ปัง !
“ไม่คิดจะบอกลากันหน่อยเหรอ”
“ไม่จำเป็น” พลอยปิดประตูรถพร้อมกระแทกเสียงไม่พอใจใส่หน้าภามเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะรีบเดินหายเข้าไปในความมืด
“เหอะ กลัวรู้ที่อยู่ขนาดนั้นเลยเหรอ” เขาก็ไม่ใช่คนใจร้ายถึงขนาดขับรถกลับในทันที ดึกขนาดนี้แถมยังเปลี่ยวจนรู้สึกเสียวสันหลังจะวางใจปล่อยให้เดินไปคนเดียวได้ยังไง
ภามเดินตามหลังไปอย่างเงียบๆ ไม่ให้คนข้างหน้ารู้ตัว สองขาเรียวของรุ่นพี่ค่อยๆ ขยับไปข้างหน้าอย่างช้าๆ ไม่ต่างจากเขาสักเท่าไหร่
“อ๊ะ” เดินไปไม่กี่ก้าวก็ต้องหยุด
“อวดเก่ง” ถ้ามัวแต่เดินแล้วหยุดอยู่แบบนี้ชาติคงไม่ถึง
พรึบ
“ปะ ปล่อยนะ”
“เห็นแล้วรำคาญ ผมง่วงแล้ว”
“แล้วมันเกี่ยวอะไรกัน ก็กลับไปสิ” นึกว่าจะจบตั้งแต่หันหลังลงจากรถมาแล้ว ยังตามมาอุ้มทำตัวเป็นคนดีแล้วพูดจากวนประสาทใส่กันอีก
“กลัวผมรู้ที่อยู่ขนาดนั้นเลยหรือไง”
“ไม่ต้องเสแสร้งได้ปะ ไม่ต้องมาสนใจ ปล่อย!”
“จนกว่าจะส่งพี่ถึงบ้าน”
“จะเอาอะไรอีก ยอมให้มาส่งแล้วนี่ไง”
“ถ้าไม่บอกก็ยืนอุ้มกันอยู่แบบนี้นี่แหละ” พลอยถอนหายใจแล้วก็รู้ด้วยว่าเด็กนี่กล้าทำจริงๆ ถ้าเธอไม่ยอมก็คงต้องยืนตากน้ำค้างกันอยู่แบบนี้
“ปล่อยก่อน”
“พี่เดินช้าอย่างกับเต่า เจ็บขนาดนี้ทำไมต้องลงเดินด้วย”
“เจ็บ เดี๋ยวก็หาย” ในเมื่อไม่อยากสานต่อก็ควรจะไปไกลๆ ได้แล้ว ทำแบบนี้เพื่ออะไรเธอไม่ได้ต้องการให้เด็กนี่มาสงสารเลยสักนิด
“งั้นพี่ยืนรอผมตรงนี้ ผมจะไปขับรถมา”
“อือ”
อย่างน้อยก็ดีกว่าให้ผู้ชายอุ้มไปส่งถึงห้อง
คอนโด Greenland
“คอนโดนี้เองเหรอ” พอรถจอดสนิทรุ่นน้องที่นั่งข้างๆ ก็ทำลายความเงียบพลางแหงนหน้ามองคอนโดตรงหน้าอย่างคุ้นเคย
“ปลดล็อกประตูด้วย” พลอยพยายามมองหาปุ่มปลดล็อกแล้วแต่หายังไงก็หาไม่เจอเพราะเป็นรถไฟฟ้ารุ่นใหม่ ระบบต่างๆ ในรถเธอก็เพิ่งเคยเห็น แน่นอนว่าสำหรับเธอเป็นสิ่งที่ไม่คุ้นชินเพราะที่บ้านไม่ได้ร่ำรวยมีเงินเหลือใช้พอที่จะซื้อรถให้เธอขับไปเรียน
“พี่จะตึงใส่ผมแบบนี้ไปตลอดเลยเหรอ”
“ต้องการแบบนี้เองไม่ใช่เหรอ ไม่คิดจริงจังก็จบกันแค่นี้แหละ”
“ในฐานะพี่น้อง ไม่ได้เหรอ”
“พี่น้องแบบไหนเอากันวะ”
“ตามนั้นก็ได้ ที่ผมตามมาส่งพี่คืนนี้เพราะผมอยากรับผิดชอบจริงๆ พี่ก็รู้ว่าก่อนหน้านี้พี่โดนวางยา” พลอยกระตุกยิ้ม ยกมือกอดอกแล้วหันหน้าหนีทอดสายตาออกไปด้านนอก
“ปลดล็อก”
แกร็ก
ภามยอมปลดล็อกประตูให้แต่โดยดี จากที่เป็นฝ่ายผลักไสตอนนี้รู้สึกว่าตัวเองเหมือนกำลังวิ่งตามรุ่นพี่โดยไม่สมเหตุสมผลเอาซะเลย
เขารอจนรุ่นพี่สาวเดินหายเข้าไปในคอนโดแล้วจึงวนรถออก อย่างน้อยก็ส่งเธอถึงที่พักโดยปลอดภัย จากนี้ไปคงไม่มีเรื่องค้างคาใจอีก
หลายสัปดาห์ต่อมา
มหาวิทยาลัย ADI
“ไอ้ภาม มีน้องปีหนึ่งมายืนรอมึงอยู่หน้าคณะอ่ะ”
“อือ เอาไปดิกูให้”
“น้องเค้ามาหามึงไม่ได้มาหากู” ภามยักไหล่ไม่สนใจ พอเก็บของเสร็จก็สะพายกระเป๋าขึ้นบ่าเดินออกจากห้องทันที
“ไอ้ภาม มึงเป็นเหี้ยไรเนี่ย อย่าบอกนะว่าคืนนั้น ..”
“อย่ามากวนส้นตีนกูตอนนี้ไอ้เจ้น”
“หงุดหงิดเหี้ยไรวะกูยังไม่ได้พูดอะไรเลย” เจ้นหยุดเดินปล่อยให้ภามเดินไปคนเดียว วันนี้เพื่อนอารมณ์ไม่ดีปล่อยให้มันอารมณ์ดีก่อนค่อยเข้าไปคุยกับมัน ถ้าไม่ติดว่ามันโสดจะคิดว่ามันทะเลาะกับเมียมาแน่
คณะนิเทศ
“น้องๆ ฟังพี่หน่อยนะคะ ใครที่ได้รับคัดเลือกเย็นนี้เจอกันที่ห้องประชุมใหญ่นะคะ วันนี้พี่หลินจะแจกบทให้น้องๆ ส่วนใครที่ไม่ได้รับคัดเลือก พี่จะแจกจ่ายงานให้ไปประจำในส่วนต่างๆ ตามนี้นะคะ”
“ค่ะ/ครับ”
“มึง หน้ามึงเหมือนไม่ค่อยไหวเลยอ่ะ ไม่ไหวก็พักก่อนก็ได้พวกกูทำกันได้” หลังจากชี้แจงรุ่นน้องเสร็จ พลอยก็รีบเลื่อนเก้าอี้ที่อยู่ไม่ไกลมานั่งพักก่อนเพราะยังเหลือกิจกรรมช่วงเย็นรออยู่อีก
“หน้าซีดมากอีพลอย แต่งหน้าโทนไก่ต้มเหรอวะ”
“ไม่ได้แต่งเลย กูแย่มาหลายวันแล้ว ซื้อยามากินเองก็ไม่เบาสักที” ไม่รู้ว่าเป็นผลข้างเคียงของยานรกนั่นหรือเปล่าเธอไม่แน่ใจเลยไม่กล้าไปหาหมอต้องซื้อยามากินเอง อาการมีแต่แย่ลงจนเพื่อนเอ่ยทักพร้อมแนะนำให้กลับไปพัก
“หาหมอเถอะสภาพนี้ กูก็อยู่ อีหลินอีชมก็อยู่ ตายในหน้าที่มันไม่เท่หรอกนะ” เพชรช่วยหลินพูดอีกแรง
“กูเห็นด้วยกับอีเพชร ไปตอนนี้เลยไปก่อนที่จะแย่ไปมากกว่านี้ ให้กูพาไปมั้ย” ร้อยวันพันปีไม่เคยเห็นเพื่อนป่วยหนักมากขนาดนี้ทำให้หลินร้อนใจไม่น้อยเหมือนกัน เรื่องคืนวันนั้นพลอยก็ปิดปากเงียบไม่พูดถึงรวมทั้งรุ่นน้องวิศวะคนนั้นด้วยที่พลอยไม่พูดถึงอีกเลย
“ไม่เป็นไร กูไปเองได้ ถ้างั้นก็ฝากพวกมึงด้วยนะ”ถ้าไม่รู้สึกแย่จริงๆเธอจะไม่ทิ้งงานเด็ดขาดแต่ครั้งนี้ยอมรับเลยว่าแย่มากจริงๆ
“เออๆ ถ้ามีอะไรรีบโทรมาเลยนะ”
“โอเค” พอบอกลาเพื่อนๆ เสร็จ พลอยก็รีบคว้ากระเป๋าขึ้นมาสะพายแล้วเดินออกจากห้องประชุมเล็กทันที
หมับ !
“คุยกันหน่อย” เดินยังแทบไม่ไหว อยู่ๆ ก็ถูกดึงแขนจนร่างเซเกือบล้ม เธอพยายามจะสะบัดแขนให้หลุดแต่ดันลืมตัวไปว่าอาการตอนนี้มันแย่แทบฝืนไม่ไหวอยู่แล้ว
“มีอะไรต้องคุยอีก ปล่อย” แววตาดุดันอ่อนลงเมื่อเห็นอาการของรุ่นพี่ที่ไม่ปกติ
“พี่เป็นอะไร ไม่สบายเหรอ ให้ผมจับตัวหน่อย”
“ไม่ต้องมายุ่ง”
พรึบ !
สติดับวูบในอ้อมแขนของรุ่นน้อง เขารีบช้อนร่างของรุ่นพี่ขึ้นทันทีแล้วตรงไปที่รถที่จอดอยู่ไม่ไกล
ภามอยู่ในอาการตกใจแต่ก็พอมีสติอยู่บ้าง รีบขับรถพารุ่นพี่ที่หมดสติไข้ขึ้นสูงไปส่งโรงพยาบาลทันที
--------------