ณ อีกฝากฝั่ง...ประเทศไทย
‘กิมกิมไปไหนนะ ทำไมไม่ตอบข้อความเขาเลย...ตั้งแต่ เมื่อวาน ล่าสุดเธอบอกเขาตอนออกถ่ายทำคอนเทนต์ของเธอ’
“ต้นกล้า...ฉันอาจไม่ได้แชทบอกแกบ่อยนะ เพราะวันนี้ฉันต้องเก็บงานของฉันให้เต็มที่ บางครั้งอาจจะลากยาวไปเลย แกไม่ต้องห่วงฉันนะ กรุ๊ปทัวร์ดูแลดีมาก ครั้งหน้าฉันต้องใช้บริการนี้อีกแน่นอน เวิร์กสุดๆ ^^”
จิรัจฌาแชทบอกเขาก่อนที่เธอจะไปทำงาน ซึ่งมันก็นานเกือบสิบชั่วโมงแล้ว
“คุณต้นกล้า เป็นอะไรเหรอคะ”
พนักงานในร้านเขาเอ่ยทัก เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มนิ่งอยู่แบบนั้นอยู่นานสองนาน
“อ่อ...ผมสงสัยเรื่องกิมกิมน่ะใบตอง...ทำไมเธอถึงไม่ตอบแชทกลับมา...มันนานแล้ว”
เตชินทร์เล่าให้ใบตอง หญิงสาววัย 19 ปีซึ่งเป็นพนักงานของร้าน และสนิทกับจิรัจฌาอยู่เดิมแล้ว
“อืม...พี่กิมกิมอาจจะยุ่งอยู่มั้งคะคุณต้นกล้า...เวลาเธอทำงานน่ะ ใบตองเห็นเธอนิ่งเป็นชั่วโมงๆ เลยนะเวลาที่มานั่งทำงานที่ร้าน”
“ผมก็อยากให้เป็นแบบที่ใบตองพูดนะ...แค่กังวลเฉยๆ ครับ”
เตชินทร์นึกถึงที่ผ่านมา จิรัจฌามักจะขาดการติดต่อไปมากสุดแค่สองวัน ท้ายที่สุดเธอจะติดต่อกลับมา เวลาที่เธอออกต่างจังหวัด หรือไปต่างประเทศ หรือเขาอาจจะคิดมาก เธออาจมัวยุ่งอยู่ก็เป็นได้
“อย่าคิดมากเลยค่ะ เดี๋ยวพี่กิมกิมก็ติดต่อมาค่ะ เชื่อใบตองเถอะค่ะ”
“อืม...โอเค เดี๋ยวรออีกสักพักนึงแล้วกัน”
....................
อีกฝากฝั่งทวีป...
ณ ปราสาทหลังใหญ่...
“ฟาติน ที่แม่เรียกลูกมาพบวันนี้ ก็เพราะแม่มีเรื่องอยากจะคุยกับลูกสักหน่อย”
ท่านผู้หญิงลัยลาฮ์เอ่ยกับบุตรสาว
“ท่านแม่มีเรื่องอะไรหรือคะ”
ฟาตินมองหน้าท่านแม่ด้วยความฉงนใจ ปกตินางไม่เคยเรียกเธอมาแบบทางการเลย
“แม่จะให้ลูกแต่งงานกับบุตรชาย ของชีควาเกียแห่งรัฐ
อาเกลราเมียร์ ลูกเตรียมตัวไว้เถิด ทางฝากฝั่งโน้นได้ตกลงกับท่านพ่อลูกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว...แม่ไม่ได้ขอความเห็นจากลูกหรอกนะ ฟาติน เพียงแต่แม่จะมาบอกลูกให้เตรียมตัวไว้ก็เท่านั้น”
“ไม่! ค่ะ ลูกไม่แต่งงานกับใครใดๆ ทั้งนั้น”
ฟาตินโต้ตอบกลับทันทีเมื่อสิ้นประโยคของมารดา
“แม่รู้ว่าลูกต้องปฏิเสธ...แต่ว่าแม่ไม่ได้มาฟังคำปฏิเสธของลูกนะฟาติน...ลูกขัดความประสงค์ของท่านพ่อไม่ได้หรอกนะ ตอนนี้ถึงเวลาที่ลูกจะโตเป็นผู้ใหญ่เสียที...อายุลูกก็มิใช่น้อยแล้ว”
“ลูกไม่แต่งเป็นอันขาด ไม่ว่าอย่างไรใครก็บังคับลูกไม่ได้ ถ้าท่านพ่อท่านแม่ยืนยันที่จะบังคับลูกละก็...ทั้งท่านพ่อกับท่านแม่ จะเสียใจภายหลังนะคะ”
“ลูกจะดื้อดึงไปเพื่ออะไร...ตอนนี้ลูกออกจากปราสาทนี้ไปไม่ได้แล้ว...พ่อเจ้ารู้ทัน...สั่งกักบริเวณลูกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว...ลูกจะทำสิ่งใดอีก...ฮึฟาติน”
ท่านผู้หญิงลัยลาฮ์มองหน้าบุตรสาวคนสวยด้วยรอยยิ้ม อย่างเป็นต่อ ‘ฟาตินนั้นงดงามราวกับดอกไม้แรกแย้ม’ แต่เธอนั้นกลับเป็นคนค่อนข้างแข็งกระด้าง ผิดกับรูปร่างหน้าตาเธอยิ่งนัก การที่จะปราบเธอได้นั้นมีวิธีเดียว ‘คือการจับเธอแต่งงาน’
“ท่านแม่!” ฟาตินร้องเสียงดัง เธอตกใจเป็นอย่างมาก ที่ไม่เคยจะคาดคิดว่า ทั้งสองบังคับเธอถึงขนาดนี้ เธอเกลียดการมีคู่ เธอเกลียดการแต่งงาน เธอเกลียดที่ผู้หญิงจะต้องเป็นทาสของผู้ชายเสมอ เธอเกลียดทุกๆ อย่างที่เป็นที่นี่ ‘โอซีเรีย’
....................
อีกด้านหนึ่งของเหตุการณ์
“ซีญ่า...นายฮาริสบอกให้เจ้าดูแลหญิงนางนี้ให้ดี นายจะให้เธอเป็นสนมอีกคนของนาย ให้นางอยู่ห้องใดห้องหนึ่งที่ติดกับฮาเร็มอย่าให้นางหนีออกไปได้เป็นอันขาด...ถ้านางหนีไปได้ เจ้าก็จงไปรับโทษกับนายคนเดียวเถิด”
อาบูสั่งสาวใช้ที่มีนามว่า ‘ซีญ่า’ ซึ่งเป็นหญิงสาววัยสามสิบต้นๆ เธอเป็นสาวใช้ที่นี่ตั้งแต่รับใช้ชีคอุซมีอยู่ก่อนหน้านี้...แต่เพราะชีคอุซมีนั้นวัยชรามากขึ้น เธอเลยถูกปลดประจำการลง และให้ซีญ่ามาทำหน้าที่ดูแลสาวๆ ในฮาเร็มของนายน้อยฮาริสต่ออีกที
“ทำไมหรือ...นางไม่เต็มใจมาหรือ...ทำไมต้องปิดตานาง แล้วๆ ทำไม...” ยังไม่ทันจบประโยค
“เจ้าไม่ต้องถามอันใดหรอกซีญ่า รู้แต่ว่านายฮาริสพอใจนางเป็นอย่างมาก อยากให้เจ้าดูแล และส่งนางรับใช้นายคืนนี้ เท่านั้นพอ”
“อืม...ข้าแค่แปลกใจ ปกตินายน้อยไม่เคยบังคับใครมานี่ ไหนดูหน่อย หน้าตาเป็นอย่างไรกัน”
ซีญ่าเพ่งมองหญิงสาวที่หันซ้ายขวาตลอด เธอพยายามจับเสียงสนทนาต่างๆ ระหว่างเสียงผู้หญิงกับชายคนที่พาเธอมา
“นางงดงามนี่...สมแล้วที่นายน้อยจะพอใจ”
“งั้นข้าจะไปแล้วนะ เจ้าต้องใช้คนอีกสักสามคนนะ ข้าขอเตือนไว้ ว่าหญิงนางนี้ น่าจะแรงเยอะพอสมควร”
อาบูเตือนสาวใช้ซีญ่า เพราะกว่าเขาจะหลอกล่อเธอมาได้นั้นก็ยากพอสมควร ดูแล้วเธอเป็นคนฉลาด สังเกตจากวาจา และภาษาของเธอนั้น เธอสามารถใช้ภาษาโอซีเรีย ได้หลายประโยคเลยทีเดียว
“อืม...ไปเถิด ข้าจะจัดการเอง...แค่ผู้หญิงคนเดียว ข้าจัดการมาหลายคนแล้ว นางจะสักแค่ไหนกันเชียว”
“พวกคุณคุยอะไรกัน ปล่อยฉันไปนะ”
จิรัจฌารัวภาษาอังกฤษอย่างเร็ว แต่ทว่านางผู้นี้กลับไม่เข้าใจภาษาของเธอแม้แต่น้อย นางหันไปสั่งคนของเธอแทน
“เอาตัวเธอไป”
“ปล่อยฉันนะ!”
หญิงสาวดิ้นอย่างแรง พยายามใช้ร่างของตัวเองกระแทกกับสิ่งต่างๆ ที่คอยมาจับตัวเธอ เลือดนักสู้ของจิรัจฌาก็มีอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว จนสาวรับใช้สองคนนั้นไม่สามารถที่จับตัวเธอได้เลย
“นางพยศมากเหลือเกินเจ้าค่ะคุณซีญ่า”
สาวใช้นางหนึ่งบอกแก่หัวหน้าสาวรับใช้
“อะไรกันนางแรงเยอะขนาดนั้นเชียวหรือ...ใยพวกเจ้าถึงไม่มีแรงบังคับนางได้...ไปตามคนมาอีกสองคนเร็ว!”
ซีญ่ามองหญิงสาวเจ้าตัวต้นเหตุ เธอถูกนำมาจากไหนกัน ใยนายน้อยฮาริสถึงบังคับเอามาเป็นสนมได้ ทั้งที่ในฮาเร็มของนายน้อยเอง ก็มีนางสนมอยู่ไม่น้อย
“ปล่อย ฉัน ไป”
จิรัจฌาใช้คำศัพท์ภาษาพื้นเมืองทีละคำ จนทำให้ซีญ่าหันกลับมามองเธออย่างตกใจ
“เจ้าพูดภาษาเราได้”
นางพยายามพูดช้าๆ กับเธอเช่นกัน
“ปล่อยฉัน!” จิรัจฌาย้ำอีกทันที
“ข้า ปล่อย เจ้า ไม่ได้”
คำพูดของซีญ่าที่สื่อสารกับเธอ มันทำให้ทำนบที่กั้นน้ำตาเธอเอาไว้ทลายลงมาทันที
“ฮือ ฮือ ฉัน จะกลับบ้าน” จิรัจฌาร้องไห้อย่างคนสิ้นหวัง
“นาย ไม่ ทำร้ายเจ้า ไม่ต้อง กลัว”
ซีญ่าหันหน้าหนีกับภาพตรงหน้า เธอไม่เคยบังคับหญิงใดเลยสักครั้ง หญิงสาวแต่ละคนนั้นเต็มใจที่จะเข้าหานายน้อยฮาริสกันทุกคน จนเธอต้องปวดหัวกับการคัดเลือกในแต่ละครั้งเป็นอย่างมาก แต่กลับหญิงสาวคนนี้มันเป็นครั้งแรกของเธอเลยก็ว่าได้...
สาวใช้ทั้งสี่ช่วยกับจับตัวจิรัจฌาอย่างทุลักทุเล เธอทั้งดิ้น ทั้งใช้เท้าถีบกลางอากาศออกไปอย่างชุลมุน เพื่อเป็นการป้องกันตัวของเธอเอง...เธอก็จำเป็นที่จะทำเช่นนี้
“ปล่อย! ช่วยด้วย!...อุ๊บ!”
ริมฝีปากบางถูกปิดด้วยผ้าผืนใหญ่ทันที เพราะเสียงของเธอดังสนั่น จนทำให้ผู้คน หญิงสาวทั้งสนมน้อยใหญ่ที่อยู่บริเวณนั้นแตกตื่นเป็นอย่างมาก
“เอานางไปรอข้าในห้อง...ปิดประตูแน่นหนาทุกบาน อย่าลืมเปิดตาและปากของนางด้วย...และห้ามแก้มัดนางเด็ดขาด”
ซีญ่าสั่งสาวใช้ทั้งสี่ นางกำลังคิดวางแผนรับมือจัดการกับหญิงสาวคนนี้อย่างหนัก จะทำเช่นไรดี
....................
“ซีญ่านั่นเจ้าจะไปที่ใด...ข้ามีอะไรให้เจ้าช่วยข้าหน่อย”
ฟาตินเอ่ยทักหัวหน้าสาวใช้ เมื่อเห็นนางนั้นเดินกุมขมับออกมาจากห้องๆ หนึ่ง
“เอ่อ...นายหญิงน้อยมีเรื่องอันใดหรือเจ้าคะ”
“ข้ามีงานให้เจ้าทำหน่อยซีญ่า...เจ้าช่วยไปหาข้าที่ห้องหน่อยได้ไหม”
ฟาตินมองซ้ายมองขวาอย่างระวัง เพราะภายในปราสาทนี้ มีแต่ทหารนับร้อยคอยตรึงกำลังอยู่ทั่วทุกพื้นที่
“เอ่อ...นายหญิงน้อยเจ้าคะ...ตอนนี้ซีญ่ายังไปตามคำขอของนายหญิงน้อยมิได้เลยเจ้าค่ะ...คือเวลานี้ซีญ่ามีภารกิจของนายน้อยฮาริสก่อนเจ้าค่ะ...เมื่อเสร็จภารกิจซีญ่าจะรีบไปหานายหญิงน้อยทันทีเลยเจ้าค่ะ”
“ท่านพี่มีภารกิจอันใดกับเจ้าหรอกหรือ”
ฟาตินมีความสงสัย ปกติคนที่จะทำงานให้กับท่านพี่ได้ ก็เห็นมีแต่อาบูกับบาซิมเท่านั้น ใยวันนี้ถึงมอบงานให้ซีญ่า
“เอ่อ...นายหญิงน้อยสอบถามกับนายน้อยฮาริสเถิดนะเจ้าคะซีญ่าขอตัวก่อนนะเจ้าคะนายหญิงน้อย”
ซีญ่าโค้งคำนับและเดินจากไปทันทีด้วยความรีบร้อน
“แปลกจริง! ปกติซีญ่าไม่เคยปฏิเสธข้าเลยสักครั้ง...ทำไมวันนี้ถึงแปลกยิ่งนัก หรือว่าจะเป็นงานแต่งของท่านพี่กับนูรีนกันแน่”
ฟาตินมองหัวหน้าสาวใช้เดินจากไปอย่างครุ่นคิด เธออดที่จะสงสัยไม่ได้
....................
ณ ห้องหนึ่งในปราสาทอันกว้างใหญ่นับร้อยห้อง...
“ปล่อยฉัน! ได้ยินมั้ย!”
จิรัจฌามองบริเวณรอบๆ ห้องทันทีที่เธอถูกเปิดผ้าที่ปิดตาเธอไว้ ‘นี่มันอะไรกันนี่...มันคือพระราชวังที่ไหนกัน...ทำไมข้าวของเครื่องใช้ดูหรูหรา ประดับประดาด้วยอัญมณีระยิบระยับ แม้กระทั่งเก้าอี้ก็ไม่เว้น’
“..........” ไม่มีเสียงตอบกลับเช่นเคย จากนางทั้งสี่ พวกเธอยืนรอประจำการอยู่มุมห้อง
“พวกคุณ ฟัง รู้เรื่องใช่ไหม”
จิรัจฌาใช้ภาษาพื้นเมืองอีกครั้ง พยายามนึกคำศัพท์ที่เธอท่องมา แต่ก็จำได้เฉพาะบางคำ ถ้ามีสมาร์ทโฟนของเธอตอนนี้ล่ะก็ มันจะไม่ลำบากเลย ข้าวของเธออยู่ที่ไหนนะ
แกร๊ก! เสียงประตูถูกเปิดออก
“พวกเจ้าสี่คนคงไม่พอสำหรับนางนี้...ข้าต้องนำมาเพิ่มอีกสองคน”
ซีญ่ากลับมาพร้อมสาวใช้เพิ่มอีกสองคน ซึ่งแต่สองคนนี้มีร่างกายสูงใหญ่กว่าสาวใช้ทั่วไป
“เจ้าค่ะ” สาวใช้ทั้งสี่มองหญิงสาวต้นเหตุ
“คุณ! ฟัง ฉัน รู้เรื่อง ใช่ไหม”
จิรัจฌาพยายามใช้ภาษาของคนพวกนี้อีกครั้ง
“เจ้า ถูกส่ง มาเป็น สนม”
ซีญ่าก็ต้องตอบนางเช่นกัน เพื่อนางจะได้ยอมรับโชคชะตาของตัวเองซะที
“สนม คือ?”
จิรัจฌางง กับคำศัพท์คำนี้จึงทวนให้เธอคนนี้อีกครั้งเพื่อช่วยแปล
“สนม คือ นางบำเรอ”
ซีญ่าไม่รู้จะสรรหาคำใด มาอธิบายกับนางได้อีก นางนั้นยากกว่าทุกคนที่เธอเคยเจอ
“ห๊ะ! นางบำเรอ!”
จิรัจฌาตกใจกับคำที่หญิงสาวนางนี้บอก เธอจะมาเป็นนางบำเรอของใคร ‘ชายคนนั้นเหรอ คนที่จูบเราเมื่อกี้’
“ไม่นะ! ฉัน จะ แจ้ง ตำรวจ”
จิรัจฌาพูดชัดถ้อยชัดคำ พยายามใช้ท่าทางข่มขู่ประกอบคำพูด
“ที่นี่ ไม่มี ตำรวจ”
ซีญ่าตอบกลับด้วยสีหน้าราบเรียบ นางจะมัวเสียเวลากับเธอคนนี้ทำไม ในเมื่อเธอเป็นใครนางก็ไม่จำเป็นจะต้องรู้ สิ่งที่นางต้องทำคือ การเตรียมเธอให้พร้อมสำหรับคืนนี้
“ไม่! อย่าแตะตัวฉันนะ! ปล่อยฉัน! กรี๊ดดดดดด!”
จิรัจฌาดิ้นแบบทั้งเตะทั้งถีบไปทั่ว เมื่อเธอโดนเหล่าหญิงรับใช้ในตำหนักฮาเร็มทั้งหกรุมทึ้งเธอ
“จับแขนขานางไว้”
ซีญ่าสั่งสาวใช้ทั้งหก นางจำเป็นจะต้องทำสิ่งนี้ เพื่อจะจับเธอทั้งชำระร่างกาย เธอจะต้องถูกทำความสะอาดทั้งภายนอกและภายใน เส้นขนทั้งร่างกายถูกกำจัดออก เนื้อตัวขัดอย่างสะอาดทาครีมบำรุงจนเนียนนุ่มด้วยเครื่องหอมกลิ่นรัญจวนใจจนหอมกรุ่นไปทั่วร่างอรชร และแต่งองค์ทรงเครื่องเพื่อพร้อมสำหรับการรับใช้นายน้อยฮาริสภายในคืนนี้
....................