บทที่ 1 เฟยห่วงลี่

2154 คำ
หญิงสาวนอนหลับใหลทุกอย่างเกิดขึ้นคล้ายกับเธอกำลังหลับฝัน ฝันร้ายว่าเธอนั้นกำลังประสบอุบัติเหตุรถยนต์ เธอยังไม่ทันบอกลาพี่ที่เคารพเลยสักนิดก็จากไปเสียแล้ว ร่างกายของเธอนั้นอาบไปด้วยเลือดสีแดงชาดมีเพียงเธอเท่านั้นที่ไม่สามารถรอดจากอุบัติเหตุครั้งนี้ได้ น่าเศร้าใจเหลือเกิน เธอต้องมาจบชีวิตลงทั้ง ๆ ที่เธอยังมีความฝันเต็มเปี่ยมในหัวใจ ‘น่าเสียดาย อายุยังน้อยแท้ ๆ กลับต้องมาตาย ช่างเป็นคนพิเศษนัก ถ้าปล่อยให้ตายไปเปล่า ๆ คงน่าเสียดาย ข้าจะช่วยเจ้าแล้วกัน’ เสียงทุ้มของใครบางคนทำให้หญิงสาวที่กำลังหลับใหลรับรู้ แต่เปลือกตายังคงแข็งทื่อจนเธอไม่อาจต้านทานได้เลย ทำได้เพียงรับรู้เท่านั้น หญิงสาวยังหลับตาแน่น ก่อนทุกอย่างจะเงียบงัน ชิวซูหนี่ว์เธอคงตายไปแล้ว เสียงนั้นคงเป็นเสียงของยมบาลมารับตัวเธอแล้วแน่ ๆ ชีวิตของเธอต้องจบแค่นี้เหรอเนี่ย? “ แม่ แม่ ๆๆๆ” “แม่ แม่ จื่น ๆ” (ตื่น ๆ) เสียงเด็กน้อยชายหญิงดังสลับกัน ทำให้ดาราสาวดาวร้ายต้องลืมตาตื่นขึ้นมา เห็นดวงตากลมโตสองคู่เบิกโพลงด้วยความตกใจ ก่อนมือน้อย ๆ ที่เย็นเฉียบมาวางบนหน้าของเธอ ชิวซูหนี่ว์ดาราสาวตกใจไม่แพ้กัน “แม่ตื่นแล้ว” เสียงของเด็กชายดังขึ้น ก่อนมือน้อย ๆ ของตนนั้นมาวางบนหน้าฝากของเธอ ต่างจากหญิงสาวตกใจกับเหตุการณ์เมื่อครู่ ตื่นมาเธอก็มาเจอเด็กสองคนนี้เป็นใครกันแน่ “พวกเธอเป็นใครกัน” ดาราสาวร้องกรีดถาม เด็กน้อยสองคนรีบกระโดดกอดกันกลมด้วยความตกใจ ไม่เคยเห็นมารดาในท่าทางแสนเกรี้ยวกราดเช่นนี้มาก่อน “เยว่ส่างเอง” เด็กน้อยเอ่ยปากขึ้นด้วยความสั่นกลัว “เยว่เล่อค่ะ” เด็กสาวเอ่ยตามเด็กชาย ชิวซูหนี่ว์ขมวดคิ้ว ชื่อทั้งสองหลุดออกมาจากปากของเด็กน้อยช่างคุ้นหูเสียเหลือเกิน ไม่ผิดแน่ชื่อทั้งสองที่หลุดออกมาจากปากของเด็กน้อยทั้งสองคือ มาจากบทละครที่เธอเพิ่งอ่านจบ อย่าบอกนะว่า เธอก็คือ เฟยห่วงลี่ คุณแม่ลูกแฝดที่มีชะตากรรมแสนอาภัพ เมื่อคิดได้เช่นนั้นแล้ว หญิงสาวรีบลุกพรวดขึ้นมามองรอบกายหากระจก เด็กทั้งสองเห็นมารดาตนเองมีอาการเปลี่ยนไปก็เดินตามต้อย ๆ ไม่ต่างจากลูกลิง เงาสะท้อนหน้ากระจกคือหญิงสาวสวยสะพรั่งสวมชุดกี่เพ้าในสมัยจีนยุคเก่าลวดลายสวยงาม มีกำไรหยก ชิวซูหนี่ว์ยกมือขึ้นแนบอก ใบหน้าที่สะท้อนมาไม่ใช่ใบหน้าของเธอแต่อย่างใด รูปร่างราวนางฟ้าในเงาไม่ใช่ร่างกายของเธอ อย่างบอกนะว่าเธอนั้นตายแล้วมาเกิดใหม่ในบทละครที่ตนเองกำลังจะเล่น ในหัวของเธอมันคิดได้เพียงหนทางนี้จริง ๆ ที่เป็นไปได้ ถ้าเช่นนั้นเด็กสองคนผู้มีใบหน้ากลมป้อมแสนน่ารักน่าชัง คือ เฟยเยว่ส่าง กับ เฟยเยว่เล่อ อย่างนั้นหรอกหรือ ไม่อยากจะคิดว่าเรื่องแบบนี้มันจะเกิดขึ้นกับเธอ.... ชะตากรรมที่เธอเจอก็คงไม่น้อยเลยสิท่า ตามในบทละครที่หญิงสาวได้อ่านมานั้น เฟยห่วงลี่ โดนรังแกสารพัด ลูกทั้งสองคนที่เกิดมา ต้องมาใช้แซ่ของเธอ เนื่องจากแม่สามีไม่ยอม แล้วสามีตัวดีก็กำลังจะพาเมียใหม่เข้ามาในบ้าน แค่คิดใจก็เจ็บขึ้นมาเสียดื้อ ๆ พอมาเจอความคิดที่เธอต้องสวมบทเป็น เฟยห่วงลี่ เองก็ทรมานใจไม่น้อย เด็กสองคนนี้ ต้องมีพ่อที่เจ้าชู้ มีพ่อที่ไม่เคยนึกถึงจิตใจของแม่และพวกเขาเลยสักนิด หญิงสาวย่อตัวนั่งลง ก่อนอ้าแขน.......ในสมองของหญิงสาวตอนนี้นั้นว่างเปล่า ไม่รู้จะเริ่มอย่างไรต่อไปดีกับชีวิตใหม่ที่อยู่ในบทละคร “เยว่ส่าง เยว่เล่อ มาหาแม่มะ” หญิงสาวเรียกแทนตัวเองว่าแม่ ก่อนอ้าแขนกว้างพอสำหรับเด็กน้อยสองคน “แม่” “แม่...” เสียงคางยานแสนสดใส ก่อนร่างน้อย ๆ ทั้งสองจะพุ่งตัวเข้าในอ้อมกอดแสนอบอุ่นของผู้เป็นมารดา “โอ๋ ๆ ตกใจอะไรกันหึ นี่แม่เอง” ชิวซูหนี่ว์ดาวร้ายสวมบทบาทเป็นมารดาของเด็กทั้งสอง ไหน ๆ เธอต้องอยู่ในบทบาทของเฟยห่วงลี่ต่อไปอีกยาวนาน เธอก็ขอเลือกทางเดินของเธอเองและเพื่อลูก ๆ ทั้งสองคน “แม่นอนไม่ตื่น” เฟยเยว่เล่อเด็กน้อยผมหน้าม้าเอ่ยปากฟ้องมารดา ส่วนเด็กชายหน้าตามอมแมมไม่แพ้กันก็พยักหน้ารับ “ช่าย....” เฟยห่วงลี่ยกยิ้มมุมปาก ก่อนยื่นมือไปเช็ดหน้าเช็ดตาของลูกทั้งสองที่อาบไปด้วยน้ำตาแห่งความดีใจ เด็กหนอเด็กแค่แม่นอนไม่ตื่นก็ทำให้ทั้งสองนั้นเป็นกังวล ถ้าเธอมาอยู่ในบทละครจริง....ตอนนี้คงเป็นช่วงแรกที่เฟยห่วงลี่นั้นมีปัญหา เธอต้องเผชิญกับแม่สามีใจร้าย สะใภ้หนึ่ง และสะใภ้สาม ส่วนเธอนั้นเองเป็นสะใภ้รองผู้อ่อนแอ ถ้ายังเล่นตามบทต่อไป เธอก็ต้องยอมแพ้พวกนั้น เพื่อให้ลูกน้อยทั้งสองมีชีวิตในบ้านหลังนี้ พอสามีเธอกลับมา.... แทนที่เขาจะช่วยพูดและปกป้องเธอกับลูก เขากลับพาภรรยาใหม่ที่เป็นพี่สาวของซ้อใหญ่ของบ้านหลังนี้ เรื่องราวที่เฟยห่วงลี่ต้องเผชิญหน้าในเวลาอันใกล้ช่างน่าอัปยศนัก เธอกอดเด็กทั้งสองด้วยความเอ็นดู พลางคิดถึงพี่สาวสุดรักของเธอ อย่างพี่เมย ไม่รู้ว่าปานนี้พี่เมยจะเป็นเช่นไร โชคชะตาคงลิขิตไม่ให้เธอตาย เธอจึงต้องมาอยู่ที่นี่ในร่างของเฟยห่วงลี่ตัวละครที่เธอต้องสวมบทบาท ตอนนี้เธอเองก็ไม่รู้เช่นกันว่าโลกใบนี้ความจริง หรือแค่ความฝัน คงเป็นความจริงสินะ ไอความอบอุ่นของเด็ก ๆ ทำให้รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของหญิงสาว ถ้าเธออยู่ในบทละครนี้จริง เธอขอเดินตามทางของเธอเอง เฟยห่วงลี่คนใหม่ กรอก.... จู่ ๆ เสียงท้องร้องของเด็กสาว เฟยเยว่เล่อทำหน้าเหยเก เหลือกตามองมารดา ก่อนลูบท้อง “แม่ ๆ น้องหิวแล้ว” เฟยเยว่ส่างสมเป็นพี่ชาย แม้เกิดก่อนแค่ไม่กี่นาที เจ้าหนูน้อยยังปกป้องดูแลน้องสาวได้เป็นอย่างดี “หิวแล้วเหรอจ๊ะ” เฟยห่วงลี่คนใหม่ลูบแก้มนุ่ม ๆ ของลูกสาว ก่อนจะขยี้ศีรษะทุยของเด็กสาวด้วยความมันเขี้ยว “หิวแล้วค่ะ” “หิวแล้ว” ใบหน้ากลมป้อมของเด็กน้อยทั้งสองพยักหน้าพร้อมกันเชียวทำเอาหญิงสาวยิ้มออกมา เกิดมาไม่คิดจะรักเด็กมาก่อน ไม่ใช่นางงาม พอมาเจอแบบนี้ดาราสาวผู้ไม่เคยใจอ่อนให้เด็กคนไหน ต้องมาใจอ่อนกับเด็กน้อยทั้งสอง บ้านหลังนี้ใหญ่ทีเดียว แต่ทำไมปล่อยให้เด็กน้อยสองคนหิวและมอมแมมขนาดนี้ ก็แน่ล่ะตอนอ่านในบทชะตากรรมของเฟยห่วงลี่ว่าแย่แล้ว เด็กสองคนนี้ที่เป็นลูกก็คงลำบากตามแม่เช่นกัน ดาราสาวได้แต่คิดในใจ ก่อนจะลุกขึ้นพาเด็กทั้งสองออกไปจากห้องนอนแสนมอซอ ห้องนอนแสนพัง ไม่น่านอนเอาเสียเลย ตลอดเวลาที่ผ่านมาสามแม่ลูกต้องมาทนนอนในห้องเก็บของเช่นนี้ “ปะ เราสามคนจะไปหาอะไรกินกัน” “แต่ว่า เจ้าของบ้านเขาไม่ยอมให้เข้าไปในห้องครัวนะครับ” คำว่า เจ้าของบ้าน ฟังแค่นี้ก็พอจะรู้แล้วว่าเด็กแฝดทั้งสองคนถูกปฏิบัติมาเป็นเช่นไร ต่อไปนี้เธอจะไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายลูกของเธออีกแล้ว “ได้สิ แม่จะพาหนู ๆ ไปกินข้าวเอง เราสองคนจะไม่หิวอีกต่อไปแล้วนะ” เฟยห่วงลี่จูงมือเด็กสองคนออกจากห้องนอนของพวกเขา หญิงสาวเดินจูงเด็กน้อยตัวเล็กทั้งสอง ขาสั้น ๆ ป้อม ๆ เดินตามด้วยความหวาดกลัว “ไม่ต้องกลัวนะคะ ถ้าแม่ยังอยู่ไม่มีใครอะไรพวกหนูสองคนได้เลยสักนิด” ว่าแล้วเธอก็เดินนำ สายตาคู่งามกวาดมองหาห้องครัว ทำไมบ้านเงียบเฉียบเช่นนี้ ไม่รู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นเปล่านะ แต่ก็ดีอย่างน้อย เธอจะได้หาอะไรให้เด็กน้อยทั้งสองกินเพื่อประทังชีวิต โดยไม่ต้องสู้รบตบมือกับใคร “ห้องครัวอยู่นี่ครับแม่” เฟยเยว่ส่างกระดุกกี่เพ้าของผู้เป็นมารดาแรง ๆ ก่อนนิ้วชี้น้อย ๆ จะชี้ไปทางฝั่งซ้ายของบ้าน หญิงสาวจัดการอุ้มเด็กน้อยทั้งสองขึ้นมาโดยใช้มือทั้งสองโอบลำตัวของเด็กน้อยเอาไว้ โชคดีที่เด็กน้อยทั้งสองตัวเล็กไม่หนักมาก เรี่ยวแรงก็ของเธอเลยอุ้มได้สบาย ๆ เด็กน้อยทั้งสองออกไปทางผอมจนทำให้ตัวเล็กแกร็น “อยากกินอะไรกันหึ เดี๋ยวแม่เป็นคนทำ” “อยากกินเป็ด” “อยากกินเนื้อ” ทั้งเฟยเยว่เล่อ และเฟยเยว่ส่างพูดขึ้นพร้อมกันด้วยความดีใจ หญิงสาวปล่อยลูก ๆ ลงไปยืนบนพื้น เด็กน้อยตาโตเมื่อเห็นเป็ดกับเนื้ออยู่ในตู้กับข้าว “พวกแกจะทำอะไร” เฟยห่วงลี่กำลังจะยื่นมือไปเปิดตู้กับข้าวมีเสียงของใครบางคนดังขึ้นมาท่ามกลางความเงียบงัน หญิงสาวเหลียวหลังกลับไปมอง เห็นหญิงสาววัยราวสี่สิบในชุดกี่เพ้าเท้าเอวมองพวกเธอสามแม่ลูกดวงแววตาอาฆาต ทำราวกับว่าเธอนั้นไปฆ่าใครมาอย่างนั้นเชียวล่ะ “ก็จะทำอาหารยังไงล่ะป้า ไม่เห็นหรืออย่างไง” เฟยห่วงลี่ตอบกลับไปแบบไม่สนหน้าใครสักนิด เพราะเธอไม่ใช่เฟยห่วงลี่คนเดิมที่ต้องเล่นตามบท เธอก็เลือกทางที่ดีที่สุดเพื่อครอบครัวของเธอ “กล้าดียังไงว่าเรียกฉันแบบนี้ ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง....” “อะไรหรือคะคุณแม่” เสียงของใครบางคนดังขึ้น เป็นเสียงของหญิงสาวคนหนึ่งหน้าตาสวย ทาปากสีแดงเลือดนก เดินมาพร้อมกับหญิงสาวอีกคนที่แต่งตัวคล้ายกัน ถ้าให้เดาสองคนนี้ก็คือ สะใภ้หนึ่ง กับสะใภ้สามสิท่า...... “ก็นางตัวดีกับลูก ๆ ของมันกำลังขโมยของอยู่นะสิ” เจียงหงเอ่ยฟ้องสะใภ้สุดรักทั้งสอง..... “ขโมยอะไรกันล่ะคะคุณแม่ ฉันก็เป็นสะใภ้ของคุณแม่นะคะและเด็กสองคนนี้ก็เป็นหลานคุณแม่แท้ ๆ ไม่คิดจะแบ่งปันอาหารให้หน่อยหรือคะ หรือให้พวกฉันหิวตายในบ้านหลังนี้ จะไม่ใจร้ายไปหน่อยหรือ” เฟยห่วงลี่แบะปากกอดอก เด็กทั้งสองกอดขาของแม่ตนเองเอาไว้ด้วยความหวาดกลัว อาการตัวสั่นของเด็กแฝดทำให้หญิงรับรู้ว่าเมื่อก่อนเด็กทั้งสองคนคงโดนทำร้ายมาเยอะ คำพูดของสะใภ้คนรองแสนน่ารังเกียจทำให้ใจของเจียงหงผู้เป็นเจ้าของบ้านหลังนี้เจ็บใจยิ่งนัก เธอคงต้องสั่งสอนสะใภ้คนนี้เสียหน่อย ไม่รู้ว่าลูกชายของเธอหาผู้หญิงแบบนี้มาเป็นเมียได้อย่างไร น่ารังเกียจสิ้นดี “หน็อย!” ฝ่ามือของเจียงหงยกขึ้นกลางอากาศจงใจจะฟาดลงใบหน้างดงามแสนหยิ่งผยองของสะใภ้รอง เฟยห่วงลี่แบะปากกะพริบตา ถอนหายใจ มุขนี้เธอเคยในบทละครประจำ ก่อนหญิงสาวจะรั้งแขนของแม่สามีเอาไว้ก่อนจะฟาดลงมาบนหน้าของเธอก่อน ได้โอกาสเฟยห่วงลี่บีบแขนของแม่สามีอย่างแรงมากพอที่จะสร้างรอยแดงบนแขนของหญิงสูงวัย “คุณแม่ อย่ามาคิดทำร้ายฉันกับลูกอีก เพราะฉันไม่ใช่เฟยห่วงลี่คนที่ยอมไปหมดเสียทุกอย่างเหมือนเมื่อก่อนแล้ว”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม