ตอนที่ 1
นางร้ายผู้น่ารัก
“พี่รอง ท่านไม่ควรจะแย่งฉินอ๋องไปจากข้า”
สาวน้อยวัยเพียงสิบสี่หนาวเอ่ยอย่างอ้อนวอนพร้อมน้ำตาที่คลอใบหน้างามนั้นช่างน่าทะนุถนอมมาก เข้ากับชุดชมพูอ่อนราวกลีบของดอกเหมยนั่นอีก แต่หญิงสาวอีกนางหนึ่งที่ใส่อาภรณ์สีขาวราวนางฟ้าผู้บริสุทธิ์ก็มองดูด้วยสายตาเย็นชา
“ข้าจะพูดกับเจ้ารอบที่ล้านนะน้องห้า ข้าไม่สนใจอ๋องสิบเก้าผู้นั้นด้วยซ้ำ”
หญิงสาวผู้ใส่ชุดขาววัยสิบหกปีมองน้องสาวต่างมารดาด้วยสีหน้าที่เบื่อหน่าย แท้จริงแล้วเธอชื่อ เยว่ฉี พนักงานออฟฟิศที่ดันทะลุมิติมาอยู่ในร่างนางร้ายที่ขึ้นชื่อว่าร้ายกาจที่สุดอย่าง เยว่ซิ่นอ้าย ในนิยายเรื่อง แม้นชีพดับสลายข้าจะรักเจ้าแต่เพียงผู้เดียว แท้จริงแล้วเยว่ซิ่นอ้ายแค่หมั่นไส้ในความมั่นหน้าของน้องสาวคนนี้เท่านั้นจริงแกล้งตีสนิทกับอ๋องสิบเก้า แต่ในนิยายชอบเขียนให้นางเป็นตัวร้าย ตัวร้ายจริง ๆ คือ คุณหนูสาม เยว่ซิ่นมี่ ที่แอบดูอยู่มุมหนึ่งของสวนต่างหาก
“ถ้าท่านไม่สนใจ แล้วเหตุใดจึงได้พบกับท่านอ๋องบ่อย ๆ เล่า”
น้องสาวผู้บีบน้ำตาพยายามพูด ทำให้เยว่ซิ่นอ้ายรู้สึกว่านางเอกคนนี้พยายามยัดเยียดว่านางชอบอ๋องสิบเก้าจริงๆ สินะ
“นี่น้องห้า เจ้าไปเอาเรื่องนี้มาจากไหนล่ะ นี่ เจ้ารู้รึเปล่าว่าข้านี่คือพี่สาวที่รักและหวังดีกับเจ้าที่สุดเลยนะ คนที่เอาข่าวมาบอกเจ้าต่างหากล่ะที่เทียวไปหาฉินอ๋องบ่อย ๆ ที่โรงทาน หากเจ้าไม่เชื่อลองส่งคนไปตามดูสิน้องรัก”
เยว่ซิ่นอ้ายพยายามยิ้มอย่างใจเย็นเพื่ออธิบายว่า คุณหนูสามต่างหากที่อยากได้ฉินอ๋องผู้นั้น
“งั้นที่ผ่านมา ก็เป็นข้าที่เข้าใจท่านผิดมาตลอด”
เมื่อเห็นพี่สาวตัวร้ายอย่างเยว่ซิ่นอ้ายทำหน้าจริงจัง เยว่ซิ่นฮวาทำหน้าสำนึกผิดที่ผ่านมานางเชื่อใจพี่สามมาตลอดแต่คราวนี้พี่รองคงพูดจริง จากสีหน้าและแววตาของนางที่เบื่อหน่ายเต็มที
“อ่า น้องห้าผู้ฉลาดของข้ากลับคืนมาแล้ว ดีแล้วๆ เจ้าลองตรองดูเอาเถิด ข้าสนับสนุนเจ้าเต็มที่ ฉินอ๋องผู้นี่ค่อนข้างไม่ทันเล่ห์สตรีเจ้าจงระวังเล่า หากมีอะไรให้ข้าช่วย ข้ายินดี”
เยว่ซิ่นอ้ายกล่าว ก่อนวางมือเบาๆ บนมือที่กุมไว้อย่างร้อนรนของเยว่ซิ่นฮวา หวังว่าจะเข้าใจนะที่อุตส่าห์ทำเนี่ย เพราะรำคาญเต็มที ถ้าพระเอกกับนางเอกรักกันอย่างไม่มีอุปสรรค นางก็แฮปปี้สุด ๆ เพราะต่อไปนี้คงไม่มีเรื่องมากวนใจแล้ว สบายใจกับชีวิตที่ไม่ต้องมาตายอย่างอนาถแล้ว
“คุณหนู ท่านไปไหนมาเจ้าคะ”
เสี่ยวอิง สาวใช้ของนางรีบวิ่งมาหลังจากนางก้าวเท้าเข้าเรือนส่วนตัวอย่างร้อนรน
“มีอะไรหรือเสี่ยวอิง เจ้าทำหน้าราวกับเจอท่านแม่อย่างงั้น
“มีพระราชโองการมาเจ้าค่ะคุณหนู ท่ารีบไปเร็วเถิดเจ้าค่ะ”
เสี่ยวอิง สาวใช้ประจำตัวรีบพูด เพราะตอนนี้มีกงกงรอประกาศพระราชโองการอยู่
ห้องโถงสกุลเยว่
รุ่ยกงกง ที่ยืนถือราชโองการอยู่มองคุณหนูที่มีชื่อในราชโองการอย่างหนักใจ เห้อ ทั้ง ๆ ที่งามปานนั้น ยังมิวายถูกส่งออกไปอย่างไร้ค่า
“เยว่ซิ่นอ้าย รับราชโองการ ด้วยถึงวัยออกเรือน แม้พ้นวัยปักปิ่นมาสองปีแล้ว แต่ความงามของเจ้ายังเป็นที่เลื่องลือถึงต่างแคว้น ….”
เยว่ซิ่นอ้ายรู้สึกว่าหางตาขวากระตุกแปลก ๆ ไหนจะไอ้ถ้อยคำในพระราชโองการนั้นอีก
“อีกทั้งฮ่องเต้แคว้นจ้าวอยากให้มีงานมงคลระหว่างแคว้น ผูกด้ายแดงระหว่างกัน จึงขอแต่งตั้ง เยว่ซิ่นอ้าย บุตรีของรองเสนาบดีฝ่ายขวาเป็นท่านหญิง พร้อมให้ติดตามขบวนบรรณาการเพื่ออภิเษกสมรสกับ จวิ้นอ๋อง ผู้เป็นพระอนุชาของฮ่องเต้แคว้นจ้าวในอีกหนึ่งเดือนถัดไป รับราชโองการ”
สิ้นคำพูดของรุ่ยกงกง นางรับพระราชโองการนั้นอย่างมึน ๆ นี่มันอะไรกัน ทำไมตาแก่ฮ่องเต้ถึงทำแบบนี้ ลูกสาวตัวเองไม่ยอมส่งไป แต่กลับมาบังคับคนอื่นเนี่ยนะ น่าตายนัก แล้วจวิ้นอ๋องนี่อยู่ในนิยายเรื่องไหนอีกล่ะ
“โอ้ อ้ายเอ๋อร์ช่างโชคดี ได้ข่าวว่าจวิ้นอ๋องผู้นี้มีแต่ความอัปลักษณ์ คงจะเหมาะกับเจ้ายิ่งนัก”
ฮูหยินรองมี่จิว เอ่ยพลางยิ้มเหยาะ สาเหตุที่นางไม่อยากอยู่ที่จวนนี้ก็เพราะเหล่าบรรดาเมียน้อยของบิดานี่ล่ะ หลังจากมารดาตายนางก็โดนรังแกมาโดยตลอด
“ท่านแม่รองนี่ช่างหูจมูกดีแท้ แต่อย่างน้อยในฐานะที่ข้าเป็น บุตรีที่เกิดจากภรรยาเอก จึงได้เป็นชายา แล้วน้องสามที่เกิดจากท่านเล่า อย่างน้อยคงได้เป็นแค่ เมียรอง หรือเป็นแค่อนุ”
เยว่ซิ่นอ้ายตอกกลับก่อนเดินออกไป ทิ้งให้ฮูหยินรองมี่จิว ยืนกำมือด้วยความโกรธ หลังจากฮูหยินเอกตาย นางหวังว่าสามีจะตั้งนางขึ้นเป็นฮูหยินเอก แต่เขากลับปล่อยตำแหน่งนั้นว่างไว้ราวเยาะเย้ยนาง แต่นางก็สะใจไม่น้อยที่นังเด็กร้ายกาจนี่ได้แต่งออกไปสักที
ภายหลังข่าวแพร่สะพัดไปทั่วเมืองหลวงทุกคนต่างลงความเห็นว่า นางสมควรโดนแล้ว ชอบกีดขวางบุพเพของอ๋องสิบเก้ากับน้องสาวนัก คราวนี้เวรกรรมคงตามทันนางแล้ว
ห้องนอนภายในเรือนใหญ่
คุณหนูที่ถูกพูดถึงในตอนนี้นั่งหน้ามุ่ยพยายามคิด และเค้นเอาความทรงจำออกมาตอนนี้เยว่ซิ่นอ้ายนั่งเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างอย่างเหม่อลอย นางไม่ได้กังวลเพราะต้องแต่งงานกับอ๋องอัปลักษณ์นั่นหรอก แต่ที่นางกังวลคือ นางไม่รู้เนื้อเรื่องต่อจากตอนนี้เลย นิยายเรื่องนี้ควรจบที่พระเอกนางเอกรักกันไม่ใช่เหรอ ทำไมเป็นแบบนี้ไปได้ล่ะ หรือนางพลาดบางตอน เอ๊ะ หรือว่าเป็นตอนที่เธอเผลอหลับไปแน่ ๆ เห้อ เธออยากจะบ้า
“อ้ายเอ๋อร์ ไยเจ้าไม่ขัดราชโองการเล่า เจ้ารู้หรือไม่ว่าอ๋องผู้นั้นโหดร้ายอย่างไร เจ้ายังอยากจะไปแคว้นจ้าวอีก”
เยว่ไป๋ พี่ชายฝาแฝดของนางเดินเข้ามาหานางอย่างหัวเสีย เขารู้สึกไม่ค่อยพอใจเท่าใดที่น้องสาวคนงามต้องแต่งออกไป หากเป็นชายในแคว้นนี้ยังพอตามไปยกเลิกได้ แต่กลับเป็นเชื้อพระวงศ์ต่างแคว้นที่มีข่าวลือเน่าเละอีก เขาห่วงว่านางจะไปเจอความโหดร้ายป่าเถื่อน
“ไป๋ไป๋ ข้าไม่อยากอยู่ที่นี่”
นางตอบพี่ชายไปพลางก้มหน้า หากอ๋องคนนั้นเป็นคนโฉดอย่างที่เล่าลือล่ะ นางก็แค่หย่าแล้วหนีไป แต่ในใจรู้สึกโหวง ๆ ที่ต้องจากบ้านเกิดไปไกล
“ข้าจะไปกับเจ้า”
เยว่ไป๋บอก ก่อนดึงน้องสาวเข้ามากอด
“ไป๋ไป๋ เจ้าจะไปกับข้าได้อย่างไร เจ้าเพิ่งเริ่มการค้า การค้าของเจ้าจะต้องมีเจ้าคอยดูแลอยู่ที่นี่ อย่าห่วงข้าเลยนะ ข้าดูแลตัวเองได้ เพียงเจ้าเขียนจดหมายติดต่อข้าตลอดก็เพียงพอ”
เยว่ซิ่นอ้ายบอกพลางมองหน้าแฝดผู้พี่ของตนด้วยความอุ่นใจที่อย่างน้อยก็มีเขาเป็นพี่ชาย ภายหลังมารดาจากไป บิดาเหินห่างและโทษที่นางทำให้หญิงที่เขารักต้องตาย เยว่ไป๋เห็นความเย็นชานี้จากบิดามาตลอด จึงไม่เข้าร่วมสอบเป็นจอหงวน แต่กลับมาเป็นพ่อค้าจึงถูกบิดาไล่ออกจากบ้าน แต่เพราะวันนี้รู้ข่าวว่าน้องสาวจะถูกส่งตัวไปต่างแคว้น จึงร้อนใจและห่วงนางมากที่สุด
“ข้า ข้าปกป้องเจ้าไม่ได้”
เยว่ไป๋กลั้นน้ำตา อ๋องโฉดนั่นใครบ้างจะไม่รู้กิตติศัพท์ความเหี้ยมโหด น้องสาวของเขาต้องถูกทำร้ายแน่ ๆ
“พี่ชาย ท่านเลิกร้องไห้เถอะ ท่านปกป้องข้ามาตลอด ถึงอย่างไร ข้าก็ต้องถูกแต่งออกจากที่นี่ ก็ไม่เลวร้ายเท่าไหร่หรอก หากไปต่างแคว้น”
นางปลอบผู้เป็นพี่ชาย แม้เขาจะเป็นพี่แต่มักร้องไห้ทุกครั้งที่นางมีเหตุทะเลาะวิวาทกับบรรดาพี่น้องคนอื่น ๆ ก็รักนางมากที่สุดเช่นกัน
เยวไป๋กับเยว่ซิ่นอ้ายคุยกันหลายเรื่อง โดยที่ทั้งคู่ไม่รู้ว่ามีสายตาหนึ่งที่คอยจับจ้องอยู่
“ช่างเป็นพี่น้องที่รักกันเสียจริง”
ชายในชุดดำเอ่ย ภายใต้ใบหน้าที่ซ่อนไว้ ซ่อนกลิ่นอายของความสูงศักดิ์ ก่อนเร้นกายหายไป
หนึ่งเดือนผ่านไป ขบวนบรรณาการของแคว้นเฉิน เดินทางไปยังแคว้นจ้าวช่างเงียบเหงามากในความรู้สึกของเยว่ซิ่นอ้าย เสี่ยวอิงน้อยที่ติดตามนางมาก็มัวแต่ง่วง ไม่มีหญิงรับใช้เพิ่มเติม อ่า ไร้ความสำคัญแท้จริงสำหรับจวิ้นอ๋องคนที่นางจะแต่งงานด้วย แต่ก็ยังดีที่มีสินเดิมที่บิดาของนางอุตส่าห์มอบให้
“เผื่อเขาทิ้งเจ้า”
คำพูดของบิดาที่มีต่อนางช่างเย็นชาเสียจริง เผื่อคนผู้นั้นทิ้งข้างั้นเหรอ ท่านพ่อ ท่านช่างรักลูกเสียจริง!
แคว้นเฉินกับแคว้นจ้าวเป็นแคว้นที่มีชายแดนติดกัน ดังนั้นขบวนบรรณาการจึงใช้เวลาเดินทางเพียงแค่ 20 วันเท่านั้น
“เรียนท่านหญิง ตามรับสั่งฝ่าบาท ขบวนเจ้าสาวจะต้องรอจวิ้นอ๋องมารับที่นี่ส่วนขบวนของบรรณาการให้เดินทางไปยังเมืองหลวงเลยขอรับ”
หัวหน้าทหารหน้าด่านเข้ามาแจ้งกับนาง เหอะ แบบนี้ก็ได้เหรอนางกลอกตามองบนพร้อมถอนหายใจยาว ๆ ดวงซวยแท้ ๆ รู้แบบนี้กลับใจเป็นนางร้ายดำเนินเรื่องตามนิยายก็ดี มีสีสันกว่านี้เยอะ
“จะให้ข้ารออยู่แบบนี้น่ะเหรอ”
นางถามพร้อมใช้สายตากดดันทหารผู้นั้น จนเขารู้สึกว่ามีเหงื่อซึมที่หลัง
“กะ เกรงว่าเป็นเช่นนั้นขอรับ นี่เป็นรับสั่งของฝ่าบาท”
เขาตอบพร้อมลอบมองใบหน้าของสตรีที่เป็นว่าที่พระชายาจวิ้นอ๋องอย่างแปลกใจ รอไปเถอะ จวิ้นอ๋องไม่มาแน่ เพราะก่อนหน้านี้ก็มีหญิงสาวบรรณาการจากต่างแคว้นถูกส่งมา ล้วนถอดใจแล้วหนีกลับไปหมดสิ้น ดูท่าทางนางก็คงไม่ต่างกัน
“หึ”
นางรู้สึกเหมือนโดนทิ้ง หลังจากได้รับคำตอบ แต่ก็รอ รอจนตะวันใกล้ตกดิน
“คุณหนู นี่ก็จะค่ำแล้วนะเจ้าคะ”
เสี่ยวอิงพูดอย่างกระวนกระวายพลางสอดส่องหาขบวนเจ้าบ่าวของจวิ้นอ๋องอย่างใจจดใจจ่อ หากว่าคุณหนูนางโดนทิ้งเล่า คงโดนนินทาไปทั้งสองแคว้นแน่
“นี่ ท่านนายกอง จวนของจวิ้นอ๋องอยู่ไกลจากที่นี่หรือไม่”
เยว่ซิ่นอ้ายเลิกม่านออกเพื่อถามนายกองทหารคนเดิมที่ยังยืนเฝ้าขบวนของนางอยู่ไม่ไกลนัก
“เพียงแค่ข้ามชายป่าตะวันออกไปก็ถึงแล้วขอรับ”
เขาตอบพลางคิดว่านางคงจะถอดใจกลับแน่นอน
“งั้นหากไม่รบกวนเจ้าจนเกินไป ข้าอยากให้เจ้านำทางพวกข้าไปที คนงานที่หาบของพวกนี้คงอยากจะพักเต็มประดา อีกอย่างหากทำงานยังไม่ลุล่วง ข้าคงไม่สามารถจ่ายค่าจ้างพวกเขาได้แน่นอน”
เยว่ซื่นอ้ายบอก ก่อนมองไปยังคนที่ติดตามนางจากแคว้นเฉิน คนพวกนี้พี่ชายนางจ้างมา ล้วนไม่ใช่คนจากราชสำนัก ทุกคนหวังแค่ว่ามาส่งนางก็เท่านั้น และหลังจากที่เดินทางมาหลายวันก็อยากจะพักเต็มที่ นาย กองรู้สึกแปลกใจ ที่นางอยากจะไปหาจวิ้นอ๋อง แทนที่จะกลับแคว้นตน จึงยินยอมนำทางไปส่งนาง
“ดูท่าว่า ผู้หญิงคนอื่นๆ คงถูกทิ้งเหมือนข้าสินะ ฝันไปเถอะเจ้าอ๋องบ้า คิดจะไม่รับผิดชอบข้าเหรอ ได้เจอข้าแน่”
ในเมื่อไม่อยากให้ข้าเป็นชายานัก ถึงขนาดไม่เหลียวแล ข้าจะแต่งงานกับท่าน แล้วพรุ่งนี้ข้าจะหย่า! แล้วเรียกร้องค่าเสียหายให้เยอะ ๆ คอยดูเยว่ซิ่นอ้ายบ่นพึมพำพร้อมทำสีหน้าเหมือนตัวร้ายเวลาเจอของเล่นใหม่ เสี่ยวอิงที่นั่งอยู่ข้างๆ ถึงกับกลืนน้ำลาย คุณหนู ท่านคงไม่คิดจะทำอะไรแผลง ๆ ใช่หรือไม่ตอนที่ 1
“พี่รอง ท่านไม่ควรจะแย่งฉินอ๋องไปจากข้า”
สาวน้อยวัยเพียงสิบสี่หนาวเอ่ยอย่างอ้อนวอนพร้อมน้ำตาที่คลอใบหน้างามนั้นช่างน่าทะนุถนอมมาก เข้ากับชุดชมพูอ่อนราวกลีบของดอกเหมยนั่นอีก แต่หญิงสาวอีกนางหนึ่งที่ใส่อาภรณ์สีขาวราวนางฟ้าผู้บริสุทธิ์ก็มองดูด้วยสายตาเย็นชา
“ข้าจะพูดกับเจ้ารอบที่ล้านนะน้องห้า ข้าไม่สนใจอ๋องสิบเก้าผู้นั้นด้วยซ้ำ”
หญิงสาวผู้ใส่ชุดขาววัยสิบหกปีมองน้องสาวต่างมารดาด้วยสีหน้าที่เบื่อหน่าย แท้จริงแล้วเธอชื่อ เยว่ฉี พนักงานออฟฟิศที่ดันทะลุมิติมาอยู่ในร่างนางร้ายที่ขึ้นชื่อว่าร้ายกาจที่สุดอย่าง เยว่ซิ่นอ้าย ในนิยายเรื่อง แม้นชีพดับสลายข้าจะรักเจ้าแต่เพียงผู้เดียว แท้จริงแล้วเยว่ซิ่นอ้ายแค่หมั่นไส้ในความมั่นหน้าของน้องสาวคนนี้เท่านั้นจริงแกล้งตีสนิทกับอ๋องสิบเก้า แต่ในนิยายชอบเขียนให้นางเป็นตัวร้าย ตัวร้ายจริง ๆ คือ คุณหนูสาม เยว่ซิ่นมี่ ที่แอบดูอยู่มุมหนึ่งของสวนต่างหาก
“ถ้าท่านไม่สนใจ แล้วเหตุใดจึงได้พบกับท่านอ๋องบ่อย ๆ เล่า”
น้องสาวผู้บีบน้ำตาพยายามพูด ทำให้เยว่ซิ่นอ้ายรู้สึกว่านางเอกคนนี้พยายามยัดเยียดว่านางชอบอ๋องสิบเก้าจริงๆ สินะ
“นี่น้องห้า เจ้าไปเอาเรื่องนี้มาจากไหนล่ะ นี่ เจ้ารู้รึเปล่าว่าข้านี่คือพี่สาวที่รักและหวังดีกับเจ้าที่สุดเลยนะ คนที่เอาข่าวมาบอกเจ้าต่างหากล่ะที่เทียวไปหาฉินอ๋องบ่อย ๆ ที่โรงทาน หากเจ้าไม่เชื่อลองส่งคนไปตามดูสิน้องรัก”
เยว่ซิ่นอ้ายพยายามยิ้มอย่างใจเย็นเพื่ออธิบายว่า คุณหนูสามต่างหากที่อยากได้ฉินอ๋องผู้นั้น
“งั้นที่ผ่านมา ก็เป็นข้าที่เข้าใจท่านผิดมาตลอด”
เมื่อเห็นพี่สาวตัวร้ายอย่างเยว่ซิ่นอ้ายทำหน้าจริงจัง เยว่ซิ่นฮวาทำหน้าสำนึกผิดที่ผ่านมานางเชื่อใจพี่สามมาตลอดแต่คราวนี้พี่รองคงพูดจริง จากสีหน้าและแววตาของนางที่เบื่อหน่ายเต็มที
“อ่า น้องห้าผู้ฉลาดของข้ากลับคืนมาแล้ว ดีแล้วๆ เจ้าลองตรองดูเอาเถิด ข้าสนับสนุนเจ้าเต็มที่ ฉินอ๋องผู้นี่ค่อนข้างไม่ทันเล่ห์สตรีเจ้าจงระวังเล่า หากมีอะไรให้ข้าช่วย ข้ายินดี”
เยว่ซิ่นอ้ายกล่าว ก่อนวางมือเบาๆ บนมือที่กุมไว้อย่างร้อนรนของเยว่ซิ่นฮวา หวังว่าจะเข้าใจนะที่อุตส่าห์ทำเนี่ย เพราะรำคาญเต็มที ถ้าพระเอกกับนางเอกรักกันอย่างไม่มีอุปสรรค นางก็แฮปปี้สุด ๆ เพราะต่อไปนี้คงไม่มีเรื่องมากวนใจแล้ว สบายใจกับชีวิตที่ไม่ต้องมาตายอย่างอนาถแล้ว
“คุณหนู ท่านไปไหนมาเจ้าคะ”
เสี่ยวอิง สาวใช้ของนางรีบวิ่งมาหลังจากนางก้าวเท้าเข้าเรือนส่วนตัวอย่างร้อนรน
“มีอะไรหรือเสี่ยวอิง เจ้าทำหน้าราวกับเจอท่านแม่อย่างงั้น
“มีพระราชโองการมาเจ้าค่ะคุณหนู ท่ารีบไปเร็วเถิดเจ้าค่ะ”
เสี่ยวอิง สาวใช้ประจำตัวรีบพูด เพราะตอนนี้มีกงกงรอประกาศพระราชโองการอยู่
ห้องโถงสกุลเยว่
รุ่ยกงกง ที่ยืนถือราชโองการอยู่มองคุณหนูที่มีชื่อในราชโองการอย่างหนักใจ เห้อ ทั้ง ๆ ที่งามปานนั้น ยังมิวายถูกส่งออกไปอย่างไร้ค่า
“เยว่ซิ่นอ้าย รับราชโองการ ด้วยถึงวัยออกเรือน แม้พ้นวัยปักปิ่นมาสองปีแล้ว แต่ความงามของเจ้ายังเป็นที่เลื่องลือถึงต่างแคว้น ….”
เยว่ซิ่นอ้ายรู้สึกว่าหางตาขวากระตุกแปลก ๆ ไหนจะไอ้ถ้อยคำในพระราชโองการนั้นอีก
“อีกทั้งฮ่องเต้แคว้นจ้าวอยากให้มีงานมงคลระหว่างแคว้น ผูกด้ายแดงระหว่างกัน จึงขอแต่งตั้ง เยว่ซิ่นอ้าย บุตรีของรองเสนาบดีฝ่ายขวาเป็นท่านหญิง พร้อมให้ติดตามขบวนบรรณาการเพื่ออภิเษกสมรสกับ จวิ้นอ๋อง ผู้เป็นพระอนุชาของฮ่องเต้แคว้นจ้าวในอีกหนึ่งเดือนถัดไป รับราชโองการ”
สิ้นคำพูดของรุ่ยกงกง นางรับพระราชโองการนั้นอย่างมึน ๆ นี่มันอะไรกัน ทำไมตาแก่ฮ่องเต้ถึงทำแบบนี้ ลูกสาวตัวเองไม่ยอมส่งไป แต่กลับมาบังคับคนอื่นเนี่ยนะ น่าตายนัก แล้วจวิ้นอ๋องนี่อยู่ในนิยายเรื่องไหนอีกล่ะ
“โอ้ อ้ายเอ๋อร์ช่างโชคดี ได้ข่าวว่าจวิ้นอ๋องผู้นี้มีแต่ความอัปลักษณ์ คงจะเหมาะกับเจ้ายิ่งนัก”
ฮูหยินรองมี่จิว เอ่ยพลางยิ้มเหยาะ สาเหตุที่นางไม่อยากอยู่ที่จวนนี้ก็เพราะเหล่าบรรดาเมียน้อยของบิดานี่ล่ะ หลังจากมารดาตายนางก็โดนรังแกมาโดยตลอด
“ท่านแม่รองนี่ช่างหูจมูกดีแท้ แต่อย่างน้อยในฐานะที่ข้าเป็น บุตรีที่เกิดจากภรรยาเอก จึงได้เป็นชายา แล้วน้องสามที่เกิดจากท่านเล่า อย่างน้อยคงได้เป็นแค่ เมียรอง หรือเป็นแค่อนุ”
เยว่ซิ่นอ้ายตอกกลับก่อนเดินออกไป ทิ้งให้ฮูหยินรองมี่จิว ยืนกำมือด้วยความโกรธ หลังจากฮูหยินเอกตาย นางหวังว่าสามีจะตั้งนางขึ้นเป็นฮูหยินเอก แต่เขากลับปล่อยตำแหน่งนั้นว่างไว้ราวเยาะเย้ยนาง แต่นางก็สะใจไม่น้อยที่นังเด็กร้ายกาจนี่ได้แต่งออกไปสักที
ภายหลังข่าวแพร่สะพัดไปทั่วเมืองหลวงทุกคนต่างลงความเห็นว่า นางสมควรโดนแล้ว ชอบกีดขวางบุพเพของอ๋องสิบเก้ากับน้องสาวนัก คราวนี้เวรกรรมคงตามทันนางแล้ว
ห้องนอนภายในเรือนใหญ่
คุณหนูที่ถูกพูดถึงในตอนนี้นั่งหน้ามุ่ยพยายามคิด และเค้นเอาความทรงจำออกมาตอนนี้เยว่ซิ่นอ้ายนั่งเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างอย่างเหม่อลอย นางไม่ได้กังวลเพราะต้องแต่งงานกับอ๋องอัปลักษณ์นั่นหรอก แต่ที่นางกังวลคือ นางไม่รู้เนื้อเรื่องต่อจากตอนนี้เลย นิยายเรื่องนี้ควรจบที่พระเอกนางเอกรักกันไม่ใช่เหรอ ทำไมเป็นแบบนี้ไปได้ล่ะ หรือนางพลาดบางตอน เอ๊ะ หรือว่าเป็นตอนที่เธอเผลอหลับไปแน่ ๆ เห้อ เธออยากจะบ้า
“อ้ายเอ๋อร์ ไยเจ้าไม่ขัดราชโองการเล่า เจ้ารู้หรือไม่ว่าอ๋องผู้นั้นโหดร้ายอย่างไร เจ้ายังอยากจะไปแคว้นจ้าวอีก”
เยว่ไป๋ พี่ชายฝาแฝดของนางเดินเข้ามาหานางอย่างหัวเสีย เขารู้สึกไม่ค่อยพอใจเท่าใดที่น้องสาวคนงามต้องแต่งออกไป หากเป็นชายในแคว้นนี้ยังพอตามไปยกเลิกได้ แต่กลับเป็นเชื้อพระวงศ์ต่างแคว้นที่มีข่าวลือเน่าเละอีก เขาห่วงว่านางจะไปเจอความโหดร้ายป่าเถื่อน
“ไป๋ไป๋ ข้าไม่อยากอยู่ที่นี่”
นางตอบพี่ชายไปพลางก้มหน้า หากอ๋องคนนั้นเป็นคนโฉดอย่างที่เล่าลือล่ะ นางก็แค่หย่าแล้วหนีไป แต่ในใจรู้สึกโหวง ๆ ที่ต้องจากบ้านเกิดไปไกล
“ข้าจะไปกับเจ้า”
เยว่ไป๋บอก ก่อนดึงน้องสาวเข้ามากอด
“ไป๋ไป๋ เจ้าจะไปกับข้าได้อย่างไร เจ้าเพิ่งเริ่มการค้า การค้าของเจ้าจะต้องมีเจ้าคอยดูแลอยู่ที่นี่ อย่าห่วงข้าเลยนะ ข้าดูแลตัวเองได้ เพียงเจ้าเขียนจดหมายติดต่อข้าตลอดก็เพียงพอ”
เยว่ซิ่นอ้ายบอกพลางมองหน้าแฝดผู้พี่ของตนด้วยความอุ่นใจที่อย่างน้อยก็มีเขาเป็นพี่ชาย ภายหลังมารดาจากไป บิดาเหินห่างและโทษที่นางทำให้หญิงที่เขารักต้องตาย เยว่ไป๋เห็นความเย็นชานี้จากบิดามาตลอด จึงไม่เข้าร่วมสอบเป็นจอหงวน แต่กลับมาเป็นพ่อค้าจึงถูกบิดาไล่ออกจากบ้าน แต่เพราะวันนี้รู้ข่าวว่าน้องสาวจะถูกส่งตัวไปต่างแคว้น จึงร้อนใจและห่วงนางมากที่สุด
“ข้า ข้าปกป้องเจ้าไม่ได้”
เยว่ไป๋กลั้นน้ำตา อ๋องโฉดนั่นใครบ้างจะไม่รู้กิตติศัพท์ความเหี้ยมโหด น้องสาวของเขาต้องถูกทำร้ายแน่ ๆ
“พี่ชาย ท่านเลิกร้องไห้เถอะ ท่านปกป้องข้ามาตลอด ถึงอย่างไร ข้าก็ต้องถูกแต่งออกจากที่นี่ ก็ไม่เลวร้ายเท่าไหร่หรอก หากไปต่างแคว้น”
นางปลอบผู้เป็นพี่ชาย แม้เขาจะเป็นพี่แต่มักร้องไห้ทุกครั้งที่นางมีเหตุทะเลาะวิวาทกับบรรดาพี่น้องคนอื่น ๆ ก็รักนางมากที่สุดเช่นกัน
เยวไป๋กับเยว่ซิ่นอ้ายคุยกันหลายเรื่อง โดยที่ทั้งคู่ไม่รู้ว่ามีสายตาหนึ่งที่คอยจับจ้องอยู่
“ช่างเป็นพี่น้องที่รักกันเสียจริง”
ชายในชุดดำเอ่ย ภายใต้ใบหน้าที่ซ่อนไว้ ซ่อนกลิ่นอายของความสูงศักดิ์ ก่อนเร้นกายหายไป
หนึ่งเดือนผ่านไป ขบวนบรรณาการของแคว้นเฉิน เดินทางไปยังแคว้นจ้าวช่างเงียบเหงามากในความรู้สึกของเยว่ซิ่นอ้าย เสี่ยวอิงน้อยที่ติดตามนางมาก็มัวแต่ง่วง ไม่มีหญิงรับใช้เพิ่มเติม อ่า ไร้ความสำคัญแท้จริงสำหรับจวิ้นอ๋องคนที่นางจะแต่งงานด้วย แต่ก็ยังดีที่มีสินเดิมที่บิดาของนางอุตส่าห์มอบให้
“เผื่อเขาทิ้งเจ้า”
คำพูดของบิดาที่มีต่อนางช่างเย็นชาเสียจริง เผื่อคนผู้นั้นทิ้งข้างั้นเหรอ ท่านพ่อ ท่านช่างรักลูกเสียจริง!
แคว้นเฉินกับแคว้นจ้าวเป็นแคว้นที่มีชายแดนติดกัน ดังนั้นขบวนบรรณาการจึงใช้เวลาเดินทางเพียงแค่ 20 วันเท่านั้น
“เรียนท่านหญิง ตามรับสั่งฝ่าบาท ขบวนเจ้าสาวจะต้องรอจวิ้นอ๋องมารับที่นี่ส่วนขบวนของบรรณาการให้เดินทางไปยังเมืองหลวงเลยขอรับ”
หัวหน้าทหารหน้าด่านเข้ามาแจ้งกับนาง เหอะ แบบนี้ก็ได้เหรอนางกลอกตามองบนพร้อมถอนหายใจยาว ๆ ดวงซวยแท้ ๆ รู้แบบนี้กลับใจเป็นนางร้ายดำเนินเรื่องตามนิยายก็ดี มีสีสันกว่านี้เยอะ
“จะให้ข้ารออยู่แบบนี้น่ะเหรอ”
นางถามพร้อมใช้สายตากดดันทหารผู้นั้น จนเขารู้สึกว่ามีเหงื่อซึมที่หลัง
“กะ เกรงว่าเป็นเช่นนั้นขอรับ นี่เป็นรับสั่งของฝ่าบาท”
เขาตอบพร้อมลอบมองใบหน้าของสตรีที่เป็นว่าที่พระชายาจวิ้นอ๋องอย่างแปลกใจ รอไปเถอะ จวิ้นอ๋องไม่มาแน่ เพราะก่อนหน้านี้ก็มีหญิงสาวบรรณาการจากต่างแคว้นถูกส่งมา ล้วนถอดใจแล้วหนีกลับไปหมดสิ้น ดูท่าทางนางก็คงไม่ต่างกัน
“หึ”
นางรู้สึกเหมือนโดนทิ้ง หลังจากได้รับคำตอบ แต่ก็รอ รอจนตะวันใกล้ตกดิน
“คุณหนู นี่ก็จะค่ำแล้วนะเจ้าคะ”
เสี่ยวอิงพูดอย่างกระวนกระวายพลางสอดส่องหาขบวนเจ้าบ่าวของจวิ้นอ๋องอย่างใจจดใจจ่อ หากว่าคุณหนูนางโดนทิ้งเล่า คงโดนนินทาไปทั้งสองแคว้นแน่
“นี่ ท่านนายกอง จวนของจวิ้นอ๋องอยู่ไกลจากที่นี่หรือไม่”
เยว่ซิ่นอ้ายเลิกม่านออกเพื่อถามนายกองทหารคนเดิมที่ยังยืนเฝ้าขบวนของนางอยู่ไม่ไกลนัก
“เพียงแค่ข้ามชายป่าตะวันออกไปก็ถึงแล้วขอรับ”
เขาตอบพลางคิดว่านางคงจะถอดใจกลับแน่นอน
“งั้นหากไม่รบกวนเจ้าจนเกินไป ข้าอยากให้เจ้านำทางพวกข้าไปที คนงานที่หาบของพวกนี้คงอยากจะพักเต็มประดา อีกอย่างหากทำงานยังไม่ลุล่วง ข้าคงไม่สามารถจ่ายค่าจ้างพวกเขาได้แน่นอน”
เยว่ซื่นอ้ายบอก ก่อนมองไปยังคนที่ติดตามนางจากแคว้นเฉิน คนพวกนี้พี่ชายนางจ้างมา ล้วนไม่ใช่คนจากราชสำนัก ทุกคนหวังแค่ว่ามาส่งนางก็เท่านั้น และหลังจากที่เดินทางมาหลายวันก็อยากจะพักเต็มที่ นาย กองรู้สึกแปลกใจ ที่นางอยากจะไปหาจวิ้นอ๋อง แทนที่จะกลับแคว้นตน จึงยินยอมนำทางไปส่งนาง
“ดูท่าว่า ผู้หญิงคนอื่นๆ คงถูกทิ้งเหมือนข้าสินะ ฝันไปเถอะเจ้าอ๋องบ้า คิดจะไม่รับผิดชอบข้าเหรอ ได้เจอข้าแน่”
ในเมื่อไม่อยากให้ข้าเป็นชายานัก ถึงขนาดไม่เหลียวแล ข้าจะแต่งงานกับท่าน แล้วพรุ่งนี้ข้าจะหย่า! แล้วเรียกร้องค่าเสียหายให้เยอะ ๆ คอยดูเยว่ซิ่นอ้ายบ่นพึมพำพร้อมทำสีหน้าเหมือนตัวร้ายเวลาเจอของเล่นใหม่ เสี่ยวอิงที่นั่งอยู่ข้างๆ ถึงกับกลืนน้ำลาย คุณหนู ท่านคงไม่คิดจะทำอะไรแผลง ๆ ใช่หรือไม่ตอนที่ 1
“พี่รอง ท่านไม่ควรจะแย่งฉินอ๋องไปจากข้า”
สาวน้อยวัยเพียงสิบสี่หนาวเอ่ยอย่างอ้อนวอนพร้อมน้ำตาที่คลอใบหน้างามนั้นช่างน่าทะนุถนอมมาก เข้ากับชุดชมพูอ่อนราวกลีบของดอกเหมยนั่นอีก แต่หญิงสาวอีกนางหนึ่งที่ใส่อาภรณ์สีขาวราวนางฟ้าผู้บริสุทธิ์ก็มองดูด้วยสายตาเย็นชา
“ข้าจะพูดกับเจ้ารอบที่ล้านนะน้องห้า ข้าไม่สนใจอ๋องสิบเก้าผู้นั้นด้วยซ้ำ”
หญิงสาวผู้ใส่ชุดขาววัยสิบหกปีมองน้องสาวต่างมารดาด้วยสีหน้าที่เบื่อหน่าย แท้จริงแล้วเธอชื่อ เยว่ฉี พนักงานออฟฟิศที่ดันทะลุมิติมาอยู่ในร่างนางร้ายที่ขึ้นชื่อว่าร้ายกาจที่สุดอย่าง เยว่ซิ่นอ้าย ในนิยายเรื่อง แม้นชีพดับสลายข้าจะรักเจ้าแต่เพียงผู้เดียว แท้จริงแล้วเยว่ซิ่นอ้ายแค่หมั่นไส้ในความมั่นหน้าของน้องสาวคนนี้เท่านั้นจริงแกล้งตีสนิทกับอ๋องสิบเก้า แต่ในนิยายชอบเขียนให้นางเป็นตัวร้าย ตัวร้ายจริง ๆ คือ คุณหนูสาม เยว่ซิ่นมี่ ที่แอบดูอยู่มุมหนึ่งของสวนต่างหาก
“ถ้าท่านไม่สนใจ แล้วเหตุใดจึงได้พบกับท่านอ๋องบ่อย ๆ เล่า”
น้องสาวผู้บีบน้ำตาพยายามพูด ทำให้เยว่ซิ่นอ้ายรู้สึกว่านางเอกคนนี้พยายามยัดเยียดว่านางชอบอ๋องสิบเก้าจริงๆ สินะ
“นี่น้องห้า เจ้าไปเอาเรื่องนี้มาจากไหนล่ะ นี่ เจ้ารู้รึเปล่าว่าข้านี่คือพี่สาวที่รักและหวังดีกับเจ้าที่สุดเลยนะ คนที่เอาข่าวมาบอกเจ้าต่างหากล่ะที่เทียวไปหาฉินอ๋องบ่อย ๆ ที่โรงทาน หากเจ้าไม่เชื่อลองส่งคนไปตามดูสิน้องรัก”
เยว่ซิ่นอ้ายพยายามยิ้มอย่างใจเย็นเพื่ออธิบายว่า คุณหนูสามต่างหากที่อยากได้ฉินอ๋องผู้นั้น
“งั้นที่ผ่านมา ก็เป็นข้าที่เข้าใจท่านผิดมาตลอด”
เมื่อเห็นพี่สาวตัวร้ายอย่างเยว่ซิ่นอ้ายทำหน้าจริงจัง เยว่ซิ่นฮวาทำหน้าสำนึกผิดที่ผ่านมานางเชื่อใจพี่สามมาตลอดแต่คราวนี้พี่รองคงพูดจริง จากสีหน้าและแววตาของนางที่เบื่อหน่ายเต็มที
“อ่า น้องห้าผู้ฉลาดของข้ากลับคืนมาแล้ว ดีแล้วๆ เจ้าลองตรองดูเอาเถิด ข้าสนับสนุนเจ้าเต็มที่ ฉินอ๋องผู้นี่ค่อนข้างไม่ทันเล่ห์สตรีเจ้าจงระวังเล่า หากมีอะไรให้ข้าช่วย ข้ายินดี”
เยว่ซิ่นอ้ายกล่าว ก่อนวางมือเบาๆ บนมือที่กุมไว้อย่างร้อนรนของเยว่ซิ่นฮวา หวังว่าจะเข้าใจนะที่อุตส่าห์ทำเนี่ย เพราะรำคาญเต็มที ถ้าพระเอกกับนางเอกรักกันอย่างไม่มีอุปสรรค นางก็แฮปปี้สุด ๆ เพราะต่อไปนี้คงไม่มีเรื่องมากวนใจแล้ว สบายใจกับชีวิตที่ไม่ต้องมาตายอย่างอนาถแล้ว
“คุณหนู ท่านไปไหนมาเจ้าคะ”
เสี่ยวอิง สาวใช้ของนางรีบวิ่งมาหลังจากนางก้าวเท้าเข้าเรือนส่วนตัวอย่างร้อนรน
“มีอะไรหรือเสี่ยวอิง เจ้าทำหน้าราวกับเจอท่านแม่อย่างงั้น
“มีพระราชโองการมาเจ้าค่ะคุณหนู ท่ารีบไปเร็วเถิดเจ้าค่ะ”
เสี่ยวอิง สาวใช้ประจำตัวรีบพูด เพราะตอนนี้มีกงกงรอประกาศพระราชโองการอยู่
ห้องโถงสกุลเยว่
รุ่ยกงกง ที่ยืนถือราชโองการอยู่มองคุณหนูที่มีชื่อในราชโองการอย่างหนักใจ เห้อ ทั้ง ๆ ที่งามปานนั้น ยังมิวายถูกส่งออกไปอย่างไร้ค่า
“เยว่ซิ่นอ้าย รับราชโองการ ด้วยถึงวัยออกเรือน แม้พ้นวัยปักปิ่นมาสองปีแล้ว แต่ความงามของเจ้ายังเป็นที่เลื่องลือถึงต่างแคว้น ….”
เยว่ซิ่นอ้ายรู้สึกว่าหางตาขวากระตุกแปลก ๆ ไหนจะไอ้ถ้อยคำในพระราชโองการนั้นอีก
ฝากนิยายเรื่องนี้ด้วยนะค๊าาา
เพิ่งมาลงกับเว็บเป็นครั้งแรกค่ะ
สามารถคอมเม้นและกดเพิ่มเข้าชั้นให้ไรท์ชื่นใจได้น๊า
ขอบคุณที่เข้ามาอ่าน