พี่ชายสามี ก็(เอว)ดีเหมือนกัน ตอนที่ 16 ต้นตอของปัญหา

1480 Words
("แก้ว...แก้ว...") เสียงดังกุกกักจากโทรศัพท์มือถือ ทำให้กานต์แก้วรู้สึกตัว ในวันนี้ เธอก็ยังลืมตาตื่นมาในห้องนอนของตัวเองกับชาลี แต่ทว่ากลับมีร่างสูงของชานนท์ กำลังกอดเธอจากด้านหลัง ดูเหมือนว่าเธอจะอยู่ในท่านี้ ตลอดทั้งคืน... หากแต่ว่า เสียงที่กำลังเรียกเธออยู่ตอนนี้ คือเสียงของสามี ที่ดังแว่วมาจากโทรศัพท์ มือเรียวจึงเอื้อมไปหยิบมาและตอบรับ "ชาลี?" ("อืม...ผมกำลังจะกลับวันนี้ คุณช่วยมารับหน่อยได้ไหม") "เอ๋?...คุณบอกว่าจะไปสองอาทิตย์ไม่ใช่เหรอคะ" เธอเอ่ยถามอย่างประหลาดใจ เพราะตอนที่ชาลีจะเดินทาง เธอยังจำได้เขาพูดจาตัดรอน และแล้งน้ำใจขนาดไหน ("ก็ผมจะกลับแล้ว...ทำไม อยากใช้เวลาอยู่กับผู้ชายคนนั้นมากนักหรือไง? ดูท่าทางคุณพอใจกับลีลาของมันมากเลยนี่นา") พอได้ยินถ้อยคำประชดประชันของเขาแล้ว ใบหน้าหวานก็พลันมุ่นเข้าหากัน ก่อนจะเอ่ยตอบเพียงแผ่วเบา โดยไม่รู้สึกผิด "นี่เป็นความต้องการของคุณนะชาลี และฉันก็แค่ทำตาม" ("พูดมาได้เต็มปากนะกานต์แก้ว ไม่รู้ล่ะ ภายในสิบโมงครึ่งถ้าผมไปถึงสนามบินแล้วไม่เจอคุณ เตรียมตัวโดนฟ้องได้เลย") "ชาลี นี่คุณ..." กานต์แก้วกัดปากตัวเอง เหมือนเพิ่งจะเข้าใจอะไรบางอย่าง ทว่ายังไม่ทันทีที่เธอจะได้โต้ตอบอะไรกลับ ชาลีก็วางสาย ทำให้เธอกำโทรศัพท์ในมือแน่น พลางแสดงสีหน้าเคร่งเครียด "เป็นอะไรไป แก้ว..." เสียงของชานนท์เอ่ยถาม ดูเหมือนว่าเขาจะตื่น ระหว่างที่เธอคุยโทรศัพท์กับชาลี "ชาลีขู่ว่า จะฟ้องแก้ว" เธอกล่าวด้วยเสียงเรียบ ๆ พยายามอย่างยิ่งที่จะไม่พูดด้วยอารมณ์กรุ่นโกรธ ต่อหน้าชานนท์ แม้เขาจะเป็นพี่ชายชาลี และเป็น ผู้ชายคนนั้น ก็ตาม "ฟ้องงั้นเหรอ?" ชานนท์เลิกคิ้วอย่างงุนงง แต่ชั่วครู่หนึ่ง เมื่อมาชั่งใจดูให้ดีแล้ว เขากลับยกยิ้มมุมปาก ก่อนจะกอดร่างเพรียวระหงเอาไว้ แล้วลูบหัวคนตัวเล็กแผ่วเบา "ไม่เอาน่า อย่ากังวลไปเลย ฉันจะหาทางออกเอง" "พี่นนท์...ไม่กลัวโดนชาลีฟ้องเหรอคะ...ถ้าเขาฟ้องพี่ขึ้นมา ทั้งบ้านหลังนี้ ทั้งบริษัท ทุกอย่าง...ก็จะกลายเป็นของเขาเลยนะ" กานต์แก้วเอ่ยอย่างกังวล เธอรู้ตัวดีว่า ความเผลอไผลของตัวเองกำลังจะนำมาซึ่งความเดือดร้อนต่อตัวเองและต่อชานนท์ ทว่า ชานนท์ไม่ได้มีท่าทางหงุดหงิด หรือเป็นกังวล เขายังคงส่งยิ้มให้แก่เธอ พลางลูบไล้แก้มเนียนใสเบา ๆ "ไปอาบน้ำแต่งตัวเถอะ วันนี้เราต้องไปธุระกัน" หลังจากอาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยแล้ว ชานนท์พากานต์แก้วนั่งรถซีดานหรูคันเดิม ออกจากบ้าน แล้วเดินทางไปยังสนามบิน ท่ามกลางความเงียบสงัดระหว่างทาง กานต์แก้วหันไปเอ่ยปากกับชานนท์ที่กำลังขับรถอยู่ด้วยความงุนงง "พี่นนท์คะ ที่จริงแล้ว...อีกตั้งสองชั่วโมงกว่าเครื่องของชาลีจะมาถึง ทำไมพวกเราถึงรีบร้อนออกมากันจังเลยล่ะคะ" ทางด้านชานนท์ แม้จะได้ยินคำถามของเธอ แต่เขาก็ไม่ได้หันมาสบตา เพียงแต่ทอดมองถนนกว้างใหญ่พลางยกยิ้มมุมปาก ราวกับมีเรื่องอะไรน่าสนุกรอคอยอยู่... "ก็เจ้าชาลีเป็นคนบอกว่าให้รีบไปรอไม่ใช่เหรอ?" กานต์แก้วได้ยินคำพูดของพี่ชายสามี ก็พลันถอนหายใจ ก็จริงที่ชาลีเป็นบอกให้รีบออกมารอรับ แต่ตัวเธอเองก็ไม่ใช่ว่าอยากจะเจอหน้าสามีสักเท่าไร โดยเฉพาะตอนที่ชานนท์อยู่ด้วย กานต์แก้วครุ่นคิดถึงเรื่องนี้มานานมากแล้ว... เธอคิดว่า หากการอยู่กับชาลีต่อไป แล้วทำให้ชีวิตของเธอต้องพบเจอกับความทุกข์ตรม เธอก็จะขอจากไปแต่โดยดี เพื่อให้ชาลีได้ใช้ชีวิตของเขาอย่างเต็มที่ ไม่ต้องมีเธอเป็นบ่วงผูกมัด แต่สุดท้ายกลายเป็นเธอทำผิดต่อเขาก่อนจะทันได้จากไป ใครจะรู้ว่า จู่ ๆ ชาลีก็ร้องขอ ให้เธอมีอะไรกับผู้ชายคนอื่น แต่เอาเรื่องนั้นมาเป็นข้อต่อรอง ขู่ว่าจะฟ้องหย่าเรียกค่าเสียหาย เพื่อให้เธอยอมทำตามคำสั่งเขามากกว่าเดิม ทั้งที่แต่ไหนแต่ไร เธอก็ยอมให้เขามาตลอดอยู่แล้ว คิดไม่ถึงเลยจริง ๆ ชาลีจะร้ายกาจได้ถึงขนาดนี้... "ใช่ค่ะ...เขาบอกให้รีบออกมา..." เธอตอบกลับเขาเรียบ ๆ ไม่รู้จะแสดงอารมณ์อะไรออกมา "แล้วเรื่องที่คุยกันเมื่อคืน...ว่าเธอจะหย่ากับเขาล่ะ?" ชานนท์ยังคงเอ่ยถามต่อด้วยท่าทางไม่ทุกข์ร้อน "เดาจากที่...ชาลีขู่ว่าจะฟ้อง แก้วก็คิดไม่ออกเหมือนกันว่าเขาต้องการอะไรกันแน่...แต่ที่รู้ ๆ เขาคงไม่ได้หวังดีกับแก้วแล้ว" กานต์แก้วตอบอย่างหดหู่ใจ คล้ายว่าชีวิตเธอกำลังจะพัง แต่แล้ว ผู้ชายคนที่กำลังขับรถอยู่ ก็พลันเอื้อมมือมากุมมือของเธอเอาไว้ พลางเหลียวมาส่งยิ้มเล็กน้อย เพื่อให้กำลังใจ "อย่าห่วงเลย เรามีทางออก..." ได้ยินกำลังใจจากชานนท์แล้ว ดวงตาเศร้าของกานต์แก้วก็พอจะมีความหวังขึ้นมาบ้าง ทว่าก็ไม่มากเท่าไร เพราะเธอเองก็ยังมองหาทางออกให้เรื่องนี้ไม่เจอเหมือนกัน สุดท้าย ก็ได้แต่นั่งเงียบอยู่แบบนั้น ไปจนถึงสนามบิน ยิ่งใกล้ถึงชาลีมากเท่าไร หัวใจเธอยิ่งเต้นระส่ำมากเท่านั้น ในที่สุด พวกเขาทั้งสองคนก็มาถึงที่หมายก่อนกำหนดเวลาเกือบสองชั่วโมง ชานนท์จึงชักชวนให้กานต์แก้วเข้าไปด้านใน "กาแฟมั้ย?" เขาเอ่ยถามน้องสะใภ้พร้อมรอยยิ้ม กานต์แก้วปรายตามองพี่ชายสามีเล็กน้อย ก่อนจะส่ายหน้า "ไม่เป็นไรค่ะ แค่นี้ก็นอนไม่หลับอยู่แล้ว..." เธอเอ่ยตอบเสียงอ่อน ดวงตาเศร้าหมองกว่าปกติอยู่มาก ทั้งที่ในทุก ๆ วัน เธอจะเป็นความสดใสของบ้าน... ซึ่งชานนท์ก็พอจะเข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น จึงไม่ได้เซ้าซี้ อะไรให้มากความ ทำได้เพียงแค่จูงมือของเธอมานั่งรอที่เก้าอี้ หลังจากต่างคนต่างนิ่งเงียบอยู่สักพัก ชานนท์ก็เอ่ยอีกครั้ง "แล้ว...ถ้าเจ้าชาลียอมหย่าจริง ๆ เธอจะทำยังไงต่อ" เขาถามเธอด้วยเสียงเรียบ ๆ เหมือนไม่ได้อยากรู้อยากเห็นอะไรสักเท่าไรนัก ซึ่งมันก็ถูกต้องแล้วที่เขาจะแค่ถามเฉย ๆ การเข้าหาเธอ มันได้ไม่คุ้มเสียหรอก กานต์แก้วเม้มปากเล็กน้อย ก่อนจะถอนหายใจออกมาเบา ๆ อย่างคนหมดอาลัย ไม่รู้จะเอายังไงกับชีวิตของตัวเองต่อเหมือนกัน "คงจะหาบ้านเช่าเล็ก ๆ สักหลัง แล้วหางานทำแหละค่ะ" เธอตอบอย่างไม่คิดมาก หรือไม่ ก็คิดมาเป็นอย่างดีแล้ว ว่าชีวิตของเธอคงจะทำได้เท่านี้... พอได้ยินคำตอบ ชานนท์ก็พยักหน้าอีกครั้ง และแล้ว ในช่วงเวลาที่ทั้งสองกำลังนั่งพูดคุยอะไรกันอยู่ พลันสายตาคมของชานนท์ก็เหลือบไปเห็นร่างสูงของใครบางคนที่คุ้นเคย จึงเอื้อมมือไปสะกิดแขนของน้องสะใภ้ให้หันมอง เมื่อกานต์แก้วเหลียวหลัง ก็พลันเห็นว่าชาลีมาถึงแล้ว ดูเหมือนว่าจะมาถึงก่อนเวลาเกือบชั่วโมงเลยด้วย "ชาลี..." เธอเอ่ยชื่อของสามีออกมาแผ่วเบา แม้ว่าจะไม่ได้อยากเจอเขาเท่าไรนัก แต่เธอก็มารับเขาแล้ว จะให้นั่งทำหน้าเศร้าอยู่แบบนี้ ก็รังแต่จะถูกเขาโกรธเคืองเปล่า ๆ เธอจึงขยับตัวลุกขึ้นจากเก้าอี้ แล้วทำท่าจะเดินตรงไปหาชายคนนั้น ถ้าหากว่าไม่บังเอิญเห็นอะไรบางอย่างเข้าเสียก่อน "เดี๋ยวนะ...นั่นมัน..." ข้างกายของชาลี สามีเธอ มีหญิงสาวท้องแก่คนหนึ่ง กำลังเดินข้างขนาบ โดยที่มือของคนทั้งสองกำลังกอบกุมกันไว้แน่น กานต์แก้วถึงกับต้องสะบัดศีรษะ และจ้องมองให้แน่ใจ สุดท้าย กลับปรากฏว่าภาพนั้น เป็นของจริง ชาลี สามีที่ถูกต้องตามกฏหมายของเธอ กำลังโอบประคองหญิงท้องแก่คนนั้น ท่าทางไม่ต่างจากสามีดูแลภรรยาตั้งครรภ์ "พี่นนท์...นี่มันหมายความว่ายังไงคะ..."
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD