chapter05- เศษทรายใต้รองเท้า

2255 คำ
ผมกลับมาถึงห้องแล้วครับหลังจากส่งเจแอนกับอาชิลงที่คอนโดฯ ผมก็ขับตรงจากเส้นเพชรเกษม เข้าวงเวียนใหญ่ แล้วก็ขับต่อไปยังเส้นสาทร เลยบีทีเอสมาหน่อย ก็เป็นคอนโดของผม เส้นทางไม่ได้ซับซ้อนเลย มันจะมีใครที่เคยผ่านไปมาแล้วหาไม่เจอบ้าง ขนาดน้องชายผมไม่ใช่เด็กเมืองกรุงฯ ไอ้สายลมมันยังมาถูก ถ้าเคยมาแล้วไม่มีทางหลง ผมเลี้ยวเข้าคอนโดฯ อย่างช้าๆ หลังจากจอดรถเสร็จ ที่ชั้นจอด ผมก็วนมาด้านหน้าเพื่อจะเข้าอาคาร แต่เอ๋!? เหมือนผมจะลืมคีย์การ์ดกับกุญแจ ผมนั่งควานหาในกระเป๋า สะพายเบี่ยงข้างของหลุยส์วิกตองใบเก่งอยู่นาน แต่ทำไมไม่เจอ หรือผมไม่ได้หยิบมา แต่ผมจำได้ว่า ไม่ได้เอาออกจากกระเป๋านี่ หรืออยู่ที่รถ! แล้วผมก็เดินกลับไปคุ้ยหาที่รถ ทุกซอกทุกมุม นี่ถ้ายกรถเทหาได้ผมคงจะทำไปแล้ว แต่!! มันก็ไม่เจอ ผมคิดอยู่นานว่าตัวเองเผลอเอาไปใส่ในไมโครเวฟอีกหรือเปล่า หรือในเครื่องซักผ้า คิดไปมากมาย แต่นึกได้ว่าอาทิตย์นี้ผ้าผมยังหมักไว้ในตะกร้าอยู่เลย ก็ยังไม่ได้ย้ายไปไหนนี่ แล้วกุญแจจะไปอยู่ไหน.... จนแล้วผมก็บางอ้อ ผกนึกออกแล้วว่าวันนั้นผมให้จอมทัพหยิบไป และบอกเขาว่าให้ฝากไว้ที่ป้อมยาม จึงรีบไปถามหาตาเหลือกเพราะอยากอาบน้ำมากแม่!! แม่กลองนะครับไม่ใช่ห้างบิ๊กซี จะได้แอร์เย็นฉ่ำสบายใจ ผมรักแร้เปียกไปจนถึงร่องก้นแล้ว!! ....แต่สวรรค์ก็ล้อผมเล่น พี่ยามบอกว่าไม่มีใครเอาอะไรมาฝากไว้ทั้งนั้น... "ไอ้จอมทัพพพ!!! ...จริงเหรอพี่ ..พี่หาดีหรือยัง เขาเอามาฝากไว้แน่ๆ ตอนเช้าวันที่25นะพี่" "ไม่มีครับ..." "หาใหม่พี่..หาดูใหม่ มันต้องมี!! " ผมยังเชื่อว่าพี่ยามหาดูไม่ดี... "ไม่มีครับ! " "พี่อย่าล้อเล่นดิ!!! ..จะไม่มีได้ไง ผู้ชายขับแท็กซี่สีชมพูคาดขาว ตัวสูงๆ ประมาร 180เซ็นติเมตรผิวขาวๆ ปากอมชมพู บ่าเขาจะกว้างๆ ตาตี่ๆ แล้วก็หล่อมากๆ ...ผมบอกว่าให้ฝากไว้ที่นี่" อธิบายรูปประพันสัณฐานราวกับเก็บข้อมูลผู้ร้าย ละเอียดเบอร์นั้นพี่ยามยังบอกว่าไม่เคยเห็น มีแต่คนที่มาแลกบัตรตอนเช้าอะ คนนั้นแต่เขาไม่ได้ฝากอะไรไว้ว่างี้! ผมอยากจะกรี๊ดให้โลกแตก...นี่มันบ้าอะไรจอมทัพ!!! นายเอาคีย์การ์ดพี่ไปแล้วจะเข้าบ้ายังไงล่ะวันนี้ เอ้อ! ชีวิตขอบฟ้ามันบ้าสิ้นดี ให้ตายเถอะ!! อยากวิ่งเอาหัวชนกำแพง "พี่ครับ แล้ววันนี้มีคนลักษณะแบบนั้น หรือใครเอาคีย์การ์ดมาฝากไว้อีกไหม” ผมลองถามอีกรอบ ก็ทำไงได้ ผมจะทำทุกทางเพื่อหาทางเข้าบ้าน แต่พี่ยามก็ยังบอก ไม่มี!! ไม่มีใครฝากอะไร นอกจากจดหมายจากไปรษณีย์ กับพัสดุจากเคอร์รี่ ที่ผมสั่งจากเว็บขายของ พี่ยามรีบโยนให้ผมตั้งสามสี่กล่อง แกบอกว่ามันรกป้อมแกหลายวันแล้ว ...พี่ก็คิดได้ ผมเข้าบ้านไม่ได้แล้วพัสดุโยนมาเนี่ยผมจะเอาไปยังไง...คิดแล้วอยากแหม!! "แล้วผมจะเข้าบ้านยังไงคืนนี้? " "แจ้งนิติดูแลคอนโดฯ นะครับ เดี๋ยวเขาจะเอากุญแจสำรองมาเปิดให้ แต่ว่าเป็นเวลาเลิกงานคุณอาจจะต้องรอสักชั่วโมง ต้องประสานงานดูก่อน" พี่ยามว่ามาแบบนี้ ก็คงตามนั้น ถ้าไม่งั้นก็คงต้องไปนอนบ้านอีเจแอน หรืออีอาชิ แต่สองคนนี้ คงไม่สะดวกให้ผมนอนแน่ๆ ผมรู้ดี หรือถ้าไม่งั้นสะดวกสุดตอนนี้คือผมก็นอนข้างถนนนี่แหละ ..คนบ้าเอ้ยได้ตัวผมไปแล้วยังเอากุญแจห้องไปด้วยอีก ให้ตาย! ความหลับนี้อย่าให้ใครรู้อายเขาตายเลย จวบจนสี่ทุ่มที่พี่นิติฯ สามารถจัดการให้ผมเรียบร้อย นำเอากุญแจชุดใหม่มาให้ ผมได้เข้ามานอนห้องสักที บ้าจริง! ที่ทุกเรื่องในชีวิตผม มันเกี่ยวข้องถึงจอมทัพจนได้ ลืมได้ไหมขอบฟ้า ลืมเรื่องวันไนท์สแตนแสนด์ป่วนไปได้ไหม ผมเริ่มเหนื่อย หมดวันที่สองย่างเข้าวันที่สามแล้ว ผมมั่นใจว่าจะไม่มีใครมาทั้งนั้น เขาจะไม่มา ผมบอกตัวเอง เขาเงียบหายไปอย่างกับฝันตื่นหนึ่ง ผมก็ควรจะทำเหมือนมันแค่ฝันตื่นเดียว จอมทัพจะไม่กลับมาแล้ว กุญแจห้องก็ได้ชุดใหม่แล้ว เลิกรอเถอะนะขอบฟ้า! ยอมรับว่าวังเวงและคิดถึงเขา มันอาจจะเรียกว่ารักไม่ได้ แต่มันก็ทำให้ผม ไม่สามารถลืม ได้แต่ทำใจว่าจากนี้ไป จอมทัพจะเหลือแต่ชื่อ ที่ผมจะสลักไว้ในใจ และเขาจะเป็นใครคนหนึ่งที่ผมจะจดจำ ถ้าเกิดลืมไม่ได้ก็จำซะจะได้ไม่ต้องเหนื่อยทะเลาะกับตัวเอง ผมอาบน้ำ และเข้านอน ชีวิตผมไม่มีอะไรมาก ถ้าไม่ทำงานก็จะวนเวียนแบบนี้ แบบนี้เรื่อยๆ จนถึงวันที่ต้องแพ็คกระเป๋าไปราชบุรีบ้านผม… ผมยังปรับทุกข์กับเพื่อนระหว่างเราเดินทางไปราชบุรี ว่าในที่สุดเขาก็ไม่มาและผมจะเลิกรอ ซึ่งสองคนก็ตบไหล่ปลอบใจ "มันคือความหมายของคำว่า one night stand จริงๆ คืนเดียวคือคืนเดียว มันจะไม่มีคืนสอง สาม สี่ ทำใจยอมรับเถอะนะ หาใหม่เอาให้ใหญ่กว่าเดิม" คำปลอบใจเพื่อนสาวอย่างเจแอน ที่ฟังกี่ครั้งก็คิดดีตามมันไม่ได้จริงๆ แต่ก็จริงของมันคือหาใหม่ "ไม่กลับมาไม่เท่าไหร่นะมึง แต่ดันเอาคีย์การ์ดกูไปด้วยคิดดูว่าเกือบนอนเป็นเพื่อนไอ้ตูบข้างถนนแล้ว..อันนี้กูโกรธจริง" ว่าจะไม่บอกเพื่อนแต่ผมขอขีงคนชื่อจอมทัพหน่อยเถอะ คนบ้า!! เอาคีย์การ์ดกูคืนมา!! ผมร้องโหยหวนในใจ แต่ทำอะไรไม่ได้ จนเรามาถึงราชบุรี ก่อนจะเลี้ยวเข้าไปยังสวนมะม่วงบ้านผมซึ่งอยู่ห่างจากถนนหลักพอสมควร พวกเราแวะกินข้าวที่ร้านจุดพักรถก่อน อาหารที่นี่เขาอร่อยมากครับ ผักบุ้งไฟแดงหมูกรอบ กับผัดผักกระเฉดน้ำมันหอย ต้มยำหมอไฟ ทะเล ราดหน้าปู อู้หู!!! สายแดกจงเจริญ!! บอกได้คำเดียว เราสั่งมาหมดทุกเมนูที่ว่า แล้วก็จัดการมันอย่างเอร็ด อร่อย อิ่มแปล้จนพุงกลางกันหมดแล้ว ก็ต่อด้วยไอติมกะทิมะพร้าวอ่อนอันเป็นเอกลักษณ์ของร้านนี้ พวกเรากินกันชนิดที่ว่าคำว่าอ้วนนะเหรอไม่เคยถูกบัญญัติในพจนานุกรมพวกเราหรอกครับ!! "ไปพวกมึง!! ..อีกครึ่งชั่วโมงถึงบ้านกู ...อี่อาชิ! เตรียมเซ็ตสวยให้พร้อมอีกหน่อย มึงจะได้เจอขวัญใจของมึงแล้ว"ผมว่าแซวให้เพื่อนซี้ ครั้งก่อนตอนสายลมเรียนปีหนึ่ง อาชิเนี่ยปลื้มมันสุดละ..ขวัญใจมันเลย! "ปล่อยน้องมันสักคนเถอะอาชิ กูขอ..ให้มันมีอนาคตสดใสเถอะ"เจแอนรีบเสือก "กูก็ไม่ได้ทำอะไรน้องมันปะ...พวกมึงอย่า! กูจับกินขึ้นมาล่ะโทษพวกมึงเลย ที่สาระแนใส่กู"อาชิหน้าแดงแก้มแดง นางยังเขินยังตัวงอทุกทีที่เราพูดถึงสายลม จนเรามาถึงบ้าน อาชิยิ่งทำตัวประหม่าเมื่อเด็กยกกระเป๋าได้ปรากฏตัว "ผมช่วยครับพี่ชิ พี่เจ! "น้องชายสุดหล่อของผมนี่โชว์ความเป็นสุภาพบุรุษได้น่าประทับใจสุดๆ "ขอบคุณจ๊ะ..."อาชิรีบลากกระเป๋าส่งให้ พลางท่าทีเขินอาย ให้ตายเถอะ!! อี่อาชิ ผมอยากจะบอกมัน ว่ามันเกินจะเขินทำหน้าแบ๋วมากแล้วนะไม่ใช่เด็กสิบเจ็ดสิบแปดแล้วนะ "ท่าทางมึงคงอยากปล่อยน้องมันมีอนาคตที่ดีเหลือเกินนะอาชิ! " เจแอนแหว๊ดใส่ หลังเห็นอาการเพื่อนรักที่แทบยืนไม่เป็น "เออ..กูไม่ได้คิด มึงน่ะแหละ สะเหล่อกูตลอด พอเลยเลิกพูด!! " พอถูกจับสังเกต อี่อาชิก็รีบเปลี่ยนเรื่อง และไม่อยากจะคุย เดินกระแทกเท้าตุบๆ จนแผ่นดินสะเทือน ตามสายลมไปห้องพัก ช่วงเย็นพวกเรามานั่งทานข้าวตากอากาศ มองวิว ต้นไม้ชายป่า สุดลูกตา พร้อมกับพูดคุยกันเหมือนแต่ก่อน พ่อผมอยากให้กลับมาอยู่บ้านเพราะคิดถึง แม่ก็ด้วยถ้าผมไม่อยากทำสวนก็ไม่ต้องทำ ให้สายลมทำก็พอ ส่วนผม อยากทำอะไรที่นี่ แม่ก็อนุญาต หรือจะเปิดบาร์กาแฟก็ดี จะได้ช่วยดูแขกที่เข้าพักโฮมสเตย์ แต่ผมเซย์โนหมด เพราะงานที่กรุงเทพฯ มันดูอิสระและเหมาะสมกับผมกว่า "พี่อยากมาเมื่อไหร่ก็บอก จะได้เตรียมอุปกรณ์สอนทำให้ "สายลมก็ช่วยพูดอีกแรง "แกก็พูดได้ แกชอบทำสวน แต่พี่ไม่ชอบอะ..ขอบาย!! " เรายังคุยกันเหมือนเดิม และทุกอย่างก็เช่นเดิม คือผม ก็ไม่ยอมตกลง จะว่าไปผมเรียนกราฟฟิกตั้งสี่ปี จะให้กลับมาทำสวนเนี่ยนะ ขอผมถอนทุนก่อน "แม่อะ!! ..ไม่เอาครับอยากทำงานที่เรียนมา ที่บ้านก็ให้สายลมทำเถอะ! " ผมพูดขึ้นแบบละเหี่ยใจ ซึ่งทุกคนก็รู้และเดาออกอยู่ว่าจะลงเอยเช่นเดิม ในตอนที่เราคุยกัน เรื่องนี้ เพื่อนซี้สองสาวของผมก็เอาแต่นั่งฟัง ตักข้าวกับน้ำพริกปลาทู ใส่ปากคำโตๆ อร่อยล่ะซี!! หลังทานข้าวเสร็จผมก็มานั่งแช่ที่เปลใต้ต้นมะม่วง ดาวเต็มท้องฟ้าคืนนี้ เคว้งคว้างเป็นบ้า อีกไม่กี่วันจะปีใหม่ หลายคนคงไปเคาท์ดาวน์กันเป็นคู่ๆ บรรยากาศช่วงธันวา มันก็โรแมนติกดี อากาศเย็น ไปจนถึงหนาวบางพื้นที่ มันคงทำให้คู่รักตกหลุมรักกันซ้ำไปซ้ำมา และได้ใช้เวลาช่วงวันหยุดพักผ่อนนี้อย่างมีความสุขที่น่าจดจำ น่าอิจฉาคนมีคู่ที่สุด หันมามองที่ตัวเอง สิ่งที่เป็นความทรงจำช่วงปีใหม่นี้ ไม่น่าจดจำเอาซะเลย โดนผู้ชายที่รักควงเมียมาเย้ย แถมมาถูกจอมทัพทำอย่างกับว่าผม เป็นเศษดินเศษทรายใต้รองเท้า ย่ำแล้วก็เดินผ่านไป แถมไปไหนก็ไม่รู้อีกทิ้งให้ผมนั่งคิดจนปวดหัว ผ่านไปไม่เท่าไหร่มาเย้ยด้วยการปากุญแจผมทิ้งนี่มันน่านัก อย่าให้ได้เจอแม่จะกระชากคอมากัดหัวแม่มเลย ดูเขาไม่น่าจะเป็นคนเลวร้าย แต่ทำไม ถึงทำแบบนี้ กุญแจกับคีย์การ์ดเอาไปทำไม ผมงงมากจริงๆ อันนี้ ไอ้บ้า!! "นั่งเหม่อรอเก็บดาวเหรออีขอบฟ้า"เสียงเจแอนพูดกระแหนะกระแหนใส่ อีนังนี่ "ดาวบ้านมึงสิ จะตกให้มึงเก็บ! " "ดาวบ้านมึงด้วยแหละ..ไม่เคยได้ยินเหรอ..ดาว ดาว ดาวน์! " "นั่นมันคนล่ะดาวนะ! อี่บ้า"เหนื่อยกับมุกมันจริงๆ น้องจากไม่ฮายังพาปวดประสาทอีก "มึงอาบน้ำเสร็จแล้วเหรอ อี่อาชิล่ะ! " ผมถามเพื่อนอีกราย "มันนอนแชทกับผู้..กูว่างเลยมานั่งเล่นเป็นเพื่อนมึง! "เจแอนมานั่งลงข้างๆ ตอนนี้บรรยากาศโดยรอบมันเย็นสบาย ลมเย็นยามค่ำพัดไปมา ดาวก็ขาวกระจ่างเต็มฟ้าด้วย มันช่วยให้ผมสงบนิ่ง จนถึงขั้นแอบเหงาเล็กน้อย ผมเลยถามเพื่อนอย่างเจแอนออกไปตามความรู้สึกตอนนี้ "มึงว่าเขาพยายามจะมาหากูไหม มึงว่าเขาอะคิดจะมาหากูจริงๆ ปะ? ถึงได้พูดอะไรแบบนั้น แล้วที่เอาคีย์การ์ดกูไปด้วย มันแปลได้ไหมว่าเขาจะกลับมาจริงๆ แต่อาจจะมีเหตุจำเป็นให้มาไม่ได้" เจแอนนิ่งกึก! คงตกใจที่ผมจู่ๆ พูดเรื่องนี้อีกแล้ว "มึง กูไม่รู้นะ! ถ้ามึงเชื่อมั่นว่าเขาพูดจริงๆ เขาอาจจะกำลังกลับมาก็ได้มั้ง! แต่ทั้งหมดทุกอย่างกูตอบมึงไม่ได้ กูก็ไม่อยู่ในจุดนั้น คนที่อยู่ตรงนั้น สัมผัสอารมณ์ในตอนนั้นคือมึง กูว่ามึงคงตอบตัวเองได้บ้างแหละ! " ฟังแล้วผมก็ไม่รู้จะตอบตัวเองว่าอะไร ผมไม่ได้รอแต่ผมว่าผมสลัดเขาออกไปไม่ได้ ผมอาจจะมูฟออนจากจุดนี้ไม่ได้ ยิ่งเรื่องคีย์การ์ดผมยิ่งคิดต่างออกไป..ตอนนี้สงสัยแค่ว่า จะเอาคีย์การ์ดไปทำไมถ้าเขาจะไม่คิดจะกลับมาแต่แรก
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม