“เลิกกอดหมอนแล้วนั่งบิดตัวไปมาสักทีได้ไหม” เจสซี่พูดขึ้น เธอกำลังทำผมให้ฉันอยู่ด้านหลัง ก็คนมันเขินอ่ะ ถึงแม้ตอนเช้าจะผ่านพิธีแต่งงานกันมาแล้ว และได้สัมผัสริมฝีปากนุ่มๆ นั้นแล้วก็เถอะ แต่….อ๊ายยย ตายอย่างสงบศพสีชมพูแค่คิดเรื่องเขาหอ ฉันก็……
“พอสักที ไอ้อาการบ้าผู้ชาย หรือบ้าสามีป้ายแดงของแก คืนนี้ก็จะได้กินเขาอยู่แล้ว อดใจไว้” น้ำหยกพูดแทรกขึ้น
อย่าพูด เพราะฉันคิดตาม แค่คิดหัวใจก็เต้นไม่เป็นส่ำแล้ว ฉันกับพี่ตรีคบกันมาตั้งแต่ฉันเรียนมอต้น แล้วตอนนี้ฉันเรียนจบป.ตรีมาได้จะหนึ่งปีแล้ว และในวันเรียนจบ เขาก็ได้คุกเข่าขอฉันแต่งงาน เพื่อนทั้งสองต่างทำเซอร์ไพรให้กับฉัน มันได้ฟิวมากๆ ฉันยื่นมือออกไปข้างหน้าเพื่อให้เขาสวมแหวนให้ทั้งน้ำตาแห่งความดีใจ
ทั้งชีวิตของฉัน ถูกเลี้ยงดูมาเหมือนกับไข่ในหิน ยิ่งตอนฉันเสียแม่ไปตอนประถม พ่อของฉันยิ่งประคบประหงมแทบจะไม่ให้ฉันทำอะไร หรืออยากไปไหนตามใจชอบ ฉัน เหมือนลูกนกในกรงทอง จนฉันขึ้นมอปลาย พ่อจึงแต่งงานใหม่ ที่มาพร้อมน้องสาวติดแม่เลี้ยง มันเป็นโชคดีของฉันที่แม่เลี้ยงเป็นคนใจดี เธอไม่เคยว่าร้ายหรือทำร้ายฉัน เหมือนแม่เลี้ยงในหนังที่เคยดูกัน แต่กลับกลายเป็นเหมือนเพื่อนที่คอยให้คำปรึกษาเวลาฉันที่มีปัญหาเสมอ
ส่วนน้องสาวต่างสายเลือดของฉัน ลินดาเธอเป็นคนสวยใช่ย่อย แต่ร่างกายกลับอ่อนแอ เธอเจ็บป่วยอยู่บ่อยครั้ง เป็นเหมือนเจ้าหญิงผู้อ่อนแอ ส่วนฉัน เหมือนควายถึกแต่ไม่โง่นะ ร่างกายฉันแข็งแรงมาก น้อยนักที่จะเจ็บป่วย
“เป่าเป้ย” เป็นชื่อเรียกของฉัน หรืออาจเรียกสั้นๆ ว่า เป้ยก็ได้ เราเป็นคนที่ชอบอ่านหนังสือมากๆ ได้ท็อปทุกวิชาตั้งแต่เด็กจนโต ต้องขอบคุณแม่ผู้ที่ทำให้ฉันเป็นเด็กเรียนดี แม่สอนภาษาให้ฉันตั้งแต่เด็ก หลักๆ ก็จะมี จีน และอังกฤษ ซึ่งฉันก็ว่าสองภาษาของฉันอยู่ในระดับดีมากเลยทีเดียว แต่อย่าพึ่งอิจฉาฉันไป ชีวิตของฉัน ไม่ได้สวยหรูขนาดนั้น หรืออาจเป็นเพราะฉันคิดไปเอง
ทุกคนล้วนบอกว่าฉันโชคดี ลองมาเป็นฉันสิ จะได้รู้ว่าโชคดีหรือโชคร้าย ฉันลูกสาวคนรองของบ้าน ซึ่งมีพี่ชายแท้ๆ อยู่หนึ่งคน “อาหยาง” ผู้ชายที่ต้อง คอยแบกรับอะไรเอาไว้มากมาย ความคาดหวังต่างๆ ที่ผู้เป็นพ่อประเดประดังส่งมาให้ไม่ขาดสาย พร้อมกับฉัน คิดดู มันคือโชคดีอยู่ไหม เรื่องเงินทองใช่ฉันโชคดี แต่เรื่องแบกรับหน้าที่ของคนเป็นลูกนี่ลำบากมาก แต่คงสู้คนเป็นพ่อและพี่ชายไม่ได้ ฉันพยายามทำความเข้าใจอยู่หลายต่อหลายครั้ง กับสิ่งที่ต้องเจอ
มันโอเคแล้วไหม ที่ต้องเป็นนกน้อยในกรงทอง ในหนึ่งวันพ่อฉันจัดตารางเอาไว้และมีคนคอยดูแลเรื่องเวลาของฉันตลอด หึ!! แค่คุณคิดชีวิตก็หมดสนุกแล้ว ฉันผ่านมันมาได้ยังไง ฉันยังไม่รู้ตัวเองด้วยซ้ำ
แต่ในความที่บอกว่ามันเป็นโชคร้าย ก็มีโชคดีอยู่หน่อย เมื่อพ่อแต่งงานใหม่ แม่เลี้ยงจึงปรับเปลี่ยนอะไรหลายๆ ในชีวิตของฉันและพ่อ แล้วอิสระก็เกิดขึ้น แต่มันก็เพียงน้อยนิด แต่ก็ดีกว่าครั้งก่อน ที่ไม่ว่าจะไปไหนแค่เอ่ยปาก หึ!! อย่าแม้แต่จะคิด ชีวิตที่เป็นอิสระจริงๆ หรอ นอนฝันเถอะ!!
พอชีวิตมหาลัย มันก็ดีขึ้นมาอีกนิดที่ ฉันออกมาอยู่ข้างนอก แต่ก็ไม่พ้นกรงทองอยู่ดี แต่มีหรอที่นกน้อยอย่างฉันจะอยู่ในกรงตลอด มันก็มีบ้างที่ต้องการโบยบินออกมานอกกรง ตัวช่วยของฉันก็ไม่มีใครนอกจากสองสาวเพื่อนสนิท น้ำหยกเป็นลูกนายพลยศใหญ่ ส่วนเจสซี่พ่อของเธอเปิดธุรกิจท่องเที่ยว รอบกายฉันมีเพื่อนที่ดี ชีวิตฉันก็ถือว่ามีความสุขขึ้นมาเมื่อมาเจอสองคนนี้
“เหม่ออะไร แต่งหน้าเสร็จแล้ว เอาชุดไป จะได้เวลาแล้วนะ” น้ำหยกยื่นชุดสีขาวมาให้ฉัน “ลอกคราบสักทีนะ แต่ก่อนนี่เฉิ่มจนฉันไม่อยากจะเดินด้วย ดีหน่อยที่เรียนดี ฉันถึงได้พึ่งใบบุญของแกจนเรียนจบ” เธอพูดและหัวเราะไปพร้อมกัน
“ย่ะ แต่ฉันตื่นเต้นอ่ะ” ตอนนี้มือของฉันเย็นจนแทบไม่มีสี
“โห้ เย็นจริง” น้ำหยก เอามือมาจับมือของฉัน แล้วต้องตกใจ “โอเวอร์เกินไปแล้วไหม คบกันมาตั้งนาน ยังจะตื่นเต้นอะไรมากมาย”
“ก็มันตื่นเต้นนี่นา”
“หายใจเข้าลึกๆ แล้วไปแต่งตัว มีพวกฉันอยู่แกไม่ต้องห่วง” เจสซี่เดินเข้ามากุมมือฉันอีกคน ฉันนี่ยิ้มออกมาทั้งน้ำตาจริงๆ พวกเขาไม่เคยทิ้งฉันไปไหน
“ขอบใจนะเว้ย ฉันรักพวกแกที่สุด” ฉันสวมกอดเพื่อนทั้งสองด้วยความรัก จะมีสักกี่คนที่ทำดีกับเราด้วยใจจริง ขอบคุณนะเว้ย ที่อยู่ข้างๆ กันไม่หายไปไหน ไม่นานพี่ชายของฉันก็เดินเข้ามาในห้อง วันนี้พี่ชายดูหล่อจนฉันเบิกตากว้าง ชุดสูทสีครีมเนื้อผ้าดี ผมที่ยาวเคลียไหล่ ตอนนี้ถูกตัดแต่งเป็นทรงเข้ากับใบหน้าหล่อคนเข้มของเขา โอ้ยไม่นะ ตั้งแต่เกิดมาฉันไม่เคยมองเห็นความหล่อของเขาเลย
“มองอะไร” พี่หยางพูดพร้อมหลบสายตาของฉัน เมื่อเห็นฉันจ้องเขาไม่วางตา มาดหนุ่มเซอร์หายไปหนายยยย ไม่แค่ฉันนะที่จ้องพี่หยางยัยหยกนี้จ้องตาเป็นมันเลย ส่วนยัยเจสมองแค่แป๊บๆๆ “มองพอแล้วมั้ง”
ฉันรีบผละออกจากเพื่อนแล้วเดินไปด้านหน้าของพี่ชายสุดหล่อ เดินมองสำรวจรอบกายของเขาตั้งแต่หัวจรดเท้า สุดยอด!! หล่อแบบไม่มีที่ติ แต่หล่อน้อยกว่าสามีป้ายแดงของฉันเล็กน้อย
“พี่ชายของเป้ยหล่อแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ค่ะ” ฉันฉีกยิ้มหวานใส่คนตรงหน้า ก่อนเขาจะวางมือทั้งสองข้างบนไหล่ของฉัน
“หล่อตั้งนานแล้ว แค่คนบางคนตาบอด มองไม่เห็น”
“จ๊ะ”
“เป็นไง เหนื่อยไหม”
เป็นครั้งแรกที่ฉันมองเห็นสายตาแบบนี้ของพี่ สายตาที่มองฉันอย่างห่วงใย ปกติพี่หยางจะยุ่งอยู่กับงาน เราแทบไม่มีเวลาได้พูดคุยกันต่อหน้า อย่างมากก็คุณไลน์ ฉันยิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนส่ายหน้าเป็นคำตอบ
“พี่ไม่ไว้ใจผู้ชายคนไหนทั้งนั้น ถ้าวันใดที่มันทำให้น้องของพี่เสียใจ พี่จะไม่เอามันไว้ให้มีลมหายใจ” พี่หยางจับมือฉันขึ้นมากุมเอาไว้ ฉันรับรู้ได้ถึงความห่วงใยของพี่ชายที่มีต่อน้องสาวอย่างฉัน “ว่าแต่เราเถอะ มั่นใจแล้วนะ ว่าผู้ชายคนนี้คือคนที่ใช่”
ฉันพยักหน้าทันที ฉันรู้ว่าพี่ไม่เคยเข้ามาวุ่นวายหรือก้าวก่ายเรื่องนี้เพราะฉันได้ตัดสินใจไปแล้ว และได้บอกทุกคนในครอบครัว ถึงตอนแรกทุกคนจะไม่เห็นด้วยที่ฉันมีแฟน แต่พี่ตรีก็ไม่เคยท้อที่จะทำให้ครอบครัวของฉันใจอ่อนยอมรับเขา และให้เราสองคนคบกัน นับตั้งแต่วันนั้น หัวใจของฉันก็เป็นของเขาแค่คนเดียว
“เลิกขี้แย เลิกเข้มแข็ง มีสามีแล้วก็หัดอ่อนแอให้เข้าดูแลบ้าง ผู้ชายไม่ชอบผู้หญิงอ่อนแอก็จริง แต่ก็ไม่ได้ชอบผู้หญิงที่เข้มแข็งไม่เคยโอนอ่อน น้องต้องเป็นต้นกล้า ที่โอนเอนไปตามสายลม อย่าฝืนตัวเอง ถ้าที่ตรงไหนควรค่าให้เราอยู่ ก็อยู่ ถ้าไม่ควรค่าก็ถอยออกมา น้องยังมีพี่และพ่อที่อยู่ข้างๆ เสมอนะ หวังว่าน้องจะมีความสุขในสิ่งที่เลือก” คำพูดอันยาวเหยียดเท่าที่เกิดมา ที่พี่หยางพูดกับฉัน มันซึ่งกินใจเกินไปแล้วไหม ฉันห้ามน้ำตาตัวเองไม่อยู่ ไม่รู้จะทำยังไง ก่อนจะโผล่เข้ากอดพี่ชายตรงหน้า และเขาก็กอดฉันตอบกลับด้วยเช่นกัน
“ขอบคุณค่ะ หนูรักพี่นะ รักที่สุด”