บทที่ 30: มากาเรเทอ มาธิอุส

2929 Words
หลังจาก 1 ชั่วโมงที่ต้องฝ่าการจราจรที่ติดขัดชนิดแทบกระดิกตัวไม่ได้บนถนนอันแสนวุ่นวายของกรุงเบอร์ลินตะวันตก ในที่สุดรถของเฮนรี่ก็ขับเข้าสู่หมู่บ้านแถบชานเมืองของกรุงเบอร์ลินตะวันตก “เลี้ยวทางแยกข้างหน้าก็ถึงบ้านของผมแล้วล่ะนะ~” เฮนรี่พูดกับยาคอปอย่างอารมณ์ดี “ครับ…” รถยนต์เลี้ยวตรงสี่แยก และหลังจากนั้นอีก 200 เมตร เฮนรี่ก็จอดรถเทียบทางเท้าหน้าบ้านหลังหนึ่ง มันเป็นบ้านขนาด 2 ชั้น ที่ดูจากภายนอกก็รู้ว่ากว้างขวาง อีกทั้งยังมีสนามหญ้าหน้าบ้านที่ในตอนนี้ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาวโพลน “มาเถอะยาคอป ป่านนี้ทุกคนคงรอที่จะได้เจอเธออยู่” เฮนรี่หันมาพูดกับยาคอป “ครับ…” ยาคอปกระชับถุงใส่ของส่วนตัวเอาไว้แน่น ไม่รู้ทำไม แต่พอยาคอปคิดว่าตัวเองจะต้องไปเผชิญหน้ากับคนแปลกหน้าอีกสองคน ท้องไส้ของเขาถึงได้ปั่นป่วนอย่างหนัก ราวกับกำลังจะบอกให้เขาปฏิเสธทุกสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น แล้วหันหน้ากลับไปอยู่ที่สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าที่ปลอดภัยนั้นอีกครั้ง ยาคอปกลั้นหายใจในทุกจังหวะที่ก้าวเดินไปที่ประตูบ้าน ที่เบื้องหลังมีโลกใหม่ที่ไม่คุ้นเคยรอคอยเขาอยู่ เด็กหนุ่มกังวลทุกอย่างที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อไปจากนี้ ถ้าหากว่าเขาไม่เป็นที่ต้อนรับของภรรยาและลูกสาวของเฮนรี่ล่ะ? ถ้าหากว่าเขาถูกทิ้งให้โดดเดี่ยวอีกล่ะ? ถ้าหากว่าสิ่งที่เฮนรี่ทำมาเป็นเพียงการแสดงล่ะ? ถ้าหากว่าต่อจากนี้เขาต้องเจอกับความทรมานทั้งทางร่างกายและจิตใจล่ะ? ทั้งหมดนี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นภายในหัวของยาคอป ผู้ที่กังวลต่อสถานการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้านี้ “ฮะๆ ไม่ต้องทำหน้าเครียดขนาดนั้นน่า สบายๆ เป็นกันเองเถอะนะ…แล้วก็…ตอนผมเปิดประตู ผมแนะนำให้หลบทันทีนะ” เฮนรี่พูดหยอกล้อกับยาคอป ก่อนจะบอกสิ่งที่ควรปฏิบัติเมื่อเปิดประตูบ้านออกมา “ครับ?” ยาคอปสับสนกับคำแนะนำของเฮนรี่ เด็กหนุ่มสงสัยว่าถ้าเปิดประตูแล้วจะมีอะไรพุ่งออกมาอย่างนั้นเหรอ? แต่ในขณะเดียวกันก็คิดว่าเฮนรี่น่าจะล้อเล่น เลยไม่ได้ใส่ใจกับคำแนะนำของเขามากนัก และยาคอปพึ่งจะมาสำนึกที่ไม่เชื่อเฮนรี่ในตอนนั้นในภายหลัง เพราะในตอนที่เฮนรี่ไขกุญแจบ้าน ก็มีเสียงฝีเท้าดัง ‘ตึกๆ’ ที่เหมือนกับกำลังมีอะไรกำลังพุ่งมาที่หน้าประตูบ้านด้วยความเร็วอยู่ และทันทีที่เฮนรี่เปิดประตูบ้าน ชายหนุ่มก็เบี่ยงตัวหลบในทันที ผลคือ ‘สิ่งนั้น’ ที่กระโจนออกมาจากในบ้านพุ่งเข้าใส่ตัวของยาคอปที่ยืนอยู่ด้านหลังของเขาเข้าอย่างเต็มเปา “โอ๊ย!” ยาคอปอุทานออกมาเบาๆ เมื่อก้นของเขากระแทกกับพื้น ในทีแรกเด็กหนุ่มนึกว่าถูกสุนัขที่เฮนรี่เลี้ยงเอาไว้กระโจนใส่ แต่เมื่อลืมตาขึ้นมาก็พบกับเรือนผมสีน้ำตาลบลอนด์แบบเดียวกับเฮนรี่ เพียงแต่ยาวกว่าหลายเท่า และมันกำลังสั่นไหวไปมา เพราะผู้เป็นเจ้าของกำลังคลอเคลียอยู่บริเวณแผงอกของเขาอยู่ และกลิ่นหอมจากแชมพูที่เจ้าตัวใช้ก็โชยเข้ามาแตะจมูก จนรู้สึกว่าเรื่องที่กังวลก่อนหน้านี้เป็นเพียงเรื่องไร้สาระและมลายหายไปจนสิ้น “คุณพ่อ~ คิดถึงที่สุดเลย~” เด็กสาวที่อายุไล่เลี่ยกับยาคอปพูดออกมา ในขณะที่เธอกำลังกอดเขาไปด้วย จนกระทั่งเด็กหนุ่มรู้สึกอึดอัด “เอ่อ…ขอโทษนะครับ?” ยาคอปเอ่ยออกมาอย่างกล้าๆ กลัวๆ เด็กสาวคนนั้นเงยหน้าขึ้นมามองเมื่อได้ยินกับเสียงที่ไม่คุ้นเคย ก่อนที่นัยน์ตาสีฟ้าคู่นั้นจะประสานเข้ากับของยาคอป นัยน์ตาสีฟ้าของเด็กสาวตรงหน้าคู่ที่ฉายแววของความสนุกสนานและร่าเริง อีกทั้งตัวของยาคอปยังสัมผัสได้ว่ามันใสซื่อบริสุทธิ์เสียจนตัวเขารู้สึกละอายใจที่จะมองพวกมันนานๆ เสี้ยววินาทีนั้นเองที่พวกเขาประสานสายตากัน ที่ยาคอปรู้สึกว่าโลกรอบตัวของเขาหยุดหมุนไปชั่วขณะ เด็กหนุ่มรู้สึกว่าเด็กสาวตรงหน้าของเขานั้นน่ารักกว่าทุกๆ คนที่เขาเคยพบมาในชีวิต และฉับพลันทันใดที่คิดแบบนั้น แก้มของยาคอปก็ร้อนฉ่าขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย และรู้สึกเหมือนกับว่า ถ้าเขาส่องกระจกตอนนี้ แก้มของเขาคงจะต้องแดงมากๆ แน่ๆ “อ้าว…ไม่ใช่คุณพ่อนี่นา…แต่ว่า…ตัวนายอุ่นจัง~” เด็กสาวตรงหน้าพูดขึ้น แต่แทนที่เธอจะตกใจและรีบลุกหนีออกไป เมื่อพบว่าเขาไม่ใช่ผู้เป็นพ่อ ในทางกลับกันเธอยังกอดเขาเอาไว้แน่นกว่าเดิม และเริ่มถูแก้มไปมาบริเวณแผงอกของเขาอีกรอบ พร้อมกับทำจมูกฟุดฟิดๆ ราวกับสุนัขกำลังทำความคุ้นเคยกับกลิ่นใหม่ ยาคอปมองไปที่เฮนรี่เพื่อขอความช่วยเหลือ เด็กหนุ่มพบว่าพ่อบุญธรรมของเขายืนเอามือกุมหน้าผาก พร้อมกับถอนหายใจออกมายาวๆ จนเห็นเป็นไอสีขาวโพลน “เอ่อ…ช่วยลุกออกไปได้ไหมครับ…ผมรู้สึกอึดอัดนะ…” ยาคอปพยายามจะเจรจากับเด็กสาวตรงหน้า “…” ไร้การตอบสนองใดๆ จากคนตรงหน้า กลับกันยังเพิ่มแรงกอดเขาจนเต็มแรงอีก “มากาเรเทอ! แม่บอกแล้วใช่ไหมว่าอย่าไปพุ่งกอดคุณพ่อเขาแบบนั้น……ตายจริง!!” มีผู้หญิงอีกคนเดินออกมาจากในบ้าน เธอเรียกชื่อของลูกสาวและบ่นเล็กน้อย ก่อนจะอุทานออกมาเมื่อพบว่าลูกสาวของเธอกำลังกอดเด็กหนุ่มคนหนึ่งพร้อมกับกำลังคลอเคลียเขา ราวกับว่าตัวเองรู้จักเขามาก่อนหน้านี้แล้ว “คุณแม่คะ!! ผู้ชายคนนี้เขาตัวอุ่นมากๆ เลยค่ะ!! หนูขอเอาไปกอดได้ไหมคะ!!” มากาเรเทอ หรือ ลูกสาวของเฮนรี่พูดขึ้นกับผู้เป็นแม่ “เอ่อ…ขอโทษนะครับ…ผมคนนะครับ…ไม่ใช่ตุ๊กตา…” ยาคอปขอปัดความรู้สึกแรกพบที่ได้เจอกันทิ้งไปก่อน และรู้สึกหมั่นไส้ยัยเด็กผู้หญิงตรงหน้าแบบแปลกๆ พอเธอพูดว่าจะขอเอาเขาไปกอด เพราะรู้สึกเหมือนกำลังถูกทำให้เป็นสิ่งของอย่างไรอย่างนั้น “ช่างเธอเถอะนะยาคอป เธอมักจะพูดแบบนี้ประจำนั่นแหละ ทำใจให้ชินเข้าไว้นะ…” เฮนรี่พูดขึ้น ราวกับเขาปลงกับสิ่งนี้มานานแล้ว “เด็กคนนี้ใครกันคะที่รัก? หรือว่าจะเป็นยาคอปที่คุณพูดถึงเมื่อตอนนั้น?” ภรรยาของเฮนรี่ถามขึ้นมา “อื้ม! ใช่แล้วล่ะ!” เฮนรี่พยักหน้าตอบภรรยา “ว้าว!!!!!!!!! เพื่อนเล่นคนใหม่!!!! คุณตุ๊กตาตัวใหม่!!!!!! เย้!!!!” มากาเรเทอยิ้มร่าออกมา ราวกับคนที่กำลังมีความสุขมากๆ ยาคอปรู้สึกว่าที่มุมปากและแก้มของเขากระตุกเบาๆ อย่างควบคุมไม่ได้ นี่ถ้าหากว่าไม่ติดว่ามีเฮนรี่กับภรรยาอยู่ด้วย เด็กหนุ่มจะเขกกระบาลยัยเด็กผู้หญิงตรงหน้าเขาสักที ขอแบบเน้นๆ เลยด้วย! ข้อหาบังอาจมาเรียกเขาว่าคุณตุ๊กตา ซึ่งยาคอปไม่ชอบมันเลยสักนิดเดียว “มากาเรเทอ อย่าเสียมารยาทกับยาคอปเขาสิจ๊ะลูก” ภรรยาของเฮนรี่เตือนลูกสาว พร้อมกับจะเข้าไปแยกทั้งคู่ออกจากกัน “นายคือคุณกล้วยหอมหมายเลข 2 นะ ตกลงไหม!!” มากาเรเทอเมินคำเตือนของผู้เป็นแม่ พร้อมกับตั้งชื่อพิลึกๆ ให้กับยาคอปแบบหน้าตาเฉย ‘นี่เอาจริงดิ? ฉันต้องเจอยัยนี่ทุกวันแบบนี้อ่ะนะ? ใครก็ได้!! พ่อครับ! แม่ครับ! คุณครูมาร์ทา! ช่วยผมจากยัยนี่ด้วย!!’ ยาคอปกรีดร้องอยู่ในใจ และนึกอยากจะย้อนเวลากลับไปต่อยตัวเองเมื่อวาน ที่ดันเลือกครอบครัวนี้ แต่เขาก็รู้ดีว่ามันเป็นไปไม่ได้ จึงได้แต่ก้มหน้าเงียบเท่านั้น “พอเลยๆ ลุกออกมาเดี๋ยวนี้มากาเรเทอ ถ้าไม่ลุก แม่จะโกรธแล้วนะ!” ภรรยาของเฮนรี่ทำเสียงดุลูกสาว พร้อมกับหิ้วคอเสื้อลูกสาวให้ลุกขึ้น “บูว~ ก็ได้ค่า~” มากาเรเทอทำเสียงล้อเลียนผู้เป็นแม่ แต่ก็ยอมปล่อยยาคอปแต่โดยดี “มาเถอะที่รัก ผมจะแนะนำเขาอย่างเป็นทางการอีกที ข้างนอกคงไม่เหมาะเท่าไหร่” เฮนรี่พูดกับภรรยา ก่อนจะผายมือให้เธอนำเข้าไปด้านในบ้านก่อน . ยาคอปกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะรับประทานอาหารในห้องครัวของครอบครัวมาธิอุส โดยเฮนรี่กำลังคุยกับภรรยาเรื่องรายละเอียดการรับเลี้ยงยาคอป ส่วนตัวของตัวของเขากำลังโดนมากาเรเทอจ้องมองด้วยสายตาที่ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเธอกำลังตื่นเต้นแบบสุดขีดอยู่ “เอาล่ะ!! ผมขอแนะนำสมาชิกครอบครัวผมอีกครั้งนะยาคอป เริ่มจากผมก่อน ผมชื่อว่า เฮนรี่ มาธิอุส เป็นหัวหน้าครอบครัว ผมเป็นศัลยแพทย์ของโรงพยาลในกรุงเบอร์ลินตะวันตก ส่วนที่นั่งอยู่ตรงข้ามคือภรรยาของผมเอง เธอมีชื่อว่า แอร์นา มาธิอุส เธอเป็นอายุรแพทย์ในโรงพยาบาลเดียวกับผม ส่วนที่นั่งจ้องเธอราวกับจะกลืนกินตรงนั้นคือลูกสาวผมเอง เธอมีชื่อว่า มากาเรเทอ มาธิอุส อายุของมากาเรเทอเท่ากันกับเธอคือ 15 ปี ผมหวังว่าเธอจะเข้ากันกับครอบครัวของเราได้นะ” เฮนรี่พูดแนะนำสมาชิกในครอบครัวของตัวเอง “ยินดีที่ได้รู้จักครับ คุณเฮนรี่ คุณแอร์นา ยั…คุณหนูมากาเรเทอ ผมมีชื่อว่ายาคอป ฮอฟมันครับ ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยครับ!” ยาคอปพูดแนะนำตัวเอง แต่เขาก็เกือบจะหลุดปากเรียกตัวของมากาเรเทอด้วยคำไม่สุภาพออกมา “ยินดีที่ได้รู้จักจ้ะ ยาคอป มีอะไรก็เรียกน้าได้เลยนะ หรือจะเรียกน้าว่าแม่ก็ได้นะจ๊ะ น้าไม่ถืออะไร~” แอร์นาพูดกับยาคอป “เอ่อ…ครับ…จะเก็บไปพิจารณาดูครับ…” ยาคอปรับคำ แต่ก็ตั้งใจว่าจะเรียกเธอว่าน้าแอร์นา เพราะเขาอยากจะเก็บคำว่าแม่เอาไว้ให้เฉพาะกับเฟลิเซียผู้ล่วงลับไปแล้วมากกว่า “ยินดีที่ได้รู้จักนะยาคอป!!!!! ไม่สิ!!! คุณกล้วยหอมหมายเลข 2!!!!” มากาเรเทอเอื้อมมือมาจับมือของยาคอป ก่อนจะยกขึ้นยกลงและเขย่ามันแรงๆ อย่างร่าเริง แต่มันร่าเริงราวกับพระอาทิตย์ที่เจิดจ้า จนยาคอปรู้สึกแสบตาเมื่อมองมันตรงๆ ‘ยัยบ้านี่ไปเสพย***ามาหรือยังไงกัน?’ ยาคอปคิดในใจ แต่ไม่ได้กล่าวออกไป “จริงสิ! นี่ก็เลยเที่ยงมานานแล้ว คุณจะรับอาหารเลยไหมคะที่รัก?” แอร์นาพูดอย่างนึกขึ้นได้ “เอาสิ ผมหิวมากเลย วันหยุดหน้าหนาวแบบนี้แต่ต้องไปดูคนไข้ที่ป่วย มันค่อนข้างจะแย่เลย แถมผมทานข้าวเช้าไปน้อยด้วย” เฮนรี่พูดกึ่งบ่นกับภรรยา “งั้นรับเลยนะคะ มากาเรเทอกับยาคอปเอาด้วยเลยไหมจ๊ะ?” แอร์นาหันมาถามพวกเด็กๆ “รับด้วยค่ะ!! หนูหิวแล้ว!!!” มากาเรเทอหันมายิ้มกว้างๆ ให้กับแอร์นา “ผม…เอ่อ…(โครกกกกกกก~)” ยาคอปกำลังลังเล แต่ท้องของเขามันฟ้องว่าเขาต้องได้รับอาหารตามเวลา นั่นทำให้เด็กหนุ่มแก้มแดงขึ้นมาอย่างเข้าใจง่าย “ว้าย!!! คุณกล้วยหอมหมายเลข 2 น่ารัก!!!! ขอกอดหน่อย!!!” มากาเรเทอกระโจนข้ามโต๊ะมาเพื่อที่จะกอดคนตรงหน้าที่ดันทำอะไรน่ารักๆ ให้เห็น “เหวอ!! อย่าเข้ามานะ!! ว๊ากกก!!!” ยาคอปร้องเสียงหลง เมื่อใบหน้าจิ้มลิ้มนั่นเข้ามาใกล้เรื่อยๆ ก่อนที่แก้มของทั้งสองจะสัมผัสกัน พร้อมๆ กับที่มากาเรเทอถูไถมันไปมา ยาคอปพยายามมองหาความช่วยเหลือ แต่ทุกคนดันเมินไปราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น เฮนรี่ยกกาแฟดื่มพร้อมกับมองออกไปนอกหน้าต่าง ส่วนแอร์นาเดินไปตักอาหารในครัวแล้ว จะเรียกได้ว่าตอนนี้เขาจนมุมแบบสุดๆ แล้วก็ได้ “อือ~ อุ่นสุดๆ เลย~” มากาเรเทอครางออกมาเบาๆ “ช่วยอย่าพูดอะไรที่มันชวนเข้าใจผิดได้ไหม!! อึ่ก! เหวอ!!” ยาคอปเผลอตัวแว้ดใส่เด็กสาวตรงหน้า แต่มันไม่ได้ทำให้เธอหยุดแต่อย่างใด กลับกันเธอยังเพิ่มระดับการสกินชิปไปอีกระดับ ด้วยการเอามือสัมผัสตามร่างกายของเขาอย่างอยู่ไม่สุข และเด็กหนุ่มรู้สึกเหมือนกับว่าบางอย่างจะตื่นขึ้นมา ในขณะที่ยาคอปกำลังจะแตกพ่ายทางความรู้สึกนั้น พระผู้ช่วยของเขาก็ปรากฏตัวขึ้น “มากาเรเทอ! อย่าเสียมารยาทสิจ๊ะ!” แอร์นาสับมือลงบนศีรษะของลูกสาวเบาๆ เพื่อปรามเธอ “บูว~” มากเรเทอทำเสียงล้อเลียน ก่อนที่จะกลับไปนั่งที่เก้าอี้ของตัวเอง “มาทานข้าวกันเถอะค่ะ จริงสิ!! มากาเรเทอทำพายแอปเปิลไว้รอคุณด้วยนะคะที่รัก~” แอร์นาพูดขึ้นมา “จริงเหรอ? อื้ม! พายแอปเปิลสูตรของมากาเรเทออร่อยจริงๆ นั่นแหละนะ~” เฮนรี่พยักหน้าเบาๆ อย่างพึงพอใจ ยาคอปชะงักเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำว่าพายแอปเปิล เพราะครั้งสุดท้ายที่เขาได้ทานมันก็ย้อนเวลากลับไปเมื่อหลายปีก่อนนู่นเลย และคนที่ทำให้ทานคือแม่ผู้ล่วงลับของเขานั่นเอง ครอบครัวมาธิอุสและยาคอปทานอาหารกลางวันกัน โดยพวกเขาพยายามชวนยาคอปคุยและสอบถามเรื่องต่างๆ ซึ่งยาคอปก็ตอบคำถามพวกเขา โดยพยายามหลีกเลี่ยงถึงอดีตที่เปื้อนเลือดอันแสนดำมืดของตัวเอง แอร์นาและเฮนรี่ถามอยู่ 4-5 คำถามแล้วก็เงียบไป ส่วนทางด้านมากาเรเทอนั้นถามเยอะที่สุด ตลอด 1 ชั่วโมง เธอถามยาคอปไปแล้ว 55 นาที อีก 5 นาทีใช้เวลาทานข้าว จนยาคอปรู้สึกเหนื่อย ราวกับว่าใช้พลังทั้งชีวิตไปกับการรับมือเธอหมดแล้ว ในที่สุดมื้ออาหารคาวก็จบลง และตามมาด้วยของหวาน ซึ่งเป็นพายแอปเปิลที่มากาเรเทอได้ทำเอาไว้นั่นเอง “จริงสิ! วันนี้คนที่สถานรับเลี้ยงบอกว่าเป็นวันเกิดอายุ 15 ปีของยาคอปด้วยนี่นา ถือโอกาสนี้ฉลองให้กับเขาไปด้วยเลยดีกว่า!” เฮนรี่พูดขึ้น “จริงหรือคะ? หายากนะคะเนี่ย คนที่เกิดในวันสำคัญแบบนี้ แบบนี้คงต้องไปหาเทียนมาปักบนพายแอปเปิลแล้ว รอก่อนนะคะ” แอร์นาพูด ก่อนจะไปรื้อหาเทียนวันเกิดในครัว ก่อนจะกลับมาพร้อมกับพวกมัน หญิงสาวบรรจงปักเทียนลงบนพายแอปเปิล ก่อนจะจุดเทียน และพวกเขา 3 คนก็ร้องเพลงวันเกิดให้กับยาคอป ก่อนที่จะจบด้วยคำว่า “““ALLES GUTE ZUM GEBURTSTAG””” “…ขอบคุณครับ…ขอบคุณจริงๆ” ยาคอปพูดขอบคุณทั้ง 3 คนที่ร่วมฉลองวันเกิดให้กับเขา ก่อนที่แอร์นาจะตัดแบ่งพายใส่จานให้แต่ละคน เด็กหนุ่มจ้องมองมันอยู่ครู่หนึ่งอย่างพินิจพิเคราะห์ หน้าตาภายนอกก็ดูปกติ ไม่ได้แตกต่างจากพายแอปเปิลที่แม่เขาเคยทำให้ทาน อนึ่ง เฮนรี่เองก็ยืนยันแล้วว่ามันทานได้ ด้วยการตักเข้าปากและกลืนมันลงไป เพราะฉะนั้นไม่น่าจะมีอะไรแปลกปลอมอย่างแน่นอน ยาคอปจึงลงตักมันเข้าปากดูบ้าง และเพียงแค่นั้น เด็กหนุ่มก็ไม่อาจกลั้นน้ำตาที่มาจากความปีติยินดีที่เกิดขึ้นมาได้ เพราะพายแอปเปิลนี้รสชาติเหมือนกับที่แม่ของเขาเคยทำให้ทานอยู่บ่อยครั้งไม่มีผิด ยาคอปขอบคุณทุกอย่างที่เกิดขึ้นในชีวิตเขาทั้งดีและร้าย ทั้งการต่อสู้อันแสนโหดร้าย การสูญเสียคนในครอบครัว การที่ตัดสินใจหนีออกจากเบอร์ลินตามที่ฟรังค์บอก การถูกดูแลโดยฝ่ายสัมพันธมิตรตะวันตก การถูกรับเลี้ยงโดยสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า และการที่เลือกครอบครัวมาธิอุสเป็นครอบครัวอุปถัมภ์ ทุกๆ อย่างที่นำเขามาอยู่ ณ จุดนี้ จุดที่ได้ทานพายแอปเปิลที่มีรสชาติสุดแสนจะน่าคิดถึงอีกครั้ง ยาคอปทานไปร้องไห้ไป ซึ่งครอบครัวมาธิอุสได้แต่มองหน้ากันอย่างงุนงงว่ายาคอปนั้นเป็นอะไร แต่สุดท้ายแล้วมากาเรเทอก็ทำในสิ่งที่ตัวเองอยากทำ นั่นก็คือ “ไม่เป็นไรนะเด็กดี~ โอ๋ๆๆ~” เธอยื่นมือมาลูบศีรษะของยาคอปอย่างนึกเอ็นดู ซึ่งยาคอปคิดว่ามันเป็นสิ่งที่ทำให้เขามีกำลังใจในการที่จะใช้ชีวิตต่อไป และเด็กหนุ่มยังได้คิดอีกว่าแสงแดดอันแสนอ่อนโยนที่ฟรังค์เคยพูดกับเขาในตอนที่พาหนีออกมาจากการสู้รบในกรุงเบอร์ลิน และเขานึกสงสัยว่ามันเป็นเช่นไร ในวันนี้ยาคอปได้คำตอบแล้ว แสงแดดอันแสนอ่อนโยนของพระอาทิตย์ยามรุ่งอรุณในชีวิตของเขา บัดนี้ มันกำลังดำเนินไปแล้ว…
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD