รู้สึกตัวตื่นเพราะปวดฉี่ อั้นจะไม่ไหวแล้ว ฝันว่าได้ฉี่แล้วด้วย ดีหน่อยที่รู้สึกตัวตื่น ลืมตาขึ้นสิ่งที่เห็นคือ มีคนนอนอยู่ข้าง ๆ แล้วนี่มากับธัญญ่าได้ยังไง เมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นนะ เท่าที่จำได้ ฉันเฟลที่อินดี้ไปรับผู้หญิงคนอื่น ก็เลยดื่มไม่ยั้ง จากนั้นก็จำอะไรไม่ได้เลย
นี่งอแงใส่ธัญญ่าไปเท่าไรนะ แล้วรบกวนปันด้วยหรือเปล่าเนี่ย
ละนอนอยู่บนเตียงเขาเลย รบกวนแน่ ๆ
“ญ่า ไอ้ญ่า” เขย่าแขนธัญญ่ารัว ๆ เรียกให้เพื่อนตื่นเพื่อมาถามไถ่
เมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทำไมฉันถึงจำอะไรไม่ได้เลย
“อือ อะไรของมึงมิว กูยังง่วงอยู่เลย” ธัญญ่าดึงผ้าขึ้นมาห่ม
“ง่วงไม่ได้ นี่ผัวมึงไปไหน กูมารบกวนมึงอีกแล้ว” ฉันดึงออกพร้อมคะยั้นคะยอไม่เลิก วันนี้ต้องรู้เรื่องที่เกิดขึ้น ฉันไม่อยากให้เพื่อนกับผัวมันทะเลาะกัน
“ไม่ได้รบกวนอะไร เมื่อคืนมึงแค่ชวนกูเมา แล้วกูก็เมามาก กูง่วงมิว กูนอนต่อก่อนนะ”
“แล้วปันอะ”
“มึงลืมเหรอ ปันกลับบ้าน เมื่อคืนเราก็คุยกันรู้เรื่องแล้วนะ”
“กูจำอะไรไม่ได้เลยมึง”
“อืม กูรู้”
“มึงรู้อะไรญ่า ทำไมกูไม่รู้อะไรเลย”
“เฮ้อ...” ธัญญ่าถอนหายใจยาว ๆ โผล่หน้าออกมาจากผ้าห่ม ลุกขึ้นนั่ง มองหน้าฉันด้วยท่าทางสะลึมสะลือ ใบหน้าสวยกำลังส่งยิ้มเอือมระอาที่ฉันซักไซ้ไม่เลิก จนธัญญ่าต้องเป็นฝ่ายยอม “มาค่ะเพื่อน มึงอยากรู้อะไรถามมาเลย กูจะตอบให้มึงได้รู้ จากนั้นเราจะได้นอนกันเนอะ”
“กูขอไปฉี่ก่อนได้ไหมอ่า”
“เชิญค่ะ”
“มึงอย่าเพิ่งหลับนะ”
“อือ กูจะไม่หลับ จะรอมึง”
ยิ้มให้เพื่อนแล้วก็รีบลุกมาเข้าห้องน้ำ จากนั้นก็ออกมาหยิบน้ำเปล่าสองขวดเพราะรู้สึกคอแห้ง หยิบมาเผื่อธัญญ่าด้วย
สิบนาทีต่อมาฉันก็ได้รู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นจากการบอกเล่าของธัญญ่า
“สรุปแล้วไอ้อินมันมีอะไรกับผู้หญิงที่มันไปรับใช่ไหม” หัวใจดวงน้อยเริ่มสั่นอีกแล้วสิ ทำไมอินดี้ถึงได้ทำแบบนั้นนะ ไหนว่าจะมีแค่ฉันคนเดียว
“กูไม่รู้ แต่เห็นในกลุ่มมันแซวกันยับเลย”
“อินมันตอบอะไรไหม”
“มึงก็รู้ว่ามันไม่เคยสนใจจะตอบอะไรอยู่แล้ว”
“อือ” เพราะไม่พูดนั่นแหละเพื่อนถึงได้พากันเข้าใจไปแบบนั้น ฉันเองก็ด้วย แล้วก้ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามันเป็นเรื่องจริง
“คราวนี้เราสองคนนอนต่อกันได้แล้วเนอะ”
“อือ มึงนอนเลย เดี๋ยวกูกลับห้องก่อน”
“หือ มึงจะกลับทำไม”
“ต้องกลับ ไม่กลับไปที่นั่นกูจะไปอยู่ที่ไหน บ้านกูก็เป็นแบบนั้น”
“อยู่ที่นี่กับกูไง”
“เกรงใจมึง เกรงใจปัน”
“ไม่หรอกน่า...”
“มึง มึงมีแฟนแล้ว กูจะตัวติดกับมึงตลอดไม่ได้ เกรงใจแฟนมึง”
“มึงเป็นแบบนี้ตลอดเลย”
“เหอะน่า กูกับมันก็เป็นแบบนี้มานานแล้ว ไม่ได้มีอะไรแปลกไปนี่”
“ชอบทำร้ายตัวเองตลอดเลย”
“เออ เมื่อคืนขอบใจมากนะที่ลากกูกลับมาด้วย”
“ต้องลากกลับสิ ขนาดลากกลับมาไอ้รบมันยังฉวยโอกาสตอนมึงเมาหอมแก้มมึงเลย”
“ฮะ จริงเหรอ แล้วกูก็ยอมเหรอ”
“มึงไม่ได้ยอม แต่มึงเมา สมองช้า ตามมันไม่ทัน”
“...”
“มันยังจะให้มึงหอมคืนด้วย”
“กูคงไม่ได้ทำใช่ไหม”
“เรียกว่า เกือบ มึงเกือบค่ะเพื่อน”
“ทำไมเมาแล้วไม่รู้เรื่องแบบนั้นล่ะ”
“ก็เมาหนักจนไม่มีสติไง”
“ต่อไปจะเป็นแบบนี้ไม่ได้ละ ดีนะที่มึงอยู่ด้วย”
“ค่ะ กูไม่ไหวแล้ว กูขอนอนนะ”
“อือ มึงนอนเลย กูกลับก่อน”
“เดินทางดี ๆ อย่าไปกัดใครระหว่างทางอะ ถึงแล้วทักบอกด้วย”
“โอเค”
ธัญญ่าทิ้งตัวลงนอน ฉันยิ้มให้เพื่อนจากนั้นก็ลุกมาหยิบกระเป๋า เดินทางกลับคอนโด เมื่อคืนนี้ธัญญ่าบอกว่าพอกลับมาถึงห้องเราสองคนก็เมากันต่อ แล้วก็เหมือนจะชวนกันไปอาบน้ำ เล่นน้ำในห้องน้ำ จุดที่ทำให้ไปถึงห้องน้ำก็เพราะฉันกินจนอ้วก เลอะไปหมด ธัญญ่าจึงหิ้วฉันเข้าห้องน้ำ เราเล่นน้ำกัน ฉันจึงใส่เสื้อผ้าธัญญ่า
ณ ตอนนี้ที่เดินทางกลับห้องก็ใส่ชุดธัญญ่า ส่วนชุดฉันชุดนั้น มันอยู่ในถังขยะ ธัญญ่าบอกว่าฉันเป็นคนโยนทิ้งเองกับมือ
ต้องเมาขนาดไหนถึงได้หลุดขนาดนั้น
ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงฉันก็เดินทางมาถึงคอนโดของอินดี้ สถานที่ไม่ได้ไกลกัน แต่รถติดมาก กว่ารถที่เรียกจะมารับ กว่าจะออกจากซอย ดีที่วันนี้เป็นวันเสาร์ ไม่มีเรียน ไม่งั้นคงต้องขาดเรียนเพราะกว่าฉันจะรู้สึกตัวตื่นก็เกือบเที่ยง
ระหว่างรอลิฟต์ฉันกดเข้าไลน์ ไลน์กลุ่มในเครื่องถูกกดอ่าน ดีที่อ่านไม่ตอบ นี่ยังลุ้นอยู่เลยว่าได้พิมพ์ไปด่าอินดี้ในกลุ่มหรือเปล่า
ถ้าเป็นอย่างนั้นแย่แน่
ในกลุ่มกดอ่านไม่ตอบ แต่ข้อความอินดี้เหมือนว่าฉันจะไม่ได้กดอ่าน มันขึ้นข้อความที่ยังไม่ได้อ่าน 99+ นี่ฉันได้ไปสร้างวีรกรรมอะไรไว้หรือเปล่านะ
คนเมาอย่างฉันไม่ใช่ว่าไปสารภาพรักเขาแล้วอะ ถ้าเกิดขึ้นห้องเปิดประตูเข้าไปไม่ใช่ว่าอินดี้ขนข้าวของฉันออกมารอแล้วอะ ไล่หนีตอนนี้หาที่อยู่ใหม่ไม่ทันนะ
ไม่รู้ว่าจะไปอยู่ที่ไหนด้วย
ตอนนี้ฉันกำลังคิดอยู่ว่าจะกดอ่านข้อความดีไหม หรือปล่อยเบลอไปเลย คิดวนไปวนมาในที่สุดก็ได้ยินเสียง ตริ๊ง ลิฟต์เปิดออก ถึงชั้นที่ฉันอยู่ โอเคไม่ต้องอ่าน ปล่อยเบลอไป อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด บางทีอาจจะไม่เกิดอะไรก็ได้ จะคิดในแง่ร้ายอย่างเดียวไม่ได้ ต้องคิดในแง่ดีด้วย
โลกนี้ไม่ได้มีแต่เรื่องร้าย ๆ สักหน่อย
ว่าแล้วก็กดรหัสเปิดประตูเข้ามาในห้อง กวาดตามองทั่วห้องโถงไม่มีอินดี้อยู่ โอเคมันอาจจะยังไม่ตื่นหรือไม่ก็อาจจะไม่ได้กลับมานอนที่ห้อง
บางทีมันอาจจะไปนอนค้างกับผู้หญิงคนอื่นก็ได้
ฉันเดินตรงมาที่ห้องนอนฉัน ก่อนหน้านี้ฉันนอนห้องนอนอินดี้ เราเลือกนอนด้วยกันที่ห้องนั้นเนื่องจากห้องกว้างกว่า เตียงมีขนาดใหญ่ แต่วันนี้ฉันรู้สึกไม่ดี กลับไปนอนที่ห้องฉันดีกว่า
กดรหัสเข้าห้องนอน ฉันว่าฉันกดถูกนะ ถึงจะมีอาการเมาค้างเล็กน้อย แต่ไม่มีทางที่จะจำรหัสห้องผิด
ทันใดนั้นเองระหว่างที่กำลังจะกดรหัสครั้งที่สาม ตัวฉันก็รู้สึกเสียวสันหลังวาบ คล้ายว่ามีคนมายืนอยู่ทางด้านหลัง ค่อย ๆ หันมองหัวใจกระตุกวูบเลย
อินดี้มันยืนทำหน้าเข้ม สายตาจ้องฉันอย่างไม่เป็นมิตร
“มายืนอะไรด้านหลังไม่ให้สุ้มให้เสียง ไม่คิดว่าคนอื่นจะตกใจหรือไง” พยายามทำหน้าเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบพร้อมกับถอยออกห่างจากประตู
ฉันคาดเดาว่ารหัสห้องนี้น่าจะถูกเปลี่ยน เพราะกดเท่าไรก็ไม่ถูกต้อง
“มึงจะไปไหน”
“ไปนั่งไง” ฉันก็แค่ไม่อยากอยู่ในที่แคบที่มันพยายามดันฉันให้ชิดประตู ทำเหมือนอยากจะกักขังกัน
“ไปไหนมา”
“ไม่ได้บอกเหรอ”
“...”
“นึกว่าบอก” ทิ้งตัวลงนั่งโซฟาแล้วจากนั้นกดเข้าเฟซไถไปเรื่อย ๆ ไม่ได้โฟกัสอะไร แค่ไถแก้เก้อเพราะไม่รู้จะต้องพูดอะไร ไม่อยากมองหน้าอินดี้ด้วย
“กูไลน์ไปเยอะมึงไม่คิดจะอ่านเลย”
“เหรอ” ตอนนี้ก็ยังไม่คิดว่าจะกดอ่านนะ คือแบบ เรื่องมันยังร้อนไม่ควรจะไปกวนให้มันร้อนเพิ่ม เรียกแบบนี้ถูกไหมนะ
อะถูกไหมไม่รู้ แต่เหมือนจะไม่ถูกใจเจ้าของห้องแล้วสิ
“ไม่พอใจเหี้ยอะไรก็พูด ไม่ใช่มาทำแบบนี้” อินดี้พูดด้วยน้ำเสียงไม่น่ารัก ทำตัวไม่น่ารักด้วยการปัดโทรศัพท์ฉันทิ้งด้วย
“อะไรเนี่ย” เงยหน้ามองคนที่ยืนตัวสูงอยู่ด้านหน้า
คล้ายว่าเรากำลังจะทะเลาะกันแล้วล่ะ