Chapter 20 แค่แก้วเดียว

1128 Words
ชลวัสเลิกคิ้ว ยักไหล่ เบนสายตาไปหาสาวน้อย “ครับ สักสิบโมงนะครับน้องอุ่น” “เอ่อ ค่ะ” “เข้างานสิบโมงครึ่งเลิกห้าโมงตรง” ปฏิพัทธ์สำทับ “ครับเจ้านาย ควบกะด้วยไหม” “เฉพาะช่วงกลางวัน กลางคืนเธอมีกะควบแล้ว” คนหน้านิ่งเฉยตอบเสียงเรียบไม่เปลี่ยน หากมันทำให้วงแก้มใสร้อนผะผ่าว เผลอคิดไปไกลจนต้องยกแก้วค็อกเทลดื่มอึกใหญ่หลายอึกดับความวาบโหวงในโพรงอก ชลวัสลอบขำ ไม่ใช่ขำสาวน้อย ขำเจ้านายของตนเองที่ช่างพูดออกมาหน้าตาเฉย วางท่านั่งดื่มนิ่งๆ สายตาคมนั้นไม่นิ่งสักนิด บ่อยครั้งที่เขาเห็นว่ามันถูกทอดลงจับวงหน้ากระจ่าง ผู้ช่วยหนุ่มหยิบแท็บเลตที่วางบนโต๊ะมากดสั่งอาหารเพิ่มและไม่ลืมสั่งเครื่องดื่มรสหวานสำหรับสาวน้อย คนเขินก็ดื่มจนลืมนับแก้ว ปฏิพัทธ์นิ่วหน้า ปรายสายตาเย็นชาปรามคนสนิท อีกฝ่ายเพียงแต่หัวเราะ ดื่มเหล้าสลับยัดกับแกล้มแบบสบายใจจนน่าจะโดนเตะ มือก็จิ้มเมนูสั่งค็อกเทลอีกหลายครั้ง นวลแก้มผุดผ่องเป็นยองใยระเรื่อด้วยเลือดฝาด มือเรียวขาวยกขึ้นมากุมแก้ม เขาลงความเห็นว่า ควรพอได้แล้ว ร่างสูงลุกจากโซฟา “เธอดื่มเยอะไปแล้ว” คนไม่รู้ตัวเหลือบมองแก้วทรงสวยที่ว่างเปล่าเหลือเพียงเปลือกมะนาวเหน็บขอบแก้ว ทำหน้านิ่วคิ้วขมวด “แก้วเดียวเองนะคะ” ชลวัสขำก๊าก เหลือบมองเจ้านาย ตาพราวระยับ ปฏิพัทธ์ขึงตาดุคนสนิทที่ไม่กลัวเขา ตาอ่อนแสงลงยามมองนวลหน้าแดงของคนเมาไม่รู้ตัว ไม่รู้กระทั่งว่า แก้วเปล่าถูกยกออกไปทุกครั้งที่มีแก้วใหม่มาเสิร์ฟ “แก้วเดียวก็เยอะแล้วสำหรับคนไม่เคยครับน้องอุ่น” อรนลินรู้สึกในหัวมันตื้อๆ หนักๆ ครั้นเห็นเขาลุกขึ้น พอจะรู้ว่าเขาคงจะไปแล้ว จึงรีบลุกตาม ผลคือร่างอรชรบอบบางเซ ทำท่าจะหัวทิ่ม ชลวัสอุทานร่างกายพุ่งเข้าหาคนเมาโดยอัตโนมัติหวังช่วยดึงตัวไว้ แต่เขายังช้ากว่าผู้เป็นเจ้านาย “อุ๊ย! ผับนี่หมุนได้ด้วยเหรอคะ ทันสมัยจัง” มือบางขยุ้มเสื้อบนหัวไหล่แข็งแน่น ยิ้มแหยให้เขาอย่างขอลุแก่โทษที่เธอซุ่มซ่าม “ลงบัญชีกู” “ครับเจ้านาย งั้นเดี๋ยวผมตามไป” ปฏิพัทธ์หลุบตามองดวงหน้าเปล่งปลั่งที่อยู่ใกล้ไม่กี่คืบ โดยจงใจปล่อยให้เสียงขำของผู้ช่วยผ่านหู กระชับมือยึดเอวบางพาเดินออกจากผับ “ปล่อยอุ่นค่ะ อุ่นเดินเอง” “ถ้าฉันปล่อย เธอคงกองอยู่บนทางเดินนี่ เดินดีๆ” ปากอิ่มสวยบิดเบ้ ก่อนจะเม้ม แป๊บเดียวคนที่เขาสั่งให้เดินดีๆ ก็เป๋ไปเกาะผนังกระจกทางเดิน มองลงไปยังสนาม รถหรูสองคันกำลังคำรามใส่กัน ปฏิพัทธ์ต้องหยุดเดินไปด้วย “รถสวยนะคะ” แม็คลาเรนสีเหลืองโดดเด่นท่ามกลางแสงสปอตไลต์เคียงข้างด้วยเฟอร์รารีสีแดงดุโฉบเฉี่ยว การแข่งขันนอกจากจะเดิมพันกันด้วยรถแล้ว ยังมีเดิมพันด้วยเงินรางวัลก้อนใหญ่ เดิมพันกันด้วยสาวสวยยังมี ขึ้นอยู่กับการตกลงกันระหว่างคู่แข่ง ส่วนกองเชียร์ก็ลงเดิมพันกันสนุกสนาน “อยากได้” “ไม่ค่ะ อุ่นกลัว” “กลัวแล้วอยากดูทำไม” “รถสวยไงคะ ยายอินชอบรถ ส่วนอุ่นแค่ชอบดู” อินที่ว่าคงหมายถึงน้องสาว อินทิรา “อุ่นอยากมีบ้านเล็กๆ ครอบครัวเราจะได้มีที่อยู่ไม่ต้องเช่าเขา มีรถธรรมดาสักคันก็พอแล้ว” “มักน้อย” “แต่ก็ยังไม่มีสักอย่างเลย” พูดแล้วก็หัวเราะเสียงต่ำพร่า เอนศีรษะมาพิงไหล่กว้าง พึมพำออกมาอีกคำ เขาได้ยินไม่ถนัด ก้มลงจะถาม กลับพบว่า คนที่เพ้อเพราะเมาหลับไปทั้งยืน ปฏิพัทธ์ส่ายหน้าระอา ช้อนร่างนุ่มขึ้น ก้าวเท้าไปยังทิศทางที่เป็นห้องทำงานส่วนตัว “สรุปว่า ใครต้องดูแลใครกันแน่ ไม่ได้เรื่องเลย” ห้องกว้างที่ออกแบบให้ซ้อนอยู่ด้านหลังอาคารสองชั้น คนที่จะเข้ามาต้องมีการ์ดปลดล็อกประตู หน้าห้องมีโต๊ะทำงานของชลวัส ส่วนชั้นหนึ่งนั้นเป็นห้องพักพนักงาน การ์ดและห้องทำงานผู้จัดการผับ ชายหนุ่มวางร่างอรชรบนโซฟาหนานุ่มตัวใหญ่หน้าผนังกระจกใส ตาคมกวาดมองดวงหน้าสวยหวาน พวงแก้มเนียนใสไม่ต่างอะไรกับผิวเด็ก ยื่นนิ้วไปไล้แผ่วเบา หลังนิ้วสัมผัสผิวอ่อนบางนุ่มนวลอย่างครั้งแรกที่ได้แตะต้อง เจ้าของแก้มคว้านิ้วนั้นกุมไว้ พึมพำเบาๆ “หนักหัวจังเลยอิน อย่าบอกพ่อกับแม่นะว่าพี่แอบกินเหล้า” เด็กหัดเกเร... เรียวปากได้รูปกระตุกเป็นรอยยิ้มอ่อนจาง ไม่น่าเชื่อว่า ในสังคมทุกวันนี้จะยังมีเด็กสาวที่ช่างไร้เดียงสาขนาดนี้ ปฏิพัทธ์บีบพวงแก้มสุกปลั่งแผ่วเบา ทั้งระอาทั้งเอ็นดู “ไม่บอกหรอก” ให้คำมั่นก่อนจะบีบแก้มนุ่มอีกครั้ง เจ้าตัวทำปากจู๋หน้ายู่ หากไม่ตื่น เขาผละห่าง เลือกนั่งหลังโต๊ะทำงานตัวใหญ่ หยิบไอแพดขึ้นมาตรวจเช็กงานไปเรื่อยเปื่อย ปกติแล้ว ปฏิพัทธ์ทำงานที่เพนต์เฮ้าส์ งานส่วนใหญ่ชลวัสจะนำไปให้ พนักงานฝ่ายออฟฟิศแผนกต่างๆ มีโต๊ะทำงานชั้นหนึ่งถึงชั้นสาม ชั้นสามมีห้องประชุมย่อย ส่วนชั้นสี่เป็นห้องพักพนักงาน ในขณะที่โรงแรมหรูนั้น นอกจากจะมีห้องพักหรูหรา ภัตตาคารเลิศรส ยังมีห้องรับรองลูกค้า ห้องประชุมสัมมนาและโรงหนังขนาดย่อม หากต้องพบปะลูกค้า เขาจะใช้ที่นั่นเป็นสถานที่รับรอง ชายหนุ่มนั่งดูรายงานผลประกอบการจากที่ต่างๆ ได้ไม่นาน ผู้ช่วยและคนสนิทก็เข้าพร้อมใบหน้ายิ้มแย้มที่ดูยียวนกวนอวัยวะเบื้องต่ำ ชลวัสปรายตาไปรอบห้องเป็นอันดับแรก ครั้นเห็นสาวน้อยนอนหลับอยู่บนโซฟา แววตาก็วาววามมากขึ้น “มึงยิ้มเหมือนจะเผื่อไปอีกสิบวัน” “โธ่ เจ้านาย คนยิ้มอารมณ์ดีก็ผิดเหรอครับ” “มึงไม่ได้อารมณ์ดี แต่มึงกวนตีน” “อ้าวเหรอ ทำไมไอ้ชลไม่รู้ตัวเลย” ผู้ช่วยหนุ่มทำทีเกาหัว ทำหน้าซื่อใสแบบไม่เนียน ปฏิพัทธ์ละสายตาจากหน้าจอไอแพดแวบหนึ่ง สีหน้านิ่งเฉยนั้นไม่ได้เปลี่ยนไปสักนิดเดียว “แถเก่ง มึงจะยิ้มเผื่อไปทั้งชีวิตเลยมั้ย เผื่อปากจะยิ้มไม่ได้อีก”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD