ตอนที่ 01 : ความรู้สึกที่เปลี่ยนไป
[DARLA’S PART]
กลิ่นหอมของน้ำทะเลลอยเข้ามาปะทะกับจมูกน้อยๆ ของฉัน ก่อนที่ฉันจะสูดดมกลิ่นอายจนเต็มปอด
‘เฮ้ย...อยากไปเที่ยวทะเลกับเพื่อนเพื่อนจังเลย’ ฉันถอนหายใจออกมาก่อนที่จะคิดถึงหาดทรายขาวๆ บวกกับน้ำทะเลใสๆ ที่ฉันพึ่งมโนไปเมื่อกี้ใดๆร้อนๆ ‘ฉันดาหลาค่ะ หรือเรียกว่าดาเฉยๆก็ได้นะ’
.
.
.
เอี๊ยดดดดดดดดด!
เสียงเบรคของรถยนต์ดังขึ้นจากบริเวณลานหน้าบ้าน ปลุกฉันให้ออกจากภวังค์ ก่อนที่จะพยุงตัวเองลุกขึ้นจากเก้าอี้ตัวใหญ่เพื่อที่จะเดินไปเปิดประตูให้กับคนที่พึ่งมาใหม่
“อึบ…ถ้ากลอนประตูจะอยู่สูงขนาดนี้อะนะ” ฉันพยายามเขย่งเท้าเพื่อที่จะเอื้อมมือน้อยๆ ของตัวเองไปปลดล็อกกลอนประตู
แอ๊ดดดดดดดดดด!
“สวัสดีค่ะคุณเบลซ” ฉันเอ่ยทักทายเขาอย่างสุภาพพร้อมกับยกมือไหว้เขาออกไปด้วยความนอบน้อม ก่อนที่ชายร่างใหญ่จะเดินเข้ามาทันทีที่
“...”
‘คุณเบลซ...’ ชายหนุ่มมาดนิ่ง ที่ทั้งหล่อ รวย เก่ง ดีกรีว่าที่ศัลยแพทย์มือหนึ่งของประเทศ นี่แค่ประวัติคร่าวๆ เขายังดูครบเครื่องขนาดนี้เลยใช่ไหมล่ะคะ ก็ใช่แหละค่ะและเพราะความเพอร์เฟคนี้ของเขาทำให้สาวน้อยสายใหญ่ต่างรุมล้อมเข้ามาขายขนมจีบซะจนหัวบันไดบ้านไม่เคยแห้ง แต่เท่าที่ฉันรู้จักกับเขามาก็ไม่เคยเห็นเขาซื้อขนมจีบจากใครเลยนะคะ
และที่เขากลับบ้านมาดึกดื่นขนาดนี้ไม่ใช่ว่าเขาเข้าเวรแต่อย่างใด จากกลิ่นเหล้าที่คละคลุ้งขนาดนี้ นี่ฉันยืนห่างจากเขาพอสมควรกลิ่นที่โชยมาเข้าจมูกยังทำให้ฉันเวียนหัวไปหมด เขาคงไปกินเหล้าสังสรรค์กับพวกเพื่อนๆ ของเขามาแน่นอน ซึ่งปกติแล้ววันธรรมดาคุณเบลซเขามักจะอยู่คอนโดไม่ค่อยได้กลับบ้าน ยกเว้นแต่วันหยุดของเขาถึงจะกลับมาพักที่นี่บ้าง
อ้อลืมบอกไปคุณเบลซ... เขาเป็นหลานชายหัวแก้วหัวแหวนของคุณท่านชาญวิทย์ กับคุณหญิงสินี วงค์อัครหิรัญ ซึ่งคุณท่านทั้งสองมีลูกสาวเพียงคนเดียวคือ คุณสัณห์ฤทัย โชติธนชัยพัฒน์ และคุณสัณห์ ก็เป็นคุณแม่ของของคุณเบลซนั่นเองค่ะ
“...” เขายืนนิ่งขนาดนี้ฉันต้องเชิญเขาเข้าบ้านของตัวเขาเองไหมเนี่ย ฉันรู้สึกว่าตัวเองเกร็งไปหมดเพราะเขาเอาแต่จ้องหน้าฉันอยู่ได้ ไม่มีทีท่าว่าจะเดินเข้าหรือแม้แต่เอ่ยคำใดกับฉัน
“ชะ...เชิญคะ” หลังจากที่เราทั้งคู่เงียบใส่กันอยู่สักครู่ ฉันจึงตัดสินใจเป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นกับเขาก่อน เพื่อทำลายความเงียบที่เกิดขึ้น
ถึงฉันจะอยู่บ้านนี้มาตั้งแต่จำความได้จนตอนนี้ฉันกับคุณเบลซ เราก็ไม่ได้สนิทกันขนาดที่ฉันจะกล้าพูดเล่นกับเขาได้...ด้วยความที่เขาเป็นคนนิ่งๆ แบบว่านิ่งจนน่ากล้วเเบบนี้มาตั้งแต่เล็กจนโต ทำให้ฉันไม่กล้าที่จะไปชวนเขาเล่นหรือคุยด้วยเลย
และที่สำคัญเขาเป็นหลานของคุณท่านด้วย ยิ่งทำให้ฉันไม่กล้าที่จะเข้าใกล้เขาไปใหญ่...ถึงแม้ว่าตอนเด็กๆ คุณท่านทั้งสองจะให้เราสองคนเล่นอยู่ด้วยกันบ่อยๆก็เถอะ แต่มันก็ไม่ได้ทำให้ฉันกับเขาสนิทสนมกันมากขึ้นเลย
“ทำไมถึงเป็นคนมาเปิด?...” เขาเดินเข้ามาก่อนจะหยุดฝีเท้า พร้อมกับหันกลับมามองฉันด้วยสายตาเย็นชาคู่เดิมที่ฉันคุ้นเคย...รึป่าว!
“อะ...เอ่อ ลุงชัยลากลับบ้านค่ะ”
“...” เอิบ! เงียบไร้เสียงตอบรับอะไรทั้งสิ้น (เรื่องปกติ) แต่ที่ไม่ปกติก็คือเขายังคงยืนนิ่งไม่ขยับไปไหนเลยละ... ‘เขาไม่ขึ้นห้องหรอ’
“...”
แอ๊ดดดดดดดดดด!
“คุณเบลซต้องการอะไรรึป่าวคะ?...” ฉันเอ่ยถามเขาออกไปหลังจากที่ปิดประตูบานใหญ่ แต่ก็นะผู้หญิงเล็กๆ ที่สูงเพียงแค่ 160 เซนติเมตรอย่างฉันยืดสุดตัวมือฉันยังเอื้อมไม่ถึงกลอนประตูด้านบนเลย
“ไม่...”
“อะ…” ฉันอุทานออกมาทันทีที่สัมผัสได้ถึงแผ่นอกของคุณเบลซที่ดันหัวของฉันติดเข้ากับประตู ก่อนที่เขาจะเอื้อมมือไปล็อกกลอนประตูแทนฉัน
“อะ เอ่อ ขอบคุณะ…ถ้าคุณเบลซไม่ต้องการอะไรแล้วดาขอตัวก่อนนะคะ” ฉันเอ่ยถามเข้าขึ้นมาทันที พร้อมกับขยับถอยห่างออกมาจากผู้ชายตรงหน้า
“เดี๋ยว”
“คะ?”
“หิว ทำไข่เจียวให้ฉันกินหน่อย” ผู้ชายตรงหน้าเอ่ยบอกกับฉันด้วยสายตาเรียบนิ่งเช่นเคย
“ได้ค่ะ เดี๋ยวดาทำให้นะคะ” ฉันพูดจบก็เดินเข้าไปยังห้องครัวทันทีแต่…ฉันหยุดเดินก่อนหันกลับไปมองทางด้านหลังที่มีผู้ชายร่ายใหญ่คนเดิมกำลังเดินตามฉันมา
“คุณเบลซรอดาที่ห้องนั่งเล่นก่อนก็ได้นะคะ” ฉันเอ่ยบอกกับเขาออกไปด้วยความหวังดี แต่ก็นะนอกจากจะไม่มีเสียงตอบรับแล้วผู้ชายคนนี้ยังเดินผ่านฉันเข้าไปยังห้องครัวหน้าตาเฉย นี่แหละน้าคุณเบลซตัวจริงเสียงจริงไม่ได้ใช้ตัวแสดงแท้เลยล่ะค่ะ
หลังจากนั้นฉันก็ลงมือทำไข่เจียวสูตรประจำที่ฉันเคยทำตอกไข่ลงไปสองใบ ตามด้วยหมูสับ แครอทสับนิดหน่อย และสุดท้ายปรุงรสด้วยน้ำมันหอยและซอสฝาเขียวจากนั้นก็เจียวๆ ๆ ให้เข้ากันก่อนจะลงกระทะทอด
“หอมจัง” หลังจากที่ฉันตักไข่ทองขึ้นมาใส่จานเรียบร้อยแล้ว จึงเดินไปคดข้าวสวยร้อนๆ ในหม้อมาวางไว้ให้คุณเบลซซึ่งนั่งมองฉันทำโน้นทำนี่อยู่ที่เก้าอี้
“เรียบร้อยค่ะ...”
“กินข้าวกับฉันสิ” ผู้ชายตรงหน้าที่กำลังตั้งหน้าตั้งตาทานไข่เจียวอย่างเอร็ดอร่อยเอ่ยบอกกับฉัน
“ดาทานอิ่มแล้วค่ะ คุณเบลซทานเลยค่ะ”
“งั้นไปนอนเถอะ”
“แต่…” ฉันกำลังจะเอ่ยบอกกับผู้ชายตรงหน้า แต่เขาก็พูดขัดขึ้นมาก่อน
“ดึกแล้วไปนอน…” คุณเบลซเอ่ยเสียงเรียบนิ่ง
“ค่ะ…งั้นดาขอตัวนะคะ”
“อืม...” หลังจากได้ยินเขาตอบกลับมาแล้วฉันจึงหันหลัง กำลังจะเดินออกไป แต่...
“...ฝันดี...”
“คะ...?” ฉันหยุดแล้วหันกลับไปมองเขาอีกครั้ง...
“แฮร่!...งั้นดาไปนะคะ” ฉันหันไปยิ้มให้กับเขาอีกครั้งก่อนจะเดินออกไป...หูฉันคงเพี้ยนไปแล้วแหละอย่างคุณเบลซไม่มีทางพูดอะไรแบบนี้กับฉันแน่นอน
“...”