ตอนที่3

2584 คำ
ตอนที่ 3 ฉวยโอกาส บ่ายคล้อยวันนี้เธอโดนเรียกตัวไปใช้แรงงานเยี่ยงทาสโดยมีคนตัวสูงตามประกบชี้นิ้วสั่ง ประหนึ่งเจ้านายจอมเฮี๊ยบกับสาวใช้จอมมึน ดารินทร์สวมเสื้อยืดคอกลมสีดำกางเกงยีนส์ขาสั้นเพื่อจะได้ทำงานแรงงานได้ถนัดถนี่ “ขัดเบามือหน่อย นี่มันหินแกะสลักรุ่นทวดฉัน ขืนเธอทำมันแตกฉันจะให้เธอหาทางประกอบมันขึ้นมาใหม่” ร่างสูงสั่งกำชับร่างเล็กอวบอิ่ม ขณะเธอนั่งคุกเข่าขัดหินแกะสลักสีเขียวมรกตมรดกตกทอดของต้นตระกูล “ค่ะนายน้อย...” เธอได้แต่ยิ้มรับคำ แม้ภายในใจจะบ่นค่อนขอดเขาอยู่ก็ตาม “ให้อาหลินช่วยนะคะนายน้อย อาหลินอยู่ว่างๆ พอดี” อาหลินเสนอตัวช่วย เธออดสงสารหญิงสาวคนตรงหน้าเสียไม่ได้ หลังจากเรียนออนไลน์ภาคเช้าเสร็จก็โดนเรียกตัวมาใช้แรงงานขัดถูทุกซอกทุกมุม ลามมายันทำความสะอาดของสะสมราคาแพงจากต้นตระกูล “อย่ามายุ่ง ว่างมากก็ไปหาอะไรทำนี่มันงานง่ายๆ ทำไม่ได้ก็ไสหัวออกไป” “แต่ว่ามันเยอะมากเลยนะคะนายน้อย งานพวกนี้แม่บ้านช่วยกันทำตั้งสี่ห้าคนหลายวันกว่าจะเสร็จ” อาหลินลอบถอนหายใจ เหลือบมองหญิงสาวที่นั่งทำทุกอย่างคนเดียว ในขณะที่แม่บ้านคนอื่นไปพักผ่อนสบายใจ “กล้าขัดคำสั่งฉันหรออาหลิน” ราอูลจ้องเขม็ง ไม่คิดว่าคนของตนก็คิดจะปีกกล้าขาแข็งขัดคำสั่ง นี่คงจะไปตีหน้าเศร้าเล่นบทนางเอกให้ผู้อื่นเห็นใจละสิท่า “ดารินทร์ทำได้ค่ะนายน้อย ขอบใจมากจ๊ะอาหลิน” ดารินทร์เอ่ยขัดบทสนทนาก่อนที่มันจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ หลังไล่ผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องออกไปพ้นหูพ้นตา ชายหนุ่มจึงนั่งไขว่ห้างชี้นิ้วสั่งเธออย่างสบายใจ ท่อนแขนเรียวอ่อนล้าจากการหยิบยกสิ่งของหนักบ้างเบาบ้าง กระนั้นเธอก็ไม่ยอมปริปากบ่นออกมา ’อึดดีเหมือนกันนิ‘ ราอูลมองหญิงสาวสวมชุดไปรเวทธรรมดาก่อนนึกชมเธอภายในใจ เสื้อผ้าอาภรณ์ธรรมดายังไม่สามารถกลบออร่าความงามสะคราญดั่งหงส์เพลิงของเธอได้ อันที่จริงทุนเดิมครอบครัวของเธอก็ใช่ว่าลำบากลำบนอดมื้อกินมื้อ ครอบครัวของเธอมีฐานะปานกลางไม่ได้รวยล้นฟ้าและก็ไม่ได้จนถึงขนาดเคยผ่านความทุกข์ยากมามากมาย ถึงขนาดต้องกลายมาเป็นแรงงานทาสของเขา คอยหยิบจับทำหน้าที่ตามที่เขาสั่ง หากไม่ทำตามจุดจบย่อมลงเอยด้วยการเจ็บตัว เขามันโรคจิตเสพติดความรุนแรง... “แค่มาทำความสะอาดมีความจำเป็นที่จะต้องนุ่งสั้นมาอ่อยใครโดยเฉพาะด้วยหรอ” น้ำเสียงเหน็บแนมของเขาดังขึ้นเป็นระยะ ‘แล้วใครใช้ให้เขามองกันล่ะ!’ “ขออภัยค่ะนายน้อย คราวหลังจะแต่งตัวให้มิดชิดกว่านี้ค่ะ” แม้จะกร่นด่าเขาภายในใจหมื่นล้านคำ เธอก็ทำได้เพียงยิ้มรับนอบน้อม ทว่าเขากลับจิกหัวใช้เธอพูดจาดูถูกเหยียดหยามน้ำใจครั้งแล้วครั้งเล่า เพียงแค่แต่เดิมเธอเคยเป็นมนุษย์ สาเหตุเล็กน้อยเพียงนี้กลับเป็นข้ออ้างที่ทำให้เขาคิดจะทำอะไรกับเธอก็ได้อย่างนั้นหรือ... “ได้เวลาดื่มเลือดของฉันแล้วเธอไปเอามาให้ฉัน” “ค่ะนายน้อย” ใช้ฉันขัดหินแกะสลักที่เขาหวงนักหวงหนายังไม่ทันเสร็จ ก็รีบใช้เธอไปทำอีกอย่าง วันนี้งานของเธอคงจะเสร็จหรอก... “กะอุณหภูมิด้วย ฉันชอบดื่มเลือดที่มันยังอุ่นไม่เอาเย็น ใส่แก้วคริสตัลเท่านั้นห้ามจับแก้วมือเปล่าใส่ถาดรองมาด้วย” “รับทราบค่ะ” “ด่าฉันในใจอย่างนั้นสิ?” ร่างสูงเลิกคิ้วหนามองร่างเล็กที่กำลังจะไปทำตามคำสั่ง “เปล่าค่ะนายน้อย รอสักครู่นะคะ” หญิงสาวยืนงงในดงคลังเลือดภายในห้องขนาดใหญ่มีเครื่องทำความเย็น กักเก็บอุณหภูมิคงสภาพของโลหิตสีแดงสด แต่ละชั้นมีรายชื่อเจ้าของแปะติดบริเวณถุงบรรจุโลหิต ดวงตากลมโตกว้านหารายชื่อของชายหนุ่ม ถุงบรรจุโลหิตนับพันทำเธอตาลาย “เจอแล้ว...” ร่างเล็กอุทานออกมาอย่างดีใจ มือเล็กเอื้อมไปหยิบถุงบรรจุโลหิตขึ้นมาหนึ่งถุง ก่อนจะนำเข้าเครื่องอุ่นเล็กน้อยตามคำสั่ง แก้วคริสตัลบรรจุเลือดสีเข้มพร้อมถาดรองพร้อมเสิร์ฟส่งตรงถึงมือชายหนุ่มผู้เอาแต่ใจ มือสากหยิบรับพลางวนแก้วคริสตัลอย่างสงสัยว่าเธอแอบใส่สิ่งแปลกปลอมลงไปเพื่อแก้แค้นเขาหรือไม่ “คงไม่ได้แอบถุยน้ำลายลงไปหรอกใช่ไหม?” ร่างสูงลังเลที่จะดื่มมันเล็กน้อย “ดารินทร์ไม่กล้าทำแบบนั้นหรอกค่ะนายน้อย ขอตัวไปทำความสะอาดต่อนะคะ” “เดี๋ยว...เอาไปอุ่นมาใหม่มันเย็นแล้ว ดื่มไปก็เสียรสชาติ” ราอูลวางแก้วลงบนโต๊ะเช่นเดิมพลางสั่งเธออีกครั้ง หลังหญิงสาวทำท่าจะหันหลังกลับไปทำหน้าที่ของเธอต่อ “แต่ว่าดารินทร์พึ่งจะยกมาเสิร์ฟให้นายน้อยนะคะ มันจะเย็นได้ไง” เธอแย้งขึ้นมาอย่างเหลืออด เขาพยายามจะกวนโอ๊ยเธอ เธออยากจะรีบทำงานที่เขามอบหมายให้เสร็จจะได้ไปให้พ้นหน้าเขาไวๆ “ฉันบอกว่าเย็นก็คือเย็นไง อย่ามาเถียง!!” เสียงแข็งกระด้างดังขึ้นตามอารมณ์คุกรุ่นที่ถูกเธอขัดใจ “ค่ะนายน้อย” ใบหน้าสวยสะคราญขบเม้มริมฝีปากเป็นเส้นตรง ดวงตากลมเชิ่ดขึ้นเบนมองนอกหน้าต่าง “เธอกระแทกเสียงใส่ฉันหรอ!!” ราอูลมองการกระทำของหญิงสาวที่ดูเหมือนเธอเองก็ไม่พอใจเอาเสียมาก “นายน้อยอย่ามาหาเรื่องดารินทร์นะคะ” ดวงตากลมโตตวัดมองร่างหนาไร้ความกลัวเกรง เรื่องอะไรจะต้องมาก้มหัวยอมขนาดนี้ เธอชักจะหงุดหงิดกับนิสัยงี่เง้าของเขาแล้วนะ “ตรงไหนที่ฉันหาเรื่องเธอ?” “ทุกตรงนั่นแหละค่ะ ใครมองไม่ออกก็โง่เต็มทน” “อย่ามาทำตัวถือดีในบ้านของฉันเข้าใจไหมยัยเลือดผสมสกปรก หัดเจียมตัวซะบ้าง แค่ให้เธอหายใจใช้อากาศเดียวร่วมกัน ฉันก็ขยะแขยงแทบบ้า!!” “ดารินทร์เจียมตัวเสมอค่ะนายน้อย แต่นายน้อยก็ไม่ควรด้อยค่าดารินทร์ถึงเพียงนี้...” “ฉันด้อยค่าอะไรเธอค่าของเธอในสายตาฉันมันก็มีเพียงเท่านี้ตั้งแต่แรก” น้ำเสียงเย้ยหยันเอ่ยออกมาจากริมฝีปากหนา “อยากกินก็ไปทำเอาเองนะคะนายน้อย ดารินทร์ขอไปทำหน้าที่ของตัวเองก่อน” “กล้าเดินหนีฉันหรอ!” สายลมวูบหนึ่งปะทะเรือนร่างเล็กอวบอิ่ม ปรากฎร่างกายกำยำยืนดักหน้ายืนจ้องแววตาแข็งกร้าวดุจราชสีห์ ชั่วพริบตาฝ่ามือหนาบีบลำคอขาวผ่องดันร่างเธอแนบชิดติดกำแพงผนังสีขาว “ปล่อยนะคะนายน้อยดารินทร์เจ็บ!” มือเล็กทุบตีขีดข่วนท่อนแขนแกร่งพัลวัน เธอทุ่มสุดแรงทุบตีเขาหวังระบายอารมณ์อัดอั้นตันใจ “เจ็บสิดีจะได้จำ!” “ปล่อย!” ยิ่งเธอดีดดิ้นเพียงใด ฝ่าหนายิ่งเพิ่มแรงกดบีบลำคอแน่นมากขึ้นเท่านั้น จนเธอไม่สามารถเปล่งเสียงร้องออกมาให้เขารำคาญหูได้อีก “ฉันเกลียดคนอวดดี ปากเก่งอย่างเดียวก็ไม่ช่วยอะไรหรอกนะรู้ไว้! ให้ฉันไปเอาเองงั้นหรอ ได้...” ร่างสูงกระตุกยิ้มเจ้าเล่ห์ มองเหยื่อตรงหน้าแววตาเจ้าเล่ห์ “......” “บทเรียนแรกที่เธอจะได้จำใส่สมองเอาไว้ก็คือ อย่ามีปากมีเสียงกับฉัน...” ฝ่ามือบีบลำคอขาวผ่องแน่นจนเธอหายใจไม่ออก ใบหน้าหล่อคมโน้มก้มฝังคมเขี้ยวแหลมคมกัดซอกคอขาวผ่องปรากฎเส้นเลือด ร่างเล็กกระตุกเฮือกตื่นตกใจ “นะ...นายน้อย!” ความเจ็บแปล๊บในคราแรกยามเขาฝากฝังคมเขี้ยวลงบนเนื้อนาง ถูกทดแทนด้วยความมึนเมาเคลิบเคลิ้มล่องลอยราวกับว่าเธอกำลังเพ้อฝัน เลือดอุ่นข้นหอมหวานกว่าเลือดใครคนไหน ทำให้เขาดูดดื่มกินอย่างละเมียดละไมทีละหยด กลิ่นเนื้อนางหอมกรุ่นดั่งดอกไม้ลอยคละคลุ้ง รสชาติเลือดหวานฟุ้งเสียยิ่งกว่าคาราเมล แม้นอยากจะดื่มกินให้มากกว่านี้หน่อย ทว่าเขากลับหักห้ามน้ำใจตนเอง เกรงว่ามันจะทำให้เธอสิ้นชีพ ลิ้นร้อนไล่เล็มเลียปิดบาดแผลบริเวณซอกคอขาวผ่อง คมเขี้ยวแหลมคมถดถอนผละออกมาอ้อยอิ่ง หญิงสาวยังคงเลื่อนลอยไร้สติราวกับเหตุการณ์เพ้อฝัน “......” ชายหนุ่มฉวยโอกาสในยามที่เธอยังคงล่องลอย ริมฝีปากหนาครอบครองปากเล็กอิ่มสุดเย่อหยิ่งของเธอ บดขยี้แนบแน่นไม่มีช่องว่าง มือหนาประคองร่างเล็กข้างเดียวอีกข้างรั้งดวงหน้างามโน้มเข้าหาตัว เนื้อเนียนช่างนุ่มแน่นสมวัย กลิ่นกายสาวแรกแย้มมันหอมหวานแตะจมูกเสียเหลือเกิน แม้ปากจะบอกว่าจงเกลียดจงชังเธอนัก ทว่าเขากลับหาเรื่องรั้งเธอไว้อยู่ข้างกายให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ เขาก็ไม่รู้ว่าตนเองทำไปเพื่ออะไร ขอแค่ได้หยอกได้แกล้งเธอ เขาเองก็รู้สึกมีความสุขสนุก ท่าทีเย่อหยิ่งจองหองของหล่อนมันทำให้เขารู้สึกอยากปราบพยศม้าดื้อตัวนี้ให้อยู่หมัด เพียงแต่ม้าดื้อตัวนี้หัวรั้นยิ่งนักและยากที่จะเชื่อง อีกใจก็พร่ำบอกตนเองว่าเธอนั้นเป็นผู้หญิงต้องห้าม อย่าหลงใหลความสวยแฝงยาพิษของเธอเด็ดขาด! ริมฝีปากหนาฉวยโอกาสเคล้าคลึงริมฝีปากเล็กอิ่มเนิ่นนาน ไม่ยอมผละออกมา ลิ้นร้อนกว้านสำรวจความหวานจากปากอิ่มไม่รู้จักพอ ริมฝีปากอวบอิ่มมอบสัมผัสแปลกใหม่ให้แก่เขา แม้เขาเองจะเชยชิมริมฝีปากของใครต่อใครมานับไม่ถ้วน แต่ครั้งนี้ใจแกร่งเต้นระส่ายควบคุมไม่อยู่ “......” ร่างสูงรีบผละออกมาก่อนที่เรื่องมันจะเลยเถิด มือหนาปล่อยร่างเล็กล้มกองลงกับพื้น เขาหันกายเดินจากไปโดยไม่หันหลังกลับมามอง จะให้มันเป็นแบบนี้ไม่ได้... ฝืนกายว่ายากเพียงใดฝืนใจนั้นยากยิ่งกว่า... หญิงสาวนั่งนิ่งเนิ่นนานกว่าจะคืนสติ เธองุนงงกับเหตุการณ์เมื่อครู่ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง เธอจำได้เพียงว่าเขาฝังเขี้ยวแหลมลงบนลำคอของเธอ ก่อนที่สติทุกอย่างจะเลือนลอยจนจำเหตุการณ์เมื่อครู่ไม่ได้ “ให้ตายเถอะ...เห็นเป็นธนาคารเลือดหรือไง” เธอบ่นอิดออด วันนี้ไม่มีอารมณ์จะทำความสะอาดต่อแล้วพรุ่งนี้ค่อยว่ากัน ดารินทร์เดินตามหาอาหลินทั่วบ้านก่อนจะมาพบบริเวณห้องครัว สาวใช้แวมไพร์หนึ่งเดียวที่เธอรู้สึกสนิทสนมด้วย “อาหลินเดี๋ยวตามดารินทร์ขึ้นไปนะจ๊ะ” “ทำไมหรอดารินทร์” “เหงาอยากมีเพื่อนคุยน่ะอาหลิน” ดารินทร์หน้ามุ่ยบอกบุญไม่รับ อาหลินเห็นดังนั้นอดที่จะหลุดขำเล็กน้อยเสียไม่ได้ ดูท่าคงจะเจอศึกใหญ่มากระมัง “ได้สิ อีกสิบนาทีนะ” “จ๊ะ” ดารินทร์เดินขึ้นมาบริเวณชั้นสองของตัวบ้าน ห้องนอนของเธออยู่ปีกซ้ายสุด ก่อนจะไปทำกิจธุระส่วนตัวอาบน้ำชำระล้างร่างกายให้สะอาดหมดจด ก่อนจะถูกเรียกลงมารับประทานอาหารเย็นเพียงคนเดียว “นายน้อยล่ะ?” เธอเอ่ยถามถึงชายหนุ่ม หากเขาร่วมโต๊ะทานอาหารกับเธอ เห็นทีจะต้องรีบยัดสเต็กเนื้อกึ่งสุกกึ่งดิบเข้าท้องโดยเร็วก่อนที่เขาจะมา “ออกไปข้างนอกตั้งนานแล้ว” อาหลินเอ่ย “เฮ้อ...ค่อยโล่งอก” หญิงสาวถอนหายใจลากยาว ก่อนจะลงมือทานมื้อเย็นอย่างไม่รีบร้อน “ดูทำท่าเข้านายน้อยมาเห็นได้โดนเล่นงานอีกหรอก” อาหลินส่ายหน้าเอือมระอาแม้ว่าเธอจะสวยแต่เธอก็ติดตลกอยู่หน่อย “ก็ตอนนี้เขาไม่อยู่นี่นา” “เธอว่าใครไม่อยู่...” น้ำเสียงเย็นยะเยือกดังขึ้นทำลายความสุขบนโต๊ะอาหาร หญิงสาวนิ่งค้างเติ่งมองตามเสียง ชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่กำยำขนาบสองข้างโดยมนุษย์สาวสองคนรูปร่างอรชรสวมเสื้อผ้าน้อยชิ้นแนบผิวกาย พวกเธอทั้งสองมองตาไม่กระพริบมาทางเธอ แววตาริษยานั่นไม่คิดจะปิดบังหน่อยหรอ... นังผู้หญิงคนนี้มันสวยเกินหน้าเกินตา... มันต้องมาแย่งตำแหน่งเมียรักของเธอแน่ๆ... “นั่นใครหรอคะนายน้อย” หญิงสาวข้างกายชายหนุ่มเอ่ยถาม น้ำเสียงกระแหน่ะกระแหน่ดูหาเรื่อง “กาฝากหรือว่าคนรับใช้ดีล่ะ” “คนรับใช้นั่งทานข้าวบนโต๊ะของเจ้านายได้ด้วยหรอคะ” “อย่าไปสนใจเลยไม่ได้มีค่ามากพอให้เราสนใจ สนใจเรื่องของเรากันดีกว่า” ท่อนแขนแกร่งโอบลำคอสองสาวพากันเดินขึ้นไปบริเวณชั้นสาม ท่ามกลางสายตางุนงงของหญิงสาว มายืนพูดจาเสียดสีเธอเสร็จแล้วก็ไป “ใครอะอาหลิน” หญิงสาวเอ่ยถามเพื่อนสนิทอย่างสนอกสนใจ “ก็ผู้หญิงที่นายน้อยเลี้ยงไว้ไง ชอบสำคัญตัวว่าเป็นนายหญิงมาแต่ละทีพวกฉันหัวจะปวด ฉันไม่ขอขึ้นไปนอนกับเธอนะคืนนี้” อาหลินทำหน้าแขยง สองสาวมาที่บ้านทีไร เรียกร้องการบริการระดับโรงแรมห้าดาวเสียทุกที เรื่องเยอะที่หนึ่ง เธอแทบจะอยากหนีทุกครั้งที่เห็นพวกหล่อน “อ้าว...ทำไมล่ะ” “เดี๋ยวคืนนี้เธอก็รู้เอง” “เอ้า! แค่เนี่ย! ฉันจะเข้าใจไหมล่ะ” “อืมมน่า...เดี๋ยวคืนนี้เธอก็เข้าใจ” กว่าจะเข้าใจคำพูดของอาหลินก็ต่อเมื่อเธอได้ประสบพบเจอกับตัวเอง ขณะนี้เวลาตีสองครึ่งบริเวณห้องนอนของชายหนุ่มมันตรงกับห้องนอนของเธอพอดิบพอดี เสียงอึกทึกครึกโครมดังกึกก้องผสานเสียงร้องของหญิงสาวสองคนที่ร่ำร้องปานจะขาดใจตายอยู่รอมร่อ ดึกดื่นป่านนี้พวกเขาสามคนทำกิจกรรมอะไรบางอย่างที่เธอเองก็พอจะเดาออก แต่รุนแรงกันถึงเพียงนี้เลยหรือ เธอยังแอบสงสัยว่าพรุ่งนี้แม่สาวสองคนนั่นจะกลายเป็นศพต้องเรียกกู้ภัยมากู้ร่างไหม “โอ๊ย...เชือดวัวเชือดควายกันหรือไงร้องระงมส่งเสียงดังกันอยู่นั่นแหละ” หญิงสาวกว้านหยิบหมอนใบใหญ่ทับปิดใบหน้าของเธอ หวังว่ามันจะลดทอนเสียงดังรบกวนในยามวิกาลได้ “ฉันเข้าใจเธอแล้วอาหลินน~” เป็นเวลาเกือบรุ่งเช้ากว่าเธอจะสามารถข่มตาหลับ แม้ว่าเสียงร้องดังลั่นจะส่งเสียงดังขึ้นเป็นระยะ ไม่มีท่าทีหยุดหย่อน เขาช่างมีแรงราวกับช้างสาร ส่วนพวกหล่อนก็อึดถึกดีซะจริง ไม่เหนื่อยกันบ้างเลยหรือ...
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม