CHAPTER 1 | เจ็ดปีที่แล้ว
7 ปีที่แล้ว
มหาวิทยาลัย M ชื่อดังทางภาคเหนือ
“ณาลัลน์ ฮึก…มึงอยู่ไหนช่วยกูด้วย”
เสียงสะอึกสะอื้นจากปลายสาย ส่งผลให้เรียวคิ้วบนใบหน้าหวานขมวดมุ่น ณาลัลน์ ดาวคณะศิลปศาสตร์ปี 4 และเป็นเจ้าของมือถือที่เพิ่งกดรับโทรศัพท์ทำสีหน้าประหลาดใจปนไปด้วยความเป็นห่วง
เธอได้ยินเสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นจาก อิงดาวเพื่อนสนิทของเธอที่ดังแทรกผ่านเสียงเพลงในผับเข้ามาเป็นระยะ
“มึงอยู่ไหนเนี่ยอิง ทำไมเสียงเพลงโคตรดัง แล้วนี่เป็นไรร้องไห้ทำไม”
“ฮือ อกหักอะดิ ถามได้”
“อกหัก?”
“เออ โดนหนุ่มรุ่นน้องหักอกอะ ฮือ”
“คนไหน คนที่เท่าไหร่ แล้วมึงไปคบกับเขาตอนไหนก่อน กูเป็นเพื่อนมึงมาหลายปี ทำไมกูไม่ยักเคยรู้ว่ามึงคบกับใคร”
“ก็มึงจะไปรู้อะไรล่ะ วัน ๆ ก็มัวคุยกับคนนั้นคนนี้ไปทั่ว จะว่างมาสนใจเพื่อนอย่างกูหรือไงฮะ” ปลายสายทำน้ำเสียงสะอึกสะอื้นปนตัดพ้อ
สภาพเสียงร้องไห้ติดยานคานแบบนี้ ถ้าไม่เมาน้อยก็คงเมามาก
แต่ที่แน่ ๆ คือเมาแน่นอน
“นะมึง มาหาหน่อยมึง กูอยู่ผับมิราเคิลหน้ามอ. ตอนนี้กูแย่วะ ฮือ กูไม่ไหว กูไม่มีใครแล้วจริง ๆ”
“เออ ๆ งั้นมึงรออยู่ตรงนั้นละกัน แต่งตัวแป๊บกำลังจะไปหา”
เธอตัดสายก่อนจะถอนหายใจออกมาเบา ๆ ก่อนจะรีบแต่งตัวแล้วตรงไปที่ผับ
….
@ครึ่งชั่วโมงต่อมา
ณาลัลน์มาถึงที่โต๊ะของเพื่อนสาวนั่งอยู่เพียงลำพังในสภาพเมามาย ก่อนที่เธอจะลากเก้าอี้แล้วหย่อนตัวนั่งใกล้ ๆ
“ว่ามา ไหนเล่า อะไรที่ทำให้มึงสภาพเมาเหมือนหมาอย่างตอนนี้”
“ฮึก กูบอกมึงแล้วไงว่าอกหัก”
อิงดาวเพื่อนสาวของเธอสะอึกสะอื้น พลางลากดราม่ามาอีกรอบ หลังจากหยุดร้องไปแล้วรอบหนึ่ง แต่ก็บิ้วอารมณ์จนร้องไห้ได้อีกครั้งเมื่อณาลัลน์มาถึง จนหญิงสาวได้แต่เกาหัวแกรกๆ มองเพื่อนสาวที่เอาแต่ยกแก้วเหล้าดื่มแบบเอือม ๆ
ประโยคที่ว่า
เพื่อนสาวจะอยู่กับเราต้องโสด และอยู่ในโหมดหายหัวตอนติดผู้ชายคือเรื่องจริง
ไม่อกหักก็คงไม่โทรหา
“ฮือ…มึงกูเจ็บว่ะ”
“เจ็บแล้วไง มึงทำตัวเองปะ” ณาลัลน์มองอิงดาวที่เอาแต่ร้องไห้จนมาสคาร่าไหลออกมาเป็นแผ่นๆ จนใต้ขอบตาดำปี๋ เธอได้แต่หยิบทิชชูเปียกออกจากกระเป๋าแล้วเช็ดให้
บ่นนะ แต่ก็ห่วงด้วยเหมือนกัน
“กูเรียกให้ปลอบ ไม่ได้เรียกมาให้มึงซ้ำ”
“ก็นี่ไง กูปลอบอยู่ แต่ปลอบในแบบฉบับของกูเอง”
“ถามจริง มึงรักกูปะเนี่ย”
“อ้าว…ถ้าไม่รัก กูจะยกเลิกทุกนัดเพื่อมาหาเพื่อนอย่างมึงไหมคะ”
“จริงนะ”
“จริงค่ะนังเพื่อนรักตัวดีย์ นอกจากมึงกูก็ไม่รักใครแล้วล่ะค่ะ อย่าลืมมึงนะมึงกับกูสนิทกันตั้งแต่มัธยมจนสอบติดมอ.นี้ด้วยกัน”
เธอเอ่ยถึงความสัมพันธ์ของเธอกับเพื่อนสนิทอย่างอิงดาวที่เรียนด้วยกันมาตั้งแต่มัธยม จนกระทั่งสอบเข้ามหาวิทยาลัยชื่อดังทางภาคเหนือด้วยกัน
ณาลัลน์สอบติดคณะนิเทศศาสตร์ ในขณะที่อิงดาวติดคณะศึกษาศาสตร์ แต่ถึงจะเรียนคนละคณะกันแต่ทั้งสองก็ยังติดต่อกันตลอด และถึงแม้ฐานะทางบ้านสองคนจะค่อนข้างแตกต่างกัน ณาลัลน์พ่อของเธอเป็นถึงเจ้าของธุรกิจอสังหา ในขณะที่อิงดาวมีฐานะทางบ้านไม่ค่อยได้ดีเท่าไหร่นัก มักจะชอบยืมเงิน ยืมเสื้อผ้า ยืมกระเป๋า และของใช้ของณาลัลน์อยู่บ่อย ๆ ซ้ำยังไม่ค่อยคืนก็ตามที แต่ณาลัลน์ก็ไม่เคยบ่นอะไร เธอถือว่านี่คือเพื่อนคนสนิทของตัวเอง
ถ้าเพื่อนให้ช่วยอะไร ถ้าช่วยได้ก็จะช่วย
“เค จะเชื่อว่ามึงรักกู งั้นถ้ามึงรักกูจริง มึงช่วยอะไรกูอย่างได้ปะ”
“อะไร ช่วยหาแฟนไม่ได้นะเว้ย ของแบบนี้ต้องใช้ความสามารถกับหน้าตาแล้วก็สกิลอีกนิดหน่อย”
“จ้ะ แม่คนสวย สรุปมึงจะช่วยกูได้ปะเนี่ย”
“ก็ว่ามาสิจะให้ช่วยอะไร เรื่องเงินอีกอย่างห้าม ช่วงนี้พ่อกูยิ่งเคี่ยว ๆ อยู่”
“เค งั้นมึงช่วยล้างแค้นให้กูหน่อยดิ”
“หา? ล้างแค้น กูนี่นะ” ณาลัลน์หน้าเหวอก่อนยกนิ้วชี้จิ้มที่หน้าอกตัวเอง
“ใช่ มึงสวยเป็นถึงดาวคณะ มึงต้องทำได้แน่ แค่ทำให้หมอนั่นตกหลุมรัก แล้วมึงก็ทิ้งเขาได้ปะวะ กูอยากเห็นตอนหมอนั่นอกหักวะ”
“บะ บ้าไปแล้ว มึงดูมินิซีรีส์จีนมากไปปะเนี่ย นี่มึงคิดว่าคนเรามันจะตกหลุมรักกันง่ายๆ ประเภทเจอหน้ากับปุ๊บปิ๊งกันปั๊ป แล้วเขามาชอบกูจนอกหักได้อะนะ”
“ก็มึงสวยมึงเป็นดาวคณะ ถ้าเขาเห็นมึงต้องชอบมึงแน่ น่า ณาลัลน์นะ กูเห็นผู้ชายคนไหน ๆ เขาก็ชอบมึงกันทั้งนั้น ไม่ได้ขี้เหร่แบบกูนี่ใครเขาจะสนใจ ฮึก”
เพื่อนรับบทนางโศกร้องไห้ไม่หยุด ครั้นณาลัลน์จะปฏิเสธตอนนี้ก็ดูจะใจร้ายเกินไป
แต่ก็แค่ทำให้รักแล้วก็ทิ้งแค่นั้น
เอาก็เอาวะ..
“เออ ๆ โอเค งั้นก็ได้” ณาลัลน์มองเอือมก่อนจะถอนหายใจออกมา
“แล้วเขาเป็นใคร”
“วิศวกรรมโยธา ปี 1 ชื่อคินวา ”
“ปีหนึ่ง?”
เหมือนณาลัลน์จะเคยได้ยินชื่อ แต่เธอไม่เคยสนใจเรื่องผู้ชายอะไรขนาดนั้น ก็นะ …วัน ๆ มีหนุ่ม ๆ นักศึกษาทั้งรุ่นน้องรุ่นน้อง เสนอตัวเสนอหน้าทักมาคุยกับเธอนับสิบ เธอยังไม่สน เพราะงั้นกับคนที่ชื่อคินวาแทบไม่อยู่ในสารระบบเธอเลยด้วยซ้ำ
“อืม หล่อมาก แต่ก็ใจร้ายมากด้วยเหมือนกัน”
อิงดาวพูดพลางทำสีหน้าแค้นจัด
ณาลัลน์ได้แต่เท้าคางฟังอยากตั้งใจ
แต่
“ไทป์เด็ก แถมห่วยขนาดนั้นมึงยังชอบลงเนาะ หล่อแต่เรดแฟลกแบบนั้น มึงชอบไปได้ไงวะ”
“ฮึก...ก็กูชอบเขานี่ แต่ตอนนี้กูแค้นอะ รู้มั้ยว่าหมอนั่นทำผู้หญิงในมหา’ ลัย อกหักตั้งหลายคน รวมกูด้วย กูเลยอยากเห็นเขาโดนหักอกบ้างอะ กูอยากรู้นักว่าถ้ามีคนทำให้เขาเสียใจ จะมีสภาพเป็นยังไง”
“จ้ะ ชอบก็ชอบจ้ะ แล้วคิดว่ากูจะจีบติด? “
“มึงดาวมหา ‘ลัยเลยนะลัลน์ ไม่ติดก็บ้า”
“อ่า แล้วสมมุติกูจีบติดจริง ๆ กูทำให้เด็กนั่นชอบกูได้ มึงจะไม่นอยตอนเห็น กูกับเด็กนั่นสวีทกัน?”
“นอย!”
“อ้าวนังนี่”
“มึงก็รับปากก่อนสิ ว่ามึงจะไม่หลงรักน้องคนนั้นเข้าจริง ๆ”
“โอ้ยกูคงจะรักง่าย ๆ หรอก กูไม่ได้ชอบผู้ชายไทป์หมาเด็กแบบนั้น ไม่อยากเลี้ยงต้อย แบบกูอะนะ ชอบผู้ชายทรงแดดดี้ คะ คะ ขาขา แบบเฮียคะ เฮียขาแบบนี้อะที่กูชอบ”
“จริงนะ”
“จริงดิ สาบานเลยว่าไม่เอา” ณาลัลน์รับปากเป็นมั่นเป็นเหมาะ เพราะไทป์ที่เธอชอบไม่เคยมีไทป์ผู้ชายหมาเด็กอยู่ในหัว
“งั้นรับปาก”
“ค่า กูจะรีบทิ้งเด็กนั่นหลังจากที่น้องเขาบอกชอบกูเลยเป็นไง”
“โอ้ยยยย รักมึงวะณาลัลน์” อิงดาวยกตัวเข้าสวมกอดเพื่อนสาวที่แอบมีสีหน้าลำบากใจนิด ๆ
ที่ณาลัลน์พูดไปเพราะแค่อยากเอาใจและปลอบเพื่อนที่กำลังอกหักก็เท่านั้น แต่พอนึกว่าตัวเองต้องไปเล่นเกมกับใจคน ก็แอบจัลำบากใจอยู่เหมือนกัน
“เค ดีล งั้นเอาตามนี้ก็ละกันเนาะ ไว้กูจะเริ่มเลยจะได้รีบปิดจ๊อบแก้แค้นให้เพื่อนรักอย่างมึงไว ๆ โอเคปะ ขอเวลาหนึ่งเดือนทุกอย่างจบ”
“จ้าแม่คนสวย แต่อย่าลืมห้ามหลงรักเขาเด็ดขาด”
“รู้แล้วน่า ไม่เอาก็ไม่เอาสิ”
หลังปฏิเสธเพื่อนสาวคนสนิทเสียงแข็ง ณาลัลน์ก็ยกแก้วเหล้าขึ้นมาจิบ โดยที่เธอไม่ทันสังเกตเลยว่า สายตาของอิงดาวที่มองเธออยู่ เต็มไปด้วยความรู้สึกบางอย่างที่ยากจะคาดเดา!