ความเดิม- "อือ../เชิญทุกคนเลยนะครับ" กานต์บุรุษรับคำคนสนิทและเอ่ยเชิญแขกในงานมานั่งถวายด้วยกัน
………………………………
หลังจากเสร็จพิธีทางสงฆ์แล้วกานต์ธิดาและพี่ชายกลับมาที่บ้านเพื่อมาทำอะไรกินกันตามประสาโดยมีอัญญารินทร์และคุณอาทั้งสองของเธอตามมาด้วย แต่ที่แปลกไปกว่านั้นคือชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งหน้าตาดีก็ตามกลับมาด้วยกับพี่ชายของเธอเช่นกัน กานต์ธิดาได้แต่เก็บความสงสัยนี้ไว้ในใจ
ด้านเปรมมนัสรู้ทันทีว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อแต่นี้ไป ไม่ว่าผลจะเป็นเช่นไรเขาก็เลือกที่จะยืนเคียงข้างคนตัวบางเสมอ เขามั่นใจ
ทั้งหมดได้นั่งล้อมวงทางอาหารด้วยกันอย่างเอร็ดอร่อย ส่วนสองสาวแยกวงมานั่งที่ห้องนั่งเล่นกินไปดูซีรีส์กันไปตามประสาสาว ๆ
ตัดมาที่โต๊ะอาหาร
"พวกคุณพร้อมจะเปิดตัวกันแล้วหรือครับ" ปกรณ์เปิดประเด็นอย่างคนรักเพื่อน ส่วนเปรมมนัสเลิกคิ้วสูงเป็นเชิงถามอีกคน
"ก็ไม่ได้ปิดบังอะไรนี่ครับ เพียงแต่ทำความคุ้นเคยไปเรื่อย ๆ ส่วนน้องเองก็ดูไม่มีปฏิกิริยาต่อต้านนายกายแต่อย่างใด ผมคิดว่าน้องเข้าใจครับ" กานต์บุรุษพูดจากมุมมองของตัวเอง
"งั้นจะรออะไรละครับไม่ไปบอกเลยล่ะ" เปรมมนัสกล่าวยิ้ม ๆ
"พร้อมมั๊ยกาย นายยอมรับผลมันได้มั๊ย ถ้ามันจะจบหรือไปต่อก็ขึ้นอยู่กับคนที่เป็นเจ้าของวันเกิดวันนี้แล้วนะ" กานต์บุรุษเอ่ยเสียงขรึม
"เราพร้อมตั้งนานแล้วเอ" กวินเอ่ยอย่างหนักแน่น
"งั้นปะ" กานต์บุรุษยื่นมือไปหาคนรักมุมปากยกยิ้ม
จากนั้นสองหนุ่มก็เดินจูงมือพากันไปหาคนที่เพิ่งพูดถึงในห้องนั่งเล่นทันที
ตัดมาที่ห้องนั่งเล่นซึ่งเป็นห้องที่มีประตูเลื่อนบานใสและม่านมู่ลี่สีสวยพลางตาไว้อีกชั้นหนึ่ง กานต์บุรุษและกายหรือกวินเดินเคียงคู่กันเข้าไปหากานต์ธิดาที่กำลังดูซีรีส์กับเพื่อนสาวอย่างเมามัน
"น้องบีพี่ขอคุยอะไรด้วยหน่อยซิ" กานต์บุรุษเอ่ยยิ้ม ๆ แล้วเดินนำหน้าน้องสาวไปที่สวนหย่อมหน้าบ้าน
ด้านกานต์บุรุษเมื่อเห็นว่าน้องสาวเดินตามมาแล้วจึงเอ่ยขึ้น
"น้องบีนี่พี่กายหรือกวิน ที่พี่อยากแนะนำให้รู้จักอย่างเป็นทางการ รู้จักกันไว้ซิ"
"บีเคยเห็นพี่เค้าแล้วที่ที่ทำงานของพี่เอค่ะ เพียงแต่ไม่รู้ว่าเป็นใครชื่ออะไรเกี่ยวข้องอะไรกับพี่เอเท่านั้นเอง"
"เหรอ ถ้าพี่จะบอกว่าพี่กายคือคนที่พี่รักน้องบีจะว่ายังไงล่ะ" กานต์บุรุษเอ่ยอย่างลองหยั่งเชิงน้องสาวดู
"ก็บอกสักทีซิคะ น้องบีรอฟังอยู่"
"พี่กายคือคนที่พี่รักครับ" กานต์บุรุษเอ่ยอย่างหนักแน่น
"แล้วพี่กายล่ะคะรักพี่ชายของหนูหรือเปล่า" กานต์ธิดาถามกลับอีกคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ พี่ชายบ้าง
ด้านชายหนุ่มที่ยืนนิ่งฟังอยู่นานถึงกับสะดุ้งเมื่อได้ยินเด็กสาวเรียกชื่อตน
"เอ่อ..รักครับ รักมาก แล้วก็รอวันนี้มานานครับ"
"น้องบีดีใจด้วยนะคะ ความรักเป็นสิ่งสวยงามถ้าจริงใจต่อกันไม่ว่าจะอยู่ในสถานะไหนมันก็ยังสวยงามเสมอ"
"ขอบใจมากน้องบี ขอบใจที่ช่วยปลดแอกให้พี่ ขอบใจมากน้องรัก"
"หนูก็รักพี่เอค่ะ พี่เอคือตัวแทนของพ่อแม่นะคะ หนูโตแล้ว ควรจะดูแลพี่เอกลับบ้าง พี่เอเองก็เริ่มแก่แล้ว 35 ปีแล้ว"
"หยาบคาย ยัยเด็กนี่ ใครเค้าให้พูดถึงอายุกัน ไม่ดี ๆ ไม่พูดค่ะ" กานต์บุรุษแหวใส่อย่างลืมเก๊กแมน
ฮ่า..ๆ……(เสียงหัวเราะของสองหนุ่มกับหนึ่งสาวอย่างสบายอารมณ์ที่ดังเข้าไปในบ้านทำให้แขกที่นั่งรอฟังสถานการณ์ถึงกับพรูลมออกจากปากอย่างโล่งอก)
ตัดมาที่ปกรณ์
"ฉั๊นมีไวน์กับแชมเปญติดอยู่ในรถอย่างละหนึ่งขวดนะ สักหน่อยมั๊ย" ปกรณ์เอ่ยยิ้ม ๆ แล้วหันไปสบตาเพื่อนรักอย่างรู้กัน
"ไม่กลัวโดยเป่าปากเหรอ ต้องขับรถพาน้องเอ๋ยกลับบ้านนะ"
"ก็นอนนี่เลยเป็นไง ขอเสื้อผ้านายเอใส่สักคืน"
"ว่าไงว่าตามกันครับท่านผู้บริหาร คฤหาสน์หรู ๆ มีให้นอนไม่นอน ชอบนอนกระท่อม พิลึกดีแท้"
"อย่ามาทำเป็นพูดดี เมื่อก่อนนายก็นอนบ้านน้องเอ๋ยบ่อยไม่ใช่เหรอ มันก็พอ ๆ กับที่นี่นะแหละ อย่ามาทำเป็นพูดดีไปครับเดี๋ยวเถอะมึง กุไม่ยกหลานสาวให้เลย"
"โอ…หยอก ๆ ครับคุณอา ไม่เกรี้ยวกราดซิคร้าบ…"
หลังจากพี่น้องปรับความเข้าใจกันเรื่องดี ๆ ก็ตามมา
"เชิญที่โต๊ะอาหารนะครับ พอดีผมมีไวน์ กับเชมเปญติดรถมาด้วยอยากให้ลองครับ" ปกรณ์ที่เดินออกมาจากในครัวเอ่ยกับคู่รักที่เพิ่งเปิดตัวกับคนในครอบครัวยิ้ม ๆ อย่างเป็นมิตร
"ได้ครับ ขอบคุณครับคุณกร"
"เฮียกรครับ เราอายุน้อยกว่าเฮียนะ ถึงจะเป็นพี่ชายของน้องบีก็เถอะ"
"ได้เลยครับเฮียกร/ปะกายเข้าบ้าน ดื่มสักหน่อยคงไม่เป็นไรมั๊ง ขับรถไม่ได้ก็นอนนี่"
"ได้เลยครับ งั้นเดี๋ยวเราทำกับแกล้มให้ แล้วสาว ๆ ล่ะ ดื่มได้มั๊ย"
"สาว ๆ ห้ามดื่มครับ โดยเฉพาะน้องบีควรหลีกเลี่ยงอาหารหมักดองและรวมถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ด้วยเพราะมันใช้กรรมวิธีคล้าย ๆ กัน" เป็นเปรมมนัสที่เอ่ยขึ้นหลังจากเดินมาสมทบและมาได้ยินพอดี
"ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมทำอาหารจำพวกขบเคี้ยวหรือหาผลไม้ให้น้องทานก็ได้" กวินเอ่ยยิ้ม ๆ
"ขอบคุณนะกายที่เมตตายัยบีทั้ง ๆ ที่…."
"นายรักใครเราก็รักด้วย นายห่วงใครเราก็ห่วงด้วย ไม่งั้นเค้าจะเรียกว่าครอบครัวเดียวกันได้ยังไงล่ะ" กวินเอ่ยยิ้ม ๆ แล้วเดินเข้าไปในครัวอย่างสบายอารมณ์ ทำเอากานต์บุรุษได้แต่ยืนกลั้นก้อนสะอื้นเงยหน้ามองฝ้าเพดานไปพักใหญ่ แล้วเดินไปสมทบคนในครัวบ้าง