รับบทเมียขี้หึง

1314 คำ
ภาคินกลับมานั่งที่โต๊ะทำงานเหมือนเดิม เขาแปลกใจกับท่าทางที่ดูเปลี่ยนไปของมธุรดาเล็กน้อย สงสัยว่าเธอมีแผนการณ์อะไรบางอย่างถึงได้มาทำแบบนี้เพราะจากนิสัยที่ได้ยินมาคร่าวๆหญิงสาวคนนี้เป็นพวกอินโทรเวิร์ตไม่สนโลก...หรือว่าอาจจะเป็นแค่ข่าวลือ "ไม่ว่าคุณจะมีแผนการณ์อะไรอยู่อย่ามาทำแบบนี้ผมไม่ชอบ เรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวควรแยกแยะ ผู้หญิงที่มาเป็นภรรยาผมต้องไม่ใช่คนที่ทำให้ผมต้องเสียลูกค้าไป" เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเข้มใบหน้าเย็นชา แต่..มธุรดาชอบ อะไรที่เขาเกลียดนั่นแหล่ะคือสิ่งที่เธอต้องการ "ต่อให้ผู้หญิงพวกนั้นหวังอะไรจากคุณ คุณก็จะประเคนให้งั้นเหรอคะ?" โต้เถียงด้วยนัยน์ตาดื้อรั้น "บอกคุณแล้วไงแอนนี่เรื่องระหว่างเรามันเป็นแค่ธุรกิจ ..อ้อ แล้วอย่าคิดว่าผมจะหย่าง่ายๆผมเสียกับคุณไปหลายร้อยล้านบาทเพียงเพื่อทำให้คุณพ่อคุณแม่สบายใจ คนอย่างผมไม่มีวันที่จะไม่เอาคืน"เหมือนจะรู้ทันแต่ก็ไม่ คงจะมั่นใจในความหล่อของตัวเองมากมาย มธุรดาแค่นยิ้มในลำคอ 'ก็หวังว่าคุณจะอดทนมากพอก็แล้วกันค่ะคุณภาคิน' "ไม่รู้แหล่ะ แอนนี่ไม่ยอมให้คุณกับผู้หญิงคนไหนใกล้ชิดกันทั้งนั้น คุณบอกว่าเรื่องของเราเป็นแค่ธุรกิจ แต่แอนนี่ไม่ได้คิดแค่นั้น คุณคือสามีแอนนี่ และแอนนี่มันพวกหวงของซะด้วย" ทำแก้มป่องยกมือขึ้นกอดอกแสดงอาการโกรธและไม่ยอมออกไป "ผู้หญิงที่เกิดในตระกูลผู้ดีตีนแดงอย่างคุณ น่าจะรู้ดีว่าไม่ควรทำตัวโง่ๆไร้ค่า" ปากจัดนักนะ ผู้ชายบ้าอะไรไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษเอาซะเลย มธุรดาด่าเขาปาวๆในใจ ให้ตายเถอะ อยากจะตะโกนออกไปว่าฉันอยากจะหย่ากับคุณวันละล้านๆรอบ "ผมจะเข้าประชุมยาว" พูดพรางลุกขึ้นหยิบเสื้อสูทมาใส่พร้อมกับจัดแจงชุดให้ดูเรียบร้อยเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเข้าประชุมใหญ่ "แอนนี่จะรอ..." "ไม่เข้าใจเหรอว่าผมไม่ชอบให้ใครเข้ามาวุ่นวาย กลับไปรอที่บ้าน" ภาคินรู้สึกปวดหัวเหนื่อยใจขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ ผู้หญิงคนนี้กับคำที่คุณแม่เอามาบอกเล่าไม่ได้เหมือนกันสักนิด ดูเหมือนผู้หญิงทั่วๆไปที่พบเจอได้ในผับในบาร์ วุ่นวาย ขี้หึง แบบนี้เขาไม่ชอบเอาเสียเลย "ผมบอกให้คุณกลับบ้าน นี่คือคำสั่ง" "ไม่!" "ว่างมากใช่มั้ย?" "แค่มาทำหน้าที่เมีย แอนนี่ผิดตรงไหน?" เชิ่ดหน้าใส่อย่างคนดื้อดึง ภาคินรู้สึกโมโหจนควันออกหู "ดี ทำหน้าที่เมียใช่มั้ย?" ไม่ทันได้ตั้งตัว เอวบางถูกเขารวบเข้าไปกอด สองมือแข็งแกร่งประคองใบหน้าของเธอไว้ก่อนจะลงโทษด้วยการบดขยี้จูบลงมา มธุรดาเบิกตาโพลงอย่างไม่ได้ทันได้ตั้งตัว จูบแรกของเธอ ไม่นะ! หญิงสาวพยายามดีดดิ้นทว่าไม่อาจหลุดพ้นไปจากพันธนาการของเขาได้ จูบเอาแต่ใจทวีความลึกล้ำเข้ามาเรื่อยๆ รุนแรงแต่เร่าร้อน จากนั้นปลายลิ้นร้อนก็ดุนดันสอดแทรกเข้ามาพัวพันสำรวจในโพรงปากอย่างดูดดื่ม ในที่สุดมธุรดาก็เผลอเคลิบเคลิ้มตอบรับจูบของเขาอย่างไม่ประสีประสา ร่างกายสั่นเทิ้มในขณะที่ถูกริมฝีปากของเขาแนบประกบเธอรู้สึกว่ากำลังจะขาดใจตาย เกือบหลายนาทีกว่าเขาจะถอนจูบออกมาปล่อยให้เธอเป็นอิสระ "แค่จูบยังทำไม่เป็นแต่อยากจะมาทำหน้าที่เมีย" ภาคินรู้สึกว่าเขาเข้าใจไม่ผิดว่ามธุรดาไม่ประสีประสาเรื่องจูบสักนิด แต่ยังทำเป็นอวดเก่งใส่เขาทั้งๆที่ทำหน้าเหมือนคนจะร้องไห้อยู่รอมร่อ "ไม่ใช่ซะหน่อย....ก็แค่จูบใครบ้างจะไม่เคย" รีบแก้ตัวเพราะกลัวว่าเขาจะจับได้ว่าเป็นจูบแรก... แต่เมื่อได้สติก็รู้สึกอับอายมากกว่าจะนึกโกรธ เพราะเธอเองที่เป็นคนหาเรื่องและอีกอย่างผัวจูบเมียมันเป็นเรื่องปกติ ไม่มีความจำเป็นอะไรที่เธอจะต้องโกรธมั้ง "อยากจะได้มากกว่านี้ให้บอกกันตรงๆ" เขาแสยะยิ้มใส่เธออย่างร้ายกาจ มธุรดาได้แต่ท่องในใจให้สะกดกลั้นอารมณ์โกรธเอาไว้ไม่ให้เผลอไปตบหน้าเขาแรงๆเข้า "อืม...จูบเมื่อครู่ แอนนี่ว่ามันยังไม่ถึงใจแอนนี่เลยค่ะ มันเอ่อ...ธรรมดาไป" ทำหน้าเยาะหยันดูถูกเขากลับบ้าง ภาคินรู้สึกมีโทสะขึ้นมาทันทีเมื่อถูกหญิงสาวพูดสบประมาทออกมาแบบนั้น ในหัวของเขาเหมือนมีเสียงขาดผึง ก่อนที่จะตวัดร่างเพรียวเข้ามาในอ้อมกอดอีกรอบ คราวนี้ตั้งใจจะทำมากกว่าเดิมเพื่อสั่งสอนให้เธอรู้ว่าอย่ามาทำอวดดีใส่เขา ทว่า ก๊อก! ๆ ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นซะก่อนที่มธุรดาจะโดนเขารังแกอีกครั้ง ภาคินรีบคลายอ้อมกอดออกอย่างอัตโนมัติ แกร่ก! ประตูห้องถูกเปิดออกโดยเลขาฯหน้าห้อง "ท่านรองคะ ห้องประชุมพร้อมแล้วค่ะ" "เข้าไปนั่งรอกันก่อน" "ค่ะ.." พาฝันปรายตามองมาที่มธุรดานิดหน่อยก่อนจะถอยร่นออกไป ไม่รู้เพราะอะไรมธุรดาถึงได้รู้สึกว่ายัยเลขาฯคนนี้ไม่ชอบเธอ "ผมต้องเข้าประชุม" "เลขาคนนั้นคู่ขาคุณเหรอ?" คิดอะไรก็ถามออกไปเลย ทำไมมธุรดาต้องเก็บและอดทนเอาไว้ในใจด้วย ก็ตอนนี้เธอกำลังรับบทเป็นเมียหลวงหึงโหดอยู่หนิ่ "สมองของคุณหมกมุ่นเกินไปแล้วแอนนี่" ภาคินถึงกับพ่นลมหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย นี่ขนาดว่าแต่งงานกันได้แค่อาทิตย์แรกนะ ถ้าอยู่นานไปเขาไม่ต้องอึดอัดมากกว่านี้เหรอ จะมีวิธีไหนที่ทำให้หล่อนเลิกบ้าซะที "ก็แอนนี่หวงคุณ" บอกออกไปตรงๆ ก่อนจะส่งสายตาละห้อยเดินเข้ามาเกาะแขนเขาอย่างเว้าวอน ภาคินรู้สึกวูบไหวเล็กน้อย แต่ก็ปรับอารมณ์กลับมาได้ปกติ "ผมจะให้ลุงเจิมคนขับรถมารับ" "ไม่" "อย่าดื้อนะแอนนี่ ไม่งั้นผมจะไม่ลงโทษคุณแค่จูบ" มธุรดาเลิ่กลั่กกับคำขู่ของเขาที่เหมือนว่าจะไม่ใช่แค่ขู่ ถ้าถูกจูบซ้ำตอนนี้เธอคงเป็นลมคาอกเขาแน่ แล้วเขาก็จะจับได้ว่าเธอไม่ได้เจนจัดเรื่องแบบนี้ มธุรดาอยากให้เขาเข้าใจว่าเธอผ่านผู้ชายมานักต่อนัก อยากให้เขารังเกียจเหมือนที่เธอรู้สึกรังเกียจขยะแขยงกับความคิดของเขาที่มองเธอเป็นเพียงสิ่งของขาดทุนหรือกำไรเท่านั้น เธอเกลียดเขา เกลียดคนชื่อภาคินตรงหน้าเธอตอนนี้ อยากจะหย่าแล้วออกไปใช้ชีวิตเป็นของตัวเองอย่างที่ใจต้องการเสียที "แอนนี่ไม่ได้กลัวคุณหรอกนะคะ แต่แอนนี่นึกได้ว่าแอนนี่มีธุระ" "เหรอ?" ภาคินกรอกตาใส่อย่างไม่ได้นึกเชื่อ "ค่ะ งั้น...ไปนะคะ" พูดจบก็ก้มหยิบกระเป๋าสะพายข้างออกไปทันที ทิ้งให้คนร่างสูงโปร่งยืนส่ายหน้าด้วยความระอาปนความหนักอกหนักใจ ให้ตายเถอะเขาได้ผู้หญิงแบบไหนมาเป็นเมียกันแน่ ทำไมรู้สึกว่าไม่คุ้มกับเงินและทรัพย์สินที่เป็นค่าสินสอดมูลค่าหลายร้อยล้านเลยสักนิด ภาคินได้แต่คิดไปถอนหายใจไปซ้ำแล้วซ้ำเล่า
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม