ลีออน & ชีต้า 1 ล็อกเป้าหมาย
ขอแนะนำตัวก่อนเนาะ เราชื่อชีต้า อายุ 21 ปี เป็นนักศึกษาฝึกงานที่บริษัทแห่งหนึ่ง สูง 168 น้ำหนัก 45 เป็นคนขาวเพราะกินอาหารเสริม ชอบดูแลตัวเอง ถึงแม้เงินในกระเป๋าจะไม่เอื้ออำนวยก็ตาม
หน้าสวยจิ้มลิ้ม (ชมตัวเองว่ะ) ไม่ศัลยกรรม ฉีดแค่โบท็อกซ์ ฟิลเลอร์ แค่นั้น สัดส่วน 36 22 34 โสดไม่ซิง มีคนคุย คุยเพื่อคบเหรอ...ไม่ค่ะ คุยเพื่อจะหลอกฟัน ฮ่าๆ (อันนี้หยอก)
คนคุยชื่อพี่กาย อายุ 28 เขาเป็นตำรวจกองปราบ ว่ากันว่าคนเป็นตำรวจจะเจ้าชู้มาก แต่ no จ้ะ กับพี่กายอีนี้คุยมาจะเดือน ขาอ่อนก็ยังไม่เห็นเลย ได้ยากแบบนี้มันเหมือนท้าทายความสามารถของนังชีต้ามาก และพี่กายนี้แหละที่เป็นสาเหตุของเรื่องราวความแซ่บที่จะเกิดขึ้นก่อนหน้า
ย้อนกลับไปเหตุการณ์ก่อนหน้า...
@ผับ AAA
เจ้าเชื่อเรื่องเงินบ่มีแต่ชวนกันตี้ทุกแลงบ่ ม้วนกรุป ฮ่าๆ ทุกๆ สุดสัปดาห์ แก๊งเราจะชวนกันออกมาดื่ม มาชมผู้กันค่ะ พูดว่าแก๊งเหมือนมีเพื่อนเยอะเนอะ แต่จริงๆ แล้ว...มีแค่เรา พลอย แพม เพื่อนที่สนิทกันจริงๆ มีแค่นี้แหละ นอกนั้นก็เพื่อนกินเพื่อนเล่นไป (แต่ไม่เล่นเพื่อนนะจ๊ะ)
มาถึงผับกันด้วยชุดนุ่งน้อยห่มน้อย โกยนมกันตั้งแต่ตาตุ่ม แต่ยังคงคอนเซปต์สวยหรูดูแพงเป็นผู้หญิงมีค่า ค่าน้ำ ค่าไฟ ฮ่าๆ มาผับทั้งทีชุดแม่ชีก็ไม่ได้
เข้ามาข้างในเราก็มุ่งเดินไปที่โต๊ะกันเลย ยัยพลอยนางโทรจองโต๊ะไว้แล้ว จองแม่งกลางผับไปเลยจ้า มันบอกกลางผับนี่แหละเหมาะสุด มองเห็นผู้ได้ทั่วสามร้อยหกสิบองศา เออ ฉลาดปะล่ะ (ยกนิ้วให้มันเลยเรื่องพวกนี้)
ช่วงเวลานี้คนยังน้อยๆ ก็นะ พวกเราเล่นล่อพากันมาซะหัวค่ำ ทำอย่างกับพวกเห่อไม่เคยมาดื่มมาดริงก์ แต่ความจริงคือมากันทุกอาทิตย์
มาถึง เพลงช่วงผับเปิดใหม่ๆ ก็ชิลๆ โยกกันเบาๆ พอประมาณ แต่สายตาก็กวาดมองหาผู้ หาเป้าหมายไปก่อน สักพักคนก็เริ่มทยอยมา พวกเราก็กรึ่มๆ ได้ที่กันละ
"แก สามนาฬิกา!" นางพลอยมันสะกิดแขน หยิกๆ เลย สงสัยเจอผู้ถูกใจ เราก็เออมองตามสายตามันไป พอหันไปมองเท่านั้นแหละ
"เชี่ย! มาคุมร้านเหรอวะ?" เจอคนที่กำลังคุยกันอยู่จ้า แต่คุยสำหรับนังชีต้าคือคุยแบบไม่เอามาคบนะคะ คุยสำหรับหวังหลอกกินเขาค่ะ เพราะนางเล่นตัว กินยากมาก ก็เลยต้องคุยๆ ตามน้ำไปก่อน ได้เมื่อไหร่ฉันทิ้งแน่
"เอาไง แกกลับปะ" แพมหันมาถามเราที่กำลังก้มหน้าก้มตาหลบอยู่
ไม่ใช่จะกลัวอะไรหรอกนะ แต่ถ้ายังอยากกินนางอยู่ก็ต้องซ่อน ก็ต้องหลบไง
เพราะภาพลักษณ์ที่สร้างไว้กับนางคือคนใสๆ เรียบร้อย ชอบเข้าวัดทำบุญ แต่ถ้าท้ายที่สุดแล้วนางเห็น ก็ต้องสรรหาคำมาแก้ตัวไปอีกชุดใหญ่
"ไม่ มี ทาง ฉันว่า...หามุมมืดๆ นั่งดีกว่า" สามคำแรกเน้นชัด เสียงดังระดับสตูดิโอ ก่อนจะมองหามุมลับๆ นั่ง
"มุมนั้นฉันว่าโอสุด ปะ ย้ายโต๊ะ" พลอยชี้ไปที่มุมลับมืดๆ มุมหนึ่ง ซึ่งใช้ได้เลยแหละ
พอถึงโต๊ะ มันก็...เออ มืดจริง เป็นมุมแบบส่วนตัว แต่เสียงเพลงเบาไปหน่อย จะเต้นคงเต้นไม่มัน และถ้าพูดอะไรไปนี่ได้ยินชัดทุกคำ ไม่ต้องตะโกนใส่กันเลย
เราก็เลือกนั่งหันหน้าเข้ากำแพง หันหลังให้แสงสีเสียงไป มาครั้งนี้แม่งไม่คุ้มเลย นี่ขนาดยังไม่ได้มีแฟนมีผัวนะ ยังหลบซ่อนขนาดนี้
บอกเลย ชาตินี้นังชีต้าจะไม่มีผัวค่ะ ลำบาก ไม่อยากให้ใครมาเบียดเบียนความสุข
นั่งดื่มเซ็งๆ มาได้สักพัก สายตาก็ดันไปสะดุดเข้ากับหนุ่มหล่อโต๊ะข้างๆ พอเห็นว่าเขามองเราอยู่ก่อนแล้ว เลือดในกายก็สูบฉีดแล่นพล่านไปทั่วตัว จากที่กำลังเบื่อๆ จิตใจห่อเหี่ยวเมื่อกี้ มันฟูฟ่องมีชีวิตชีวาขึ้นมาทันที
ใบหน้าหล่อนิ่ง เรียบแต่แอบร้าย ส่งสายตาคมมองมาแบบไม่ละสายตาแม้แต่นิด ภายในก็ฉายแววดุดันแต่แฝงความเจ้าเล่ห์
เห็นเขามองมา นังชีต้าก็ยิ้มอ่อยทันที ก่อนจะวางแก้วในมือ ส่งสายตายั่วตามจริตหญิง แต่ยังคงเล่นเชิงอยู่ ไม่อ่อยเกินงาม
ในทุกเรื่องแย่ยังมีเรื่องดีแฝงอยู่เสมอ คืนนี้นังชีต้าต้องได้เป้าหมายใหม่
"ว่าแต่...เป็นเดือนแล้วนะแกยังไม่ได้กินเขาอีกเหรอ?" เสียงนางแพมดังขึ้น ขัดจังหวะการส่งสายตาอ่อยผู้โต๊ะข้างๆ
และที่น่าหงุดหงิดใจไปมากกว่านั้น
เมื่อเราหลุดโฟกัสจากกัน เขาก็เรียกพนักงานมาเช็กบิลและลุกออกไป โดยมีสายตานังชีต้ามองตามแผ่นหลังอันน่ากอดของเขาไปอย่างน่าเสียดาย
อดแล้ว ไปแล้ว...เป้าหมายคนใหม่ของนังชีต้า