เช้าวันหยุดสุดสัปดาห์วันหนึ่ง มากาเรเทอไขกุญแจเข้ามาในห้องนอนของยาคอปตามปกติ เพื่อที่จะเซอร์ไพรส์เขาในตอนที่ตื่น เหมือนกับที่เคยทำมาครั้งก่อนๆ
มากาเรเทอเข้าออกห้องของยาคอปบ่อยครั้ง ประหนึ่งเธอกลายเป็นแฟนสาวของเขาไปแล้ว หากแต่ในความเป็นจริง พวกเขาเพียงแค่อาศัยอยู่ในบ้านหลังเดียวกันเท่านั้น และทั้งคู่ไม่ได้มีความสัมพันธ์ฉันท์แฟนอะไรแบบนั้น
“…”
มากาเรเทอนั่งยองๆ ลงข้างๆ เตียง พลางมองใบหน้าที่หล่อเหลานั้นกำลังหลับใหลอย่างเป็นสุข โดยที่เจ้าของใบหน้านั้นไม่ได้รู้เลยว่ามีคนกำลังจ้องมองตนเองอยู่
เด็กสาวเลิกผมที่ปรกใบหน้าของเขาขึ้นพร้อมกับมองมันอย่างพินิจพิเคราะห์ ผมสีบลอนด์ทองเรียวสวยราวกับเส้นผมของเด็กผู้หญิงแต่สั้นกว่า ใบหน้าที่หล่อคมคายกว่าเด็กผู้ชายวัยเดียวกันที่โรงเรียนที่พวกเขาเรียนกันอยู่ จมูกที่โด่งเป็นสันเด่นสง่า และภายใต้เปลือกตาที่ปิดอยู่นั้น มีดวงตาสีฟ้าใสบริสุทธิ์ที่มีความลับบางอย่างซ่อนอยู่ ความลับที่มีเพียงเธอเท่านั้นที่สังเกตเห็นมัน
และความลับที่ว่านั้นก็คือ ในนัยน์ตาของยาคอปมีเศษเสี้ยวหนึ่งของความโศกเศร้าที่ไม่สามารถบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้ ความโศกเศร้าประหนึ่งว่าเขาถูกโลกทั้งใบหันหลังให้อย่างไรอย่างนั้น
เมื่อเขายิ้ม มากาเรเทอสัมผัสได้ว่ารอยยิ้มของเขานั้นมันถูกปั้นแต่งขึ้นมาจากความบิดเบี้ยวภายในจิตใจเพื่อปกปิดความเศร้านั้น รอยยิ้มที่ไม่จริงใจ และพยายามบอกกับคนอื่นว่า
‘อย่ามายุ่งกับฉัน’
แต่ทุกคนกลับหัวเราะไปกับรอยยิ้มอันแสนจอมปลอมนั้น โดยที่ไม่ได้รู้เลยว่าเจ้าของรอยยิ้มนั้นทรมานมากเพียงใด มากาเรเทอไม่อาจที่จะจินตนาการถึงความทรมานที่ยาคอปเผชิญอยู่ได้ เด็กสาวทำได้แค่เพียงโอ๋เขาในแบบของเธอเท่านั้น
และทุกครั้งที่มากาเรเทอปล่อยให้ยาคอปอยู่ตัวคนเดียว เด็กหนุ่มก็จะหยิบรูปภาพใบหนึ่งขึ้นมาดูพร้อมกับทำสีหน้าโศกเศร้าเสียยิ่งกว่าตอนปกติเสียอีก สีหน้าที่ราวกับว่าบนโลกนี้มีเพียงเขาคนเดียวที่ถูกทิ้งให้อยู่ด้านหลัง ในขณะที่ทุกคนเดินไปข้างหน้า
แต่เมื่อเธอถามเขาถึงรูปภาพที่ว่า เขาก็จะปฏิเสธที่จะตอบคำถามของเธออยู่ทุกครั้ง แม้จะเคยหลอกถามแล้วแต่ก็ไม่ได้ผล
นอกจากนั้นนับตั้งแต่เกิดมา หากไม่นับผู้เป็นพ่อ มากาเรเทอไม่เคยใกล้ชิดกับผู้ชายคนไหนมาก่อนเลยในชีวิต แม้กระทั่งเด็กผู้ชายก็ไม่เคย เพราะเธอถูกเลี้ยงมาอย่างประคบประหงมราวกับไข่ในหิน ดังนั้น เธอจึงไม่คุ้นเคยกับเด็กผู้ชายเลย
แต่เมื่อยาคอปเข้ามาในชีวิตของเธอ มากาเรเทอจึงสัมผัสได้ว่าเด็กผู้ชายนั้นเป็นสิ่งมีชีวิตที่ลึกลับ และมีหลายๆ อย่างให้น่าค้นหา ดังนั้นมันจึงส่งผลกระทบต่อความฝันของเธอ ที่ใฝ่ฝันอยากจะมีลูกชายสักคน เพื่อที่จะได้หาคำตอบที่สงสัยและเฝ้าดูเขาเติบโตด้วยมือของเธอเอง
และจากการที่ยาคอปเป็นเด็กผู้ชายเพียงคนเดียวที่เธอเคยอยู่ใกล้และได้สัมผัส เด็กสาวจึงสามารถสัมผัสได้ว่าคนคนนี้ เวลาที่อยู่ใกล้แล้วรู้สึกสบายใจอย่างน่าประหลาด และวางใจได้ว่าเขาไม่เป็นอันตรายกับเธออย่างแน่นอน
ภาพชีวิตประจำวันที่แสนคุ้นเคยของครอบครัวกลับแปลกตาออกไป เมื่อปรากฏร่างของเด็กผู้ชายคนหนึ่งเดินง่วนอยู่ในนั้น เด็กผู้ชายที่มีสมญานามว่า คุณกล้วยหอมหมายเลข 2 และผู้ที่เล่นเป็นสามีของเธอในการเล่นพ่อแม่ลูกที่เธอชอบ
ภาพตอนที่ทานอาหารแล้วเขาพยายามที่จะยัดทุกอย่างเข้าไปในแก้มตุ่ยๆ นั่น ราวกับว่าวันพรุ่งนี้จะไม่มีอะไรให้เขาทานอีกแล้ว ซึ่งตัวของมากาเรเทอมองว่ามันน่ารักน่าชังจนเกินกว่าจะหาคำบรรยายใดๆ มาอธิบายได้
นอกจากนั้นเด็กผู้ชายคนนี้ยังมีมุมที่แอบเท่ จนทำให้หัวใจของเธอเต้นตึกตักเสียงดังจนรู้สึกหนวกหู ไม่ว่าจะเป็นตอนที่อยู่ที่โรงเรียน ที่เขาเข้ามาปกป้องเธอจากพวกนักเรียนที่นิสัยไม่ดีที่ชอบกลั่นแกล้งเธอด้วยคำพูด อาทิเช่น
“ไอ้พวกชาวยิว”
“ไอ้พวกสูบเลือดสูบเนื้อชนชาติเยอรมัน”
ในตอนนั้นยาคอปรีบปรี่เข้ามาต่อยพวกเขาจนหมอบคว่ำไปหมด จนตัวเองต้องถูกเรียกพบผู้ปกครอง ข้อหาใช้ความรุนแรงกับเพื่อนนักเรียน แต่เขากลับตอกกลับพวกคุณครูอย่างหน้าตาเฉยว่า
“ถ้าพวกคุณลงโทษผมโดยที่ไม่แตะต้องไอ้พวกสวะนั่น หมายความว่าพวกคุณกำลังยกย่องให้เกิดการเหยียดเชื้อชาติ อันละเมิดต่อกฎหมายรัฐธรรมนูญมาตรา 1 ของเยอรมนีตะวันตกเหรอครับ?”
ในตอนนั้นพวกคุณครูถึงกับอึ้งจนหน้าชาไปเลย และพวกเขาก็ได้เรียกซักถามข้อมูลอย่างละเอียดจากตัวของเธอที่เป็นเหยื่อ ซึ่งเธอก็ได้เล่าเหตุการณ์ทุกอย่างนับตั้งแต่ถูกพวกนักเรียนนิสัยไม่ดีนั่นกลั่นแกล้ง
จนกระทั่งมันนำไปสู่เหตุการณ์ที่บานปลายใหญ่โต จนถึงขั้นที่ไล่นักเรียนนิสัยไม่ดีพวกนั้นออกจากโรงเรียนไปเลย
นอกจากนั้นยังมีมุมเท่ๆ ในตอนที่นั่งทำการบ้านด้วยกัน เมื่อพ่อกับแม่ของเธอออกไปทำธุระในตัวเมือง ใบหน้าที่นิ่วคิ้วขมวดเวลาที่แก้โจทย์ปัญหาไม่ออกของเด็กผู้ชายคนนี้นั้นเท่มากๆ และมันทำให้เธอรู้สึกว่าแก้มของตัวเองร้อนผ่าวขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล
‘ทำไมถึงได้เท่และอบอุ่นขนาดนี้นะ?’
มากาเรเทอคิดในใจ ในขณะที่มองใบหน้าของยาคอป
นอกจากตัวของเขาจะอบอุ่นจนชวนให้อยากเข้าใกล้และแนบชิดแล้ว การกระทำของเขานั้นเรียกได้ว่าไม่เคยละเลยส่วนใดส่วนหนึ่งของเธอไปเลย
แม้จะเคอะเขิน แต่ยาคอปก็ไม่เคยแม้แต่ที่จะทำตัวหยาบคาย และปฏิบัติตัวอย่างให้เกียรติเธอเสมอมา ไม่เหมือนกับพวกเด็กผู้ชายที่โรงเรียนที่มองเธอด้วยสายตาที่ดูน่ากลัว จนพาลให้ไม่อยากเข้าใกล้พวกเขาเลย
นอกจากนั้น เด็กผู้ชายคนนี้จะไม่สัมผัสหรือแตะต้องเธอโดยที่ไม่จำเป็น และถ้าเป็นไปได้ เขาจะเว้นระยะห่างอย่างเหมาะสมเสมอๆ ถ้าหากเธอไม่ปรี่เข้าไปประชิดตัวของเขาเพราะต้องการที่จะสกินชิป หรือเซอร์ไพรส์เขาในตอนที่ตื่นนอน ไม่มีทางเป็นไปได้เลยที่เด็กผู้ชายคนนี้จะเข้ามาชิดใกล้กับตัวของเธอ
ยาคอปจะสังเกตเห็นทุกความเปลี่ยนแปลงของเธอเสมอ ไม่ว่าจะเป็นการตัดเล็บ การแต่งหน้า การมัดผมหรือถักเปียใดๆ เวลาที่เธอเอ่ยถามเขา แม้จะพูดแบบตะกุกตะกัก เพราะเขินอายที่จะต้องชมเธอ แต่เขามักจะเอ่ยชมอย่างจริงใจอยู่เสมอๆ
และนั่นมันเป็นสิ่งที่น่ารักสำหรับมากาเรเทอมากๆ จนท้ายที่สุด มันมักจะจบลงด้วยการที่เธอเข้าไปคลอเคลียเขาเท่าที่ใจอยากจะทำ
อีกทั้งเวลาที่เธอบอกกับทุกคนว่าจะทำพายแอปเปิลในวันรุ่งขึ้น คนที่ดูจะลิงโลดกว่าใครก็คือเขาคนนี้ เด็กสาวรู้ดีว่าเขาชอบพายแอปเปิลมากๆ และอาจจะมากกว่าทุกคนที่เธอเคยพบมาในชีวิตเลยก็เป็นได้
ถ้าหากมากาเรเทอจำไม่ผิด ยาคอปเหมือนจะเคยหลุดปากออกมาครั้งหนึ่งว่า
“พายแอปเปิลฝีมือของเธอ รสชาติเหมือนกับที่แม่ของฉันทำเลย”
แต่พอเธอถามถึงแม่ของเขาว่าอยู่ที่ไหน สิ่งที่ได้รับกลับมาก็จะเป็นรอยยิ้มจอมปลอมนั่น หรือไม่ก็คำพูดที่ว่า
“มันไม่ใช่เรื่องที่เธอควรจะมาใส่ใจหรอกนะ”
จนมากาเรเทอไม่อาจที่จะถามอะไรต่อไปได้ เพราะรู้ว่าถ้าหากถามไปต่อหรือกดดันเขามากกว่านี้ เธออาจจะถูกเด็กผู้ชายคนนี้โกรธเอาจริงๆ หรือหากหนักที่สุดที่เธอหวาดกลัวคือ ‘ถูกเขาเกลียด’
มากาเรเทอไม่อยากถูกยาคอปเกลียด เพราะในตอนนี้เขาคือเพื่อนสนิทเพียงหนึ่งเดียวที่เธอมี คนที่คอยรับบทสามีของเธอในการเล่นพ่อแม่ลูก คนที่ทำให้เธอลิงโลดทุกครั้งที่ได้รับคำชมจากเขา ถ้าหากว่าเธอถูกเกลียด โลกทั้งใบที่งดงามของเธอก็คงพังทลายลงอย่างแน่นอน
แต่มากาเรเทอก็รู้ดีว่าเธอกับยาคอปไม่อาจที่จะอยู่ด้วยกันไปได้ตลอด แม้เธอจะรั้งให้ตายยังไง วันใดวันหนึ่งในอนาคตพวกเธอสองคนก็ต้องแยกจากกันอยู่ดี
มันจะเป็นยังไงกันนะ? ถ้าในอนาคตเธอไม่ได้เห็นเด็กผู้ชายคนนี้เดินง่วนอยู่ในบ้านเพื่อช่วยงานแม่ของเธอ ไม่ได้หยอกเอินเขาในทุกๆ วัน ไม่ได้เรียกเขาว่าคุณกล้วยหอมหมายเลข 2 ไม่ได้จับยัดเยียดให้เขาเป็นสามีของเธอตอนเล่นพ่อแม่ลูก
และการที่มากาเรเทอจินตนาการว่ายาคอปพาหญิงสาวแปลกหน้ามาแนะนำให้รู้จัก สวมชุดเจ้าบ่าวเข้าพิธีวิวาห์กับผู้หญิงที่เธอไม่รู้จักคนนั้น และการที่เธอไม่สามารถหยอกเอินเขาได้อีกต่อไป มันก็ทำให้หัวใจของเธอปวดหนึบ ราวกับถูกบีบรัดด้วยมือที่มองไม่เห็น
มากาเรเทอมั่นใจได้ว่าในวันนั้น วันที่เธอเห็นภาพในจินตนาการเป็นความจริง เธอจะต้องร้องไห้ฟูมฟายและโวยวายเสียงดังลั่นอย่างแน่นอน
และมากาเรเทอรู้สึกไม่ชอบผู้หญิงในจินตนาการที่จะได้แต่งงานกับเขา เด็กสาวไม่รู้ว่าจะเป็นใคร แต่สาบานได้ว่าเธอจะไม่มีวันญาติดีกับผู้หญิงคนนั้นอย่างแน่นอน
ซึ่ง ณ วินาทีนั้นเอง ที่มากาเรเทอสัมผัสได้ถึงอารมณ์และความรู้สึกที่ไม่คุ้นเคยมาก่อน อารมณ์และความรู้สึกที่มนุษย์เรียกว่า ‘ความอิจฉา’
แต่เนื่องจากมากาเรเทอยังเป็นเด็กและไม่เคยพบกับพวกมันมาก่อน เธอจึงไม่เข้าใจมัน และรู้สึกสับสนกับอารมณ์เหล่านี้
แต่เด็กสาวก็คิดว่าสักวันหนึ่งเธอคงจะสามารถทำความเข้าใจพวกมันได้อย่างแน่นอน เหมือนกับทุกๆ เรื่องที่เธอพยายามค้นหาคำตอบในชีวิตและพบมัน
“…”
มากาเรเทอสะบัดความคิดและอารมณ์ความรู้สึกต่างๆ ทิ้งไป เพราะมันเป็นเพียงจินตนาการในอนาคตของเธอ
มากาเรเทอคิดว่า…บางที…ยาคอปอาจจะกลายเป็นคนรักของเธอก็เป็นได้…แต่นั่นก็เป็นเพียงความเป็นไปได้ในอนาคตเท่านั้น เธอไม่อยากที่จะไปเร่งเร้าอะไรมัน และปล่อยให้เป็นเรื่องของเวลานำพาไปเท่านั้น
มากาเรเทอรู้แค่ว่าในตอนนี้การที่ได้เห็นยาคอปเดินง่วนอยู่ในบ้านเพื่อช่วยเหลืองานบ้านต่างๆ ได้เห็นด้านเท่ๆ ของเขาที่เขาหน้านิ่วคิ้วขมวดเพราะแก้โจทย์ปัญหาไม่ได้ ได้เห็นแก้มสีแดงก่ำของเขาที่มาจากการหยอกเอินของเธอ ได้เห็นสีหน้าและแววตาของเขาที่ดีใจแบบสุดขีดเพราะรู้ว่าจะได้ทานพายแอปเปิลของโปรด ได้เห็นว่าเขายังอยู่ในครรลองสายตาของเธอไม่ได้ไปไหนไกล
เพียงแค่นี้มันก็ทำให้มากาเรเทออุ่นใจและพึงพอใจมากแล้ว และไม่คิดที่จะขออะไรไปมากกว่านี้
“อือ~”
ระหว่างที่มากาเรเทอกำลังคิดอะไรเพลินๆ อยู่นั้น ยาคอปก็ส่งเสียงอู้อี้เล็กน้อย และมันเป็นสัญญาณว่าเขากำลังจะตื่นในไม่ช้านี้
มากาเรเทอยิ้มกว้างๆ ออกมาเป็นครั้งแรกของวัน ก่อนจะชักมือที่อังหน้าผากของยาคอปกลับมา และเก็บกุญแจลงในกระเป๋าลับส่วนตัว หลังจากนั้นก็มุดผ้าห่มของยาคอปไปนอนกอดเขาเหมือนกับที่เคยทำ
“หือ? อื๋อ~?”
ยาคอปครางออกมาเบาๆ เพราะความรู้สึกนุ่มนิ่มที่ปะทะกับใบหน้าของเขาในตอนนี้มันชวนให้รู้สึกดีสุดๆ
ยาคอปที่ยังตื่นไม่เต็มตานั้น เขาลองไถหน้าเข้ากับเจ้าสิ่งนั้นดู เพราะรู้สึกว่ามันนุ่มนิ่มจนอยากจะเอาหน้าซุกเข้าไปลึกๆ แถมยังมีกลิ่นหอมเหมือนกับดอกไม้อีก
“อื้อ~”
เสียงครางหวานๆ นั้นกระแทกหูของยาคอปอย่างจัง และมันคือเสียงของมากาเรเทอ จนเด็กหนุ่มต้องลืมตากว้างๆ ขึ้นมาดู
ยาคอปพบว่าสิ่งที่เขาเอาหน้าซุกเข้าไปเมื่อสักครู่นั้นก็คือ ภูเขาสองลูกนั้นของมากาเรเทอ แถมมิหนำซ้ำเขายังเสียมารยาทสูดเอากลิ่นกายของเธอไปจนเต็มปอดเหมือนพวกโรคจิตอีก
“โถ่~ คน-ลา-มก”
มากาเรเทอกระซิบที่ข้างหูของยาคอปด้วยน้ำเสียงหวานๆ เป็นครั้งแรก
“เหวออออออออออออออ!!!!!!”
ในเช้าวันนั้น เสียงตะโกนโวยวายของยาคอปก็ดังเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้นับตั้งแต่เขาก้าวเท้าเข้ามาอยู่ในบ้านของครอบครัวมาธิอุส