วันนี้ฉันค้างที่บ้านของยายพี่เรย์ เรื่องของเรื่องที่ได้ค้างก็คือ...พี่เรย์บอกว่ามาแค่แป๊บเดียว สีหน้าของยายก็เปลี่ยนทันที ความเศร้าฉายในแววตาของยาย เห็นยายเศร้าอย่างชัดเจนพี่เรย์ก็เลยถามว่าฉันสะดวกค้างที่นี่สักคืนไหม พรุ่งนี้เช้าค่อยไปทำงานพร้อมพี่เรย์
แค่เป็นคำขอของพี่เรย์ฉันก็พร้อมจะให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่
เมื่อยายได้ยินว่าเราจะค้างที่นี่ สีหน้าของยายก็เปลี่ยนเป็นความสุข พอเห็นอย่างนั้นฉันก็รู้สึกมีความสุขไปด้วย
เราไปทานข้าวนอกบ้าน พี่เรย์พาแวะซื้อของเข้าบ้านให้ยาย และก็ซื้อของใช้ส่วนตัวให้ฉันด้วย เพราะฉันไม่ได้เอาอะไรมาเลย แน่นอนว่าเขาจะจ่ายให้ได้ เขาบอกเป็นคนพามาต้องดูแลให้ดี จะไม่ให้ฉันเสียเงินเด็ดขาด
ฝึกงานอะตามหลักแล้วไม่ได้ให้เงินเยอะอะไรเลยนะ แต่พอเป็นพี่เรย์เขาก็จ่ายให้ฉัน ด้วยเหตุผลที่ว่าอยากช่วยฉัน เขาบอกว่าเขารู้ว่าฉันลำบาก อะไรที่ช่วยได้เขายินดีจะช่วยและห้ามฉันปฏิเสธ ไม่งั้นเขาจะบอกพี่ต้าร์ว่าความจริงแล้วฉันไม่เคยได้รับเงินจากแม่
ถามว่าเขารู้ได้ไง เขาบอกว่าเดาได้จากหลายอย่าง แต่จะช่วยปิดเป็นความลับ ไม่บอกพี่ต้าร์ เขาเองก็ไม่อยากให้พี่ต้าร์ต้องแบกหลายเรื่อง เมื่อเป็นแบบนี้ฉันก็เหมือนพูดกับพี่เรย์ได้หลายเรื่อง รู้สึกว่าเขาพร้อมที่จะรับฟังฉัน เข้าใจฉัน ให้ความรู้สึกเหมือนมีพี่ชายอีกคน
ทั้งที่ไม่ใช่พี่น้องกันแท้ ๆ ทว่าเขาซัพพอร์ตฉันไม่ต่างจากพี่ชายแท้ ๆ เลย
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นฉันได้ส่งข้อความไปให้อินดี้ บอกกับมันว่า ไม่ได้กลับห้องนะ มาค้างกับพี่
ก็ไม่ได้โกหกอะไรถูกปะ ฉันก็แค่พูดไม่หมด แล้วเดี๋ยวนี้เราสองคนก็เจอกันน้อยมาก แทบจะกลับมานอนด้วยกันอย่างเดียว คุยกันก็น้อย เช้าต่างคนก็ต่างรีบออกไปทำหน้าที่ของตัวเอง
ถ้าผ่านฝึกงานไปได้ทุกอย่างอาจจะกลับมาเป็นปกติ เราน่าจะกลับมาอยู่ด้วยกันมากขึ้น ใกล้ชิดกันเหมือนเดิม
“ยายของพี่เรย์ใจดีมากเลย อยู่ด้วยแล้วรู้สึกมีความสุขมากค่ะ” ฉันกับพี่เรย์ออกมานั่งคุยกันที่แคร่ไม้ ลมหนาวมาแล้ว อากาศเย็นสบาย ไม่มีแอร์ก็น่าจะหลับสบาย
“เดี๋ยวพี่พามาบ่อย ๆ หรือถ้าน้องมิวอยากมาเมื่อไหร่ก็ได้เลยนะ”
“จะรบกวนยายของพี่เรย์สิคะ”
“ไม่รบกวนหรอก ยายชอบซะอีก มีคนมาคุยด้วย”
“พี่เรย์บอกว่าครอบครัวของพี่เรย์ย้ายไปอยู่ต่างประเทศกันหมดแล้ว งั้นทำไมยายของพี่ถึงอยู่ที่นี่คะ”
“ยายไม่ยอมไปน่ะ ยายบอกว่าถ้าจะตายก็จะตายอยู่ที่นี่ ไม่อยากไปตายที่อื่น”
“แต่ยายยังดูแข็งแรงอยู่เลยนะคะ”
“ข้ออ้างของคนแก่ที่ขี้เกียจเดินทางไงครับ”
“อ๋อ”
“ยายแกชอบคุย ชอบมีเพื่อน ที่ทำขนมขายก็เพราะอยากให้คนมาหาบ่อย ๆ ถ้าไปอยู่ต่างประเทศก็คงปรับตัวลำบาก ที่จริงยายเคยไปอยู่มาแล้วนะ ไปแค่เดือนสองเดือนก็กลับ กลับมาก็บ่นใหญ่เลยว่าลูกค้าขนมหาย เห็นแบบนั้นลูกค้าขนมยายเยอะมากเลยนะ”
“ยายน่ารักมากค่ะ อยู่ด้วยแค่แป๊บเดียวก็เหมือนได้ชาร์จแบตเลย”
“ที่พี่พามิวมาก็เพราะอยากให้มิวได้ชาร์จแบตนี่แหละ ช่วงนี้พี่เห็นมิวดูเหนื่อย ๆ มีเรื่องเครียดอะไรหรือเปล่า หรือว่างานที่พี่ให้ทำมันหนักไปเหรอ”
“เปล่าค่ะ มิวได้ฝึกงานสบายกว่าเพื่อนในกลุ่มอีก พี่เรย์เป็นเจ้านายที่ใจดีมาก”
“พี่เป็นเจ้านายใจร้ายนะ แต่พี่เป็นพี่ชายที่ใจดีมาก น้องมิวเป็นน้องสาวพี่ก็เลยได้สิทธิพิเศษนั้น”
“แปลว่ามิวยังมีบุญอยู่สินะ”
“เราได้เจอได้รู้จักกันนั่นแปลว่ามีวาสนาต่อกันครับ”
“ค่ะ น่าจะเป็นแบบนั้น”
“เรียนจบแล้วถ้ายังไม่รู้จะทำงานที่ไหน มาทำกับพี่ได้เลยนะ”
“พี่เรย์ช่วยมิวอีกแล้วนะ”
“ดีกว่าต้องออกไปเผชิญโลกกว้างคนเดียวนี่ อย่างน้อย ๆ พี่ก็อยากให้น้องมิวรู้ว่ามีพี่คนนี้คอยซัพพอร์ตเราเสมอ”
“ขอบคุณนะคะ ขอบคุณมาก ๆ เลย มิวไม่รู้ว่าจะต้องขอบคุณแบบไหนถึงจะทำให้พี่รับรู้ว่ามิวซาบซึ้งใจมากจริง ๆ” หลายคนอาจจะคิดว่าฉันเวอร์ อะไรจะขนาดนั้น ก็อาจจะจริง ฉันคงรู้สึกเวอร์เกินไปจริง ๆ เพราะตั้งแต่เกิดมาทั้งชีวิตนี้ของฉันเจอคนที่ซัพพอร์ตฉันน้อยมาก ๆ คนเป็นพ่อแม่ที่หวังว่าท่านจะดีด้วย ก็ไม่ได้เป็นอย่างที่หวัง ไม่สนใจไยดีฉันอีกต่างหาก
คนที่ช่วยเหลือแบบหวังให้ฉันใช้ชีวิตอยู่อย่างดีจึงมีไม่กี่คน ที่ช่วยแบบสุด ๆ ก็พี่ต้าร์พี่ชายแท้ ๆ และพี่เรย์พี่ชายคนนี้ เขาสองคนช่วยเหลือโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน
ส่วนอีกคนก็ อินดี้ เมื่อก่อนฉันก็เข้าใจว่ามันช่วยเพราะห่วง แต่พอเรามีความสัมพันธ์ทางกายร่วมกัน มันก็ทำให้ฉันเข้าใจคำว่ายื่นหมูยื่นแมว มันคือการแลกเปลี่ยน ทุกครั้งอินดี้ให้เงินฉันตลอด
สำหรับอินดี้ฉันก็เป็นผู้หญิงขายตัวที่พ่วงตำแหน่งเพื่อน แล้วก็คงเป็นได้แค่เพื่อนต่อไป เพราะผ่านมานานตั้งแต่ที่เราเริ่มมีอะไรกัน มันก็ไม่เห็นมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปในทางที่มีความหวัง
อ้อ ความหวังริบหรี่ของฉันยังมีอยู่ นั่นก็คืออินดี้ยังไม่มีแฟน เมื่อไหร่ที่มันมีแฟน นั่นแปลว่าระหว่างเราไม่มีหวังแล้ว
และถ้ามันมีแฟนจริง ๆ ฉันกับมันก็คงจบเรื่องที่ไม่ชัดเจน จากนั้นก็คงต้องฝืนมองหน้ากัน ทำเหมือนไม่มีอะไร ซึ่งมันน่าจะยากมาก ๆ
เป็นอย่างที่มาร์คบอกจริงด้วย การที่เพื่อนมีอะไรกันแล้วไปไม่ถึงรักยาวนาน หลังจากแยกย้ายทั้งสองมองหน้ากันไม่ติด เพื่อนก็พาลอึดอัดใจไปด้วย
ไม่ควรเริ่มตั้งแต่ต้นจริง ๆ
วันต่อมา
สรุปแล้วเราสองคนคุยกันจนดึก คุยกันหลายเรื่องมาก ทำให้ตื่นสาย พี่เรย์ก็เลยไม่ได้ไปทำงาน ฉันก็หยุดไปด้วย เราจึงออกเดินทางกลับกันตอนบ่าย ยายให้ของฝากมาเยอะมาก ยิ่งรู้ว่าฉันอยู่คนเดียว ยายเตรียมของให้เพียบเลย และเพราะกลับช้าทำให้ฉันได้ดูยายของพี่เรย์ทำขนมไทย ได้ช่วยยายด้วย อาจจะเพราะยายเป็นคนใจเย็น ทำให้รู้สึกว่ายายสอนเข้าใจง่าย อยู่กับยายแล้วฉันชอบมาก เหมือนถูกรักโดยไม่ต้องพยายาม เป็นตัวเองในแบบของฉันแล้วยายก็รักฉันในแบบที่ฉันเป็น
พี่เรย์แวะเลี้ยงข้าวก่อนไปส่งฉันที่หอ เขาก็ยังเข้าใจว่าฉันอยู่กับเพื่อนที่หอนะ ฉันเองก็ไม่เล่าเรื่องนี้ให้ฟัง หลายครั้งที่เขาไปส่งฉันก็จะให้เขาไปส่งที่หอของธัญญ่า จากนั้นฉันก็มาที่คอนโดอินดี้เอง
ครืด ครืด
อินดี้โทรเข้ามาระหว่างที่ฉันคุยกับพี่เรย์เรื่องอาหารของร้านนี้ ฉันจึงขอตัวออกมากดรับสาย
“เพื่อนมิวโทรมา ขอรับสายแป๊บนะคะ”
“ครับ”
ว่าแล้วก็ลุกออกจากเก้าอี้ มาหามุมกดรับสาย
“ว่าไงมึง”
(กลับจากบ้านพี่ยัง)
“อื้อ กูก็ไปฝึกงานตอนเช้าไง มึงอะได้ไรกินกูไม่อยู่ทำให้” ทุกเช้าต่อให้ยุ่งแค่ไหนฉันก็ต้องเตรียมของกินไว้ให้อินดี้ มันคือหน้าที่เพราะอินดี้จ่ายเงินค่าทำงานบ้าน
(ซื้อเอา)
“อ่อ อร่อยไหม”
(อือ แล้วนี่อยู่ไหน เลิกงานยัง)
“ใกล้เลิกแล้ว”
(อ่อ วันนี้กลับห้องหรือเปล่า หรือไปค้างที่อื่นอีก)
“เลิกงานแล้วเดี๋ยวก็กลับห้องเลย อยากกินอะไรไหม”
(ไม่อะ กูเหนื่อย)
“ไม่สบายเหรอ ไปหาหมอไหม เดี๋ยวกูเลิกงานแล้วพาไป”
(เปล่า แค่เบื่อ ๆ แค่นี้นะมึง)
“อือ โอเค” กดวางสายแล้วฉันก็เดินกลับมาหาพี่เรย์ที่นั่งกดโทรศัพท์ น่าจะเช็กงานที่เลขาส่งเข้ามาให้ เพราะเขาบ่น ๆ อยู่ว่ามีงานที่ต้องดู
“ไงครับเรียบร้อยไหม” เมื่อฉันนั่งลงที่เก้าอี้ พี่เรย์ก็วางโทรศัพท์ เงยหน้ามองฉันด้วยรอยยิ้มละมุน
“ค่ะ เพื่อนแค่โทรมาถามเฉย ๆ ไม่มีอะไร”
“พี่นึกว่ามีเรื่องด่วน”
“ไม่มีอะไรค่ะ สบายมาก”
“ว่าไปแล้วพี่ยังไม่เคยเจอเพื่อนมิวเลยนะ ใช่ปะ”
“ก็ใช่ค่ะ แต่พี่เรย์จะเจอทำไมคะ”
“ก็เผื่อเราไม่มีเพื่อนไง เผื่อหลอกว่ามีเพื่อนอะ”
“แหม มิวมีเพื่อนค่ะ เห็นงี้มีคนคบอยู่นะ”
“แนะ แปลว่ามีแฟนปะเนี่ยพูดงี้”
“ไม่มีค่ะ ไม่มี มิวไม่มีแฟน”
“ครับ ๆ รู้แล้วว่าน้องมิวของพี่ไม่มีแฟน”
เราสองคนนั่งคุยหัวเราะด้วยกันอย่างสนุกสนาน โดยที่ฉันไม่ได้รู้ตัวเลยว่ามีบางอย่างกำลังจะเปลี่ยนไป