ความเงียบเข้าปกคลุมห้องพักฟื้นอยู่พักใหญ่เมื่อคนในห้องไม่มีใครพูดอะไรออกมาอีก อุ่นไอฟ้าสบตากับร่างของอาทิตย์ที่มองเธอด้วยความว่างเปล่า ผิดกับชายหนุ่มแปลกหน้าที่อยู่บนเตียงและกำลังร่ำไห้มองเธออย่างออดอ้อน แม้จะไม่ใช่ดวงตาคู่เดิม แต่แววตาของเขาก็สร้างความรู้สึกคุ้นเคยเหมือนกับเวลาบุตรชายมองเธออย่างไม่ผิดเพี้ยน อุ่นไอฟ้าเม้มปากแน่น ตัดสินใจลุกขึ้นเดินไปหาชายคนนั้น และเพียงเธอเดินเข้าไปใกล้ เขาก็โผเข้ากอดเธอแน่น คร่ำครวญต่อ
“แม่ครับ อาทิตย์เจ็บ อาทิตย์กลัว”
อุ่นไอฟ้าสะท้านไปทั้งอก หัวใจบีบรัดอย่างรุนแรงเมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ แม้เธอจะพยายามบอกกับตัวเองว่าเป็นไปไม่ได้ แต่เสียงที่อยู่ในก้นบึ้งของหัวใจก็สะท้อนขึ้นมาว่านี่คือลูกของเธอ ในตัวของชายคนนี้ คนที่กำลังกอดเธออยู่คือลูกชายของเธอจริงๆ
อุ่นไอฟ้ายกมือขึ้นสวมกอดร่างของตะวัน ปล่อยให้น้ำตาไหลรินออกมาอย่างอดกลั้นไม่ได้
ตะวันหันหน้าหนีจากภาพของสองแม่ลูกที่ทำให้เขารู้สึกปวดใจขึ้นมา พร้อมกับข่มความโหยหาใครบางคนที่ปะทุขึ้นมาพร้อมกัน
“ป่ะ...เป็นไปไม่ได้ เธอกับลูกของเธอคิดจะทำอะไร” ชญช์ยังคงไม่ยอมรับ เขามองอุ่นไอฟ้ากับร่างของอาทิตย์ด้วยสายตาเอาเรื่อง อุ่นไอฟ้าผละออกจากร่างของตะวันที่ตอนนี้หยุดร้องไห้แล้ว หลังจากได้รับอ้อมกอดของเธอ
“นายคิดว่าคนเป็นแม่จะมาล้อเล่นเรื่องแบบนี้เหรอ ฉันตกใจยิ่งกว่านายเสียอีก” อุ่นไอฟ้ายกมือขึ้นปาดน้ำตา ท่าทางของหญิงสาวดูช้ำใจกับเรื่องที่กำลังเกิดขึ้นไม่น้อย แต่ทุกอย่างมันดูเหลือเชื่อจนชญช์ยังไม่อยากยอมรับอยู่ดี
ตะวันมองหน้าลูกไล่คนสนิทก่อนจะเอ่ยถึงเรื่องของอีกฝ่ายที่มีแค่เขาที่รู้
“แกอยากให้ฉันเล่าข้อความในจดหมายรักที่แกเขียนตอนเราอยู่ไฮสกูล แต่ไม่เคยส่งถึงสาวๆ ไหม”
ชญช์อ้าปากค้าง มองหน้าเด็กชาย พึมพำเสียงแผ่ว “ข่ะ...คุณตะวัน”
อุ่นไอฟ้ามองท่าทางของชญช์ เดาได้ทันทีว่าเรื่องที่ร่างของอาทิตย์เพิ่งพูดคงเป็นความลับที่มีแต่คนที่ชื่อตะวันที่รู้ เธอสบตากับเด็กน้อยอีกครั้งและมันทำให้เธอก็เริ่มเชื่ออย่างสนิทใจว่าอีกฝ่ายไม่ใช่ลูกของเธอจริงๆ
อุ่นไอฟ้าถอนหายใจออกมาอย่างอ่อนล้า ถอยหลังกลับไปทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา ซบใบหน้าเข้ากับฝ่ามือ
“อยู่ที่นี่กันเอง พวกฉันตามหาอุ่นกับอาทิตย์ไปทั่ว” รามที่ยืนอยู่ตรงประตูทำท่าโล่งอกเมื่อเจอคนที่ตามหา ด้านหลังของเขามีหมอและพยาบาลอยู่ด้วย
พออุ่นไอฟ้าเห็นหมอที่มากับราม ก็เริ่มมองอาทิตย์กับตะวันอย่างลังเล
“ถ้าเธอให้คนนอกรู้เรื่องนี้ คงไม่ต้องบอกหรอกนะว่าหมอจะส่งฉันกับลูกของเธอไปไว้ที่ไหน”
อุ่นไอฟ้าเม้มปากแน่นเมื่อได้ยินคำพูดข่มขู่ของตะวัน แต่คำพูดของเขาก็ทำให้เธอนึกกลัวอยู่เหมือนกัน เพราะคนอื่นๆ ต้องคิดว่าลูกของเธอเสียสติไปแน่ๆ
อุ่นไอฟ้าสูดลมหายใจเข้าลึกและตัดสินใจโกหก “พอดีเรามาคุยเรื่องที่รถชนกันน่ะค่ะคุณราม”
อุ่นไอฟ้ามองเลยไปทางด้านหลังของราม
“ขอบคุณคุณหมอกับคุณพยาบาลนะคะ แต่ตอนนี้ไม่มีอะไรแล้วค่ะ”
คนที่เพิ่งมาใหม่ต่างมองหน้ากันอย่างแปลกใจ ก่อนที่รามจะถามย้ำ
“จะไม่ให้หมอตรวจอาทิตย์อีกรอบหรืออุ่น”
“ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณนะคะ” อุ่นไอฟ้าบอกปัดทันที รามจึงต้องหันไปขอบคุณและขอโทษคุณหมอและพยาบาลที่ทำให้เสียเวลา ก่อนที่รามจะเข้ามาในห้อง ปิดประตูตามหลัง
“มีอะไรหรือเปล่าอุ่น สีหน้าไม่ดีเลย เรื่องคดีฉันบอกแล้วไงว่าฉันจะดูแลให้” รามเดินเข้าไปดูอุ่นไอฟ้าอย่างห่วงใย อุ่นไอฟ้าเงยหน้าสบตากับเขาด้วยความสับสน
“คุณรามคะ” ดวงตากลมสวยมีหยาดน้ำตาขึ้นมาคลออีก “มันมีเรื่องที่ใหญ่กว่านั้นค่ะ”
อุ่นไอฟ้ามองไปทางตะวันและอาทิตย์ ในขณะที่รามมองตามอย่างสงสัย
เรื่องราวเหลือเชื่อถูกถ่ายทอดให้รามฟัง หากแต่รามยังคงข้องใจในเรื่องที่ได้ยิน ตะวันต้องหาทางพิสูจน์ด้วยการพูดภาษาอังกฤษอย่างคล่องแคล่ว บอกเล่าเรื่องราวส่วนตัวรวมถึงการใช้ชีวิตในต่างแดน ทำทุกอย่างเพื่อให้ทุกคนเชื่อว่าเขาไม่ใช่อาทิตย์และคือตะวันจริงๆ ชญช์เป็นคนแรกที่เชื่ออย่างสนิทใจ ในขณะที่รามเริ่มคล้อยตามไปมาก ส่วนอุ่นไอฟ้านั้นแม้จะเห็นถึงข้อพิสูจน์หลายอย่าง รวมถึงรู้สึกได้ถึงสายสัมพันธ์แม่ลูกตอนที่กอดร่างของตะวัน แต่ปัญหาที่หนักหนานี้ทำให้สมองและหัวใจของเธอยังคงทำงานไม่สัมพันธ์กัน จนยังไม่อาจจะทำใจยอมรับกับเรื่องตรงหน้า
“อุ่นขอกลับไปเอาของที่ห้องก่อนนะคะ” อุ่นไอฟ้าพูดขึ้นหลังจากที่อาทิตย์ในร่างของตะวันหลับใหลไปอีกครั้ง “ฝากคุณรามดูแลอาทิตย์ด้วยนะคะ”
อุ่นไอฟ้าฝากฝังเจ้านายที่ทำท่าจะลุกขึ้นตามเธอ รามมองหญิงสาวอย่างเห็นใจและเข้าใจว่าเธอกำลังต้องการเวลา
“ผมจะอยู่กับเพื่อนของผมนะ” ตะวันที่กำลังเคร่งเครียดไม่แพ้กันรีบออกตัวว่าจะไม่กลับไปที่ห้องพักด้วย อุ่นไอฟ้าพยักหน้ารับเนือยๆ เธอพอจะเดาได้ว่าคงจะเป็นแบบนี้ในเมื่อต่างคนต่างยังไม่สนิทใจกัน
อุ่นไอฟ้ารู้สึกแน่นในอก ลอบมองร่างของบุตรชายที่ตอนนี้มีใครคนอื่นอาศัยอยู่ในนั้น เธอรู้สึกเหมือนลูกชายของเธอได้หายไปเหมือนกับในความฝัน ถึงแม้จะแน่ใจว่าวิญญาณของอาทิตย์จะอยู่ในร่างของตะวัน แต่ก็ยังถือว่าลูกชายของเธออยู่ในร่างของคนแปลกหน้าอยู่ดี
อุ่นไอฟ้ายกมือขึ้นปิดปาก เร่งฝีเท้าเพื่อเดินกลับไปที่ห้องพัก ก่อนจะปิดประตูแล้วกดล็อค จากนั้นเธอก็ปล่อยน้ำตาให้ทะลัก ไม่คิดกักเก็บเสียงสะอื้นอีก เธอไม่ได้นึกรังเกียจบุตรชาย หากแต่เธอกลัว กลัวว่าถ้าสุดท้ายทุกอย่างไม่กลับมาเป็นเหมือนเดิม ลูกชายของเธอจะใช้ชีวิตต่อไปได้อย่างไร ความหวาดกลัวทำให้เธอไม่พร้อมยอมรับเรื่องตรงหน้า ถึงแม้ว่าทุกอย่างจะกระจ่างชัดแค่ไหนก็ตาม
อุ่นไอฟ้าปลดปล่อยความอ่อนไหว จมจ่อกับความหวาดกลัวสิ้นหวังจนหมดแรง เวลาหมุนไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่อง จนเมื่อหญิงสาวลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง แววตาของเธอก็สงบขึ้น
อุ่นไอฟ้าลุกขึ้นเดินไปทางห้องน้ำ วักน้ำเพื่อล้างใบหน้า มองเงาของตัวเองในกระจก เธอบอกตัวเองว่าเธอจะตกอยู่ในห้วงอารมณ์เลวร้ายนานเกินไปไม่ได้ เมื่ออาทิตย์ยังต้องการเธอ ลูกชายของเธอต้องการแม่
อุ่นไอฟ้าสูดลมหายใจเข้าออกลึกๆ อีกหลายครั้ง จนสติของเธอกลับมามั่นคง
หญิงสาวเดินออกจากห้องน้ำ หยิบโทรศัพท์และของใช้ที่จำเป็นใส่กระเป๋าถือ มือบางหมุนลูกบิดประตูห้องพัก ก้าวออกไปข้างนอก
“อุ่น”
เสียงทุ้มคุ้นหูที่ปะปนไปด้วยความตกใจและความดีใจเรียกให้อุ่นไอฟ้าหันไปมอง ก่อนที่ดวงตาของหญิงสาวจะเบิกกว้าง สายตาจับจ้องไปทางชายหนุ่มที่เธอไม่คิดว่าจะได้เจอกับเขาอีกเลยตลอดชีวิต
อินทัช...