“แต่เมื่อเช้าคุณเพิ่งจะพูด...”
อรนลินรวบรวมความกล้าถกเถียงออกไป ถ้าเขาไม่สั่งแล้วใครล่ะ หนึ่งปีที่ผ่านมาก็ไม่มีใครมาบังคับเธอเลย เธอไม่ไหวแล้ว หลายนาทีก่อน ตอนที่เดินตามพี่เลี้ยงขึ้นไปห้องรับรอง หัวใจบีบหน่วงไปหมดอยากจะเป็นลม ประตูค่อยๆ เลื่อนเปิด ใจเต้นระทึก ทันได้เห็นบุคคลในห้องกำลังทำอะไรกันก่อนที่ประตูจะถูกดันปิดด้วยมือผู้จัดการอภิชาติ
เธอรู้ซึ้งแก่ใจนาทีนั้นเองว่า คงทำงานที่นี่ต่อไปไม่ได้แล้ว
เธอสัมผัสได้ถึงความแตกต่าง กับเจ้านายใหญ่ตรงหน้า เธอกลัว หวาดผวา แต่กับที่เห็นแวบเดียววันนี้ เธอรู้สึกขยะแขยงเกินกว่าจะทำใจยอมรับ
“ฉันเพิ่งเตือนว่างานที่นี่ไม่เหมาะกับเธอ”
เสียงเย็นชา กับแววตาไร้ความรู้สึกนั่นทำเธอเกลียดและสะอึกในคราวเดียวกัน
“ฉันขอลาออกค่ะ”
“ไม่ทำแล้ว” เขาถามเรียบๆ รวบแขนขึ้นกอดอก เอนหลังพิงพนักเก้าอี้ตัวสูงด้วยท่าทางสบายๆ
เธอสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ ตัดสินใจเด็ดขาด ถึงจะเสียดายเงินแต่ตอนนี้เธอก็พอมีเงินเก็บบ้าง จำนวนไม่มาก แต่พอให้อยู่ได้อีกหลายเดือนช่วงเริ่มต้นงานใหม่
“ค่ะ ไม่ทำ ลาออกวันนี้เลย”
ปฏิพัทธ์มองหน้าสุกปลั่งนิ่ง สาวน้อยคงทั้งโกรธและอายหากก็ยังฝืนทำกล้ามองหน้าเขาไม่หลบ
ดี! คนกล้า เขาชอบ
“ดีแล้ว”
สีหน้าคร่ำเคร่งผ่อนคลายลง แววตาทอประกาย น้ำใสจางหาย มือเรียวขาวยกขึ้นมาไหว้เขา หมุนตัวหันหลังให้ทำท่าจะออกจากห้องโดยไม่ถามไม่สนใจสักนิดว่า เขาให้พาเธอขึ้นมาทำไม
เสียงราบเรียบเอ่ยออกไปดับฝันคนทำตัวเด็ดเดี่ยว
“เลิกทำที่นี่ก็ดี แต่...ฉันคงปล่อยเธอไปไม่ได้หรอกนะ”
อรนลินชะงักเท้า ตัวแข็งทื่อ ชาวาบไปทุกปลายประสาทอย่างรวดเร็ว ขณะหัวใจเต้นระทึกรุนแรง เธอหันขวับมามอง ร่างผึ่งผายยังนั่งอยู่ที่เดิม กอดอกเหมือนเดิม หากตาคมดุจ้องเธอนิ่ง
“มะ หมายความว่าไง...”
เขาคงไม่คิดจะฆ่าเธอหรอกนะ หรือว่าให้ไปทำอะไรที่หนักหนากว่านี้อีก
หน้าตาตระหนกตกตื่นดูน่าสงสาร กระนั้นปฏิพัทธ์นั่งนิ่ง เอ่ยเสียงเรียบดุจเดิม
“เธอคิดว่า ที่นี่จะปล่อยให้ใครต่อใครเดินเข้าเดินออกง่ายๆ อย่างนั้นเหรอ”
นั่นสิ
อรนลินหวาดผวาในอก ใจเต้นระรัวแรงจนเจ็บโพรงอก มวลอากาศในห้องคล้ายจะลดต่ำจนเธอรู้สึกจะเป็นลมตาย ทำไมเธอไม่คิดเรื่องนี้แต่แรก
ที่นี่ทำอะไร ล่อแหลมและผิดกฎหมายแค่ไหน คนตรงหน้าก็ไม่ต่างอะไรกับมาเฟียในชีวิตจริง
“แต่ แต่เมื่อเช้าคุณเพิ่งพูดในทำนองให้ฉันหยุดทำ แล้วฉัน... ฉัน... ฉันไม่บอกใครอยู่แล้ว ว่าพวกคุณทำอะไรที่นี่ พนักงานคนอื่นยังเข้าออกได้เลย”
“ฉลาด” เสียงราบเรียบแฝงความกดข่มในความรู้สึกคนฟัง มุมปากยกเป็นรอยยิ้มเบาบาง ทำให้เขาดูน่ากลัวแทนที่จะดูใจดี “แต่ยังฉลาดไม่พอ”
ปฏิพัทธ์ลุกขึ้นยืน ร่างบอบบางก็ถอยกรูดทั้งที่ยืนห่างอยู่แล้ว ทุกก้าวที่เขาสืบเท้าเข้าหา เธอจะถอยหลัง มองมาอย่างระแวงระวัง
ร่างสูงหยุดห่างจากคนตัวเล็กประมาณสามก้าวของเขา
“คนอื่นทำงานเต็มเลเวลทุกคน พวกเขาออกไปจะกล้าไปพูดให้ใครฟังว่าที่นี่ทำอะไร พวกนั้นมาทำงานอะไร เธอไม่ใช่นี่ จริงไหม”
อรนลินกะพริบตาปริบๆ หวาดกลัวขั้นสุด ส่งเสียงเบาหวิว
“พะ พวกคุณจะฆ่าฉันปิดปากงั้นเหรอ...”
“กลัว?”
ใบหน้าคมเข้มเรียบเฉยยืนยันความคิดเธอได้ว่า พวกเขาคงไม่คิดมากถ้าต้องฆ่าเธอปิดปากสักคน สมัยนี้การทำให้ใครบางคนหายไปจากสารบบไม่ใช่เรื่องยากเลย ขอเพียงมีเงินและอิทธิพลหนุนหลัง ปฏิพัทธ์มีทั้งสองอย่าง
บางอย่างสะกิดใจว่าเขาไม่ต้องการแค่นั้น
“คุณต้องการอะไร”
“ตัวเธอ” ปฏิพัทธ์สานสบตาหวั่นๆ คู่สวย “ไปทำงานกับฉัน”
“ง...งานอะไร ที่ไหน”
“งานเสิร์ฟ”
ทันทีที่ได้ยิน เธอสั่นหน้ายิก มองเขาด้วยสายตาตัดพ้อต่อว่า ดูเถอะ เธอไม่อยากทำที่นี่แล้วยังจะให้ไปทำงานนั่นที่อื่นอีก ที่ไหนไม่รู้
ปฏิพัทธ์เข้าใจว่าอีกฝ่ายคิดอะไร เรียวปากกระตุกยิ้ม
“เสิร์ฟแค่ฉันคนเดียว”
คราวนี้คนฟังใจคล้ายจะหยุดเต้น จ้องหน้าอีกฝ่ายเขม็ง วงหน้าร้อนฉ่า การทำงานที่นี่ทำให้เธอรู้จักโลกมากกว่าใครหลายๆ คน โดยเฉพาะโลกของหญิงชายและเรื่องอย่างว่า
“ถ้าฉันไม่ไป”
“รู้สึกว่าฉันสั่ง ไม่ได้ถามความสมัครใจ”
สาวน้อยมัวแต่ยืนค้างอ้าปากหวอ ปฏิพัทธ์จึงเข้าถึงตัวง่ายๆ จับต้นแขนเรียวเล็กลากให้เดินตามมาที่โต๊ะทำงานตัวใหญ่ เธอดิ้น สะบัดแขน แกะมือเขาออก ทำหน้าจะร้องไห้แต่ไม่เป็นผล
หน้าคมโน้มลงใกล้วงหน้าแดงแปร๊ด จ้องลึกเข้าไปในดวงตาตื่นๆ
“เธอคงไม่อยากให้ฉันปล่อยมือจริงๆ หรอก ถ้าฉันปล่อย ผู้จัดการชาติรู้ว่าเธอจะออก เขาคงโยนเธอเข้าไปในดงผู้ชายหื่นกาม ปล่อยให้พวกนั้นขย้ำเธอจนไม่เหลือดีแน่”
สมาร์ตโฟนถูกคว้ามาจากบนโต๊ะ หงายหน้าจอขึ้นมาจ่อตรงหน้า ภาพคมชัดที่ปรากฏให้เห็น ทำเธออกจะแตก ตาแทบถลนกับภาพและเสียงคมชัด
“ถ้าฉันไม่ดึงตัวเธอมา ผู้หญิงที่กำลังร้องครวญครางนั่นคงเป็นเธอ”
เธออื้ออึง สมองเบลอแต่ถอนสายตาจากสิ่งที่เห็นตรงหน้าไม่ได้ ผู้ชายสามคนกับผู้หญิงสาวสวยที่กำลังเสพสมกันอย่างถึงพริกถึงขิงนั่นมันเปิดโลกทัศน์และบอกว่าเธอช่างไร้เดียงสามาก ถึงแม้จะรู้อยู่ว่าที่นี่มีงานที่ต้องมีเซ็กซ์กับลูกค้า แต่เธอไม่เคยรู้ว่ามันต้องทำขนาดสิ่งที่กำลังดู
ปฏิพัทธ์ลดโฟนลง เขาไม่ได้ตั้งใจข่มขู่ เพียงแต่นี่คือวิถีของมัน โลกความเป็นจริงมีทั้งความสวยงามและความโหดร้าย สำหรับผู้หญิงคนนั้นที่ชื่นชอบเรื่องแบบนี้อยู่แล้ว มันคือการตอบสนองความต้องการที่ตรงจุด แต่สำหรับอรนลิน ถ้าต้องถูกบังคับให้ทำแบบนั้นมันคือความโหดร้ายบัดซบ
“ทำไม...” นึกสภาพตาม ความกดดันพลันพรั่งพรูออกมาเป็นน้ำตา
นิ้วแข็งกระด้างยาวเรียวปัดไล้แก้มขาว