ตอนที่ 2 สลับร่าง
@มังกร
เหตุการณ์ก่อนหน้า
ผมมางานแต่งโดยถูกเชิญให้มา ในขณะที่กำลังนั่งดื่มกับเพื่อนร่วมโต๊ะอยู่นั้น อยู่ๆผมก็รู้สึกปวดฉี่ขึ้นมาจึงเดินไปเข้าห้องน้ำ ซึ่งห้องน้ำกับหอประชุมตรงที่จัดงานมันดันอยู่ไกลกัน อยู่ๆเม็ดฝนก็เกิดปรอยลงมา ผมรีบก้มหน้าเดินเพื่อจะได้ถึงห้องน้ำเร็วๆแต่อยู่ๆในระหว่างนั้น...
“ปัก! ว๊าย!! ตุบ!” ผมกำลังจะล้ม สัญชาตญาณทำให้ผมเลือกที่จะคว้าเอาเธอลงมาด้วย จากนั้นริมฝีปากของเราก็ประกบกัน แรงกระแทกทำให้ผมรู้สึกเหมือนมีแรงดึงดูดบางอย่างเกิดขึ้นกับร่างกายของผม
“อี๋!! ลุกออกไปจากตัวฉันเดี๋ยวนี้เลยนะ!” แต่!ผมเกิดได้ยินเสียงตัวเองทั้งๆที่ยังไม่ได้พูด ผมจึงค่อยๆตั้งสติ...เกิดอะไรขึ้น?
ทำไมผมถึงเห็นตัวเองยืนอยู่ตรงหน้า ผมเริ่มก้มหน้าสำรวจตัวเอง...จับเข้ามับ! ที่หน้าอกทั้งสองข้าง มีนม...แถมยังสวมกระโปรง รองเท้าส้นสูง
ดื่มไปไม่มากเท่าไหร่ เมาแล้วเหรอวะเนี่ย แต่ผมคิดว่าผมยังไม่ได้เมานะ ผมเริ่มตั้งสติคิดทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นอีกครั้ง...
ปัจจุบัน
“เกิดอะไรขึ้นกับฉัน” น้ำมนต์ในร่างของมังกร เอ่ยถามตัวเองที่กำลังยืนมองหน้ากันอยู่ ท่ามกลางเม็ดฝนที่กำลังปรอยลงมา
“นั่นสิ ผมก็อยากรู้เหมือนกัน ทำไมร่างของผมถึงไปอยู่ที่คุณได้” ผมลองพูดดูบ้าง...เสียงเล็กๆของผู้หญิง นี่มันไม่ใช่ผม...หรือว่าใช่วะ! เกิดอะไรขึ้นวะเนี่ย ตอนนี้ผมสับสนไปหมด ซึ่งคนที่อยู่ตรงหน้าก็คงรู้สึกไม่ได้แตกต่างไปจากผม สีหน้าตอนนี้ของเธองุนงงปนตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้แตกต่างไปจากผมเลยสักนิด
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน ฝันหรือเปล่า แต่ก็ไม่น่าจะใช่นะ” ฝันได้ยังไง น้ำฝนที่หยดลงมาโดนผิวมันคือของจริง ฉันคิดว่าฉันมาอยู่ในร่างสูงนี้ ส่วนเจ้าของร่างที่แท้จริงก็คงไปอยู่ในร่างของฉัน...เราสลับร่างกัน!
“หลบฝนก่อน ไปคุยกันตรงโน้นดีกว่า” ผมเอื้อมมือไปจับแขนของตัวเอง พาเดินมาหลบฝนตรงชายหลังคาของอาคารเรียน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเราคงต้องคุยกันยาว เธอเป็นใคร บ้านอยู่ไหน ผมรู้สึกเหมือนยังไม่เคยเห็นหน้าเธอมาก่อนเลย
“ร่างของฉันทำไมถึงไปอยู่กับคุณได้ แล้วร่างของคุณทำไมถึงมาอยู่ที่ฉัน” พากันมาหยุดยืนหลบฝนสำเร็จ เธอก็ยิงคำถามใส่ผมทันที
“ผมจะไปรู้ได้ยังไง” ตอนนี้ผมทำตัวไม่ถูก เหมือนกำลังยืนคุยอยู่กับตัวเองอย่างไรอย่างนั้น ผมก้มมองดูตัวเองอีกครั้ง กระโปรงแค่หัวเข่าสวมรองเท้าส้นสูง ผมรีบสะบัดรองเท้าออกจากเท้าทันที ปวดเท้าชะมัดใส่เข้าไปได้ยังไง!
“นี่คุณจะทำอะไรน่ะ” ก็ถอดรองเท้าไงถามได้...
“เหมือนยืนเขย่งอยู่ตลอดเวลาเลย ผมเมื่อย” ซึ่งฉันก็ไม่ได้อยากจะว่าอะไรเขา สิ่งที่เขากำลังกระทำอยู่มันยิ่งตอกย้ำความจริงว่าสิ่งที่ฉันกับผู้ชายคนนี้เผชิญอยู่มันคือเรื่องจริง!
“คุณ ฉันกลัว...” ผมมองตัวเองที่กำลังทำท่าเหมือนจะร้องไห้...อย่านะ ห้ามร้องเด็ดขาด เฮียมังกรผู้ยิ่งใหญ่จะมายืนร้องไห้ต่อหน้าผู้หญิงแบบนี้ไม่ได้!
“ใจเย็นๆนะคุณ ผมว่าเราน่าจะสลับร่างกัน”
“มันจะเป็นไปได้ยังไง มันเหลือเชื่อมากนะคุณ” สิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้ ฉันเองก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่ามันไม่ใช่เรื่องจริง แต่ถ้าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริงฉันจะใช้ชีวิตต่อไปยังไง แล้วอาชีพคุณครูของฉันล่ะ
“คุณเป็นใคร บ้านอยู่ที่ไหน ผมเป็นเจ้าของฟาร์มบ้านอยู่หลังหมู่บ้านนี่เอง”
“ฉันเป็นคุณครูสอนอยู่ที่โรงเรียนนี้ เพิ่งย้ายเข้ามาใหม่ พักอยู่ที่บ้านพักครูตรงโน้น” ฉันชี้นิ้วไปทางบ้านที่ฉันพักอาศัยอยู่ได้สองอาทิตย์แล้ว โอ๊ย…ทำไมเสียงตัวเองทุเรศจัง! ทั้งใหญ่ ทั้งแหบ ยกมือขึ้นจับลำคอ งื้อ...มีลูกกระเดือกด้วย
“ครูชื่ออะไร”
“ฉันชื่อน้ำมนต์ค่ะ”
“ผมชื่อมังกรนะ เราต้องหาที่คุยกัน คุยกันที่บ้านครูมั้ย ใกล้ดี”
“ไม่ได้! ถ้าเกิดใครเห็นเข้าคงดูไม่ดี” ฉันจำผู้ชายคนนี้ได้ คนที่พี่หลิวบอกว่าเขาเจ้าชู้มาก
“ถ้างั้นไปบ้านผม คุณคงไม่คิดจะทิ้งร่างกายของคุณให้ผมดูแลหรอกนะ เพราะผมเองก็จะไม่ยอมให้คุณเอาร่างกายของผมไปใกล้สายตาเด็ดขาด เกิดคุณไปทำเรื่องไม่ดีเข้า เสี่ยงคุกเสี่ยงตะรางขึ้นมาผมจะทำยังไง”
เขาพูดมีเหตุผล ฉันไม่ควรจะออกห่างจากร่างกายของตัวเอง...เขามันไม่น่าไว้ใจ!
“ที่พูดมาทั้งหมดนี่ ฉันหรือเปล่าที่ต้องเป็นฝ่ายกลัว”
“จะไปไม่ไป ดูสภาพผมกับคุณตอนนี้สิ เราควรทำความรู้จักตัวตนของอีกฝ่ายเอาไว้...จริงมั้ย” ก็จริง...
“ก็ได้ค่ะ แต่ขอมือถือในกระเป๋าเสื้อด้วย” รองเท้าที่ถอดออกเมื่อสักครู่ ถูกหยิบเอาขึ้นมาสวมไว้อีกครั้ง น้ำมนต์ส่งข้อความไปหาครูหลิวบอกว่าขอกลับก่อน
“ตามมา” ผมเดินนำหน้าเธอไป
“นี่คุณ เดินให้มันดีๆหน่อย ฉันไม่ได้เดินขาถ่างแบบนี้นะ” เป็นเพราะรองเท้าส้นสูงทำให้ผมเดินไม่ถนัด จะถอดออกแล้วเดินเท้าเปล่าก็ไม่น่าจะได้
“ทีคุณเดินหนีบแถมยังบิดซ้ายบิดขวาผมยังไม่ได้ว่าอะไรคุณเลย”
“ฉันเดินปกติ!”
“ผมก็เดินปกติ...ขึ้นรถ!” เขาสั่งเสียงเข้มแต่นั่นมันเสียงของฉันนะ ใครได้ยินเข้า อับอายตายเลย
“เฮีย...จะกลับแล้วเหรอครับ” ทำไมจะต้องมาเจอคนรู้จักตอนนี้ด้วยนะ แต่มันไม่ได้ทักผม...
“ค่ะ เอ๊ย! ครับ” ที่จริงต้องตอบว่าเออ...เพราะไอ้เด่นมันเป็นลูกน้องในฟาร์มของผมเอง ไม่จำเป็นต้องพูดดีกับมัน ตอบแล้วก็ตอบไป
“ขึ้นรถ!” ผมสั่งอีกครั้ง
“ทำไมวันนี้นายพูดกับผมเพราะจังครับ สงสัยจะเมาแล้วใช่มั้ย” กูลืมเมาตั้งแต่สลับร่างกับยัยเตี้ยนี่แล้ว…ผมมองหน้าไอ้เด่นลูกน้องคนสนิทของผมแล้วคิดในใจ พลางถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
“ปั้ง!” ฉันไม่รอช้า รีบขึ้นรถแล้วปิดประตูรถทันที ก่อนที่ผู้ชายคนที่เดินเข้ามาทักจะถามในสิ่งที่ฉันตอบไม่ได้
“เฮีย...ทำไมให้ผู้หญิงขับรถให้นั่งล่ะครับ” เสียงของไอ้เด่นยังคงไม่เลิกถาม แต่ผมก็ไม่ได้สนใจรีบขับรถออกไปเลย ระหว่างทางคนข้างๆนั่งเงียบเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่ในใจ พอรถเลี้ยวเข้าถนนหน้าบ้านเธอก็เริ่มพูด
“ฉันจะเชื่อใจคุณได้มั้ยเนี่ย”
“คุณกลัวอะไรลงเรือลำเดียวกันขนาดนี้แล้ว”
“...........”
“โน่นบ้านผม เข้าไปคุยกันข้างใน”
“ทำไมต้องคุยกันข้างใน คุยกันตรงนี้ก็ได้” ฉันเป็นผู้หญิงนะ แต่ตอนนี้ไม่น่าจะใช่ และที่สุดของที่สุดก็คือตอนนี้ฉันปวดฉี่มาก...
“ยุงตัวเท่าแมลงวัน กว่าจะคุยกันรู้เรื่องทั้งครูทั้งผมได้เป็นไข้เลือดออกตายก่อนแน่ๆ...ตามมา!” ฉันไม่ไว้ใจเขาเลยสักนิด พี่หลิวบอกว่าให้ฉันอยู่ห่างๆผู้ชายคนนี้เอาไว้ แต่สถานการณ์ตรงหน้ามันไม่มีทางเลือกจริงๆ