บทที่ 1.2 หมาล่านื้อ

793 Words
บทที่ 1.2 หมาล่านื้อ  ทับทิมพยายามสูดลมหายใจเข้าออกเพื่อสงบสติอารมณ์ทั้งที่ในใจเดือดพล่านยิ่งกว่าน้ำร้อน หน้าตาเหมือนกันแท้ ๆ แต่คนพี่ดูจะกวนประสาทน้อยกว่าเยอะ รายนั้นค่อนไปทางอารมณ์ร้อนมากกว่า ต่างจาก ลีออนที่ติดเล่นและชอบหาเรื่องสนุกทำด้วยการแกล้งคนอื่นโดยเฉพาะกับสาว ๆ การแกล้งให้พวกเธอหวั่นไหวแล้วค่อยถอยห่างออกมามันคือความสุขของเขาเชียวล่ะ ‘พี่ต้องการอะไรคะ เข้าเรื่องเลยดีกว่า ฉันไม่อยากตกเป็นเป้าสายตาไปมากกว่านี้’ คนตัวเล็กกวาดตามองไปรอบ ๆ สายตาแทบทุกคู่จับจ้องมาทางเธอกับเขา ลำพังแค่ลีออนมาปรากฏตัวที่นี่ก็น่าตกใจพออยู่แล้ว ยังจะมายืนคุยกับผู้หญิงที่ไม่ได้โดดเด่นอะไรอย่างทับทิมอีก ‘เอาโทรศัพท์เธอมา’ ‘เอาไปทำไมคะ’ ‘เถอะน่า’ ลีออนทำเสียงรำคาญ เธอหยิบจากในกระเป๋ากระโปรงออกมาส่งให้ อีกฝ่ายรับไปกดยิก ๆ สักพักก็มีเสียงเรียกเข้าไปที่มือถือของเขา ‘อย่าบอกนะว่า…’ ‘นั่นเบอร์ฉัน เมมเอาไว้ว่ารุ่นพี่สุดหล่อแล้วต้องรับสายทันทีที่ฉันโทรหาไม่อย่างนั้น…’ ‘...’ ‘เธอได้ไปนอนเล่นในคุกแน่ เพราะฉันจะใช้อำนาจของตระกูลล้างแค้นให้ได้’ ก้มลงมาจนอยู่ในระดับสายตาเดียวกันก่อนจะเหยียดยิ้มมุมปากคล้ายจะเยาะเย้ยแล้วเดินจากไป ทิ้งให้ทับทิมยืนอารมณ์เดือดดาลใกล้จะทะลุปรอทเต็มที ‘รุ่นพี่สุดหล่ออย่างนั้นเหรอ…’ ‘...’ ‘พี่มันก็แค่หมาล่าเนื้อบ้ากามเท่านั้นแหละ!’ และเพราะแบบนั้น…เธอเลยมีเบอร์เขาเป็นเครื่องรางไว้ไล่ผีไปโดยปริยาย จากวันนั้นก็ผ่านมาเป็นอาทิตย์แล้วเพิ่งจะมีการติดต่อเข้ามา เอาอย่างไรดีนะ จะรับหรือไม่รับดี ‘ต้องรับสายทันทีที่ฉันโทรหาไม่อย่างนั้นเธอได้ไปนอนเล่นในคุกแน่’ คำขู่ของลีออนยังวนเวียนอยู่ในหัว สุดท้ายทับทิมก็ต้องกดรับสายอย่างเลี่ยงไม่ได้ รอให้คดีหมดอายุความจนใบบันทึกประจำวันใช้อะไรไม่ได้ก่อนเถอะ หล่อนจะเอาคืนให้สาสมเลย! “ค่ะ” [ทำไมรับช้า] “เข้าห้องน้ำค่ะ” น้ำเสียงแสดงออกชัดเจนว่าไม่ค่อยอยากคุยกับเขาเท่าไหร่ นอกจากเรื่องทำร้ายร่างกายบ้า ๆ นั่นแล้วอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้หญิงสาวไม่อยากอยู่ใกล้ลีออนก็คือความลับของเธอเอง ตัวตน ‘ทิมมี่’ ที่จะปรากฏกายออกมาแค่ในยามราตรีเท่านั้นคือปัญหาหนักใจอีกเรื่อง แม้ว่าหลังจากที่ถูกลีออนเข้าหาในผับวันนั้นแล้วเธอจะไม่ได้ไปที่นั่นอีกเลยก็ตาม แต่ก็ใช่ว่าสักวันจะไม่เจอกันอีกเสียหน่อย ตัวแม่แห่งการเที่ยวกลางคืนอดกลั้นมาเป็นอาทิตย์ก็เพื่อหลบหน้าหมาล่าเนื้ออย่างลีออน คนที่กัดไม่ปล่อยอย่างเขาลองถ้าได้รู้ว่าทับทิมกับทิมมี่คือคนเดียวกันต้องเป็นเรื่องแน่ [มาหาฉันที่ผับของไอ้เสือในสามสิบนาที] “พี่คิดว่าฉันเหาะได้เหรอคะ ผับพี่ไทเกอร์อยู่ห่างไปอย่างน้อยก็เกินสี่สิบนาที” หญิงสาวเถียง พอเป็นต่อเข้าหน่อยก็สั่งเป็นเจ้าชีวิตเลยนะ สักวันหล่อนจะต้องหลุดพ้นเงื้อมมือไอ้หมาตัวนี้ให้ได้ [เอ๋…รู้กระทั่งระยะเวลาจากมหา’ ลัยมาผับ เธอคงมาเที่ยวผับนี้บ่อยสิท่า แต่แปลกนะ ฉันเองก็มาทุกวัน ไม่ยักจะเจอเธอ] “เอ่อ…ฉัน…ฉันเคยได้ยินจากข้าวหอมค่ะ ก็เลยเคยเสิร์ชดูในแผนที่อยู่บ้าง” ทับทิมแก้ตัว เป็นคำแถที่ฟังดูโง่สิ้นดี ใครมันจะไปเชื่อกัน เด็กอนุบาลยังมองออกเลยมั้งว่าโกหก [อย่างนี้นี่เอง] “เอ๊ะ? พะ…พี่เชื่อเหรอคะ” [มีเหตุผลต้องไม่เชื่อด้วยเหรอ หรือว่าเธอโกหก?] “ไม่ค่ะๆๆ ไม่ได้โกหก ฉันพูดความจริงล้านเปอร์เซ็นต์ ถ้าอย่างนั้นรอสักครู่นะคะ ฉันจะรีบไปหาทันทีตามคำสั่ง” ติ๊ด! ทับทิมกดวางสายแล้วรวบข้าวของทั้งหมดใส่กระเป๋าอย่างเร่งรีบ ถ้าถามว่ามีอะไรโง่ไปกว่าการแถค้าง ๆ คู ๆ ของหล่อนก็คงเป็นลีออนนี่แหละมั้ง แต่การที่เขาเชื่อง่าย ๆ แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน เพราะปกติแล้วหญิงสาวเป็นพวกโกหกไม่เก่งเอาเสียเลย
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD