ตอนที่2

3272 Words
ณ.กรุงเทพ ตึกสูงยี่สิบชั้นกลางกรุงย่านธุรกิที่มีบริษัทเล็กใหญ่มากมายมาอยู่รวมกันในตึกเดียวกันและบริษัท the World watch Bangkok ( เดอะ เวิล์ด วอช กรุงเทพ ) ของปัญญาก็เป็นหนึ่งบริษัทตั้งอยู่ชั้นเก้ากับชั้นสิบทั้งสองชั้น ร่างเล็กบอบบางของหญิงสาวหน้าตาธรรมดาปากนิดจมูกหน่อยใบหน้ารูปหัวใจกำลังก๊อปปี้เอกสารงานเปิดตัวนาฬิกาแบนร์ดดังสุดหรูราคาแพงลิบรุ่นใหม่ล่าสุดที่จะจัดขึ้นที่ห้างสรรพสินค้าหรูกลางเมืองเพื่อเอาไปแจกจ่ายแผนกต่างๆตามคำสั่งเจ้านายจนหน้ามันเยิ้ม และจะเอาแฟ้มงานที่พนักงานเอามาส่งให้ก่อนเธอจะตรวจดูว่าแฟ้มไหนสำคัญแฟ้มไหนไม่สำคัญแยกไว้เป็นกองรอเลขามาเช็คอีกครั้งแล้วส่งต่อให้เจ้านายเซ็น “จ้ะเอ๋..” “อุ้ย แม่หกตกตึก ยัยปัทบ้า รุ้งตกใจหมด” ทอรุ้ง ไพรวัลย์ วัย 26ปี สาวสวยน่ารักร่างเล็กผมยาวตากลมโตเอวบางร่างน้อยเป็นลูกกำพร้าพ่อแม่เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุตั้งแต่อายุสิบขวบเด็กหญิงกำพร้าจึงมาอยู่ในความดูแลของป้าร้อย ซึ่งเป็นพี่สาวแม่เป็นแม่ค้าข้าวแกงใกล้บ้านและลุงเขยทำงานรับราชการเป็นเสมียนอยู่ที่เขตทั้งสองรักหลานสาวกำพร้าเหมือนลูกแท้ๆทั้งที่ป้าลุงมีลูกสาวลูกชายแต่พี่ๆทั้งสองก็รักน้องเล็กผู้น่าสงสารและสงเสียเรียนจนจบปริญญาตรีกันทุกคน ตอนนี้ทอรุ้ง ทำงานเป็นผู้ช่วยเลขาของ ปัญญา บริรักษ์สกุลชัย นักธุรกิจหนุ่มหล่อขาวใสหน้าตี๋ผู้นำเข้านาฬิกาแบรนด์เนมชื่อดังจากทั่วโลกมาสนองความต้องการของเศรษฐีดาราไฮโซและคนดังหลากหลายวงการที่อยากได้มาครอบครองและประสบความสำเร็จมากลูกค้าทุกสาขาอาชีพต่างมาจับจองกันบางรุ่นก็จองข้ามปีจากนั้นเขาก็เพิ่มตลาดพวกสินค้าฟุ่มเฟือยเช่นกระเป๋าเครื่องประดับสำหรับลูกค้ากลุ่มไฮเอนด์ที่มีกำลังซื้อ “ขวัญอ่อนนะยะแก ว่าแต่คืนนี้ไปปล่อยแก่กันมั้ยล่ะ” ปัญชรี บริรักษ์สกุลชัย น้องสาวของเจ้านายและเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่ปีหนึ่งตอนแรกทอรุ้งไม่อยากคบกับลูกเศรษฐีไม่อยากให้ใครมาว่าเธอหัวสูงคบคนมีเงิน แล้วพวกเธอก็ได้มาเป็นบัดดี้กันในวันรับน้องตอนปีหนึ่งทำให้ทั้งสองสนิทกันแต่พอรู้ว่าปัญชรีเป็นลูกคุณหนูมีรถรับส่งมาเรียนทอรุ้งก็ตีตัวออกห่างจนวันหนึ่งได้ทำกิจกรรมร่วมกันอีกปัญชรีก็มาถามเธอตรงๆว่าเป็นอะไรทำไม่ถึงไม่ทักไม่คุยกันเธอก็บอกไปตรงๆว่าอยู่คนละชั้นกันเธอเป็นคนจนส่วนปัญชรีเป็นลูกคนรวยไม่ควรคบกันแต่ปัญชรีตอบว่าคนจนคนรวยก็คนอย่าดูถูกตัวเองทุกคนมีศักดิ์ศรีหากเธอจะคบใครเป็นเพื่อนไม่จำเป็นว่าจะรวยหรือจนทำให้ทอรุ้งยอมคบกับปัญชรีมาจนทุกวันนี้และกลุ่มเธอก็มีปัญชรี วิจิตรา มาลินี ที่คบกันมาตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัยปีแรกส่วน วิจิตรานั้นเรียนมาด้วยกันตั้งแต่เธอย้ายมาอยูกับป้าเพราะบ้านอยู่ในซอยเดียวกันบ้านป้าอยู่ปากซอย บ้านของวิจิตราอยู่เกือบท้ายซอยเพราะซอยนั้นจะมีแต่บ้านข้าราชการ “พอดีรุ้งนัดพี่ทิวไว้แล้วนะสิ ไปด้วยกันมั้ยปัท” หญิงสาวยิ้มให้เพื่อนที่มาช้าไปหากเธอไม่ติดนัดของแฟนหนุ่มก็ไปกับเพื่อนแน่นอน ธงทิว หนุ่มตี๋หน้าตาดีรุ่นพี่ที่จีบเธอมาตั้งแต่ปีหนึ่งจนเธอใจอ่อนตกลงคบเขาเป็นแฟนตอนปีสี่ตอนนี้ก็คบกันมาเกือบสี่ปีแล้ว “ไม่อ่ะ เชิญแกตามสบายเถอะย่ะ ไม่อยากไปเป็น กอขอคอ แกกับพี่ทิว” เพื่อนทุกคนรู้จักธงทิวกันดีว่าชายหนุ่มสุภาพไม่เจ้าชู้รักทอรุ้งจริงหน้าตาก็จัดว่าหล่อฐานะทางบ้านก็พอมีอันจะกินและหน้าที่การงานก็ดี “แกก็พูดเกินไปนะยัยปัทไปเถอะพวกเราไม่ได้กินข้าวด้วยกันนานแล้วนะ” ทุกคนก็มีหน้าที่การงานของตัวเองจึงทำให้เจอกันน้อยลง “แน่ใจนะว่าปัทไม่ได้เป็น กอขอคอ น่ะ” “แน่ใจสิไม่งั้นรุ้งจะชวนแกทำไมล่ะ” “ตกลง เย็นนี้เจอกันนะ ขอไปคุยกับพี่ชายแป้บหนึ่งนะยะคุณผู้ช่วย.” “ค่ะคุณหนูปัท.” สองสาวกระเซ้าเย้าแหย่กันแล้วปัญชรีก็เดินเข้าไปในห้องทำงานของพี่ชาย ทอรุ้งนั่งทำงานจนเย็นก็เหลือบมองนาฬิกาอีกยี่สิบนาทีจะห้าโมงเย็นและเธอจะได้เลิกงานซักทีแต่เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นก่อน “ค่ะพี่ทิว รอรุ้งแป้บหนึ่งนะคะ.” ทอรุ้งคิดว่าแฟนหนุ่มจะมารับจึงบอกให้ธงทิวรอและเร่งเก็บของ “เอ่อ น้องรุ้งครับ คือว่า.” แฟนหนุ่มพูดอึกอักเหมือนจะเกรงใจหรือพูดไม่ออก “มีอะไรหรือเปล่าพี่ทิวพูดมาเถอะค่ะ” หญิงสาวถามแฟนหนุ่มหรือว่าเขาจะติดงานเลยเกรงใจเธอ “คือว่านัดของเราเย็นนี้น่ะครับ พี่ติดงานที่บริษัทไปไม่ได้จริงๆขอโทษน้องรุ้งด้วยนะครับ” “โธ่ นึกว่าเรื่องอะไร พี่ทิวไปทำธุระก่อนเถอะค่ะเอาไว้นัดกันวันหลังนะคะ” ทอรุ้งบอกแฟนหนุ่มที่เขาเกรงใจเธอปกติธงทิวไม่ค่อยผิดนัดเธอและมักจะโทรมาบอกก่อนสงสัยเรื่องด่วนถึงได้บอกกระชั้นชิด “น้องรุ้งไม่โกรธพี่แน่นะครับ เอาไว้คราวหน้าพี่จะไม่ผิดนัดแน่นอนครับ” ธงทิวโล่งใจที่ทอรุ้งเข้าใจที่ไปตามนัดไม่ได้เพราะเขาติดงานจริงๆกว่าเจ้านายบอกก็เย็นแล้วและปฏิเสธไม่ได้ด้วย “แน่ค่ะ เดี๋ยวรุ้งไปกินข้าวกับยัยปัทก็ได้ค่ะ คราวหน้าพี่ทิวก็เลี้ยงรุ้งกับยัยปัทก็แล้วกันค่ะ” ทอรุ้งบอกแฟนหนุ่มที่พูดกับเธออย่างเกรงใจ “ได้ครับ พี่สัญญา ขอโทษนะครับน้องรุ้ง” ธงทิวขอโทษแฟนสาวอีกครั้งและคิดว่าจะแก้ตัวครั้งต่อไป “ค่ะ แค่นี้นะคะ” ทอรุ้งวางสายจากแฟนหนุ่มก็โทรหาปัญชรีเพื่อบอกเพื่อนว่าแฟนหนุ่มไม่ได้ไปกินอาหารเย็นด้วยและชวนไปปล่อยแก่สักหน่อยก็ได้เพราะนานแล้วที่เธอไม่ได้เที่ยวกลางคืนเมื่อนัดกับเพื่อนแล้วก็กลับบ้านก่อนจะชวนเพื่อนอีกสองคนมีวิจิตราที่ว่างส่วนมาลินีติดนัดกับแฟนจึงไม่ได้ไปด้วย บ้านหลังเล็กชานเมืองย่านฝั่งธนที่สมัยก่อนเป็นป่ารกร้างแต่เดี๋ยวนี้เจริญรุ่งเรืองมีหมู่บ้านใหญ่ๆมากมายห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆเกิดขึ้นแต่บ้านของทอรุ้งอยู่ไกลออกไปนิดหน่อยแต่การเดินทางสะดวกเพราะมีรถสองแถววิ่งผ่านหน้าปากซอยแล้วบ้านของเธอก็อยู่ปากซอยจึงไม่ต้องกลัวอันตรายเพราะมีทั้งวินมอเตอร์ไซค์เซเว่นและแม่ค้ามาขายอาหารในตอนเย็นแต่ป้าของเธอขายตอนเช้าคนแถวนั้นจึงรู้จักกันหมด บ้านหลังนี้เป็นสิ่งเดียวที่พ่อแม่ของเธอทิ้งไว้ให้ตามที่ป้าบอกและเก็บเอกสารไว้ให้เธอรวมถึงเงินในบัญชีที่เหลืออยู่ไม่มากแต่ลุงกับป้าก็ไม่เคยคิดจะนำออกมาใช้ “มาแล้วเหรอลูก วันนี้จะกินอะไรดีล่ะ ป้าซื้อ ปลากับซี่โครงหมูมาน่ะ” ป้าร้อย หรือ พวงร้อย ศรีภาค พี่สาวของ อุษา ไพรวัลย์ แม่ของเธอที่แต่งงานกับ วรพจน์ สินสุนทร ลูกเศรษฐีที่ขัดขืนไม่ยอมทำตามคำสั่งของพ่อแม่ที่ต้องการให้แต่งงานกับคนที่คู่ควรแต่พ่อของทอรุ้งยังไปรักใคร่ชอบพอกับสาวบ้านๆที่ไม่มีหัวนอนปลายเท้าอย่างอุษาจึงถูกตัดออกจากกองมรดก วรพจน์ ก็ออกจากบ้านมาอยู่กับอุษา และมีลูกสาวด้วยกันหนึ่งคนคือ ทอรุ้ง ไพรวัลย์ ที่ใช้นามสกุลของแม่รวมทั้งพ่อของเธอด้วยที่เปลี่ยนมาใช้นามสกุลของภรรยาเพราะไม่อยากให้ใครรู้ว่าเขาเป็นลูกเศรษฐีแม้แต่ทอรุ้งก็ไม่รู้ว่าปู่ย่าตายายของเธอเป็นใครเพราะไม่มีใครพูดถึงเธอเกิดมาไม่มีปู่ย่าตายายเหมือนคนอื่นเขาและป้ากับแม่ก็เป็นลูกกำพร้าพ่อแม่ตายไปตั้งแต่เด็กเหมือนกัน ทอรุ้งจึงอยู่ในความอุปการะของป้าร้อยตั้งแต่นั้นมา “ป้าร้อยขา วันนี้รุ้งขอเบี้ยวงานหนึ่งวันนะคะ คือรุ้งนัดกับยัยจ๋าและยัยปัทไปสังสรรค์กันค่ะ” ทอรุ้งนั่งลงข้างป้าที่นั่งหั่นมะเขือและผักเพื่อจะทำอาหารขายในวันพรุ่งนี้ ปกติเลิกงานมาเธอจะช่วยงานป้าทุกวัน “ไม่เป็นไรลูก งั้นพรุ่งนี้ป้าทำซุปซี่โครงหมูให้ไปกินที่ทำงานก็ได้ แล้วกลับดึกมั้ยลูก” พวงร้อยมองหลานสาวแล้วยิ้มอย่างภูมิใจที่เธอเลี้ยงมาทอรุ้งเป็นเด็กดีมาตลอด “คือว่า อาจจะดึกค่ะ ป้าร้อยไม่ต้องเป็นห่วงนะคะหากดึกมากรุ้งจะไปค้างกับยัยปัทค่ะ” ทอรุ้งไม่อยากใหป้าเป็นห่วงหากดึกพวกเธอไปค้างที่บ้านของเพื่อนก็ได้ “ดีแล้วลูก เป็นผู้หญิงกลับดึกๆมันอันตรายอย่าไว้ใจใครง่ายนะลูกๆ” “ค่ะป้า งั้นรุ้งไปอาบน้ำก่อนนะคะเดี๋ยวยัยจ๋าจะคอยค่ะ” “ไปเถอะลูก” พวงร้อยมองตามหลานสาวที่เดินเข้าห้องไปก่อนสามีของเธอจะหิ้วถุงฟักกับมะระเข้ามาวางให้ก่อนจะช่วยปลอกเปลือกฟักคว้านไส้มะระเพื่อทำอาหารขายในวันพรุ่งนี้ “ยัยรุ้งยังไม่เลิกงานอีกเหรอแม่” ลุงบุญหรือ บุญส่ง ศรีภาค สามีของ พวงร้อย ถามหาหลานสาวที่วันนี้ยังไม่เห็นปกติเขาไปซื้อของกลับมาทอรุ้งจะช่วยเมียเขาหั่นผัก “มาแล้ว ว่าจะสังสรรค์กับเพื่อนน่ะ” พวงร้อยตอบสามีที่ช่วยงานเธอทุกวันหลังเลิกงานทั้งสามีและหลานบอกให้เธอหยุดขายแต่เธอขายมาตั้งแต่สาวๆแล้วจะให้อยู่เฉยๆก็อยู่ไม่เป็นจึงขายเหมือนเดิมแต่ลดปริมาณลงขายวันละห้าอย่าง “ถ้ายัยรุ้งแต่งานออกเรือนไปอีกคนก็เหลือเราสองตายายอยู่บ้านล่ะสิ คงจะเหงานะแม่นะ” ลุงเทพพูดกับภรรยา เพราะ ปานประดับ ลูกสาวคนโตแต่งานกับ พตท นาคร พีระศักดิ์ นายตำรวจหนุ่มมีลูกชายหญิงอย่างละคนแล้วต้องย้ายตามไปประจำที่ต่างจังหวัดนานๆถึงจะเจอลูกหลาน ส่วน เรืองเดช ลูกชายคนเล็กก็แต่งงานกับสาวชาวอยุธยา แต่ทำงานในกรุงเทพซื้อบ้านอยู่แถวดอนเมืองเพราะใกล้ที่ทำงานของทั้งคู่มีลูกชายหนึ่งคน “ทำยังไงได้ล่ะพ่อเอ้ย เด็กเขาก็ต้องมีครอบครัวกัน เราก็อยู่กันไปอย่างนี้แหละเดี๋ยวลูกหลานก็มาเยี่ยมเยียนเราเอง” ทั้งลูกสาวลูกชายไม่เคยละเลยพ่อแม่ถึงแม้จะมีครอบครัวก็พาลูกหลานมาเยี่ยมประจำและยังแบ่งเงินมาให้ใช้อีกถึงไม่มากแต่ก็ทำให้สองตายายดีใจเพราะตอนนี้ลุงบุญเกษียณแล้วมีบำนาญให้ใช้ทุกเดือนไหนจะหลานสาวให้อีกทุกเดือนทำให้สองสามีภรรยาภูมิใจที่เลี้ยงลูกหลานได้ดี “ใครว่ารุ้งจะออกเรือนละคะ รุ้งจะเกาะป้ากะลุงกินไปจนแก่เลยค่ะ” ทอรุ้งออกมาทันได้ยินลุงกับป้าคุยกันอย่างเหงาๆก็อดสงสารไม่ได้ “เห้อะ ขอให้จริงเถอะ พ่อทิวเขาเทียวไล้เทียวขื่อทุกเมื่อเชื่อวันอย่างนี้ประเดี๋ยวก็พาผู้ใหญ่มาขอหรอกจ้ะ.” ป้าร้อยแซวหลานสาวที่หน้าแดงระเรื่อ “โอ้ย อีกนานค่ะป้า ตอนนี้รุ้งยังสนุกกับงานอยู่รอสักสามสิบก่อนค่อยแต่งค่ะ” “ถ้าเป็นลุงรอนานขนาดนั้นจะไปจีบสาวใหม่เลยดีกว่า ปล่อยให้ผู้ชายรอนานไม่ดีนะลูก” ลุงบุญลูบศรีษะหลานสาวที่แกรักเหมือนลูกอย่างรักใคร่ไม่เคยปริปากว่าให้หลานเสียใจเพราะสงสารที่ขาดทั้งพ่อทั้งแม่แล้วทอรุ้งก็ไม่ได้มาอยู่กับแกตัวเปล่าหลานสาวก็มีสมบัติของพ่อแม่ติดตัวมาแล้วแกกับเมียก็เก็บไว้ให้อย่างดีไม่เคยเอาของหลานมาใช้และบ้านที่อยู่ก็เป็นบ้านพ่อแม่ของทอรุ้ง “ลุงบุญอ่ะ แต่รุ้งได้ยินมาว่ามีใครก็ไม่รู้เฝ้าจีบสาวเป็นสิบปีเหมือนกันน๊า คริคริๆ” ทอรุ้งแซวลุงเทพที่จีบป้าร้อยเกือบสิบปีกว่าป้าจะใจอ่อน “ฮ่าๆฮ่าๆ ไม่มีหนุ่มคนไหนเหมือนลุงหรอกน่ายัยรุ้ง” ลุงป้าและหลานสาวนั่งคุยกันหยอกเย้ากันอย่างมีความสุข “ติ้งต่อง ติ้งต่องๆ” “มาแล้วๆ ยัยจ๋า” ทอรุ้งเดินไปเปิดประตูบ้านให้เพื่อนรัก “สวัสดีค่ะป้าร้อยลุงบุญ สบายดีหรือเปล่าคะ จ๋าไม่ได้แวะมานานเลยค่ะ” วิจิตรา ยกมือไหว้ลุงป้าของเพื่อนที่เธอมักจะมาขอกินข้าวเย็นบ่อยๆ “สบายดีลูก ไปกันได้แล้วเดี๋ยวจะดึกไป” “ค่ะป้า หากรุ้งกลับดึกยังไงจะโทรบอกนะคะ.” หญิงสาวบอกป้าแล้วเดินออกไปกับเพื่อนขึ้นแท็กซี่ไปตามนัด เพื่อนที่ร้านอาหารกึ่งผับริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่เพื่อนของปัญญาเป็นเจ้าของเพราะบรรยากาศดีอาหารอร่อยกินไปฟังเพลงไปคุยกันไปก็สนุกสำหรับพวกเธอแล้ว เมื่อถึงร้านอาหารก็เจอ ชาติชาย หรือ พี่เล็ก เจ้าของร้านที่กำลังตรวจดูความเรียบร้อยหน้าร้านเมื่อเห็นสองสาวเพื่อนของปัญชรีน้องสาวของปัญญาเพื่อนของเขา “สวัสดีครับ น้องรุ้ง น้องจ๋า วันนี้ลมอะไรหอบมาถึงร้านพี่กันครับ” พี่เล็กหยอกล้อทักทายสองสาว “สวัสดีค่ะพี่เล็ก” “สวัสดีค่ะพี่เล็ก รุ้งนัดยัยปัทไว้ค่ะไม่รู้มาหรือยัง” ทอรุ้งบอกเพื่อนของเจ้านายที่บอกเธอว่าถ้ามากินอาหารร้านของชาติชายให้ใช้ชื่อเขาเป็นบัตรเบ่งแล้วจะได้ส่วนลดแล้วพวกเธอมากินทีไรก็ได้ลดจริงๆ “น่าจะยังมาไม่ถึงนะครับ พี่ยังไม่เห็นรถน้องปัทเลย” ชาติชายพูดจบก็หันไปสั่งลูกน้องแล้วพาสองสาวไปที่โต้ะพิเศษของเขาที่มักจะมีเพื่อนมานั่งดื่มด้วยเป็นประจำทั้งวิวดีบรรยากาศดีเพราะอยู่ชั้นสองเป็นดาดฟ้าโล่งมีหลังคาโปร่งมองเห็นท้องฟ้ามองเห็นแม่น้ำและเสียงไฟของโรงแรมและตึกสูงฝั่งตรงข้ามลมเย็นสบาย “จะสั่งอาหารเครื่องดื่มรอน้องปัทเลยมั้ยครับ” ชาติชายถามสองสาวอย่าใจดีเพราะเขาไม่ได้คิดอะไรกับน้องๆทั้งสองแต่คิดกับน้องสาวเพื่อนมากกว่า “ก็เอาเหมือนเดิมค่ะ พี่เล็ก” ทอรุ้งบอกเจ้าของร้านที่เรียกเด็กมาสั่งและนั่งคุยกับพวกเธอรอน้องสาวของเพื่อนที่เพิ่งมาถึงและพนักงานต้อนรับหน้าร้านพามาส่งถึงโต้ะ “สวัสดีค่ะพี่เล็ก” ปัญชรียิ้มหวานให้เพื่อนพี่ชายและรู้ว่าเขาชอบเธอแต่ชาติชายเจ้าชู้ยังมีสาวๆแวะเวียนมาหาบ่อยๆเพราะไฮโซหนุ่มหล่อยังโสดและร่ำรวยตระกูลผู้ดีเก่าที่ย่อมเป็นที่หมายปองของสาวๆ “สวัสดีครับน้องปัท ไม่เจอกันนานแต่ยังสวยเหมือนเดิมครับ” ชาติชายพูดแล้วมองปัญชรีตาหวานเชื่อม “ยังไงก็สวยสู้สาวๆของพี่เล็กไม่ได้หรอกค่ะ ได้ข่าวว่ารถไฟชนกันที่ร้านไม่ใช่เหรอคะ” ปัทแซวหนุ่มหล่อเนื้อหอมที่เพิ่งเป็นข่าวไปเมื่ออาทิตย์ก่อน “น้องปัทก็พูดเกินไปครับ พี่รักเดียวใจเดียวนะครับ รอมาตั้งนานสาวยังไม่ใจอ่อนเลยครับ” พี่เล็กอุทรเบาๆส่วนมากสาวๆก็มาหาเขาเองและร่วมสนุกกันเพราะเขาไม่คิดจะจริงจังกับใครอยู่แล้วนอกจากสาวสวยตรงหน้า “แกสองคนสั่งอะไรหรือยัง” ปัทหันไปหาเพื่อนเพราะอย่างนี้เธอถึงไม่อยากมาร้านของพี่เล็กแต่ก็อยากมาดูให้เห็นกับตาว่าเขาเป็นยังไงบ้าง พี่เล็กก็ยังไม่เลิกเจ้าชู้แล้วจะให้เธอเอาชีวิตไปฝากกับเขาได้ยังไงหากกลับใจได้ออย่างพี่ชายของเธอก็คงจะดี ชาติชายหน้าจ๋อยเมื่อน้องปัทของเขาไม่สนใจแต่ก็ยอมรับว่าตัวเองยังเลิกเสเพลไม่ได้แล้วเขาจะทำยังไงดีล่ะ เฮ้อ หนุ่มหล่อคิดแล้วก็ถอนหายใจ “สั่งแล้วล่ะเอาเหมือนเดิม แกจะสั่งเพิ่มอีกป่ะ” วิจิตราถามเพื่อนที่ส่ายหน้า “พอแล้วแก ว่าแต่คืนนี้เหล้าหรือไวน์ล่ะ” ปัญชรีเอนตัวไปกระซิบถามเพื่อนรัก “ไวน์ดีมั้ยแก” ทอรุ้งตอบเพื่อนและเป็นคนสั่งไวน์ตามที่เพื่อนรักบอก “งั้นวันนี้พี่เลี้ยงนะครับ เพราะไม่ได้เจอกันนานแล้ว” ชาติชายเอาใจสามสาวและสั่งไวน์ราคาราแพงมาเลี้ยงและพูดคุยจีบปัญชรีจนทอรุ้งกับวิจิตราขำมุขแป้กของเขา สามสาวก็ยังคุยกันอย่างสนุกจนเกือบลืมเวลาที่บอกป้าไว้ก่อนจะโทรหาท่านเพื่อบอกว่าเธอกับวิจิตราพักที่คอนโดของปัญญาก่อนจะคุยกันดื่มกันไปถึงแม้จะขาดเพื่อนรักอีกคนก็ไม่เป็นไรในเมื่อเพื่อนบอกว่าติดงานเอาไว้คราวหน้าค่อยนัดกันใหม่ “นี่ยัยปัทแกไม่สงสารพี่เล็กบ้างเหรอ” เมื่อพี่เล็กเดินออกไปจากห้องทอรุ้งถามเพื่อนรักที่ยกแก้วไวน์ขึ้นดื่ม “แกก็เห็นนี่ยัยรุ้ง พี่เล็กมีข่าวกับสาวๆไม่ว่างเว้นบางวันรถไฟชนกันอีกแล้วอย่างนี้ปัทจะกล้าเสี่ยงเหรอยะ” ปัญชรีบอกเหตุผลให้เพื่อนฟัง “มันก็จริง แต่แกไม่ตกลงคบกับเขานี่นา ผู้ชายนะแกเขาไม่ยอมอดอยากปากแห้งกับปลาในกระป๋องหรอกย่ะ” วิจิตราก็รู้เหมือนที่พูดว่าผู้ชายเจ้าชู้เขาไม่มีทางจะยอมอดอยากเรื่องเซ็กซ์หรอก “แล้วใครจะไปยอมเขาเล่า มาดื่มดีกว่าอย่าพูดเรื่องผู้ชายเลยน่าเบื่อ” ปัญชรีบอกเพื่อนรักทั้งสองแล้วยกแก้วไวน์ขึ้นดื่ม ทั้งสามสาวดื่มกันอย่างสนุกจนมึนๆตึงๆก็โยกตัวตามดนตรีจังหวะร็อคที่ดังมาจากชั้นล่างกันอย่างครึกครื้น
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD