แต่งงานกันเสียทีดีไหม

1042 Words
“พี่ดิว มี่ไม่ไหวแล้ว เร็วอีกหน่อยได้ไหม” คำร้องขอนั่นถูกตอบกลับด้วยการห่มสะโพกเข้าหากายสาวอย่างรัวแรงในเมื่อดิฐกรเองก็ใกล้จะถึงฝั่งฝันแสนวาบหวามเต็มทีแล้วเหมือนกัน มือหนาช้อนบั้นท้ายแน่นเด้งของแฟนสาวก่อนกดลงมากระแทกเร็วๆ แรงๆ อีกเพียงไม่กี่ที ทั้งเธอและเขาก็ทะยานขึ้นไปถึงสวรรค์ชั้นเจ็ดทั้งคู่ “เฮ้อ...เหนื่อยชะมัด” ชายหนุ่มบ่นอุบ ก่อนถอดถอนตัวตนออกจากความฉ่ำชื้นของดอกไม้งามที่ถูกเขาเชยชมจนหนำใจ ก่อนที่จะทิ้งตัวนอนตะแคงหันข้างให้ร่างอ้อนแอ้นของแฟนสาวที่ยังคงสั่นกระตุกจากแรงพิศวาสอันเร่าร้อนไม่หาย มิรันดาปรายตามองคนรักหรือต้องเรียกว่าสามีก็คงได้ แม้จะยังไม่ได้เข้าพิธีแต่งงาน หรือจดทะเบียนกันอย่างเป็นทางการ แต่เขาและเธอก็เข้าหอกันมายาวนานนับตั้งแต่วันเกิดของเธอในปีนั้น พอความรัญจวนในกายค่อยๆ บรรเทาลง หญิงสาวก็หันไปกอดคนรักจากด้านหลัง “ฮื้อ...ร้อน! ยังไม่อิ่มอีกหรือไง พอเถอะวันนี้พี่เหนื่อยแล้ว พรุ่งนี้มีประชุมแต่เช้าด้วย มี่เลิกกวนได้ไหมพี่ขอล่ะ” มิรันดาชะงักกึก นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาบ่นเช่นนี้ เมื่อก่อนตอนที่ยังเป็นแฟนกันใหม่ๆ ทุกครั้งที่มีอะไรกันเสร็จ ดิฐกรก็จะนอนกอดเธอแล้วหลับไปพร้อมกันอย่างหวานชื่น ต่อให้เขาจะใช้แรงฟัดเธอไปหลายยกหรือเหน็ดเหนื่อยมากแค่ไหนก็ตาม ต่อให้ต้องมีประชุมเช้าเขาก็ไม่เคยบ่นเหนื่อยหรือรำคาญเธอแบบนี้ เขาอึดมากในเรื่องบนเตียง แต่มาระยะหลังๆ มิรันดาก็เริ่มจะสังเกตเห็นบ่อยครั้งที่แฟนหนุ่มไม่ค่อยอยากทำการบ้าน หรือถ้าจะทำก็เหมือนฝืนๆ ทำให้จบๆ อย่างขอไปที หลายครั้งแทบไม่เล้าโลมให้เธอพร้อมก่อนเสียด้วยซ้ำ เมื่อก่อนกี่ยกก็ไม่บ่น มีอะไรกันสามวันสามคืนติดเขาก็ยังไหว แต่เดี๋ยวนี้เหรอ ยกเดียวก็จอดแล้ว บางทีก็ทำไปแกนๆ แถมยังทำรำคาญเวลาเธอสะกิดให้ทำการบ้านเสียอีก หรือนี่มันจะเป็นสัญญาอะไรบางอย่างในความสัมพันธ์ระหว่างเรากันแน่ สัญญาที่เขาให้ไว้ว่า ถ้ารวยเมื่อไหร่จะมาขอเธอแต่งงาน แต่จนถึงตอนนี้ก็ไร้วี่แวว ถึงเขาไม่รวย เธอก็ไม่ได้ซีเรียสขอแค่ได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันแบบนี้ก็พอใจ แต่มาตอนนี้เธอในฐานะผู้หญิงคนหนึ่งก็อยากได้ความมั่นคงมั่นใจในชีวิตคู่บ้าง “พี่ดิว นี่เราคบกันมากี่ปีแล้ว...” คนถูกถามทำเสียงจิ๊จ๊ะรำคาญ “ถามทำไม พี่เหนื่อยจะตาย ง่วงด้วย” มิรันดากรอกตามองบน พลางถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะเอ่ย “สี่ปี...เราคบกันมาตั้งสี่ปีแล้ว” “อ้อ เหรอ...ก็นานดีนะ” ชายหนุ่มหลับหูหลับตาพูดโดยไม่หันไปมองสีหน้าของแฟนสาวจนกระทั่งได้ยินคำถามถัดมา “มี่ว่าเราแต่งงานกันเสียทีดีไหม” คำถามนั้นทำเอาความง่วงหายเป็นปลิดทิ้ง “หา!” “แล้วนี่เมื่อไหร่พี่ดิวจะพามี่ไปแนะนำกับที่บ้านสักทีล่ะคะ” นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาถูกหญิงสาวที่รักทวงถาม สี่ปีที่ผ่านมา เขาไม่เคยเอ่ยถึงครอบครัว ไม่เคยคิดจะชวนเธอไปที่บ้าน หรือแนะนำคนในครอบครัวให้รู้จัก เอาไว้ก่อน เดี๋ยวก็ได้ พี่ยังไม่ว่าง เขาบอกปัดกันตลอด แต่เธอก็ไม่ได้ใส่ใจหรือคิดมาก “ทำไมล่ะ อยู่แบบนี้ก็มีความสุขดีแล้วไม่ใช่หรือ มี่ยังอยากได้อะไรอีก” ความสุขงั้นหรือ... มิรันดาเหยียดยิ้มขื่นขม หากเป็นเมื่อก่อนเธอคงจะไม่เดือดร้อนอะไรกับการแต่งงานที่ว่า ก็คงอยู่ตามยถากรรมกับเขาไปเรื่อยๆ แบบนี้ ต่อให้อดมื้อกินมื้อก็ไม่ว่า ขอแค่มีเขาอยู่ด้วยกันเธอก็พอใจ จนกระทั่งเธอได้ไปเป็นเพื่อนเจ้าสาวให้เพื่อนสนิทในกลุ่มคนล่าสุดที่แต่งงานไปเมื่อหลายวันก่อน มันก็ทำให้เริ่มคิด การอยู่ด้วยกันโดยไม่มีหลักประกันให้สบายใจ บางทีมันก็ทำให้เธออดระแวงไม่ได้ เมื่อดิฐกรเองก็ไม่ได้ขี้เหร่ ออกจะหล่อเหลา ยิ่งอายุเพิ่มขึ้นเขายิ่งดูดี ‘เมื่อไหร่แกกับพี่ดิวจะแต่งงานกันเสียทีล่ะมี่ คบกันมาตั้งหลายปีแล้ว คบกันก่อนทุกคนในกลุ่มเราอีกนะ ดูยัยมุกสิคบทีหลังก็แต่งก่อนไปแล้ว’ คำถามจากนิลุบลเพื่อนสนิทในกลุ่มทำให้เธอแอบสะอึกในใจอยู่เหมือนกัน ‘พี่ดิวเขายังไม่พร้อมน่ะสิแก’ ‘อะไรคือไม่พร้อม แกกับเขาอยู่ด้วยกันมาตั้งหลายปี งานการก็มีทำทั้งคู่ไม่ใช่เหรอ แล้วเมื่อไหร่พี่เขาจะพร้อมล่ะ เดี๋ยวมีลูกไม่ทันใช้นะแก’ คำพูดนั้นยิ่งกว่าโดนตบจนหน้าหัน เพราะสิ่งที่เพื่อนว่ามามันจริงทุกดอก ‘แล้วจะให้ฉันทำยังไง ขอเขาแต่งงานเองเลยดีไหม’ ‘แก ฉันไม่ได้ว่านะ ผัวแกก็ไม่ใช่จะขี้เหร่ พี่ดิวของแกน่ะหล่อจะตาย ไปทำงานแกว่าจะไม่มีผู้หญิงมาแอบเหล่แอบมาชอบเขาบ้างเหรอ’ มิรันดาถึงกับนิ่งไป หัวใจว้าวุ่น เธอไม่เคยคิดระแวงแฟนหนุ่มเลย เพราะเชื่อใจเขา เชื่อว่าเขาจะรักษาสัญญาที่ให้กัน แต่เมื่อมีคนสะกิดก็ทำให้อดคิดขึ้นมาบ้างไม่ได้ ‘แกก็ลองคุยกับพี่เขาดูสิ แต่งงานกันไม่ก็จดทะเบียนกันเหนียวไว้ก่อนก็ยังดี อย่างน้อยถ้ามีใครมาวอแวผัวแก จะได้เอาใบทะเบียนสมรสไปฟาดหน้ามันให้หงายว่านี่ผัวฉันจ้ะเธอไม่มีสิทธิ์’
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD