จุดเริ่มต้นของความเจ็บปวด(1/2)

898 Words
เขื่อนเอาแต่หงุดหงิดกับชีวิตที่ไม่ได้ดังใจ แต่อีกคนกลับไม่มีแม้แต่เวลาจะหงุดหงิดกับอะไรทั้งนั้น เธอในวัยสิบเก้าปี กับลูกในท้องยังไม่รู้เลยว่าพรุ่งนี้ควรจะเดินไปทางไหน @ท่าเรือเกาะมันตรา ด้วยความเป็นห่วงเพื่อนแทนจึงออกมากับเรือรอบเช้าเพื่อรอรับปิ่นมุกหลังจากที่เจ้าตัวบอกว่าจะนอนในเมืองสักคืนแล้วตอนเช้าค่อยกลับเข้าเกาะ แทนมองเห็นเจ้าของร่างเล็กเดินลากกระเป๋ามาแต่ไกล ท่าทางดูอิดโรยเหลือเกินเพราะแทบไม่กินไม่นอนมาเป็นอาทิตย์ จึงรีบวิ่งเข้าไปดึงก้านกระเป๋าจากมือเล็ก ๆ มาถือไว้เอง ยิ่งมองก็ยิ่งอดเป็นห่วงไม่ได้ท้องอ่อน ๆแบบนี้ทำไมคุณเขื่อนถึงปล่อยให้มาคนเดียวนะ อยู่ดี ๆ ก็หายไปทั้งวันทั้งคืน แต่สภาพที่โผล่มาก็ยังโทรมเหมือนเดิม พอพยุงปิ่นมุกลงนั่งเรียบร้อยจึงเอานิ้วอังจมูกดูหน่อย "หล่อนก็ยังหายใจปกตินี่ แต่ท่าทาง...เฮ้อ สภาพฉันตื่นนอนยังดูดีกว่าหล่อนตอนนี้อีก" "ขอบใจนะแทน แต่ตอนนี้ปิ่นเหนื่อยมากเลย" "ซบมาสิ ถึงท่าเดี๋ยวปลุก" ฟังเสียงเพื่อนที่เอ่ยออกมาเต็มไปด้วยความอ่อนล้าก็ทำให้แทนอดสงสารไม่ได้ แต่แค่นี้ก็ดีแล้วที่อังจมูกแล้วยังมีลมหายใจอยู่ ปิ่นมุกซบศีรษะลงที่ไหล่ของเพื่อนอย่างไร้เรี่ยวแรง ตลอดสี่สิบนาทีที่อยู่บนเรือมีเพียงลมหายใจกับน้ำตาเท่านั้นที่ทำให้เห็นว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ "ปิ่น ถึงท่าแล้ว" เสียงแทนเรียกเบา ๆ พร้อมสะกิดเพื่อนให้ลุกขึ้น ปิ่นมุกหันไปมองรอบ ๆ เหมือนอยากเก็บที่นี่เอาไว้ในความทรงจำตลอดไปเพราะเธอตัดสินใจแล้วว่าคงจะต้องไปจากเกาะแห่งนี้เสียที "แทน ปิ่นขอบคุณนะสำหรับทุกอย่างเลย" ไม่ว่าจะทุกข์หรือสุขเธอก็มีแต่เพื่อนคนนี้จริง ๆ "พูดอะไรเยอะแยะ คำขอบคุณล้นกระเป๋าจนเก็บไม่หมดแล้ว แล้วปิ่นจะเอายังไงต่อหรือว่ารอคุณธีร์กลับมาก่อน" คุณธีร์ที่แทนพูดถึงก็คือ "ธีร์ดนัย ภูมิพัฒน์" อาของเขื่อนซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินหนึ่งในสามของเกาะมันตราทั้งยังเป็นผู้มีพระคุณของปิ่นและแม่อีกด้วย เธอจะไม่เอาความลำบากใจมาให้คุณธีร์อีกเด็ดขาด ตอนที่เกิดเรื่องเมื่อปีก่อนระหว่างเธอกับอดีตสามีก็ได้คุณธีร์ช่วยเหลือเรื่องทั้งหมดจึงจบลงได้ด้วยดี "คุณธีร์จะกลับมาตอนไหนเหรอแทน" "เห็นว่าเพิ่งได้สัมปทานรังนกที่เกาะมันตราน้อย คงไปอยู่ที่นั่นอีกเป็นเดือน ส่งข่าวก็อาทิตย์ละครั้ง คุณธีร์เลยไม่ได้มางานศพป้าเครือไง" ปิ่นมุกพยักหน้าเบา ๆ รับรู้ ใจจริงอยากจะอยู่ลาคุณธีร์ให้เรียบร้อย แต่ก็ไม่อยากให้คุณธีร์ต้องรับรู้และลำบากใจเพราะเรื่องของเธออีก แม้คุณธีร์จะเป็นเพียงคนเดียวที่เธอสามารถพึ่งพาได้ แต่คุณธีร์ก็ควรจะมีชีวิตที่ปกติสุขบ้าง "ฝากแทนลาคุณธีร์ให้ด้วยนะ" "อ้าว พูดเหมือนจะไม่กลับมาอีก แล้ว...แล้วคุณเขื่อนล่ะ?" ตั้งแต่แม่ของปิ่นมุกเสียจนงานศพผ่านไปลอยอังคารเสร็จแล้วก็ยังไม่เห็นแม้แต่เงาของคุณเขื่อน ใครบ้างจะไม่สงสัยแม้ว่าสองคนจะแต่งงานกันเพราะสถานการณ์ในตอนนั้นบีบบังคับ แต่ก็ใช้ชีวิตเป็นผัวเมียตั้งหนึ่งปีกว่า ๆ ก็ควรจะมีน้ำใจสักหน่อยหรือเปล่า "คุณเขื่อนงานเยอะน่ะช่วงนี้เลยไม่ได้มา ปิ่นขอตัวไปเก็บของก่อนนะ พรุ่งนี้จะได้ออกไปแต่เช้า" ปิ่นมุกพูดจบก็เดินหันหลังมุ่งตรงไปยังบ้านพักคนงานของเธอและแม่ เพราะไม่อยากให้เพื่อนถามอะไรที่เป็นการจี้ใจดำได้อีก สายตาของคนงานในรีสอร์ตต่างจับจ้องและกระซิบกระซาบกันหลังจากปิ่นมุกเดินผ่าน ในงานศพแม่ของปิ่นมุกไม่มีใครเห็นคุณเขื่อนเลยแม้แต่เงา เพื่อนวัยเด็กได้แต่แอบถอนหายใจเบา ๆ ชีวิตคู่ดูท่าคงไม่ราบรื่น เพราะมันก็เป็นแบบนั้นตั้งแต่วันแรกอยู่แล้ว "ก็หัวสูงไปแย่งเขามา แค่เขาเอาเป็นเมียก็ดีเท่าไรแล้ว" "กูก็ว่าตอนนั้นนังปิ่นเพิ่งสิบแปด คงหวังใช้ความเด็กมัดใจคุณเขื่อน น่าสงสารก็แต่คุณนิแฟนคุณเขื่อนนะ" "ถ้าคุณธีร์ไม่ช่วยพูดตอนนั้น ป่านนี้ก็ขายขี้หน้าไปทั่วเกาะแล้ว" "พี่เครือตาย แต่คุณเขื่อนไม่มา มันก็แปลก ๆ นะ" "มันแปลกมาก มึงว่าเขาเลิกกันยังวะ" "ตระกูลคุณเขาเป็นผู้รากมากดีมาแต่ไหนแต่ไร ใครจะอยากเอาเด็กไร้หัวนอนไปทำเมีย" เสียงนินทาที่ปิ่นมุกได้ยินแม้จะเจ็บปวดทุกคำ แต่ก็คัดค้านออกไปไม่ได้จริง ๆ เพราะมันคือเรื่องจริงทุกคำที่คนเหล่านั้นพูดออกมา
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD