เสียงเคาะประตูดังขึ้นสองครั้งก่อนที่ไวน์จะเปิดประตูเข้ามาด้วยท่าทางเร่งรีบพร้อมกับสีหน้าเคร่งเครียดกว่าปกติ โดยมีไวท์เดินตามเข้ามาด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง
“นายครับ มีเรื่องที่ควรรู้”
เลออนที่กำลังนั่งอ่านเอกสารเงยหน้าขึ้นมองช้า ๆ ดวงตาคมนิ่งแต่แฝงด้วยแววคาดคั้นโดยไม่ต้องพูดอะไร
“เมื่อช่วงเย็น ลุงกับป้ามาที่บ้านของเธอครับ”
เลออนขมวดคิ้วทันที สายตาคมกริบวาบขึ้นในพริบตา ก่อนจะมองสบตาไวน์อย่างถามว่าคนพวกนั้นมาทำไม มีวัตถุประสงค์อะไร
“พวกเขามาขอซื้อหุ้นบริษัทที่พ่อแม่เธอทิ้งไว้ให้ครับ พยายามหว่านล้อมเธอสารพัดว่าทางบริษัทต้องการผู้ใหญ่บริหาร หน้าฉากดูเหมือนหวังดี แต่จริง ๆ เหมือนจะพยายามยึดอำนาจ” คำพูดของไวน์ทำเลออนนิ่งงัน ดวงตาคมมองไปนอกกระจกราวกับกำลังวิเคราะห์อะไรบางอย่างอย่างลึกซึ้ง มือข้างหนึ่งกำหมัดแน่นจนเส้นเลือดปูดโปน
“เธอว่ายังไง” น้ำเสียงเรียบเย็นของเลออนถามออกมาในที่สุด
“เธอปฏิเสธ ยืนยันว่าไม่ขายเพราะเป็นสมบัติของพ่อแม่ที่เธอตั้งใจจะรักษาไว้”
ดวงตาของเลออนสั่นไหววูบหนึ่งก่อนจะกลับมานิ่งสนิท เขาหลุบตาลงพร้อมกับเสียงถอนหายใจเบา ๆ ที่ฟังดูเหมือนคนกำลังข่มอารมณ์
“ผมว่าพวกนั้นไม่หยุดแค่นี้แน่ คงกลับมาบีบบังคับหรือไม่ก็ใช่วิธีการเพื่อให้เธอโอนหุ้นให้แน่นอน” ไวท์ที่นั่งอยู่มุมห้องพูดเสียงเรียบขณะกดโทรศัพท์ไปด้วย เลออนเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง แววตาเย็นเยียบราวกับถูกแช่แข็ง ทว่ากลับแฝงประกายอันตรายที่พร้อมจะเผาทุกสิ่งให้มอดไหม้
“จับตาดูไว้” เขาพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ทว่าคมกริบราวใบมีด คำสั่งนั้นเพียงพอให้ทั้งไวน์และไวท์ยืดตัวตรงโดยอัตโนมัติ
“ครับ นาย” ไวน์ตอบพร้อมพยักหน้ารับคำ สีหน้าเปลี่ยนเป็นจริงจังเต็มที่ และในความเงียบที่ตามมา มีเพียงความคิดของเลออนที่กำลังคุกรุ่น ‘ถ้าคิดจะแตะต้องหรือทำร้ายเธอ ก็จงเตรียมใจไว้ให้ดีว่านรกบนดินเป็นยังไง’
พบรักเดินเข้ามาในห้างสรรพสินค้าพร้อมกับนานาเพื่อนสนิทที่ตัวติดกันราวกับเงา ทั้งคู่มองไปที่ร้านค้าต่าง ๆ ด้วยความตื่นตา โดยเฉพาะพบรักที่ไม่ค่อยได้มาที่นี่บ่อยนัก เพราะเธอไม่ชอบความวุ่นวายและเสียงจอแจรอบตัว
เพราะมัวแต่มองซ้ายมองขวาสำรวจรอบตัวด้วยความสนใจ โดยไม่ทันได้ระวังทางข้างหน้า ร่างบางของเธอก็ชนเข้ากับใครบางคนเต็มแรงจนต้องเซถอยหลัง แต่ยังดีที่มีอ้อมแขนแข็งแรงคว้าร่างเธอไว้ได้ทันก่อนจะล้มลง
“โอ๊ย!! ขอโทษค่ะ” พบรักรีบเงยหน้าขึ้นและพูดขอโทษทันที แต่เสียงที่เธอได้ยินตอบกลับมานั้น ทำให้หัวใจของเธอแทบหยุดเต้น
“เป็นอะไรไหม?? ตัวเล็ก” เสียงเข้มทุ้มต่ำแต่อ่อนโยนอบอุ่น ที่ฟังแล้วคุ้นหูอย่างประหลาดดังขึ้น พร้อมกับร่างสูงใหญ่ของชายคนหนึ่งที่มองเธอด้วยสายตานิ่งสนิท ใบหน้าคมเข้มรางเลือนที่เธอจำได้ไม่เคยลืมแม้แต่นาทีเดียว
“!!!” พบรักเงยหน้าขึ้นช้า ๆ ดวงตากลมโตเบิกกว้างเล็กน้อยเมื่อเห็นใบหน้าคมเข้มตรงหน้าเต็มตา แม้เวลาจะผ่านไปหลายปีแต่เธอก็จำเขาได้ทันทีจำได้แม่นยำทุกเสี้ยววินาที
หัวใจของเธอเต้นกระหน่ำราวกับเสียงกลองในอก มันเร็วเกินไปและควบคุมไม่อยู่ ไม่ใช่เพราะแรงกระแทกเมื่อครู่ แต่เป็นเพราะคนตรงหน้าชายหนุ่มผู้ที่เคยอยู่ในความทรงจำของเธอเสมอมา
“พะ...พี่ชาย” เสียงของพบรักสั่นเครือ เธอกะพริบตารัวเหมือนพยายามเช็กว่าเธอฝันไปรึเปล่า เลออนยืนนิ่งอยู่ตรงหน้าเธอดวงตาคมกริบของเขาจ้องมองใบหน้าของเธอเหมือนกำลังจะจดจำทุกอย่างซ้ำอีกครั้ง
“โตขึ้นเยอะเลยนะ ตัวเล็ก” น้ำเสียงทุ้มต่ำของเขาเอ่ยอีกครั้งแววตาที่เคยเย็นชาตลอดเวลาแต่ในเวลานี้กลับอบอุ่น
“...” พบรักไม่ได้ตอบ เธอเพียงแค่ยืนจ้องใบหน้าเขาเงียบ ๆ ราวกับเวลาหยุดหมุน ดวงตาคู่นั้น แววตานั้น น้ำเสียงนั้น ทุกอย่างตรงหน้าชัดเจนเกินกว่าฝัน ในขณะที่ความเงียบกำลังจะครอบงำ
นานาที่อยู่ข้าง ๆ ชะงักไปครู่หนึ่งก่อนจะเหลือบตามองหน้าพบรักด้วยสายตาสงสัย อยากจะเข้าไปใกล้แต่กลับโดนสองหนุ่มไวน์กับไวท์กันไว้
“ตัวเล็กมาทำอะไรที่นี่” เสียงทุ้มต่ำดังขึ้นทำเอาพบรักชะงักไปเล็กน้อย
“เอ่อ... คือ หนูมาเที่ยวค่ะ”
“เที่ยว?? วันนี้ไม่มีเรียนแล้วเหรอ”
“อาจารย์ยกคลาสเลยว่างค่ะ แล้วพี่ชายมาทำไมคะ” เธอยิ้มพลางหลบตาเล็กน้อยอย่างเขิน
“พี่มาคุยงาน”
“อ๋อ... ค่ะ”
“ให้พี่เดินเป็นเพื่อนไหม” คำถามนั้นมาพร้อมรอยยิ้มบางที่แฝงไปด้วยความอ่อนโยน
“แล้วงานพี่ชายเสร็จแล้วเหรอคะ”
“เสร็จแล้วครับ”
“งั้นก็ได้ค่ะ” พบรักยิ้มบาง ๆ ด้วยท่าทางที่เต็มไปด้วยประหม่าที่ไม่มีความกลัวปนอยู่เลย
“ครับ งั้นไปกัน” พูดจบเลออนก็จับมือของพบรักให้เดินออกไปพร้อมกันโดยมีนานา ไวน์และไวท์เดินตามไปเงียบ ๆ ถึงแม้นานาอยากจะพูดอยากจะถามพบรักมาเท่าไหร่แต่ก็ไม่กล้าเพราะกลัวสายตาดุดุของสองหนุ่มที่เดินขนาบข้างตัวเองอยู่
“โอ๊ะ!! นานา” เหมือนเพิ่งจะนึกได้ว่าตัวเองไม่ได้มาคนเดียว พบรักจึงหยุดเดินแล้วหันกลับไปมองด้านหลัง ก็เห็นนานเดินตามมาพร้อมกับสองหนุ่มหล่อก็โล่งใจแต่พอเห็นสายตาคาดโทษของเพื่อนก็ได้แต่ยิ้มแหย ๆ
“ขอโทษ...”
“ย๊ะ!! ก็ฉันมันไม่ใช่ผู้ชายเพื่อนถึงได้ลืม”
“รักไม่ได้ลืม...”
“ไม่ลืมเล้ย!! เพื่อนฉัน”
“จริงสิ พี่ชายคะนี่นานาเพื่อนหนู นานานี่พี่ชาย...” เพียงแค่คำแนะนำสั้น ๆ นานาก็เข้าใจได้ทันทีเลยว่าผู้ชายคนนี้ก็คือพี่ชายที่พบรักนึกถึงอยู่ตลอด
เลออนเพียงพยักหน้ารับสายตานิ่งเรียบเย็นชาอย่างเคย ไม่คล้ายสายตาที่มองพบรักเลยแม้แต่น้อย นานามองสบตาเขาแล้วถอนหายใจเงียบ ๆ ก่อนจะเอ่ยเสียงหวาน
“สวัสดีค่ะ หนูชื่อนานาค่ะ เป็นเพื่อนสนิทที่สุดของยัยรัก”
เลออนหันกลับมาหาพบรักอีกครั้ง มือใหญ่ยังไม่ปล่อยมือของเธอออก เขาจับไว้แน่นแต่ไม่ถึงกับบีบแรง ราวกับไม่อยากปล่อยเธอให้หลุดหายไปไหนอีก
“อยากดูอะไรไหม เดี๋ยวพี่พาไป” เขาถามเสียงนุ่ม น้ำเสียงนั้นไม่ได้อ่อนหวานจนน่าประหลาดใจ แต่มันเต็มไปด้วยความใส่ใจที่สัมผัสได้อย่างชัดเจน
“หนูแค่อยากเดินดูเฉย ๆ ค่ะ ไม่ได้อยากได้อะไรเป็นพิเศษ” เธอยิ้มบาง ๆ พลางเหลือบตามองมือของตัวเองที่ถูกเขาจับไว้ ก่อนจะเงยหน้ามองเขาอีกครั้ง
“พี่ชาย... ปล่อยมือหนูก่อนดีไหมคะ คนมองหมดแล้ว”
เลออนเหลือบตามองรอบตัวนิดหนึ่งก่อนจะตอบเรียบ ๆ
“อย่าไปสน” คำพูดธรรมดาแต่กลับทำให้หัวใจพบรักเต้นแรงขึ้นโดยไม่รู้ตัว
ไวน์แอบเหลือบตามองทั้งคู่แล้วอมยิ้มกว้างขณะที่ไวท์ยังคงสีหน้าเรียบเฉยเช่นเดิมแต่แววตาแสดงถึงความดีใจไม่ต่างกัน
พบรักเดินมาได้สักพักก็หยุดมองตุ๊กตาหมีตัวใหญ่สีขาว เธอมองอย่างสนใจโดยไม่พูดอะไร เลออนสังเกตเห็น เงียบไปชั่วครู่ก่อนจะถาม
พบรักเดินมาได้สักพักก่อนจะหยุดยืนตรงโซนตุ๊กตาและของเล่น สายตาจับจ้องไปยังตุ๊กตาหมีสีขาวตัวใหญ่ที่วางอยู่ในตู้โชว์ เธอมองมันด้วยแววตาเป็นประกายเล็ก ๆ แม้จะไม่ได้พูดอะไร แต่ความสนใจของเธอก็ชัดเจนเกินจะซ่อนได้ เลออนที่เดินอยู่ข้างกันเหลือบมอง ก่อนจะเงียบไปชั่วครู่ แล้วเอ่ยถามเสียงเรียบ
“ชอบเหรอ??”
“คะ??” พบรักหันมามองเลออนด้วยสีหน้างุนงงสงสัย
“ตุ๊กตาน่ะ”
“ค่ะ แต่ไม่ต้องซื้อหรอก หนูว่าเราไปเดินดูอย่างอื่นดีกว่า” เธอยิ้มบาง ๆ พยายามพูดกลบความรู้สึก แต่แววตาก็ยังเผลอมองไปทางตุ๊กตานั้นอีกครั้งอย่างไม่รู้ตัว เลออนสบตาเธอเพียงแวบหนึ่ง ก่อนจะพูดขึ้นสั้น ๆ
“ถ้าหนูชอบก็ซื้อ”
ยังไม่ทันที่พบรักจะเอ่ยอะไร เขาก็หมุนตัวเดินเข้าไปร้านทันที ทิ้งให้เธอยืนมองตามด้วยความงุนงงปนเขิน รู้สึกเหมือนหัวใจเต้นแรงขึ้นโดยไม่ตั้งใจ ไม่นานนัก เลออนก็เดินกลับมาพร้อมตุ๊กตาหมีตัวใหญ่ในมือ เขายื่นมันให้เธอโดยไม่พูดอะไรพบรักรับไว้ด้วยสีหน้าแดงระเรื่อหัวใจเต้นแรงจนแทบควบคุมไม่อยู่ กลับมาเจอกันอีกครั้งเขาก็ยังดีและใส่ใจเธอเหมือนเดิน
“ขะ... ขอบคุณค่ะ” เธอพูดเสียงเบา แต่รอยยิ้มที่ปรากฏขึ้นกลับอ่อนโยนและซาบซึ้ง เลออนเพียงพยักหน้าเล็กน้อยแม้จะไม่พูดอะไร แต่ในสายตาที่มองเธอมีบางอย่างอ่อนโยนอยู่เงียบ ๆ เหมือนกับว่า แค่เห็นเธอยิ้ม... ก็เพียงพอแล้วสำหรับเขา