หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จเมษยาก็เอาแต่บ่นตลอดทางว่านี่มันเลยเวลาเข้าเรียนคาบแรกไปแล้วตั้งยี่สิบนาที ชายหนุ่มถึงกับหูชาเลยทีเดียว
“เห็นไหมเนี่ย เกือบมาสอบไม่ทันแล้วเห็นไหม!” ร่างบางบ่นเพื่อนชาย ธาวินก้มหน้าบ่นอุบอิบอยู่คนเดียว
“บ่นไร นินทาเมย์เหรอวิน” เธอก็ยังมานะได้ยินแว่วๆ
“ก็…” ธาวินยังไม่ทันจะได้พูดอะไรอาจารย์ก็ให้สัญญาณในการเริ่มทำข้อสอบขึ้นมาเสียก่อน บทสนทนาระหว่างเขาและเธอจำต้องปิดฉากลงไปอย่างรวดเร็ว ระหว่างที่นั่งสอบทุกคนต่างก็ตกอยู่ในห้วงของความคิดของตัวเอง เลยไม่มีใครสังเกตุเห็นว่ามีสายตาคู่สวยกำลังนั่งมองแผ่นหลังกว้างของชายหนุ่มคนหนึ่งอยู่ตรงมุมหลังห้องเรียน
กรกนก เจ้าของใบหน้าหวานดีกรีดาวมหาวิทยาลัยแอบชอบธาวินตั้งแต่วันแรกที่ได้เห็น ในวันนั้นเป็นวันรับน้องวันแรกของทางคณะ เธอยังจำได้ดีว่าความประทับใจครั้งแรกที่มีต่อผู้ชายคนนี้ให้ความรู้สึกเช่นไร…
‘เอาล่ะครับ คู่ที่แพ้พี่จะให้ทานขนมปังยัดไส้กะปิบวกไข่ดิบนะครับ ฮิ้ว!’
เสียงโห่ร้องมีความสุขของรุ่นพี่ดังลั่นบริเวณ บรรดารุ่นน้องทั้งหลายต่างพากันทำหน้าเหยเกประหนึ่งราวกับโลกกำลังจะแตกในอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้า
กรกนกเองก็มีสีหน้าไม่ต่างอะไรกับเพื่อนคนอื่นๆ เธอถือขนมปังยัดไส้กะปิสุดพิสดารนั้นไว้ในมือไม่กล้าแม้แต่จะเอามันเข้าใกล้รัศมีปลายจมูก กลิ่นกะปิกับไข่ดิบแค่เห็นก็ทำให้ชวนอ้วกแล้ว บังคับให้กินของแบบนี้ฆ่ากันเสียดีกว่า!
‘และถ้าใครไม่ยอมกินนะครับ ถ้าคู่ไหนเหลือขนมปังยัดไส้สุดแสนอร่อยไว้ล่ะก็ หึๆ พี่ไม่รับรองความปลอดภัยนะน้อง!’
รุ่นพี่คนหนึ่งขู่ทับเมื่อเห็นว่ามีรุ่นน้องหลายคนยืนตั้งสมาธิถือขนมปังเจ้าปัญหาแน่นิ่ง กรกนกกลืนน้ำลายเหนียวหนืดลงคอ ใบหน้าหวานสวยทำท่าจะอ้วกเมื่อลองเอาขนมปังยัดไส้ขึ้นมาจ่อที่ริมฝีปาก
‘แหวะ!’
‘เฮ้ย! เธอเป็นอะไรหรือเปล่าเนี่ย?’
ธาวินรีบถอยหนีร่างบางข้างกายที่ทำท่าจะปล่อยของเสียออกมา ดวงตากลมโตมีน้ำใสๆ เอ่อคลอจนล้น เห็นเช่นนั้นชายหนุ่มก็ยิ่งตกใจเข้าไปใหญ่
‘เฮ้! ไม่สบายเหรอ?’ กรกนกส่ายหน้าแทนคำตอบ น้ำตาใสๆ เริ่มรินไหลอาบแก้ม สายตาจ้องมองขนมปังในมือก่อนจะหลับตาลง ริมฝีปากอวบอิ่มค่อยๆ อ้าออกกว้าง วินาทีที่เธอกลั้นใจจะเอาของพิศดาลเข้าปาก
‘เห?’ กรกนกทำตาปริบๆ เมื่อลืมตาขึ้นมองก็ไร้วี่แว่วของขนมปังที่ก่อนหน้าเธอถือไว้กับมือ เจ้าหล่อนมองผู้ชายตรงหน้าที่หยิบขนมปังในส่วนของเธอเข้าปากเคี้ยวๆ แล้ว… กลืน
‘โอ๊ะ!’ หญิงสาวตกใจเป็นสองเท่า มองเขาตาโต
‘ให้ตายเถอะกลิ่นกะปิหึ่งเลย ไข่ดิบอีก!’ ชายหนุ่มร่างสูงบ่นเป็นหมีกินผึ้งอยู่ตรงหน้า ก็น่าอยู่หรอกนะ… ทั้งๆ ที่เขาก็ไม่ได้เป็นคนเล่นเกมส์แพ้เสียหน่อยแต่กลับต้องมากินขนมปังในส่วนของเธอ กรกนกมองชายตรงหน้าด้วยความซาบซึ้งใจ
‘ถุย! อุตส่าห์มีเปลือกไข่อีกนะ ให้ตายเถอะ รุ่นพี่พวกนี้มันโรคจิตชัดๆ!’ ธาวินพ่นเปลือกไข่ลงพื้น
‘นาย…’ กรกนกยื่นขวดน้ำดื่มส่งให้กับเขา มือหนารีบรับมันขึ้นมายกดื่มแล้วจัดการกลั้วปากอย่างรวดเร็ว
‘เอ่อ… ขอบใจนายมากนะ ที่ช่วยกินขนมปังไส้พิสดารนี่แทนฉัน’
‘ไม่เป็นไรหรอก เพื่อนกัน’ คำพูดสั้นๆ ที่ดูคนพูดจะไม่ค่อยใส่ใจอะไรมากนักกลับให้ความรู้สึกพิเศษและมีความสุขอย่างแปลกประหลาด ธาวินแยกตัวเข้าไปรวมกลุ่มกับบรรดาเพื่อนผู้ชาย หลายครั้งที่กรกนกยังแอบเห็นเขายกขวดน้ำขึ้นดื่มเพื่อบ้วนปากอยู่เป็นระยะๆ ร่างบางอมยิ้ม กับตัวเอง หัวใจพองโตจนมองอะไรก็เห็นแต่สีชมพู
นี่ใช่ไหม… รักครั้งแรก!
ตั้งแต่วันนั้นมากรกนกก็รู้ว่าหัวใจของเธอไม่เหลือพื้นที่ให้ใครได้อีกแล้วนอกจากเพื่อนชายร่วมคณะคนนี้ แต่ขึ้นชื่อว่าความรักมันก็ย่อมมีทั้งผิดหวังและสมหวังปนกันไป ธาวินไม่เคยแสดงท่าทีว่าชอบเธอหรือรู้สึกพิเศษกับเธอมากกว่าเพื่อนร่วมคณะคนหนึ่งเท่านั้น ในสายตาของผู้ชายคนนั้นเห็นทีจะมีแต่ผู้หญิงน่ารักแก่นเซี้ยวอย่างเมษยาเพียงคนเดียว
เธอรู้มาว่าเขากับเมษยาเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็กๆ ไม่แปลกหรอกถ้าเขาจะให้ความสำคัญกับเธอมากกว่าคนอื่นๆ ถึงจะคิดแบบนั้นหากก็มีหลายครั้งที่หัวใจไม่รักดีชอบคิดเล็กคิดน้อย แอบอิจฉาผู้หญิงคนนั้นอยู่เรื่อย แต่ถึงจะอย่างนั้นก็เถอะกรกนกเองก็ไม่เคยเอาความรักมาสร้างความเดือดร้อนให้กับใคร เพราะแค่ได้แอบรักใครสักคนนั้นก็ถือว่ามีความสุขมากมายแล้วสำหรับเธอ
“ทุกคนวางปากกาลง แล้วนั่งนิ่งๆ ให้เหมือนศพอย่าตุกติกและคิดลอกกันโดยเด็ดขาด!” อาจารย์ประจำวิชาสั่งเสียงเข้มก่อนจะเดินเก็บข้อสอบทีละโต๊ะอย่างระแวดระวัง บรรดานักศึกษาทุกคนต่างพากันเดินออกจากห้องเรียนในท่าทีแบกความทุกข์ กรกนกหญิงสาวเรียนเก่งมักจะถูกเพื่อนในกลุ่มแซวอยู่เรื่อยเวลามีการทดสอบของแต่ละวิชา
“ฉันว่านะสอบครั้งนี้ก็ไม่แคล้วเธอท็อปอีกนั่นแหละ” เพื่อนสาวคนหนึ่งเอ่ยขึ้นระหว่างเดินไปที่ลิฟต์
“ใช่ๆ สอบทีไรเธอก็คว้าคะแนนเลิศๆ ไปทานทุกที” อีกคนรีบผสมโรง
“ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกจ้า” เจ้าตัวพูดยิ้มๆ ไม่ต้องการทำตัวเด่นเกินหน้าเกินตาคนอื่น คุณยายมักจะสอนเธอเสมอว่า ‘คนเรานั้นอย่าทำตัวสูงโดยการเหยียบหัวผู้อื่น’ กรกนกจริงจังกับเรื่องพวกนี้มาก เธอจึงมีนิสัยอ่อนโยน จิตใจดี และมีเมตตาให้กับทุกคน
“ถ่อมตัวเกิ้น!” น้ำเสียงล้อเลียนของเพื่อนๆ
“เออนี่แก้ว… เธอจะไปเที่ยวต่อกับพวกเราไหม?”
สาวเปรี้ยวสุดของกลุ่มถามขึ้นระหว่างที่กำลังรอลิฟต์ คนถูกถามส่ายหน้าบางเบาพลางยิ้มเจื่อนๆ
“ไม่ดีกว่าจ้ะ วันนี้มีเรียนทำขนมไทยน่ะ”