หญิงงามอาภัพ
‘สวรรค์อิจฉาความงาม’
คำกล่าวนี้มีให้พบเห็นทุกยุคสมัย ความหมายที่ซ่อนอยู่ผู้ใดบ้างจะไม่เข้าใจ สวรรค์มอบความงามให้สตรีผู้หนึ่ง กลับอิจฉาที่นางงดงามเกินไป ชะตาชีวิตหญิงงามผู้นั้นถึงได้รันทดน่าเวทนาเหลือจะกล่าว
บ้านเมืองทุกยุคสมัยล้วนมีเรื่องเล่าน่าตื่นตาตื่นใจ อย่างเช่นเรื่องเล่าหญิงงามอาภัพแห่งแคว้นต้าหย่ง ผู้ได้ชื่อว่าเป็นยอดหญิงงามอาภัพตามตำรา คนในตระกูลต้องโทษประหารตายสิ้นกลับเหลือทายาทหญิงคนเดียว เด็กน้อยรอดตายได้เพราะเจ้าเหนือหัวเปลี่ยนพระทัยงดเว้นโทษในเสี้ยวความเป็นตายสุดท้าย น่าเสียดายชาติกำเนิดเด็กหญิงผู้นี้แม้ไม่ต่ำต้อยกลับต้องจำใจต่ำต้อย หลังจากสูญเสียใหญ่หลวงจำต้องย้ายเข้าจวนญาติฝ่ายมารดา อาศัยการเลี้ยงดูในจวนหลังใหม่เติบใหญ่ขึ้นมา ถึงตอนนี้นางกลายเป็นฮองเฮาแห่งแคว้น ยอดทรราชหญิงน่าชังสร้างความเดือดร้อนผลาญชีวิตผู้บริสุทธิ์ล้างความอับอายในอดีต
บันทึกเรื่องนี้น่าขันไม่น้อย!
เด็กหญิงที่เคยต้องโทษเกือบโดนตัดหัว ยังสามารถเติบโตเป็นฮองเฮาจอมทรราชแห่งแคว้น! ช่างเป็นเรื่องที่รู้จักวาดขนนกเติมดิ้นทอง [1] สับสนปนเปเสียจริง
“คุณหนูดื่มยาเถอะเจ้าค่ะ หากไม่รีบดื่มยาจะขมเกินไปนะเจ้าคะถึงตอนนั้นไม่อยากดื่มจำต้องดื่ม”
“ท่านป้าเจียวเคยอ่านตำนานฮองเฮาจอมทรราชหรือไม่ มีอยู่ในรวมเล่มบันทึกประหลาดใต้หล้า วันนี้หรุ่ยชีเพิ่งมอบให้ข้ามา อ่านแล้ววางไม่ลงทีเดียว”
“คุณหนู” สีหน้าบ่าวรับใช้สูงวัยเริ่มดูไม่ดี “เรื่องเล่าเหลวไหลเช่นนี้คุณชายจะต้องหยิบผิดมาให้คุณหนูแน่เจ้าค่ะ อีกไม่นานพวกท่านจะแต่งงานกัน หากคุณหนูอยากอ่านเลือกเป็นพวกคำกลอนสิบยอดกตัญญูหรือไม่ก็กวีหญิงงามดีหรือไม่เจ้าคะ”
“ป้าเจียวจริงจังไปได้ เรื่องเล่าชาวบ้านมีอะไรไม่ดี หรุ่ยชีคงอยากให้ข้าผ่อนคลายอารมณ์ดีเท่านั้น”
“แต่เล่มนี้จะอย่างไรก็ไม่ดี”
สีหน้าท่านป้าเจียวลับหลังรถเข็นคันใหญ่ไม่น่ามอง ถ้วยยาในมือหญิงรับใช้วัยกลางคนสั่นเทาเกือบทำคว่ำ แค่ยาบำรุงถ้วยเดียวเหตุใดเจียวเหนียงทำราวกับเป็นเผือกร้อน
“ท่านป้าส่งถ้วยยามาเถอะ”
“คุณหนู”
“ดูท่านป้าสิ ทำหน้าเหมือนใครมาทวงหนี้ท่าน”
ชั่วขณะนั้นเจียวเหนียงอยากโยนถ้วยยาในมือทิ้งไปให้รู้แล้วรู้รอด เสียดายเพียงอย่างเดียว ตรงที่ชีวิตครอบครัวสกุลเจียวที่เหลือยังรอความหวัง นางไม่อาจโยนเผือกร้อนถ้วยนี้ทิ้งไปได้ เหยาเสวี่ยฉางรับถ้วยยามาดื่มลงท้องก่อนยื่นถ้วยเปล่าคืนให้
“อากาศเย็นแล้วคุณหนูอย่าหักโหมอ่านเรื่องไร้สาระเลยเจ้าค่ะ รีบพักผ่อนมากหน่อยจะดีกว่า”
“อากาศเย็นอะไรกัน ตอนนี้เพิ่งเข้าหน้าฝนเท่านั้นท่านป้าพูดเกินไปแล้ว”
เจียวเหนียงเดินมาเข็นคนบนรถกลับไปยังเตียงนอน “ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้เจ้าค่ะ คุณหนูป่วยคราวนี้เพิ่งจะหายดีอย่าหักโหมมากไปจะดีกว่า”
หญิงงามบนรถเข็น คือตัวอย่างหนึ่งในสตรีรูปงามเกิดมาชะตาอาภัพ ใบหน้ายอดโฉมงามล้ำเลิศ พออยู่กับสตรีขี้โรคทั้งยังหวาดกลัวชอบเก็บตัวแล้วเป็นอย่างไร? สุดท้ายในสายตาผู้อื่นเหยาเสวี่ยฉางกลายเป็นคนไร้ค่า เป็นบุปผาสวรรค์รอวันตาย
แววตาสตรีตัวน้อยฉายแววเจิดจ้าพร้อมกับรอยยิ้ม แน่นอนเจียวเหนียงเข็นรถอยู่ด้านหลังมีหรือจะมองเห็น รวมเล่มบันทึกประหลาดใต้หล้าในมือเหยาเสวี่ยฉางราวกับสั่นไหวได้ ดวงหน้างามล้ำเลิศของเหยาเสวี่ยฉางต่อให้ป่วยเป็นโรคร้ายยังคงแผ่กลิ่นอายงดงามล้ำเลิศอยู่ดี
ว่ากันว่ามารดาสกุลเหยาก่อนให้กำเนิดเหยาเสวี่ยฉางได้สวดอ้อนวอนเทพสวรรค์ คำสวดอ้อนวอนนั้นแค่ขอเพียงบุตรในท้องเกิดมาหน้าตาไม่แย่ ไหนเลยเหยาเสวี่ยฉางไม่เพียงหน้าตาไม่แย่ ยังงามล้ำเลิศหาที่เปรียบไม่ได้ ดวงหน้านี้เกรงว่าควานหาไปอีกร้อยปีก็ไม่อาจมีเหยาเสวี่ยฉางคนที่สองออกมาได้ สวรรค์อิจฉาหญิงงามแล้วอย่างไร สุดท้ายสกุลเหยาโดนโทษประหารทั้งตระกูล ยังเหลือเหยาเสวี่ยฉางยอดโฉมงามล้ำเลิศอยู่มิใช่หรือ
เจียวเหนียงไม่กล้ามองนาน รีบให้คุณหนูขึ้นเตียงนอนจากนั้นถือถ้วยยาว่างเปล่าเดินจากไป น่าเสียดายนางไม่อาจได้เห็นยามรอยยิ้มสดใสเจิดจ้าของเหยาเสวี่ยฉางเลือนหาย ไม่เพียงเลือนหายยังเจือกลิ่นอายเยือกเย็นเหมือนอสรพิษซุ่มเหยื่อ แววตาอบอุ่นอิดโรยมองตามแผ่นหลังเจียวเหนียงจนลับสายตา ยาพิษถ้วยแล้วถ้วยเล่าที่เหยาเสวี่ยฉางดื่มลงท้อง มาปีนี้เริ่มออกอาการอย่างชัดเจน ยิ่งไปกว่านั้นนางไม่แม้แต่จะพยายามแก้พิษแม้แต่เสี้ยวเดียว กลิ่นพิษในถ้วยยาเมื่อครู่ชัดกว่าครั้งไหน เห็นได้ชัดว่าความอดทนของคนสกุลเฉียนเริ่มหมดลงแล้ว
นั่นเป็นเพราะอะไรกัน
ข้อสงสัยนี้เหยาเสวี่ยฉางบังเอิญรู้เข้าเมื่อปีก่อน บัณฑิตเฉียนหรุ่ยชีเป็นถึงเจี้ยหยวน [2] แห่งเมืองหลวง อีกทั้งในการสอบระดับก่อนหน้าเขายังได้ตำแหน่งอั้นโส่วอีกด้วย นอกประตูจวนสกุลเฉียนล้วนร่ำลือเป็นเสียงเดียวกัน หากการสอบเตี้ยนซื่อเฉียนหรุ่ยชีสอบได้จ้วงหยวนอีก คุณสมบัติอันน่าตื่นตาตื่นใจนี้ เขาสมควรได้ครองคู่กับองค์หญิงเสพสุขความรุ่งโรจน์ หาใช่เคียงคู่โฉมงามอาภัพรอวันตายอย่างเหยาเสวี่ยฉาง ไม่น่าเชื่อว่ายศถาบรรดาศักดิ์ที่เฉียนหรุ่ยชีไขว่คว้ามาได้ จะทำให้สายตาคนสกุลเฉียนมองเหยาเสวี่ยฉางเป็นฝุ่นผงขัดเคืองเข้า
“...หืม....ตรงมุมนี้”
กลิ่นหอมไม่คุ้นเคยตรงมุมตำราเจือจางนัก เหยาเสวี่ยฉางก้มลงไปสูดดมให้แน่ใจ เครื่องหอมถานเซียง [3] งั้นหรือ มาจากวังหลวงหรือจวนผู้สูงศักดิ์คนใดกัน?
[1] สำนวน หมายถึงกล่าวอ้างเกินจริง
[2] ตำแหน่งเจี้ยหยวน คืออันดับหนึ่งระดับมณฑล หนึ่งในระดับการสอบเคอจวี่ จัดสอบทั้งหมดสามรอบ อันดับหนึ่งในการสอบระดับภูมิภาค เรียกว่าอั้นโส่ว อันดับหนึ่งการสอบระดับเมืองหลวง หน้าพระที่นั่งเรียกว่าจ้วงหยวน
[3] ถานเซียง หรือจันทน์หอม หนึ่งในส่วนผสมเครื่องหอมชั้นสูงสมัยโบราณ