ตอนที่5

3118 Words
“จัดการเลยคนสวย คุณมาเพื่องานนี้ไม่ใช่เหรอ ทำให้ผมพอใจสิ.” ชายหนุ่มยกแก้ววิสกี้ขึ้นดื่มจนหดแก้วก่อนจะวางลงแล้วมองดูการกระทำของสาวสวยที่กระตุกผ้าขนหนูของเธอออกจนร่างกายเปลือยเปล่าแล้วขึ้นไปบนเตียงคุกเข่าคร่อมขายาวของเขาชม้ายสายตามมองร่างหนาที่นอนเปลือยอกพิงหัวเตียงและดึงผ้าขนหนูจนปมหลุดแยกออกจากกัน “อู้วว ใหญ่จัง” เธอถึงกับร้องครางออกมาเสียงดังเมื่อเห็นแกนกายอันใหญ่โตของหนุ่มลูกครึ่งสุดหล่อถึงแม้มันยังสงบนิ่งอยู่แต่ดูก็รู้ว่าถ้ามันตื่นจะอลังการแค่ไหน ก่อนจะจับแกนกายอวบใหญ่ไว้สองมือลูบไล้ปลุกมันให้ตื่นจากการหลับใหลรูดมันขึ้นลงตามความยาวจนสุดโคนติดกันจนมันเริ่มแข็งตัวขึ้นพองขายใส่มือของเธอที่ปลุกปล้ำมันหนักขึ้นจนแกนกายอวบใหญ่ตั้งลำผงาด “หื้มม..” เขาครางในคอเบาๆเมื่อสาวสวยแตะลิ้นลงยอดหัวหยักมนทู่ตะหวัดปลายลิ้นไล้เลียอย่างไม่รังเกียจเพราะเธออยากลิ้มลองหนุ่มฝรั่งรูปหล่อมากกว่ามือก็รูดขึ้นลงไม่หยุดลิ้นก็ละเลงลงตามความยาวไล้เลียอย่างอร่อยราวกับไอศครีมรสเลิศเอวสอบเด้งกระทุ้งขึ้นใส่บ่วงมือด้วยความเสียวกับลีลาของมืออาชีพที่ปรนเปรอเขา “แพร่บ แพร่บบ แพร่บ.” สาวสวยก็ตวัดปลายลิ้นไล้เลียเร็วขึ้นแล้วอ้าปากกว้างงับปลายยอดมนทู่เข้าเต็มปากแล้วดูดดื่มเบาๆแล้วเพิ่มแรงดูดดื่มหนักขึ้นเรื่อยๆ “แพร่บ แพร่บ จ๊วบ จ๊วบบ.” สาวสวยเร่งทั้งปากทั้งลิ้นและมือรูดแกนกายอวบใหญ่อย่างหนักหน่วงไม่สนใจว่าเขาจะแอ่นสะโพกลอยขึ้นเด้งเข้าใส่ปากของเธอเร็วขึ้นและรับเขาไว้ดูดดื่มอย่างเมามันส์ “อื้มม เร็วอีกคนสวย อ่า แรงๆ อือมม.” เสียงห้าวห้วนคำรามดังขึ้นเมื่อได้ยินเสียงครางของชายหนุ่มสาวสวยก็เร่งรัวเร็วๆดูดดื่มอย่างหนักหน่วงรุนแรงซดน้ำเขาเสียงดัง เอวสอบก็ยกขึ้นรัวกระทุ้งเข้าปากเธอรัวเร็วๆถี่ๆติดกันแล้วระเบิดลาวาร้อนเต็มที่ “อ้ะ โอ้วววส์..” “อึ้กๆ อึ้กๆ อืมม.” สาวสวยถอนปากออกมาตวัดปลายลิ้นไล้เลียลาวาร้อนที่ไหลออกมาจนหมดก่อนจะหยิบถุงยางอนามัยที่ชายหนุ่มยื่นให้สวมใส่ลงแกนกายอวบ “ปากดีจริงๆคนสวย นอนคว่ำลงไปสิ” ชนม์บอกให้สาวสวยนอนคว่ำหน้าลงกับหมอนเธอก็ทำตามอย่างว่าง่าย เขาก็ดึงสะโพกเธอขึ้นจนก้นโด่งหน้าซุกหมอนมองดูร่องสวาทที่ฉ่ำเยิ้มก็ส่งนิ้วยาวเข้าไปเขารู้ว่าเธอพร้อมมากแต่ก็อยากส่งสาวสวยให้มีความสุขด้วยนิ้วก่อน “อ้ะ อ้า อ่า คุณเกรย์ขา อ้ะ อ้า อู้วว์.” สาวสวยโยกสะโพกร่อนสู้นิ้วยาวของหนุ่มหล่อที่จุ่มจ้วงเข้าออกร่องสวาทของเธอเร็วขึ้นอีกมือก็ขยำสะโพกของเธออย่างมันมือ “แจ่ะ แจ่ะ แจ่ะ “ นิ้วยาวยังไม่หยุดชายหนุ่มดึงนิ้วเข้าออกรัวเร็วติดกันจนสาวสวยส่งเสียงครวญครางดังกระเส่าส่ายสะโพกเข้าใส่นิ้วอย่ากระสัน “โอ้ คุณเกรย์ขา อ่า อ้ะ อ้า พินอยากได้กล้วยยักษ์ของคุณเกรย์มากกว่าค่ะ อ้ะ อ้า อ่า” สาวสวยร้องขอหนุ่มหล่อด้วยควากระสันอยากลองของนอกที่ทั้งใหญ่ทั้งยาวอลังการสมกับเขาว่าไซส์ฝั่งมันเอาถึงอกถึงใจ “ได้ตามที่ขอคนสวย” เขาดึงนิ้วออกทันทีเมื่อสวยร้องขอเขาคุกเข่าประกบสะโพกของเธอจับหัวหยักมนทู่ที่สวมปลอกเรียบร้อยถูไถร่องสวาทแล้วเสือกหัวมันเข้าไปขยับสองสามครั้งก็ดันเข้าไปทีเดียวจนสาวสวยร้องเสียงหลง “อ้ะ อ้ายย์ อ่า .” ความใหญ่โตของกล้วยยักษ์อัดแน่นเต็มร่องสวาทของเธอความยาวของมันกระทุ้งเข้าลึกจนเธอจุกถึงแม้จะมีความสัมพันกับหนุ่มๆมามากแต่ไซส์ฝรั่งใหญ่โตขนาดนี้ก็ไม่ได้เจอบ่อยแต่เธอก็ชอบเพราะมันถึงใจดี “อื้มม แน่นดีเหมือนกันนะ อ่าส์.” เอวสอบก็ดึงแกนกาบอวบเข้าออกร่องสวาททันทีเร่งจังหวะโยกซ้ายโยกขวาหมุนเอวอัดกระแทกกระทั้นสองมือจับเอวคอดแล้วตะบันเอวสอบเข้าใส่อย่างรุนแรง “ปั้บ ปั้บบ ปั้บ ปั้บบ” ชายหนุ่มเร่งจังหวะโยกสะโพกสอบเร็วขึ้นเรื่อยโหมแรงกำหนัดตอกตรึงอย่างไม่ออมแรงจนเธอจิกที่นอนแน่นส่ายโยกสะโพกรับแกนกายอวบที่ตอกอัดอย่างหนักแน่นอย่างไม่ยอมแพ้และไม่เกรงกลัวว่าเครื่องเคราจะพัง “ปั้บ ปั้บบ ปั้บ ปั้บบ.” “ อ้ะ อื้อ อ่า อ้า.” เสียงครวญครางขาดกระท่อนกระแท่นเมื่อชายหนุ่มไม่รีรอที่จะพาเธอเสร็จสมอารมณ์ไปกับเขาเร่งเร้าเร่งรัวสะโพกใส่อย่างถึงพริกถึงขิงไม่ยั้งแล้วเกร็งตัวตอกเข้าใส่ติดกันสี่ห้าครั้ง “ปั้บ ปั้บบ ปั้บ ปั้บ..” “อ้ะ อ้ายยย์ /โอ้วววส์..” แรงกระหน่ำครั้งสุดท้ายทำเอาเธอจุกร้องแทบไม่ออกแต่ถึงใจเป็นบ้า “โอ้ อยะ อย่า อ้า อู้ววว์.” สาวสวยสุดแสนเสียดายเมื่อเขาถอดถอนแกนกายลำใหญ่ออกจากกายเธอ “รอเดี๋ยวคนสวยนี่เพิ่งเริ่มต้นเอง.” ชายหนุ่มบอกสาวสวยที่นอนค่ำหน้าราบลงไปแล้วพลิกตัวนอนหงายมองเขา ชายหนุ่มจึงหยิบเครื่องป้องกันขึ้นมาสวมอีกครั้งหญิงสาวมองตามด้วยความพอใจก่อนเขาจะจับขาของเธอทั้งสองข้างพับแนบลำตัวแล้วดันแกนกายอวบเข้าไปทีเดียวจนหน้าเธอแหยเก๋ตื่นเต้นเร้าใจกับลีลาของหนุ่มฝรั่งที่เล่นสวาทกับเธอถึงสี่ยกจนทำให้เธอถึงกับลุกไม่ขึ้นแต่สุขจนล้นและอยากเจอเขาอีก ก่อนจะกลับอธิชนม์ยังวางเงินพิเศษให้สาวสวยอีกปึกย่อมๆแล้วเขาก็กลับคอนโดเช้ามาก็ไปทำธุระเรื่องไวน์กว่าจะเสร็จก็บ่ายแล้วจึงกลับสวนผึ้ง หลังกลับจากกรุงเทพเมื่อเดือนก่อนวันนี้อธิชนม์ก็เข้ากรุงเทพอีกครั้งเพภราะเขาจะไปร่วมงานวันเกิดพ่อของเพื่อนรัก “ว่าไงครับไอ้เด็กบ้านนอก ถึงไหนแล้ววะ” ปัญญาโทรมาถามเพื่อนเพราะวันนี้วันเกิดของพ่อเขาที่อธิชนม์ไม่เคยพลาดสักปีตั้งแต่มาอยู่เมืองไทย “อยู่คอนโดเพิ่งมาถึง เหมือนนกรู้เลยนะแกมาถึงปุ้บโทรมาปั้บ” “ก็เป็นห่วงเพื่อนไงนานๆเข้ากรุงทีกลัวจะหลงน่ะสิ ฮ่าๆๆ.” ปัญญาแซวเพื่อนที่อยู่แต่ไร่ไม่ค่อยเข้ากรุงจนมันจะเป็นฤษีอยู่ในไร่แล้ว “ถ้าหลงฉันจะไล่แจ็คออกเพราะมันเป็นคนขับ” “ไม่เป็นไรนายไล่แจ๊คออกเมื่อไหร่ฉันรับทันที งั้นเจอกันที่บ้านนะเพื่อน” “โอเค.” อธิชนม์คุยกับเพื่อนเสร็จก็เดินเข้าห้องนอนที่สะอาดกลิ่นหอมราวกับเขามาพักโรงแรมห้าดาวเพราะเขาจ้างแม่บ้านมาทำความสะอาดทุกอาทิตย์ สองหนุ่มเจ้านายลูกน้องที่หล่อกินกันไม่ลงร่างสูงใหญ่เนื้อแน่นกล้ามเป็นลอนซ่อนอยู่ในเสื้อเชิ้ตสีขาวแขนยาวที่พับแขนเสื้อขึ้นมาถึงข้อศอกชายเสื้อทับในกางเกงยีนส์สีเข้มแบรนดังและเข็มขัดหนังโล้โก้ตัวHที่ทุกคนรู้จักดีถึงราคาสนธิก็ครึ่งแสนที่เจ้าตัวปฎิเสธว่าไม่ยึดติดแบรนด์และเสื้อผ้าไม่ซื้อเองสั่งให้น้องสาวจัดการให้สรุปก็แบนรด์เนมทุกตัว “ไหนไอ้ปัณมันบอกว่างานกันเองมีแต่คนสนิทไงวะ แล้วนี่ก็เหมือนเดิมนี่หว่า” อธิชนม์พูดกับลูกน้องเมื่อเลี้ยวรถเขามจอดในลานจอด “ไม่เห็นจะแปลกครับผมก็เห็นเยอะอย่างนี้ทุกปี” แจ๊คมองไปรอบๆคฤหาสน์หลังใหญ่ที่ติดไฟสว่างรอบรั้วบ้านและมีโต้ะจัดเรียงกันเต็มสนามแขกเหรื่อที่มาส่วนมาก็อายุรุ่นราวคราวเดียวกับเจ้าของงาน แล้วเดินเดินตามเจ้านายเข้าไปในบ้านก่อนเป็นอันดับแรกเพื่อเอาของขวัญไปอวยพรเจ้าของงานวันเกิดวันนี้ “เฮ้ย ไอ้ชนม์ แจ๊ค หวัดดีเพื่อน” สองเพื่อนรักกอดทักทายกัน “หวัดดีเพื่อน ว่าแต่คุณเพลินของนายไม่มาเหรอวะ” อธิชนม์อดแซวเพื่อนไม่ได้เพราะเพลินพิศเกาะติดปัญญาเป็นปลิงยังแกะไม่ออก “ไอ้นี่วอนซะแล้ว อย่าถามสิวะเดี๋ยวก็โผล่มาหรอก” ปัญญารู้ว่าเพื่อแกล้งถามเพราะรู้ว่าพักหลังเขาห่างๆกับ เพลินพิศเพราะเธอไม่เหมาะจะเป็นแม่ของลูก “เห็นอยู่แว้บๆนะว่าคุยกับหนุ่ม.” “ไอ้ชนม์ ไปหาป๊ากันดีกว่ามั้ยเพื่อน” ปัญญาพาเพื่อรักไปหาพ่อของเขาที่ห้องรับแขกเพราะท่านกำลังคุยกับท่านรัฐมนตรีฝายเศรษฐกิจเพื่อนสนิทของท่าน “สวัสดีครับป๊า” อธิชนม์ไหว้คุณโสภณพ่อของปัญญาและเพื่อนของท่าน “อ้าว มาแล้วเหรอลูกชาย สวัสดีลูก มาๆรู้จักท่านรัฐมนตรี สุรชัยเพื่อนป๊าก่อน นี่เจ้าชนม์ลูกชายอีกคนของฉันเพื่อนเจ้าปัณมัน.” “สวัสดีครับท่าน” “สวัสดีหลานชาย เรียกลุงชัยเถอะคนกันเองทั้งนั้นตอนนี้ลุงปลดหัวโขนออกแล้ว” ท่านรัฐมนตรีพูดคุยเป็นกันเองกับชายหนุ่ม “นี่ไวน์ล็อตแรกของไร่ครับ ขอให้ป๊าสุขภาพแข็งแรงอยู่เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรของลูกหลานไปนานๆนะครับ” เจ้าของไวน์ยื่นตะกร้าไวนที่วางเรียงกันสามขวดยื่นให้เจ้าของวันเกิด “นี่แกมอมเมาป๊าหรือเปล่าวะไอ้ชนม์” ปัญญาว่าเพื่อนแต่ตามองไวน์ในตะกร้าของป๊าตามเป็นมัน “เปล่านะเพื่อน ป๊าดื่มวันละแก้วสองแก้วก็เป็นยาอยุวัฒนะทำให้ร่างกายแข็งแรงปึงปังเตะปี้บดังปั้งๆ ใช่มั้ยครับป๊า” อธิชนม์หยอกเย้าเจ้าของงานทำให้ท่านกับเพื่อนหัวเราะ “ใครจะเตะปี้บจ้ะหนุ่มๆ เสียงดังไปถึงครัวเลย” คุณหญิงพิมพา เดินเข้ามาสบทบกับหนุ่มๆที่นั่งคุยกันในห้องรับแขกเพราะตอนนี้ใกล้เวลาแขกเหรื่อมากันแล้วท่านจึงมาตามสามีและเพื่อนออกไปต้อนรับแขก “คุณแม่มาแล้ว นี่เลยครับตัวการ ไอ้ชนม์มันเอาไวน์มาให้ป๊าบอกว่ากินแล้วเตะปี้บดังครับ” ปัญญาบอกคุณหญิงแม่ที่ยิ้มหวานให้เพื่อนลูกชาย “สวัสดีครับคุณหญิงแม่” หนุ่มฝั่งพูดภาษไทยชัดแจ๋วไหว้แม่เพื่อนแล้วกอดท่านคุณหญิงพิมพากอตอบหนุ่มหล่ออย่าอ่อนโยน อธิชนม์รักและนับถือพ่อแม่ของเพื่อนรักราวกับพ่อแม่แท้ เพราะอ้อมกอดของคุณหญิงแม่อบอุ่นมากเขายังจำความรู้สึกที่แม่กอดได้ว่ามันอบอุ่นมาก มีแต่คุณยายกับแม่ของเพื่อนที่เขารู้ว่าท่านรักเขาจากใจจริง “สวัสดีลูก ดูสิทำไมโทรมอย่างนี้ล่ะจ้ะตาชนม์ พักผ่อนบ้างนะลูก ไหนเอาไวน์มาให้ป้าดื่มแล้วเตะปี้บดังปั้งๆ แล้วทำไมเราไม่เตะบ้างละลูก ราคาคุยหรือเปล่าจ้ะ.” คุณหญิงพิมพานั่งลงระหว่างลูกชายกับเพื่อนรักของลูก “คุณหญิงแม่ครับ ที่ไร่มีแต่องุ่นกับม้าแล้วผมจะไปเตะปี้บกับใครละครับ โน่นเลยไอ้ปัญมันยังเตะปี้บไม่ดังเลยแล้วเมื่อไหร่ป๊ากับคุณหญิงแม่จะมีหลานละครับ” ชายหนุ่มชงต่อให้เพื่อนทำให้บรรยากาศในห้องคึกครื้นก่อนผู้ใหญ่ทั้งสามจะพากันไปที่สนามหน้าบ้านสถานที่ต้อนรับแขกนับร้อยที่มาร่วอวยพรวันเกิดของคุณโสภณ นักธุระกิจระดับประเทศที่มีคนนับหน้าถือตาเพราะท่านไม่หวงวิชาความรู้ทำให้มีนักธุระกิจหน้าใหม่มาขอคำแนะนำปรึกษาแล้วเอาไปใช้จนธุระกิจรุ่งเรืองแล้วไม่ลืมบุญคุณท่านมาอวยพรวันเกิดมากขึ้นทุกปีทั้งที่จัดแบบกันเอง “แกจะอยู่กี่วันวะไอ้ชนม์” ปัญญาถามเพื่อนเพราะช่วงนี้ต่างก็งานยุ่งจึงไม่ค่อยได้เจอกัน “ว่าจะกลับพรุ่งนี้เย็นว่ะ แกมีอะไรหรือเปล่า” “ไม่มีทำไมรีบกลับวะน่าจะอยู่ต่ออีกสักคืนจะได้เมากันหน่อย” “งั้นคืนนี้เลยเป็นไง พอดีฉันกำลังจะหมักไวน์ล็อตใหม่น่ะเลยอยู่ต่อไม่ได้ แต่คืนนี้เมากันไปข้างหนึ่งเลยดีมั้ย” “ตามนั้นเพื่อน งั้นนายกับแจ๊คไปนั่งรอโต้ะมุมสุดติดบันไดรอเลยเดี๋ยวฉันไปบอกเด็กยกอาหารและเครื่องดื่มไปให้” ปัญญาพูดจบเขาก็เดินเข้าไปหลังบ้านเพื่อให้เด็กยกอาหารกับแกล้มไปให้เขากับเพื่อนและคนสนิทที่โต้ะหน้าบ้านตอนนี้แขกก็ทยอยกันมาอวยพรวันเกิดให้คุณโสภณกันอย่างคึกคัก เวทีเล็กมีนักดนตรีร้องเพลงให้ฟังลมเย็นๆโชยมาเบาๆเพราะบ้านเพื่อนอยู่ริมคลองงานคืนนี้ไม่มีสาวๆให้มองเลยนอกจากเพลินพิศและปัญชรีน้องสาวของเพื่อนที่แวะมาทักทายเขาก่อนจะกลับไปช่วยป๊ารับแขกอธิชนม์กับแจ๊คนั่งดื่มรอปัญญาก่อนชาติชายจะตามมาสบทบแล้วเขาก็เห็นสาวสวยน่ารักหุ่นฉบับกระเป๋าหิ้วเธอไม่น่าจะสูงถึงร้อยเจ็ดสิบเธอจึงอยู่ในสายตาของเขาตลอดไม่ว่าจะเดินไปทางไหนดวงตาสีฟ้าก็เหลือบแลตามไปไม่ลดละโดยที่เธอไม่รู้ตัว เวลาผ่านไปเกือบสองทุ่มทุกคนก็ร้องเพลงอวยพรวันเกิดและคุณโสภณก็ขอบคุณแขกที่มางานวัดเกิดของท่านและตัดเค้กก้อนใหญ่จากนั้นวัยรุ่นใหญ่ทั้งหลายก็วาดลวดลายจังหวะชะชะช่าและลีลาศกันอย่างสนุกไม่เว้นเจ้าของงานกับภรรยาที่เปิดฟอร์จนถึงตอนนี้ยังเต้นไม่หยุดและเหนื่อยไปตามๆกัน ก่อนงานจะเลิกราไปในเวลาสี่ทุ่มกว่าที่ส่งแขกคนสุดท้ายคือท่านรัฐมนตรี สุรชัย ปัญชรีกับเพื่อนรักทั้งสามก็นั่งดื่มกันที่โต้ะใกล้กับวงดนตรีก็มีมึนเมากันบ้างแต่ยังมีสติกันกลับบ้านได้สบายแต่ยังคุยกันติดพัน “น้องรุ้งจะกลับหรือยังครับ” ธงทิวถามแฟนสาวที่ดื่มไปหลายแก้วเลือดฝาดขึ้นใบหน้าแดงระเรื่อ “คืนนี้รุ้งบอกป้าร้อยแล้วค่ะว่าจะค้างบ้านยัยปัทค่ะ มันดึกไปพี่ทิวจะได้ไม่ต้องขับรถไปส่งค่ะ” ทอรุ้งเกรงใจแฟนหนุ่มหากจะไปส่งเธอเพราะคอนโดเขากับเธออยู่คนละฟากเธออยู่ฝั่งธนแต่แฟนหนุ่มอยู่แถวดอนเมืองเธอกับวิจิตราเลยค้างที่บ้านของปัญชรี “งั้นพี่กลับก่อนนะครับ” ธงทิวบอกแฟนสาวและขอตัวจากเพื่อนรุ่นน้องทุกคน “พี่ทิวคะ นีขอติดรถไปด้วยคนได้มั้ยคะ “มาลินีเพื่อนในกลุ่มของทอรุ้งถามแฟนเพื่อนที่เธอแอบชอบและวันนี้ธงทิวดูเหมือนจะมึนๆด้วยนี่จึงเป็นโอกาสของเธอแล้ว “อ้าว, ยัยนีไหนแกว่าจะค้างด้วยกันที่นี่ไงล่ะ” วิจิตราถามเพื่อนที่คุยกันว่าค้างที่นี่ “ก็ตอนแรกไม่มีรถกลับไงแก นีมีนัดลูกค้าตอนเช้าขอติดรถพี่ทิวไปลงแถวตลาดดีกว่าตอนเช้าจะได้ไม่ต้องแหกตาตื่นน่ะ ไปนะพวกแก.” มาลินีพูดจบก็เดินไปกับธงทิวเพราะทุกคนรู้จักกันดีและธงทิวก็สนิทกับรุ่นน้องกลุ่มนี้ทุกคนและยังเป็นแฟนของทอรุ้งอีก “อะไรของยัยนีมันนะ คุยกันแล้วแท้ๆ” ปัญชรีบ่นให้เพื่อนที่ชิงกลับก่อนน “ช่างเถอะยัยนีมีนัดกับลูกค้า เดี๋ยวเพื่อนจะเสียงานเราสามคนก็ดื่มได้ใช่ป่ะ” ทอรุ้งยิ้มหวานให้เพื่อนเพราะได้แอลกอฮอล์หลายขนานเข้าไปจึงยิ้มหัวเราะมากกว่าปกติ “นี่แกไม่หวงพี่ทิวบ้างหรือไงนะยัยรุ้ง” วิจิตราถามเพื่อนเพราะเธอรู้สึกว่ามาลินีมองธงทิวแปลกๆไหนจะขอกลับด้วยทั้งที่คุยกันแล้ว ทำไม่บอกแต่แรกล่ะว่านัดลูกค้ามาบอกทำไมตอนนี้ล่ะ “จะหวงทำไมล่ะแก รุ้งไว้ใจพี่ทิวหากเขาจะมีคนอื่นเราก็ห้ามไม่ได้เพราะรุ้งก็ยังไม่พร้อมที่จะมีครอบครัวตอนนี้” ไม่ใช่ว่าเธอจะไม่หวงแฟหนุ่มแต่มาลินีคือเพื่อนสนิทที่รู้จักกันมานานและทุกคนก็สนิทกับธงทิวจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่มาลินีจะขอติดรถแฟนเธอกลับบ้าน “จ้า แม่นางเอก งั้นดื่มดีกว่า” จากนั้นสามสาวก็ดื่มกันต่อเพราะค้างที่นี่จึงดื่มได้เต็มที่เพราะมีคนดูแล “ยัยปัท ฝรั่งหล่อล่ำน่าขย้ำที่นั่งโต้ะพี่ปัณเป็นใครอ่ะแก” วิจิตราถามเพื่อนเมื่อเห็นฝรั่งรูปหล่อนั่งดื่มโต้ะเดียวกับปัญญาตั้งแต่หัวค่ำแล้ว “อ่อ พี่ชนม์ กับพี่แจ็ค เพื่อนพี่ปัณน่ะ เจ้าของไวน์ที่แกดื่มนี่ไง” ปัญชรีบอกเพื่อนเพราะวันนี้เพื่อนพี่ชายเอาไวน์มาช่วยงานป๊าและแขกก็ชมเปาะว่าไวน์ไทยก็ไม่น้อยหน้าไวน์ต่างประเทศจึงถามหากันให้วุ่นโดยไม่ต้องโฆษณาตอนนี้เธอคิดว่า อธิชนม์น่าจะได้ลูกค้าเพิ่มแน่นอน “โสดมั้ยแก” วิจิตตราพูดแล้วแกล้งยิ้มหวานอย่างเพ้อฝันจนเพื่อนรักทั้งสองหัวเราะขำความขี้เล่นของเธอ “แกจะจีบหรือไงยะยัยจ๋า” ทอรุ้งฟังเพื่อนพูดก็แซวเล่น “ไม่ดีกว่า จ๋ายังคงสเป็คหนุ่มไทยอ่อนโยนอบอุ่นมากกว่าจ้ะ” “แกจะหาเจอมั้ยล่ะเนี่ย.” ปัญชรีส่ายหน้าเมื่อฟังสเป็คของเพื่อนรัก “รุ้งไปห้องน้ำก่อนนะแก ไม่ไหวอ่ะไวน์ทำพิษซะแล้ว” ทอรุ้งปวดเบาจึงบอกเพื่อนก่อนจะลุกไปห้องน้ำที่อยู่ในบ้านชั้นล่างสำหรับแขกโดยไม่รู้ว่าตัวเองกำลังตกอยู่ในสายตาของหมีขาวตัวใหญ่ที่จ้องมาตั้งแต่หัวค่ำ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD