บทที่ 1 หญิงสาวที่สนใจ [NC]
ห้องนอน
ปึก! ปึก! ปึก! ปึก!
เสียงกระแทกกายหยาบโลนดังขึ้นเคล้ากับเสียงร้องของหญิงสาวที่ถูกกระทำอย่างหนักจาก ‘ของใหญ่’ จนเธอรู้สึกจุกที่ท้องน้อยเป็นอย่างมาก
“อ อ๊ะ! อ๊ะ ๆ ช้าลงหน่อยได้มั้ยคะ หนูจุก อ อึก!”
“เงียบไป วันนี้ฉันอารมณ์ไม่ดี”
“แค่นอนอ้าขาอย่างเดียวก็ร้องเหมือนจะถูกฆ่าอย่างนั้นแหละ”
มาเฟียโหดเอ่ยออกมาด้วยความรำคาญกับความบอบบางของร่างกายคนตัวเล็กที่ไม่ว่าจะสัมผัสตรงไหน เธอก็ส่งเสียงร้องงอแงออกมาแบบนี้ทุกครั้ง ต่างจากซัมเมอร์ที่ทำหน้าราวกับจะร้องไห้ออกมาเมื่ออีกฝ่ายไม่ยอมผ่อนแรงลงเลยแม้แต่น้อย อีกทั้งเขายังกระแทกแก่นกายเข้ามาลึกกว่าเดิมอีกต่างหาก
ถึงนี่จะไม่ใช่ครั้งแรกของเธอกับเขา แต่ว่าซัมเมอร์ก็ยังคงไม่ชินสักทีกับการที่ต้องรองรับแก่นกายยักษ์ไซซ์ ‘หกสิบสอง’ แบบนี้
เธอยังคงจดจำครั้งแรกของทั้งคู่ได้เป็นอย่างดีว่าในวันนั้นเธอ ‘หมดสภาพ’ ขนาดไหน
เขาทำกับเธออย่างที่ไม่มีความอ่อนโยนเลยแม้แต่น้อย จนซัมเมอร์ต้องนอนไข้ขึ้นและเดินไม่ได้อยู่หลายวัน แต่เพียงแค่ไม่นานเธอก็ถูกเขาเรียกมาใช้งานอีกครั้ง
ร่างกายของซัมเมอร์ยังคงโยกคลอนอย่างหนักจากแรงกระแทกกระทั้นของชายหนุ่ม ขณะที่เธอได้แต่มองใบหน้าชายหนุ่มตรงหน้าอย่างไม่คิดเลยว่าเขาจะเป็นคนเดียวกับรุ่นพี่วิศวะฯ คนนั้นที่เธอเคยเจอมาก่อนจริง ๆ และคงไม่มีใครที่จะได้เห็นมุมที่โหดร้ายป่าเถื่อนอย่างนี้แบบที่เธอเคยเห็นมาก่อนแน่นอน
เพราะว่าเขาขึ้นชื่อว่าไม่สนใจผู้หญิงคนไหนเลย จนกระทั่งได้มาเจอเธอ
สองเดือนที่แล้ว (มหาวิทยาลัย)
“ขอโทษนะคะ” เสียงหวานเอ่ยกับชายหนุ่มตรงหน้าอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ ทำให้คนที่นั่งกินข้าวอยู่คนเดียวยอมเงยหน้าขึ้นมา จนกระทั่งเขาได้สบตากับหญิงสาวหน้าตาน่ารักคนหนึ่งซึ่งกำลังยืนถือจานข้าวอยู่ เธอมีท่าทีลังเลเล็กน้อยด้วยความเกรงใจรุ่นพี่หนุ่มเจ้าของฉายา ‘รุ่นพี่สุดฮอต’ ของคณะวิศวะฯ แต่สุดท้ายซัมเมอร์เลยยอมเอ่ยถามออกไป
“คือหนู...ขอนั่งด้วยได้มั้ยคะ โต๊ะอื่นมันเต็มหมดแล้วน่ะค่ะ” หญิงสาวเอ่ยถามอย่างมีมารยาท เพราะว่าตอนนี้โต๊ะที่โรงอาหารต่างก็มีคนนั่งหมดทุกโต๊ะแล้ว ทว่ามีแค่ตรงนี้เท่านั้นที่เป็นโต๊ะนั่งได้ประมาณสี่ที่นั่ง แต่กลับมีเพียงแค่รุ่นพี่หนุ่มตรงหน้าเธอที่นั่งคนเดียวเท่านั้น
“กี่คน?”
“คะ...คนเดียวค่ะ วันนี้หนูมีเรียนบ่ายแต่ออกมากินข้าวที่มอก่อน ส่วนเพื่อน ๆ น่าจะมาตอนที่ใกล้เริ่มคลาสเลยค่ะ”
ควินตันมองหญิงสาวตรงหน้าด้วยสายตาที่เรียบนิ่งทว่ากลับเต็มไปด้วยความไม่เป็นมิตรอย่างชัดเจน ปกติเขาไม่ค่อยชอบนั่งกินข้าวร่วมโต๊ะกับคนแปลกหน้าแบบนี้ แต่ว่าดูจากจำนวนคนในโรงอาหารแล้วเขาก็พอรู้ได้ว่ามันไม่มีที่นั่งว่างที่เหลือแล้วจริง ๆ
อีกอย่างเขาก็กินใกล้หมดแล้ว เพราะงั้นก็คงจะต้องนั่งร่วมโต๊ะกันไม่นานเท่าไหร่
“อยากนั่งก็นั่ง”
“ขอบคุณนะคะ” ซัมเมอร์ก้มหัวให้กับคนตรงหน้าเล็กน้อยพร้อมกับรอยยิ้มที่สดใสของเธอที่ทำให้ชายหนุ่มต้องนิ่งไปพักหนึ่ง ก่อนที่ทั้งคู่จะนั่งกินข้าวโต๊ะเดียวกันแบบที่ต่างฝ่ายต่างไม่ได้สนใจกันและกัน จนกระทั่งควินตันกินเสร็จจึงลุกออกมา
ทว่าบทสนทนาของเขากับหญิงสาวคนนั้นกลับไม่ได้จบลงแค่นั้นเมื่อเธอเอ่ยเรียกเขาพร้อมกับรีบเดินเข้ามาหา
“พี่คะ!”
“..??”
“พี่ลืมผ้าเช็ดหน้าไว้น่ะค่ะ”
ควินตันหลุบมองผ้าเช็ดหน้าที่ถูกยื่นมาตรงหน้าเพียงนิด ก่อนจะตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“ไม่ใช่ของฉัน”
“อ๊ะ! ขอโทษด้วยค่ะ หนูเห็นวางอยู่บนเก้าอี้ที่พี่นั่งเลยคิดว่าเป็นของพี่”
“ฮื่อออ ทำไมดุแบบนี้เนี่ย น่ากลัวชะมัดเลย”
“ที่บอกว่าไม่สนใจผู้หญิงเลยคงจะเป็นเรื่องจริงสินะ”
ความเย็นชาของผู้ชายตรงหน้าเริ่มทำให้ซัมเมอร์รู้สึกอึดอัดไม่น้อยจนเธอต้องรีบเดินกลับไปที่โต๊ะของตัวเอง เธอบ่นอุบอิบตามลำพังเกี่ยวกับความเย็นชาและนิสัยที่ไม่เคยอ่อนข้อหรือสนใจผู้หญิงคนไหนเลยของควินตัน ซึ่งปกติเพียงแค่เคยได้ยินจากคนอื่นมาเท่านั้น แต่พอเจอตัวจริงแล้วเขายิ่งน่ากลัวกว่าที่คนอื่นเล่ากันเสียอีก
ขณะที่ควินตันยังคงมองตามแผ่นหลังของหญิงสาวรุ่นน้องไปอย่างไม่ละสายตา เป็นจังหวะเดียวกันกับเพื่อนของเขาที่เดินเข้ามาพอดี
“ไอ้ควินตัน กินข้าวเสร็จแล้วเหรอวะ กูเพิ่งตื่นเลยมาสาย”
“มองอะไรวะ?” ชายหนุ่มเอ่ยถามเพื่อนเมื่อเห็นสายตาของควินตันมองไปยังโต๊ะของโรงอาหารที่อยู่ด้านหน้า ทำให้วิศวะฯ หนุ่มจึงยอมละสายตาจากหญิงสาวที่เคยนั่งกินข้าวร่วมกับเขา
“ไม่มีอะไร”
ตอนเย็น
“พี่ซันนน” เสียงเรียกของน้องสาวที่ดังจากทางด้านหลังทำให้ซันหยุดชะงักฝีเท้าแล้วหันกลับไปมอง เขาคลี่ยิ้มออกมาอย่างง่ายดายเมื่อเห็นซัมเมอร์กำลังกึ่งเดินกึ่งวิ่งเข้ามาหาเขา พอเธอเข้ามาประชิดตัวหญิงสาวจึงเข้ามาเกาะแขนพร้อมกับออดอ้อนพี่ชายอย่างที่ชอบทำ
“ฮื่อออ คิดถึงพี่ซันจังเลย ซัมชอบวันศุกร์แบบนี้ม๊ากมากเพราะเลิกเรียนพร้อมกับพี่ซันด้วย~”
“ปกติเราเลิกช้ากว่านี้ไม่ใช่หรือไง หรือว่าแอบโดดเรียนมาก่อนเพราะไม่อยากให้พี่รอนาน?”
“ไม่ใช่สักหน่อย! วันนี้อาจารย์ไม่มีควิซท้ายคาบเลยเลิกเร็วต่างหาก” ซัมเมอร์รีบปฏิเสธพี่ชายเสียงแข็ง เธอแสร้งทำสีหน้าบึ้งตึงจนซันต้องยกมือขึ้นมาขยี้ผมของหญิงสาวด้วยความเอ็นดู
“โอเค ไม่โดดก็ไม่โดด แล้วนี่หิวรึยัง?”
“ซัมยังไม่ค่อยหิวเท่าไหร่ค่ะ แต่ถ้าพี่ซันอยากกินซัมก็กินได้~”
“งั้นเราไปหาอะไรกินกัน เสร็จแล้วเดี๋ยวพี่ไปส่งที่ห้อง”
“พี่ซันจะไปทำงานทันเหรอ? ซัมกลับเองก็ได้นะ ห้องเราอยู่แค่นี้เอง”
“ยังพอมีเวลาอยู่ ถ้าทันเดี๋ยวพี่ไปส่งแต่ถ้าไม่ทันเราค่อยกลับเอง”
“ให้ซัมมาช่วยทำงานดีกว่ามั้ย ซัมทำงานได้นะ ไม่ได้อ่อนแอเหมือนที่พี่ซันคิดหรอกนะ”
“พี่บอกแล้วไงว่าเรามีหน้าที่ตั้งใจเรียนไป ส่วนเรื่องทำงานเดี๋ยวพี่ทำเอง” ซันลูบหัวน้องสาวด้วยความเอ็นดู เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ซัมเมอร์มาขอเขาทำงานแบบนี้ แต่เป็นเพราะเขาเองที่อยากให้น้องได้โฟกัสกับการเรียนมากที่สุด
ครอบครัวของเขานั้นพ่อกับแม่แยกทางกันตั้งแต่เด็กจนต้องอยู่กับยายทั้งพี่ทั้งน้อง แต่หลังจากที่ยายเสียไปแล้ว ซันจึงกลายมาเป็นเสาหลักของบ้านที่ต้องดูแลน้องสาวของเขาให้ดีที่สุด
แม้ว่าตอนนี้เขาจะยังพอหมุนเงินทันและใกล้จะเรียนจบแล้ว แต่ว่าซันก็ได้หางานพาร์ทไทม์ทำอยู่ตลอดเพื่อจะเก็บเงินให้ได้เยอะที่สุดไว้สำหรับน้องสาวของเขา
เพราะตอนนี้เขาเหลือเพียงแค่ซัมเมอร์คนเดียวแล้วที่เป็นครอบครัวในตอนนี้