“ของที่เหลือพี่ไปขนเอาเองแล้วกัน” ปลาดาวบอกกับพี่ชาย
“อ้าว ไหนแม่บอกให้มาช่วยกันไง”
“ฉันเหนื่อยแล้ว แค่เดินขึ้นมาก็ปวดขาจะแย่ เดี๋ยวช่วยจัดของให้”
“เออๆ ขี้เกียจล่ะสิยัยเตี้ย”
“พี่นั่นแหละเตี้ย”
“พี่สูงหนึ่งร้อยเจ็บสิบแปดเซนติเมตร”
“บอกทำไม ไม่ได้อยากรู้สักหน่อย”
ได้ยินสองพี่น้องโต้เถียงกันอย่างน่ารัก ทะเลก็หลุดขำเบา ๆ พร้อมกับรอยยิ้มหล่อ ปลาดาวเห็นหนุ่มรุ่นพี่แอบขำ ใบหน้าหวานก็อมยิ้มรับแล้วเลิกต่อล้อต่อเถียงกับพี่ชาย
ส่วนฉลามพอเห็นน้องสาวเงียบก็เลยเดินออกจากห้องไป เพราะเขาต้องไปขนของที่เหลือจากหลังรถ ดีที่ว่ากล่องไม่หนักมาก เอาซ้อนกันไว้ แล้วหิ้วถุงผ้าอีกถุงจึงไม่ได้เหลือบ่ากว่าแรงอะไรสำหรับผู้ชายตัวโตอย่างเขา
“เตียงพี่อยู่ไหนเหรอคะ” หญิงสาวถามรุ่นพี่อย่างเคอะเขิน ใช้น้ำเสียงต่างจากคุยกับพี่ชายเมื่อครู่
“พี่คนไหนเหรอครับ ถ้าเป็นพี่ทะเลนอนเตียงนี้ ส่วนฉลามนอนเตียงตรงข้าม”
ภายในห้องมีทั้งหมดสี่เตียงด้วยกัน โดยแต่ละเตียงจะถูกคั่นด้วยตู้เสื้อผ้าและโต๊ะสำหรับนั่งเขียนงาน ส่วนเตียงว่างอีกสองเตียง เดี๋ยวก็คงจะมีนักศึกษาอีกสองคนเข้ามาพักร่วมห้อง ซึ่งเขาเองก็ยังไม่รู้ว่าเป็นใคร
ปลาดาวก้มหน้าอมยิ้มเดินถือกล่องตรงไปยังเตียงของพี่ชาย ได้รับปากไว้แล้วว่าจะช่วยจัดของก็ต้องทำตามที่พูด เดี๋ยวคนแก่ขี้บ่นขึ้นมาถึงจะมาหาเรื่องทะเลาะกับเธออีก
“พี่ช่วยนะ”
ทะเลอาสาเดินไปหยิบกระเป๋าที่ฉลามวางทิ้งไว้ที่ข้างประตู แล้วนำไปวางไว้ข้างเตียงของเพื่อนที่มีสาวน้อยยืนอยู่
“ขอบคุณค่ะ”
“เรียนอยู่ชั้นอะไรครับ”
“มอสี่ค่ะ”
“อือ ห่างกันแค่สามปี”
“พี่สอบเข้าคณะอะไรเหรอคะ”
“บริหารธุรกิจ”
ทะเลเลือกสอบเข้าคณะบริหารธุรกิจ เขาคิดไว้ว่าถ้าเรียนจบก็อยากไปช่วยดูแลธุรกิจรีสอร์ตของครอบครัว
“เก่งจัง หนูก็อยากเรียนบริหารเหมือนกัน”
“งั้นก็ตั้งใจเรียนล่ะ อีกสามปีไว้เจอกันที่นี่”
“เจอกัน?”
ทะเลเลื่อนมือไปวางบนศีรษะของเด็กสาวที่ย่นคอลงเล็กน้อย เธอช้อนดวงตาคู่หวานขึ้นมองใบหน้าของเขาอย่างต้องการคำตอบ แต่แล้วเพื่อนพี่ชายก็ให้เพียงรอยยิ้มละมุน แล้วเดินกลับไปที่เตียงของเขาเพื่อจัดเก็บข้าวของของเขาต่อ
ผ่านไปไม่นานทั้งสองก็ได้ยินเสียงเคาะประตู ต่างก็หันมองทางนั้นพร้อมกัน และหนุ่มรุ่นพี่ก็เป็นคนเดินไปเปิดประตู
ก๊อก ก๊อก!!
ฉลามเดินขึ้นบันไดมาถึงหน้าห้องด้วยอาการเหนื่อยหอบ มือทั้งสองข้างไม่ว่างที่จะเคาะประตู จึงใช้รองเท้าเคาะแทน
“เฮ้อ เหนื่อยชิบ”
ใบหน้าของฉลามมีเหงื่อผุดซึมเต็มกรอบหน้า เขาวางของลงที่พื้นแล้วลากเก้าอี้มานั่งพักเพราะปวดเมื่อยแขนขา ขณะที่หอบหายใจก็เห็นยัยตัวแสบมองมาแล้วทำปากมุบมิบว่าสมน้ำหน้า ฉลามก็ทำได้แค่ถลึงตาใส่น้องสาวกับถอนหายใจ เพราะมันเหนื่อยจนขี้เกียจทะเลาะด้วย
แต่วันนี้น้องสาวก็ดูแปลกกว่าที่เคย ทำตัวสงบเสงี่ยมผิดปกติ ต่อปากต่อคำกับเขาน้อยลง แทบจะไม่พูดเลยด้วยซ้ำ
“กินน้ำก่อน”
ทะเลยื่นน้ำที่เขาซื้อมาด้วยให้กับฉลาม
“ขอบใจเพื่อน”
ปลาดาวแอบมองการกระทำของหนุ่มหล่อ ใจดี ชอบดูแลผู้อื่น แต่พอปรายตาผ่านไปยังพี่ชาย รอยยิ้มที่มีก็หายวับไปทันที พลันถอนหายใจและส่ายหน้าพร้อมกัน
คนอะไรช่างต่างกันราวฟ้ากับเหว พี่ทะเลหล่อละมุนราวกับเทพบุตร แต่พี่ชายของเธอนั้นจะว่าหล่อก็หล่ออยู่ เพราะว่าเธอก็ออกจะสวยทั้งยังน่ารักนิสัยดี แต่พี่ชายนั้นชอบทำตัวป่าเถื่อนไม่ต่างจากคนป่า พูดก็ไม่เพราะเหมือนเพื่อนของเขาเลย
“มองอะไรยัยเตี้ย ไหนบอกว่าจะช่วยจัดของ ดูสิของแค่กล่องเดียวก็ยังจัดไม่เสร็จ”
“ก็กำลังทำอยู่นี่ไง” ปลาดาวรีบหันไปหยิบของขึ้นวางบนชั้นต่อ
“คืนนี้กลับไปนอนบ้านเหรอ” ทะเลเอ่ยถามเพื่อนเพราะเห็นว่าพาน้องสาวมาด้วย คงไม่ได้มานอนค้างที่หอแน่
“อือ ฉันต้องกลับไปส่งปลาดาว แล้วนายล่ะ”
“คงนอนที่นี่เลย”
“นอนคนเดียวไม่กลัวผีเหรอคะ” ปลาดาวรีบโพล่งขึ้นมา
“ใครจะไปขี้กลัวเหมือนเธอล่ะ แล้วนี่ผู้ใหญ่คุยกัน เด็กมาเผือกทำไม”
“ฉันไม่ได้คุยกับพี่สักหน่อย ฉันคุยกับพี่ทะเล แล้วฉันก็ไม่ใช่เด็กแล้วนะ อายุน้อยกว่าพี่แค่สามปีเอง”
“สองคนนี้ดูจะสนิทกันมากเลยนะ หยอกล้อกันน่ารักดี”
ทะเลหลุดยิ้มออกมา ดูแล้วบ้านนี้คงจะไม่เหงา ต่างจากเขาที่เป็นลูกชายคนเดียว ตอนอยู่บ้านก็ไม่มีใครเล่นด้วยตั้งแต่เด็ก เวลาว่างนอกจากจะอ่านหนังสือ ฟังเพลง ก็จะติดตามพ่อแม่เข้าไปดูแลรีสอร์ต
“น่าเบื่อจะตาย เด็กอะไรเถียงเก่ง” ฉลามตอบเพื่อน
“ฉันไปเถียงพี่ตอนไหน” ปลาดาวโต้กลับ เธอก็อุตส่าห์อยู่เงียบ ๆ แต่พี่ชายก็ชอบพูดแซะอยู่เรื่อย ทำเหมือนว่าตัวเองเบื่อเป็นคนเดียวอย่างนั้นแหละ
“ก็ตอนนี้ไง เถียงคำไม่ตกฟาก เดี๋ยวจะบอกแม่ว่ามาแล้วก็ไม่ช่วยอะไร อดได้กล่องสุ่มนะบอกไว้ก่อน”
“พี่อะ” ปลาดาวทำหน้าง้ำงอใส่พี่ชายแล้วหยุดโต้เถียง คนอะไรทั้งขี้ฟ้อง แถมยังชอบขู่น้องตลอด
ทะเลได้แต่ยกยิ้มมุมปากมองไปยังสาวน้อยที่ตอนนี้งอนพี่ชายไปเสียแล้ว
“ชอบตุ๊กตาเหรอ”
“ค่ะ ช่วงนี้เขาฮิตเปิดกล่องสุ่มกัน มันลุ้นดีว่าจะได้ตัวไหน หนูชอบสะสมไว้บนหัวเตียง”
“พี่ซื้อให้ดีไหม ถือว่าเป็นของขวัญที่เรารู้จักกัน”
“จริงเหรอคะพี่ทะเล ขอบคุณนะคะ พี่ใจดีจัง ไม่เหมือนใครบางคน”
หญิงสาวส่งยิ้มดีใจให้หนุ่มรุ่นพี่ ก่อนจะเบือนหน้ามองไปทางพี่ชายขี้เกียจที่เอาแต่นั่งพักไม่ลุกมาช่วยกันจัดของสักที แล้วเมื่อไรจะเสร็จ
“อ้าว พูดแบบนี้หมายความว่ายังไง ไอ้ทะเลมึงไม่ต้องซื้อให้เลย ทีคุยกับกูเรียกฉันทุกคำ คุยกับมึงนี่เรียกหนู”
“พี่ฉลาม คนเขาอุตส่าห์มีน้ำใจ อย่ามาทำตัวเป็นจระเข้ขวางคลองได้ปะ”
“เพิ่งเจอกันวันเดียวก็ชมไม่ขาดปาก ไอ้ทะเล มึงเอาปลาดาวไปเป็นน้องสาวมึงเลยไป”
ฉลามแสร้งผลักไสน้องสาวไปให้เพื่อน แต่ที่จริงมันก็เป็นเรื่องดีที่ปลาดาวเข้ากับเพื่อนของเขาได้ เวลาไปเที่ยวหรือพาเพื่อนเข้าบ้านจะได้ง่ายหน่อย
“ก็ดี หนูก็ไม่อยากมีพี่ขี้บ่นแถมยังแล้งน้ำใจหรอก ชิ”
“ต่อไปปลาดาวก็มีพี่ชายเพิ่มอีกคนแล้วนะครับ” ทะเลหันไปเอ่ยกับสาวน้อยด้วยรอยยิ้ม
ปลาดาวอมยิ้มมองเขาด้วยใบหน้าที่แดงระเรื่อ แต่พี่ชายคนนี้ช่างอบอุ่นละมุนละม่อม ส่งผลให้หัวใจเธอเต้นแรงขึ้นมาอีกครั้ง และเธอมักจะเขินกับสายตาคู่นั้นที่จ้องมองมาอย่างบอกไม่ถูก