากความ เธอเข้าอกเข้าใจน้องสามีเป็นอย่างดี เพราะเวลาเธอเผลอทำรอยบนตัวสามี เธอก็ไม่อยากให้ใครมาเห็นหรอก
พอกมลฉัตรทำเครื่องดื่มสองแก้วเสร็จแล้ว แสนรักก็โบกมือบ๊ายบายหลานทั้งสอง แล้วรีบพาสามีกลับบ้านทันที วันนี้ไม่ต้องไปไหนกันแล้ว เธอจะพาเขาไปเก็บตัวอยู่ในห้อง เธอจะไม่ให้เขาเอารอยที่เธอเป็นคนทำไปอวดชาวบ้านชาวช่องหรอก
แสนกล้าเปิดประตูหลังร้านเข้ามาหลังจากที่น้องสาวกับน้องเขยกลับไปแล้ว เขามองผ่านผนังกระจกของร้านออกไป จึงเห็นว่าหมอวินขับมอเตอร์ไซค์พาน้องเขากลับไปแล้ว
“ทำไมกลับกันเร็วจัง มีอะไรหรือเปล่า ฉัตร”
กมลฉัตรยิ้มแหย ไม่รู้จะตอบสามีว่าอย่างไร
ตาหวานลุกจากโซฟามาหาป๊ะป๋า เธอมองหน้าป๊ะป๋า แล้วบอกป๊ะป๋าไปว่า
“ลุงหมอโดนอะไรกัดก็ไม่รู้ค่ะ เป็นรอยเต็มตัวเลย อารักคงรีบพาลุงหมอกลับไปทายาค่ะ”
แสนกล้าขมวดคิ้วมุ่น ไม่ค่อยเข้าใจที่ลูกพูดเท่าไร เขาจึงหันไปสบตาภรรยา
“หมอวินโดนอะไรกัดเหรอฉัตร”
กมลฉัตรนิ่งไปครู่หนึ่ง มองหน้าสามี และมองหน้าลูกทั้งสอง เธอกำลังคิดว่าจะตอบว่าอย่างไรดี เพื่อไม่ให้ลูกสงสัยเพิ่มเติม