ตี๊ง
เสียงลิฟต์ที่มาถึงด้านล่างดังขึ้น ทันทีที่ฉันเดินออกมาจากลิฟต์เพื่อเดินตรงไปยังห้องจัดเลี้ยง แต่กลับโดนเพื่อนทั้งสองคนคว้ามือเอาไว้ก่อน น้ำหยกหยิบผ้าขึ้นมาปิดตาของฉัน เธอบอกว่าเป็นการเซอร์ไพรจากพวกเธอทั้งสองคน ก่อนทุกอย่างรอบข้างของฉันจะมืดสนิท
ทั้งสองคนจูงมือฉันนคนละข้างเดินมาเรื่อยๆ หัวใจของฉันเริ่มเต้นแรงเข้าไปทุกที ปากก็คอยถามว่าถึงหรือยังจนน้ำหยกและเจสซี่รำคาญ
สายลมพัดเข้ามาปะทะใบหน้าของฉัน จนฉันต้องห่อไหล่ มันคือลมอะไร แอร์ในห้องจัดงานเปิดแรงขนาดนั้นเลยหรอ ฉันฟังเสียงกระดิ่งที่ดังขึ้น ไม่ใช่เสียงกระดิ่งอันเดียวแต่มันเป็นกระดิ่งน่าจะขนาดเล็ก และอาจจะมากมาย เพราะพวกมันกำลังดังประสานกัน แต่แปลกเสียงนี่มันกลับทำให้ฉัน สงบใจพิลึก
และแล้ว ผ้าปิดตาก็ถูกเปิดออก แม่เจ้า!!! มันเหมือนความฝัน ทางด้านหน้าถูกปูด้วยพรมแดง ที่ยื่นออกไปหน้าหาดทราย ที่ตอนนี้ถูกจัดเตรียมเอาไว้อย่างสวยงาม ดอกกุหลาบสีขาวปนสีแดง ทำเป็นอุโมงค์เดินเพื่อไปยังเวทีด้านหน้า แขกมากมายต่างส่งเสียงพูดคุยและปรบมือให้กับเจ้าสาวที่กำลังเดินเข้าไปในงาน
ฉันคิดว่างานจะถูกจัดขึ้นในห้องโถงใหญ่ของโรงแรมซะอีก ไม่รู้ว่าพวกเขาสองคนจัดการเรื่องแบบนี้ได้เช่นไร แต่ฉันชอบ ฉันหันมายิ้มให้กับน้ำหยกและเจสซี่ก่อนสวมกอดทั้งสองด้วยน้ำตา และกล่าวขอบคุณพวกเขาอีกครั้ง
“เจ้าบ่าวรออยู่ ไปได้แล้ว” เสียงของน้ำหยกดังขึ้น ฉันพยักหน้าเล็กน้อย ก่อนออกเดินไปหาเจ้าบ่าวที่ยืนตระหง่านรอฉันอยู่บนเวทีด้านหน้า
สวย มันสวยจริงๆ ฉันอดไม่ได้ที่จะเดินลอดซุ้มดอกไม้โดยไม่เชยชม แสงไฟที่ถูกประดับเอาไว้ พระอาทิตย์กำลังตกลงบนผิวน้ำ มันช่างเป็นบรรยากาศที่สุดแสนโรแมนติก ฉันนี่ไม่แทบจะหุบยิ้มเลยด้วยซ้ำ
มือของเขายื่นออกมาด้านหน้าฉันไม่ลังเลมันสักนิดที่จะจับมันเอาไว้ มือของฉันถูกกุมเอาไว้แน่น เราทั้งสองต่างกล่าวคำสาบานว่าเรา จะรักกันชั่วนิรันดร์ ความสุขของลูกผู้หญิงคนหนึ่งในวันแต่งงานมันเป็นแบบนี้นี่เอง
“พี่รักเป้ยนะ พี่สัญญาจะดูแลและรักเป้ยตราบเท่าลมหายใจของพี่มี”
พี่ตรีหันมาสบตากับฉัน ตอนนี้ฉันรู้สึกว่าตัวเองกำลังล่องลอยอยู่บนอากาศ เหมือนโลกทั้งใบมันหยุดหมุนและมีเพียงเราสองคน ใบหน้าหล่อๆ ของเขามันช่างทำให้ฉันเคลิบเคลิ้ม ถ้ามันเป็นความฝันฉันก็ไม่อยากตื่นขึ้นมา
“ร้องไห้ทำไม”
“ก็เป้ยดีใจไงคะ เป้ยรักพี่ตรีนะ เราจะอยู่ด้วยกันไปจนแก่เฒ่าเลยค่ะ” มือของฉันทั้งสองข้างถูกเขากุมเอาไว้ ก่อนที่จะยกมันขึ้นแนบกับริมฝีปากของเขา เสียงโห่ร้องดังมาเป็นระยะ เห้ยย ฉันคิดว่าชีวิตนี่ไม่ต้องการอะไรอีกแล้วล่ะ ขอแค่มีเขาฉันก็มีความสุขมากแล้ว
“วันนี้เป้ยสวยมากเลยนะ พี่พึ่งรู้ว่าพี่รักนางฟ้าอยู่”
พี่ตรีกระซิบข้างใบหูของฉัน จนเขินแล้วบิดตัวไปมา ฉันก็สวยทุกวันนะแต่ไม่มีคนเห็นต่างหาก ใช่!! ฉันมันผู้หญิงเฉิ่มที่หลายต่อหลายคนต่างบอกว่าฉันไม่คู่ควรกับพี่ตรีแม้แต่น้อย บางคนยังพูดว่า เล็บขบยังเหมาะกับพี่ตรีมากกว่าฉัน เหอะพูดมาได้ คนกับเล็บขบมันเหมือนกันตรงไหน ฉันอยากสะบัดม๊อบใส่คนที่เปรียบเทียบฉันจริงๆ แค่สวมแว่นไม่แต่งตัวแต่งหน้า แค่นั้นก็หาว่าฉันไม่สวย ชิ ลองมาดูตอนนี้สิ จะรู้ว่านางฟ้ามีจริง!!
ได้เวลาโยนช่อดอกไม้ นั่นแน่ อยากรู้ละสิว่าใครจะได้เป็นเจ้าของคนต่อไป ดอกกุหลาบหลากสีถูกจัดเป็นช่อพอดีมือ ตอนนี้ฉันไม่ได้ให้ความสนใจกับช่อดอกไม้แม้แต่น้อย สามีป้ายแดงของฉันต่างหากที่น่าสนใจกว่า เพราะอะไรรู้ไหม เขายืนกอดเอวฉันเอาไว้ ฉันรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังอยู่ในอ้อมกอดของเจ้าชาย เฮ้ยยยย
เป่าเป้ยแกต้องมีสติ ยังไงคืนนี้ก็ต้องได้…..แค่คิดก็ฟินแล้วป่ะ ทุกคนต่างมายืนออกันอยู่หน้าเวทีเพื่อนเตรียมรับดอกไม้ของฉัน จะรอช้าทำไมล่ะ ก็โยนสิคะ ฉันหันหลังแล้วออกแรงโยนดอกไม้ ฉันภาวนาในใจ คนผู้ใดที่ได้รับดอกไม้ของฉันในวันนี้
ของให้เขา เป็นคนโชคดีและมีความสุขกับความรักเช่นเดียวกันกับฉัน ซึ่งมีความสุขจนล้นหัวใจ เมื่อดอกไม้หลุดลอยไปในอากาศฉันก็รีบหันมามองทันทีถึงผู้โชคดีคนนั้น เชื่อไหม!! ไม่รู้ฉันเอาแรงที่ไหน โยนดอกไม้ออกไปไกล แต่มันก็ช่างเป็นเรื่องน่าเหลือเชื่อ คนที่ได้รับดอกไม้โดยไม่ตั้งใจกลับเป็น…..
เขาคนนั้น…..
ใบหน้าหล่อยังคงนิ่งเรียบไม่ฉายอารมณ์ใดๆ ออกมา ช่อดอกไม้ถูกโยนไปวางไว้หน้าตัก เหมือนถูกจับไปวางเอาไว้ เสียงโห่ร้องยังคงดัง และมีอีกเสียงหนึ่งดังขึ้นคือ ...การแสดงความยินดีกับเจ้าของคนใหม่ของช่อดอกไม้ เขาหยิบมันวางไว้บนโต๊ะ โดยไม่สนใจแม้แต่น้อย ก่อนหันหน้าไปคุยกับพี่ชายของฉันต่อ
ชิ จนถึงตอนนี้เขาก็ยังคงความหยิ่งเอาไว้ ได้คงเส้นคงวาไม่ลดแม้แต่เซนเดียว แต่ใครจะไปสน ฉันหันหน้ามายิ้มให้กับพี่ตรีที่ยืนอยู่ข้างๆ ของฉัน ก่อนที่เราจะเดินไปทักทายแขกที่มาร่วมงาน แล้วปาร์ตี้ก็เริ่มขึ้น เสียงหัวเราะพูดคุย วันนี้สิ่งที่ฉันแปลกใจมากคือ พ่อของฉัน ท่านไม่เคยยิ้มแบบนี้มาก่อน รอยยิ้มของท่านมันทำให้ฉันยิ้มทั้งน้ำตา ก่อนที่พ่อจะหันมาทางฉัน แล้วกวักมือเรียกให้เข้าไปหา
พี่ตรีถูกแนะนำให้รู้จักกับญาติคนอื่นๆ ที่มาร่วมงาน เขาคงไม่เคยเจอญาติเหล่านี้ของฉัน เพราะต่างคนต่างอยู่ห่างกันไกลนานๆ จะเจอกันที ทุกคนต่างพูดคุยทักทายและเอ่ยปากชมพ่อไม่หยุด ว่าเขาได้ลูกเขยหล่อและมีความสามารถ มาช่วยครอบครัวของฉัน
แต่ฉันกลับฟังมันเหมือนเป็นการพูดกระทบ คำพูดเหล่านั้นที่ดูดีสวยหรู มันซ่อนใบมีดคมเอาไว้ด้านใน ฉันมองเห็นสีหน้าของพี่ตรี ที่ตอนนี้เขาเอาแต่ยิ้ม แววตากลับต่างออกไป มือเล็กถูกวางลงไปบนมือใหญ่ที่แสนอบอุ่นของคนตรงหน้า เขาหันมาจ้องมองฉันก่อนจะยิ้มออกมาบางเบา ก่อนพยักหน้า ฉันรู้ว่าญาติที่มาร่วมงาน ในใจของพวกเขาไม่ได้รู้สึกยินดีปรีดากับงานแต่งของฉันแม้แต่น้อย เพียงเพราะชายหนุ่มที่มาเป็นเจ้าบ่าวของฉัน เขาไม่ใช่คนร่ำรวย
พี่ตรีเป็นเด็กกำพร้า เขาสู้ชีวิตมาตั้งแต่เด็กๆ กว่าที่จะมีอะไรเหมือนเช่นทุกวันนี้ เขาต้องอดทนเป็นอย่างมาก ตอนแรกที่คบกันทุกคนต่างมองว่าเขาจะมาหลอกลวงฉัน หวังอยากได้เงินทอง แต่แล้วเขาก็ได้พิสูจน์ตัวเอง จนทุกคนในครอบครัวของฉันยอมรับ และเราก็ได้แต่งงานกัน พอคิดย้อนกลับไป มันก็ไม่ใช่เวลาน้อยๆ ที่ฉันรู้จักกับเขา สิบปี สิบปี ที่เขาสร้างเนื้อสร้างตัว เพื่อที่จะได้ยืนอยู่ข้างฉันได้
จะมีผู้ชายสักกี่คน ที่จะทำเพื่อผู้หญิงที่รัก โดยยอมอดทนได้มากขนาดนี้
ฉันเป็นผู้หญิงที่สุดแสนจะโชคดีที่สุดในโลก!!
**********