หนึ่งวันก่อน
“ฉลาม ปลาดาว ได้เวลากินข้าวแล้วลูก”
นภาตะโกนเรียกลูก ๆ ที่ยังอยู่บนห้องนอนบนชั้นสองของบ้านในช่วงค่ำหลังจากทำอาหารเสร็จ
ตึก ตึก ตึก!!!
“ฉันจะไปก่อน”
ปลาดาวรีบเปิดประตูวิ่งออกจากห้องนอนของเธอ แต่ก็ถูกฉลามพี่ชายตัวดีที่ชอบแกล้งน้องเป็นที่สุด เปิดประตูออกจากห้องแล้วรีบมาเบียดเธอลงบันไดตามเสียงเรียกของผู้เป็นแม่
“พี่จะไปก่อน”
“ฉันจะไปก่อน”
“ฉลาม อย่าแกล้งน้อง เดี๋ยวจะพากันตกบันได”
นภาเงยหน้ามองทางบันไดแล้วตะโกนออกไป ก่อนจะบ่นพึมพำว่าลูกสองคนนี้ไม่รู้จักโตจริง ๆ คนหนึ่งก็จะเข้าปีหนึ่งแล้ว อีกคนก็จะอยู่ชั้นมอสี่ แต่ก็ยังชอบแกล้งกันเป็นเด็กไปได้
ได้ยินเสียงแม่ตะโกนขึ้นมา เด็กสาวที่มีความสูงหนึ่งร้อยห้าสิบหกเซนติเมตร ซึ่งสูงประมาณหน้าอกของพี่ชายก็รีบกระแทกด้านข้างของเขาเบา ๆ แล้ววิ่งลงบันไดไปอย่างรวดเร็ว ฉลามก็ได้แต่ถอนหายใจ เลื่อนมือเข้าไปล้วงกระเป๋ากางเกงก้าวเดินลงมาตามปกติ
“แม่ขา พี่เขาแกล้งหนู”
“ยัยขี้ฟ้อง”
ปลาดาวแลบลิ้นใส่พี่ชายอย่างไม่เกรงกลัว ส่วนฉลามก็บึนปากส่ายศีรษะไปมาเช่นกัน
“หยุดเลยทั้งสองคน เวลากินข้าวยังจะมาทะเลาะกันอีก”
นภาส่ายหน้า ขณะหยิบจานอาหารที่ทำเสร็จมาวางไว้บนโต๊ะ
“พรุ่งนี้พ่อกับแม่มีประชุมผู้ประกอบการร้านอาหาร ฉลามขับรถไปเองได้ไหมลูก” ปองภพเอ่ยกับลูกชาย
ครอบครัวของปลาดาวเปิดร้านอาหารอยู่ริมชายหาด และพรุ่งนี้ก็เป็นวันที่ฉลามจะต้องขนของย้ายไปอยู่หอพักในมหาวิทยาลัย เนื่องจากสอบติดที่มหาวิทยาลัยในตัวเมือง ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านเกือบหกสิบกิโลเมตร แล้วอีกไม่กี่วันก็จะเปิดภาคเรียนแล้ว ถ้าจะให้ไปกลับเกรงว่าจะเดินทางลำบาก แต่ลูกชายก็ขับรถยนต์เป็น ใบขับขี่ก็สอบเรียบร้อยแล้ว คงไม่มีอะไรน่าห่วงถ้าจะให้ขับรถขนเสื้อผ้าของใช้จำเป็นไปไว้ที่หอพักก่อน
“ได้ครับพ่อ”
“ปลาดาว พรุ่งนี้หนูไปช่วยพี่นะ” นภาบอกลูกสาว
“พี่ก็โตเป็นควายแล้ว ขนของแค่นี้ยังต้องให้หนูไปช่วยอีกเหรอคะ”
“เป็นพี่น้องกันก็ต้องช่วยเหลือกันสิจ๊ะ เดี๋ยวแม่ประชุมเสร็จแล้วจะซื้อกล่องสุ่มมาฝาก”
นภาบอกกับลูกสาวคนเล็ก แม้ว่าปลาดาวจะอายุสิบหกปีแล้ว แต่เธอก็มีงานอดิเรกชอบสะสมของเล่นตุ๊กตา และยิ่งอยู่กับพี่ชายก็ยิ่งทำตัวเหมือนเด็กกันไปใหญ่
“จริงเหรอคะแม่ ขอบคุณนะคะ” หญิงสาวทำตาลุกวาว ก่อนจะเปลี่ยนเป็นคลี่ยิ้มตาหยีด้วยความดีใจ
“แม่ก็ตามใจจนเสียคน” ฉลามเอ่ยขึ้นทันทีที่เจ้าหญิงของบ้านจะได้รับของฝาก
“เสียคนที่ไหน ฉันเรียนดีกว่าพี่ซะอีก”
“จ้า แม่คนเก่ง แม่คนสอบได้ที่สิบของห้อง”
“พี่ก็เก่งตายแหละ”
“ถ้าไม่เก่งจะสอบเข้าวิศวะได้เหรอยัยบ๊อง”
ต่างคนต่างไม่มีใครยอมใคร จนผู้เป็นแม่ต้องส่งเสียงเอ็ดขึ้นอีกครั้ง
“หยุดเลยสองพี่น้อง ถ้ายังไม่หยุดก็ไม่ต้องกินข้าวด้วยกันทั้งคู่”
“กินค่ะกิน หนูหิวจะตายอยู่แล้ว”
“กินครับ”
แม้จะตอบอย่างนั้นแต่สองพี่น้องก็ทำหน้ายียวนส่งไปให้กันอยู่ดี ทำเอาผู้เป็นพ่อและแม่ต่างก็มองกันแล้วส่ายหน้าให้กับความแสบไม่ยอมใครของลูก
*****
เช้าวันต่อมา
“เสร็จรึยังยัยเตี้ย เร็ว ๆ หน่อย พี่นัดเพื่อนไว้”
“รอหน่อยไม่ได้หรือไง พี่นัด ฉันไม่ได้นัดสักหน่อย”
เสียงกวนประสาทดังออกมาจากห้องน้องสาว ฉลามจึงตัดสินใจตะโกนลงไปชั้นล่างของบ้าน
“แม่ครับ น้องบอกว่าจะไม่ไปช่วยผมแล้ว เย็นนี้ไม่ต้องซื้อกล่องสุ่มมาให้แล้วนะครับ”
แกร๊ก!
ปลาดาวรีบเปิดประตูห้อง ยืนขมวดคิ้วใส่พี่ชาย
“ไอ้พี่บ้า”
“แต่งตัวเป็นชาติ ใครจะอยากรอ”
“แล้วทำไมล่ะ”
“รีบไปได้แล้ว ไปช้ารถจะติด”
สองพี่น้องพากันลงไปกินข้าวก่อนจะออกเดินทาง ปลาดาวก็นั่งตักข้าวเข้าปากพลางทำหน้าง้ำงอที่วันนี้ต้องตื่นแต่เช้า เพราะพี่ชายต้องเดินทางไปลงทะเบียนก่อนเข้าหอพักในเวลาเก้าโมง
พอไปถึงเธอก็ช่วยพี่ชายขนของขึ้นไปที่ชั้นห้าของหอพัก แค่เดินขึ้นรอบแรกก็เหนื่อยมาก แต่ความเหนื่อยที่มีก็ได้หายไปทันที เมื่อฉลามเปิดประตูห้องพักเข้าไป ก็ทำให้เธอได้พบกับเพื่อนพี่ชายเป็นครั้งแรก
ปลาดาวก้าวเข้าไปในห้องอย่างเชื่องช้าแล้ววางของลงไว้ที่พื้น เพราะมันเขินจนบอกไม่ถูก
“น้องสาวเหรอ น่ารักดี”
ใบหน้าหล่อและน้ำเสียงละมุนที่เอ่ยชม ทำใจเธอเต้นแรงจนแทบจะหลุดจากอก แต่แล้วความรู้สึกดีที่ก่อตัวขึ้นก็พลันหายไปทันที เมื่อมีเสียงของพี่ชายตัวดีดังขึ้นพร้อมกับทำหน้ากวนประสาท
“น่ารักกับผีน่ะสิ”
“ชมน้องไม่เป็นก็เงียบไปเลย”
“อ้าว ไม่พูดคะแล้วเหรอ”
ฉลามพูดล้อกลับที่ก่อนหน้าเธอพูดมีหางเสียงกับเขา ทำอึ้งเป็นไก่ตาแตกเลยทีเดียว
ส่วนน้องสาวก็ได้แต่มองเขาโดยใช้หางตาไม่โต้กลับอะไร
“ชื่ออะไรเหรอเรา”
เสียงละมุนดังขึ้นอีกครั้ง ทำให้เธออมยิ้มเขิน เปลี่ยนอารมณ์และน้ำเสียงต่างจากคุยกับพี่ชายลิบลับ
“ปลาดาวค่ะ”
“ปลาดาว ชื่อน่ารักดี พี่ชื่อทะเลครับ เป็นเพื่อนไอ้ฉลาม แล้วนี่มาช่วยมันขนของเหรอ”
“ค่ะ”
“อย่าเรียกว่ามาช่วย ต้องเรียกว่าโดนบังคับมา”
ไอ้พี่บ้ามาช็อตฟีลเธอต่อหน้าพี่ทะเลสุดหล่อได้ยังไง ปลาดาวกัดกรามข่มคำต่อว่าพี่ชายเอาไว้ในใจ แม้อยากจะด่าแต่ก็ต้องฝืนยิ้มออกมาแล้วเลือกที่จะเงียบแทน