ตอนที่ 1 (ครึ่งแรก)

3411 Words
Demon's Love ทวงรัก... คืนใจ! Writer : Aile'N ตอนที่ 1 (ครึ่งแรก) "พวกมึงจะไปเที่ยวกัน แล้วทำไมกูต้องไป? เห็นกูมีเวลาว่างมากหรือไงวะ!" ร่างสูงเจ้าของผมสีทองสว่างเดินออกมาหน้าบ้านที่มีน้องชายกำลังยืนคุมให้คนยกกระเป๋าเดินทางขึ้นรถพร้อมคำบ่นรอบที่เท่าไรแล้วก็จำไม่ได้ จู่ๆ คุณชายผู้ไม่ถูกกับไอดินกลิ่นทรายก็มาบอกว่าจะไปเที่ยวไร่ตะวันฉายกับเพื่อนๆ แน่นอนว่าความคิดนี้คงไม่ใช่ความคิดของมันแน่ๆ แต่ประเด็นในตอนนี้มันไม่ได้อยู่ตรงนั้น มันอยู่ที่.. ทำไมเขาจะต้องถูกยังคับให้ไปด้วยต่างหาก! "ก็มึงไปบ่อยอ่ะ กูไม่ได้ไปนานจะจำอะไรได้มั้ยห้ะ! สัด.. พาน้องเที่ยวแค่นี้ทำบ่น ทีผู้หญิงแม่งตามใจทุกอย่าง พี่เหี้ย!" เสียงขุ่นบ่นกลับอย่างหัวเสียเพราะไม่ได้อยากจะไปเท่าไรเลยไอ้ไร่ตะวันฉายอะไรนั่น ถ้าไม่ติดว่าเพื่อนบังคับไป! พอหงุดหงิดเป็นทุนเดิมอยู่แล้วมาโดนบ่นอีกก็เลยฟาดงวงฟาดงาไม่ไว้หน้าใคร คนถูกเหน็บเพียงยืนกอดอกมองหน้าน้องนิ่งๆ ไม่ได้ต่อความยาวสาวความยืดเพราะถ้าจะให้มายืนเถียงคนอย่างเวย์อิ้งชาตินี้คงไม่จบง่ายๆ เวลาได้เถียงมันยอมคนซะที่ไหน! ต่อให้คนที่ยืนเถียงด้วยเป็นพ่อกับแม่ก็เถอะ ยิ่งถ้ามันมั่นใจว่ามันไม่ผิดนะ.. หึ ยาว! =_=^ "วุ่นวายชิบหาย.." ปริ้นท์ทำได้เพียงบ่นเบาๆ ในลำคอด้วยความเบื่อหน่ายแต่ก็ยอมเดินไปช่วยกันขนของขึ้นรถเพราะคุณชายเขาพกกระเป๋าเดินทางอย่างกับจะไปอยู่เป็นเดือนๆ แต่ละใบไม่ใช่เบาๆ ขืนปล่อยให้คนขับรถขนเองครึ่งชั่วโมงคงไม่เสร็จ! เมื่อขนของเสร็จรถตู้คันใหญ่จำนวน 2 คันก็แล่นออกจากคฤหาสน์ตระกูลเมอร์ลินไปตามถนนกลางเมืองเพื่อแวะไปรับเพื่อนๆ ของเวย์อิ้ง โดยคันแรกประกอบไปด้วย 2 พี่น้องเจ้าของไร่ คุณ 'ภูผา' เลขาของปริ้นท์ เนตัน เมโลดี้ และคนขับรถอีกคน รวม 6 คนที่กำลังแล่นนำมุ่งหน้าไปยังจังหวัดกาญจนบุรีในช่วงสายๆ ของวัน ส่วนคันที่ตามหลังก็ประกอบไปด้วยเพื่อนๆ คนที่เหลือกับคนรักของแต่ละคน มีตัวแถมคือ 'เฟย่า' ลูกสาวคนน่ารักของเนมากิคนรักของซีเตอร์ที่ปิดเทอมแล้วมาเยี่ยมคุณปู่คุณย่าที่ประเทศไทยเลยมีโอกาสได้มาเที่ยวกับคนอื่นด้วย และขาดไม่ได้คือคนขับรถรวมทั้งหมด 8 คน แต่ถึงอย่างนั้นรถตู้ขนาดใหญ่พิเศษก็ยังเหลือพื้นที่ว่างมากมายไม่ได้อึดอัดอย่างที่คิด บรรยากาศในรถคันหลังนั้นสนุกสนานเฮฮาเหมือนคนที่กำลังจะพากันไปเที่ยวพักผ่อนจริงๆ มีการเล่นมุก พูดคุยเล่าเรื่องสนุกกัน รวมไปถึงการร้องรำทำเพลงที่ถึงแม้โทนเสียงจะเพี้ยนไปเสียหน่อยแต่ก็สนุกเพราะมีคนเอนเตอร์เทนเพื่อนไม่หยุดอย่างฟิลลิกค์ รับมุกโดยแอล นักร้องเสียงเพี้ยนที่แม้แต่คนข้างกายยังต้องนั่งกุมขมับ ส่วนคนอื่นๆ ซิทนี่ย์กับเนมากิดูเหมือนจะขำจนหยุดไม่ได้ ยกเว้นซีเตอร์.. รายนั้นเพียงนั่งมองคนรักขำแล้วแย้มรอยยิ้มมุมปากบางๆตามเท่านั้น ส่วนคนตัวน้อยบนตักก็นั่งหัวเราะพี่ๆ อย่างงงๆ เพราะไม่เข้าใจภาษาไทยแต่ตลกสีหน้าและท่าทางมากกว่า ทว่ารถคันหน้ากลับไม่ใช่อย่างนั้น.. คนที่ไม่อยากไปไร่ตะวันฉายที่สุดครองเบาะรถแถวกลางไว้แต่เพียงผู้เดียวแล้วนอนใส่หูฟังเล่นเกมไม่สนใจใคร 2 คนคู่รักที่อยู่เบาะหลังก็นั่งซบไหล่หยอกล้อกันนิดๆ หน่อยๆ อยู่ในโลกสีชมพูของความรัก ส่วน 2 คนเบาะหน้า.. เจ้านายหนุ่มกับเลขาคนสนิทกำลังนั่งคุยงานกันอย่างเคร่งเครียดภายใต้โลกสีทึบที่คนเบาะกลางเห็นแล้วต้องเบะปากมองบนแทบจะทันที บรรยากาศเหล่านั้นต่างดำเนินไปเรื่อยๆ ตลอดการเดินทางจนกระทั่งรถตู้ทั้ง 2 คันแล่นเข้ามายังสถานที่ที่มีป้ายชื่อตัวใหญ่ทำจากไม้สักเนื้อดีและมีเถาวัลย์เกี่ยวพันรอบๆ อย่างสวยงามว่า.. 'ไร่ตะวันฉาย' "สวยจังงง!" เมโลดี้พูดขึ้นด้วยความตื่นเต้นพร้อมกับพาตัวเองแยกห่างจากคนรักมายังข้างหน้าต่างรถอีกฝั่งเพราะฝั่งแรกนั้นเนตันนั่งครอบครองอยู่ พอมาถึงร่างบางก็เกาะกระจกรถมองออกไปยังวิวทิวทัศน์ที่เป็นไร่ดอกไม้สีสันสดใสหลากหลายชนิดรายล้อมทั้ง 2 ข้างทางด้วยความตื่นตาตื่นใจ ในยามนี้เป็นฤดูฝนพืชพันธุ์ที่นี่เลยเขียวขจี พืชดอกก็สีสันสดใสและมีชีวิตชีวาเป็นพิเศษ ฝูงผีเสื้อนับพันเลยบินว่อนดอมดมเก็บเกี่ยวน้ำหวานเต็มทุ่งไปหมด ทำเอาคนที่อยู่แต่ในเมืองออกอาการตาค้างไปตามๆ กัน แค่ทางเข้าไร่ก็ยังสวยงามตระการตาเสียขนาดนี้ ข้างในต้องสวยมากแน่ๆ "น้องเหี้ย.. ถึงแล้ว ลงๆ" เสียงเข้มตะโกนดังๆ พร้อมใช้มือสะกิดขาน้องชายที่ขึ้นไปเฝ้าพระอินทร์บนสรวงสวรรค์ให้ตื่นขึ้นมาเมื่อถึงที่หมาย ทั้งๆ ที่คนอื่นออกจะดูตื่นเต้นกันเสียขนาดนั้น แต่ดูมัน... =_=;; "โห.. หรูหราเอาเรื่อง" คนมาใหม่ถึงกับยืนอ้าปากค้างตาลุกวาวกับบ้านไม้ 2 ชั้นหลังใหญ่ตรงหน้าเพราะมันใหญ่และสวยงามมาก มีกระทั่งสระว่ายน้ำและระเบียงทอดออกไปด้านข้าง ตั้งอยู่บนเนินสูงสามารถมองออกไปเห็นทิวทัศน์ที่เป็นไร่ผลไม้หลากหลายชนิด มีทั้งฟาร์มม้า วัว แพะ รีสอร์ทและทะเลสาบ รวมไปถึงป่าเขาลำเนาไพรได้กว้างไกลสุดตา ชั้นสองมีระเบียงยื่นออกมาต่อกันรอบๆ ตัวบ้าน สามารถเดินวนได้ 360 องศาจะไปหาห้องไหนก็ได้ในกรณีคนไม่มารยาท(?) และเหตุการณ์ก่อนกวนกันกลางดึกก็คงจะเกิดขึ้นในไม่ช้านี้แน่ๆ =_=^ "ที่นี่ก็บรรยากาศดีออก ทำไมมึงถึงไม่อยากมาวะ" ฟิลลิกค์ถามออกมาเมื่อเห็นเวย์อิ้งพาร่างโซเซหน้างัวเงียลงจากรถมายืนข้างกัน สิ้นคำคนง่วงก็เงยหน้าขึ้นกระพริบตาปริบๆ ไล่ความง่วงซึมแล้วเพ่งสายตามองบ้านหลังใหญ่ตรงหน้าดีๆ เพราะหลายปีแล้วที่ไม่ได้มา เขาเองก็จำอะไรแทบจะไม่ได้เหมือนกัน "จะให้กูอยู่เลี้ยงม้าเลี้ยงวัวไง๊!" พอสติมาปากก็หาเรื่องทันที ที่นี่สวยและบรรยากาศดีก็จริงแต่เหมาะสำหรับไว้มาเที่ยวพักผ่อนมากกว่ามา ทำงานขลุกอยู่กับชาวสวนชาวไร่ มันไม่ใช่งานถนัดของเขาเท่าไร 10 ปีมาครั้งนั่นแหละถูกแล้ว "อ่าว มาถึงกันแล้วหรอคะคุณปริ้นท์คุณเวย์" หญิงร่างท้วมวัยกลางคนเดินออกมาจากบ้านพร้อมเด็กสาววัยรุ่นอีกคนทักขึ้นมายิ้มๆ ทุกคนเลยหยุดสนใจสิ่งรอบกายชั่วคราวแล้วหันมาสนใจทั้งคู่ "ครับ พวกมึง.. นี่ป้าเพ็ญกับดาวเป็นคนดูแลที่นี่ ส่วนพวกนี้เป็นเพื่อนๆ ของไอ้เวย์มันครับ พวกเขามาเที่ยวฉลองเรียนจบ" คนที่รู้จักมักคุ้นกันดีที่สุดกับผู้หญิง 2 คนตรงหน้าพูดขึ้นและแนะนำทั้งคู่ให้ทุกคนรู้จัก ซึ่งก่อนมาก็โทรบอกให้จัดห้องไว้รอแล้วเหลือมาเจอหน้ากันเท่านั้น "สวัสดีครับ/ค่ะ" เด็กหนุ่มสาวผู้เป็นแขกมาเยือนยกมือไหว้ป้าเพ็ญอย่างนอบน้อม คนมีอายุก็รับไหว้ด้วยรอยยิ้มอบอุ่น เพื่อนๆ ของเจ้านายก็เหมือนเจ้านายอีกคน ยินดีต้อนรับเสียอีกบ้านหลังนี้จะได้มีสีสันมากกว่าเดิม "สวัสดีค่ะ แหม่ ไม่ต้องไหว้ก็ได้ค่ะ พวกคุณก็เหมือนเจ้านายป้าอีกคน มาเหนื่อยๆ เชิญไปพักในบ้านก่อนดีกว่าค่ะ เดี๋ยวป้าให้คนยกกระเป๋าไปเก็บที่ห้องให้" ป้าเพ็ญพูดบอกอย่างใจดี ก่อนให้ดาวไปเรียกคนมาช่วยยกกระเป๋าให้เจ้านาย เจ้าของบ้านจึงเดินนำเข้ามาในบ้านตามหน้าที่ "อ่า~ เมื่อยชิบหาย" เวย์อิ้งบ่นออกมาพร้อมหมุนคอตัวเองไปมาด้วยความเมื่อยหลังจากทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟานั่งเล่น ในขณะที่คนอื่นๆ พากันเดินสำรวจภายในตัวบ้านด้วยความสนใจ "มาๆ พักกันก่อน เย็นๆ ค่อยออกไปเดินเล่น เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่พาทัวร์ หวังพึ่งไอ้เวย์คงไม่ได้เรื่อง!" ปริ้นท์บอกยิ้มๆ ไม่วายแขวะน้องชายตัวดีพอให้เกิดอาการเจ็บๆ คันๆ ตามประสา พอนั่งกันครบทุกคนดาวก็เอาน้ำมาเสิร์ฟให้ด้วยท่าทางเก้ๆ กังๆ เพราะไม่เคยเจอหนุ่มหล่อสาวสวยมากมายขนาดนี้มาก่อนเลยออกอาการใจสั่นจนเก็บอาการไม่อยู่ "กูยอมมาด้วยก็ดีเท่าไรล่ะ!" เวย์อิ้งกระแทกเสียงใส่พี่อย่างกวนๆ วางมาดอย่างกับตัวเองสำคัญนักหนาทั้งที่ไม่มาคนอื่นก็สนุกกันได้ "ถุ้ย พ่อคุณชาย! โดนแดดโดนลมไม่ได้!" ฟิลลิกค์แขวะขึ้นบ้างเพราะมันเกิดอาการคันยิกๆ ที่ริมฝีปากเมื่อเห็นท่าทางอวดดีของเพื่อน เป็นเหตุให้ได้รับนิ้วกลางแจกฟรีอีกตามเคย "ว่าแต่สาวๆ ชื่อไรกันบ้างเนี่ย พี่ยังไม่รู้จักเลย" คนอายุเยอะกว่าใครส่ายหน้าเอือมๆ ก่อนเลิกสนใจ 2 คนที่กำลังเขม่นตาใส่กันแล้วหันมาสนใจคนที่เหลือแทน มองแล้วก็อดหรี่ตาเล็กลงไม่ได้เพราะความขาวความสวยมันเจิดจ้าพุ่งมากระแทกหน้าจนแสบตาไปหมด เพื่อนๆ ของน้องชายก็คุ้นเคยสนิทกันดีไม่แปลกตาเท่าไรแต่กับสาวๆ ที่นั่งประกบอยู่ข้างกายนั้นสวยเอาเรื่อง มีเสน่ห์กันคนละแบบมองจนเพลินตาเลยทีเดียว "แน่ะ! คิดไรกับเมียพวกผมป้ะเนี่ย!" ฟิลลิกค์แทรกขึ้นก่อนใคร ทีเล่นทีจริงพร้อมกอดไหล่คนตัวเล็กข้างกายไว้แน่นแสดงอาการหวงจนน่าหมั่นไส้ "งั้นกูคิดกับเมียมึงคนแรก!" กวนมากวนกลับไปโกง! "เห้ยๆ อย่านะเว้ย คนนี้ผมหวง!" คนที่ออกอาการล้อเล่นก่อนหน้าเริ่มแสดงออกจริงจัง เมื่อเห็นสายตาของพี่ชายเพื่อนที่มองมายังคนข้างกายเขา ไม่น่าไว้วางใจ! คิดผิดจริงๆ ที่ไปปูทางให้เฮียแกแบบนั้น! "คนแบบมึงนี่ผู้หญิงเขานึกยังไงถึงมาสนใจได้วะ" คนหัวทองสว่างส่ายหน้าเอือมๆ ไปมาประกอบคำพูด หน้าตาเย้ยหยันจนคนฟังถึงกับนั่งก้นไม่ติดพื้น "อ่าว ไหงพูดแมวๆ อย่างนั้นล่ะเฮียยยยยย!" ฟิลลิกค์ลากเสียงยาวกวนประสาทคนรุ่นพี่อย่างไม่เกรงกลัว เพราะสนิทกับจนเล่นหัวเล่นหางกันได้ ออกแนวชอบกวนคนพี่มากกว่าคนน้องที่นั่งทำหน้าเซ็งอยู่ข้างๆ ด้วยซ้ำ เพราะเมื่อเทียบกันแล้วคนพี่จะไม่พูดมากหรือพูดอะไรไร้สาระเท่าไร นั่นเท่ากับว่าจะเถียงอะไรเขาก็ชนะ! ^0^ "พอๆ ผมแนะนำเอง! คนนี้พี่น้ำขิงครับแฟนผม คนนั้นเมโลดี้แฟนเนตัน คนนั้นซิทนี่ย์แฟนไอ้หมามัน ส่วนนู่นคุณเฟียร์แฟนซีเตอร์กับลูกสาวชื่อน้องเฟย่า ส่วนคนนี้.. เฮียปริ้นท์เป็นพี่ชายเวย์อิ้ง" แอลโบกมือห้ามคนทั้งคู่ที่มัวโอ้เอ้ไม่เข้าเรื่องกันเสียทีก่อนจะเป็นคนแนะนำคนอื่นๆ ให้เจ้าของบ้านรู้จัก และสลับกันแนะนำเฮียปริ้นท์ของพวกเขาให้สาวๆ รู้จักด้วย "ครับ ยินดีที่ได้รู้จักนะ ตามสบายเลย ต้องการอะไรเพิ่มก็บอก.. หึ เพื่อนๆ ก็มีกันหมดล่ะนะ แล้วมึงอ่ะ" คนหล่อยิ้มรับรอยยิ้มหวานๆ ของหญิงสาวทั้ง 4 คนรวมคนตัวน้อยที่ยกมือไว้ด้วยความเอ็นดู ก่อนจะฉุกคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้เลยหันไปถามคนข้างกายยิ้มๆ "อย่ามายุ่งกับกูววววว" เวย์อิ้งออกอาการงอแงน้อยๆ พร้อมแจกนิ้วกลางให้พี่อีกคนจนคนอื่นๆ หัวเราะเยาะกันครึกครื้นเพราะรู้ดีว่าคำถามนั้นมันแทงใจดำเพื่อนอย่างจัง! "ปล่อยแม่งแก่ตายบนคานแหละเฮีย คนรอสมน้ำหน้าเพียบ! ฮ่าๆๆๆ" ฟิลลิกค์นำทีมทับถมคนโสดอีกตามเคย ใบหน้าหล่อตี๋นั้นลอยหน้าลอยตาเย้ยกันได้อย่างน่าหมั่นไส้ที่สุดในบรรดาเพื่อนทุกคน ฉะนั้นไม่ต้องสงสัยว่าทำไมรายนั้นได้รับนิ้วกลางแจกฟรีจากเวย์อิ้งไปมากกว่าใคร "สัด.." คนถูกแซวขบฟันด่ากลับเบาๆ ด้วยความหงุดหงิด กับแค่โสดเฉยๆ จำเป็นต้องล้อขนาดนี้ไหม! =_=* "ป้าให้คนขนกระเป๋าคุณๆ ไปไว้ในห้องบนชั้น 2 แล้วนะคะ แล้วนี่จะรับอะไรกันมั้ยคะ ป้าจะเข้าครัวให้" ป้าเพ็ญเดินเข้ามาถามแทรกขึ้น ตัดบทคนถูกเพื่อนล้อไปโดยปริยาย ใครคนนั้นเลยได้แต่นึกขอบคุณป้าเพ็ญในใจด้วยความซาบซึ้ง "ไว้รอกินตอนเย็นดีกว่าครับ พวกเราแวะกินกันมาแล้ว.. เอ้อ แล้วเดียร์ไปไหนอ่ะครับ เห็นอยู่กัน 2 คน" ปริ้นท์อาสาตอบแทนเพราะเป็นพี่ใหญ่และเจ้าบ้าน ไม่วายถามหาใครบางคนที่เคยเห็นอยู่ด้วยกันแต่วันนี้กลับไม่เห็นแม้แต่เงา ชื่อของคนที่พี่ถามถึงทำคนน้องใจกระตุกเล็กน้อยเพราะมันมีอิทธิผลลึกๆ ต่อหัวใจ แม้จะเป็นคนแปลกหน้าแต่ถ้าชื่อนี้แค่ได้ยินก็ทำเอาใจสั่นได้เหมือนกัน! "อ่อ ยัยเดียร์ไปรับหนูเลิฟที่โรงเรียนน่ะค่ะ ไม่นานก็กลับแล้ว คุณปริ้นท์ถามหาเดียร์มีธุระอะไรหรือเปล่าคะ" ป้าเพ็ญอธิบายให้เจ้านายฟัง ก่อนเอ่ยถามด้วยความสงสัยขึ้นมาบ้าง "อ้อ เปล่าครับ แค่อยากพาเจ้าเลิฟมาอวดไอ้เวย์มัน เห็นว่าหน้าเหมือนเฉยๆ ป้ากับดาวไปทำงานเถอะครับ ถ้าต้องการอะไรพวกเราจะเรียก" คนถูกถามกลับบอกปัดอย่างไม่ใส่ใจเพราะไม่ใช่เรื่องใหญ่โตเท่าไร ป้าเพ็ญพยักหน้าเข้าใจก่อนแยกตัวออกไปตามคำสั่งแต่โดยดี "ยังไม่จบใช่มั้ย ไอ้เด็กที่น่าเหมือนกูเนี่ย!" พอหันกลับมาหาเพื่อนร่วมวงอีกครั้ง เสียงเข้มออกแนวหงุดหงิดจากคนเป็นน้องก็เอ่ยขึ้นมานิ่งๆ ไม่รู้ใครไปเหยียบหางมันเข้าถึงได้วีนแตกกับทุกเรื่องแบบนี้ แต่คงจะไม่พ้นเรื่องก่อนหน้าล่ะนะ! "ก็เหมือนจริงอ่ะ มึงเห็นแล้วจะพูดไม่ออก" ปริ้นท์บอกกลับด้วยความมั่นใจอย่างถึงที่สุดว่าถ้าน้องชายได้เห็นเด็กคนนั้นจริงๆ จะต้องตกใจแน่ "พอๆ กูง่วง ไปนอนล่ะสัด จะทำอะไรก็ทำไป" คนฟังบอกปัดอย่างไม่คิดจะสนใจ สิ้นคำก็ลุกขึ้นเดินหนีขึ้นไปชั้นบนก่อนใคร "มีใครจะขึ้นห้องไปพักเอาแรงก่อนมั้ยล่ะ นี่ก็อีกนานกว่าจะมืด หรืออยากเดินเล่นก็ตามสบาย แต่อย่าเพิ่งไปไกล คนงานเห็นเป็นคนแปลกหน้าจะวุ่นวายเอาได้" คนพี่มองตามอย่างเหนื่อยหน่าย ทั้งที่เป็นเจ้าบ้านแท้ๆ ดันมาปล่อยปะละเลยเพื่อนๆ ไว้ให้เขาดูแล มันใช้ได้ที่ไหนกัน! พอน้องลับสายตาไปก็หันมาพูดกับคนที่เหลืออย่างจำใจ ก็ในเมื่อคนเป็นเพื่อนมันยังไม่คิดจะสนใจเพื่อน เขาในฐานะเจ้าบ้านก็ต้องดูแลแทนไปตามระเบียบ "ก็ดีนะ ไปพักกันก่อนเถอะ ค่อยทัวร์ทีเดียวพรุ่งนี้เลย" แอลออกความคิดเห็นขึ้นบ้าง เพราะนั่งรถนานๆ มันก็มีความเมื่อย อีกอย่างเวลานี้ข้างนอกแดดยังแรงอยู่เลย ออกไปคงไม่สนุกเดี๋ยวสาวๆ จะผิวเสียกันหมด ทุกคนเองก็พยักหน้าเห็นด้วยเลยตัดสินใจพากันแยกย้ายขึ้นไปพักชั้นบนซึ่งมีป้ายชื่อแปะไว้หน้าประตูเสร็จสรรพว่าห้องใครเป็นห้องใคร "ย่าเพ็ญคร้าบบบ เลิฟกลับมาแล้ววว^0^" หลังจากที่สิ้นเสียงคนกลุ่มใหญ่ไปแล้ว น้ำเสียงเล็กๆ ใสแจ๋วก็เปล่งขึ้นมาตั้งแต่หน้าประตูบ้านก่อนที่ร่างน้อยๆ เจ้าของน้ำเสียงสดใสนั้นจะวิ่งเข้าไปหาคนมีอายุในครัวด้วยความเคยชิน "เสียงมาก่อนตัวทุกวันเลยเด็กคนนี้ ไหนมาให้ย่าชื่นใจหน่อยสิ" ป้าเพ็ญหรือย่าเพ็ญของเด็กตัวน้อยย่อตัวนั่งยองๆ ลงกับพื้นอ้าแขนรับร่างเล็กเหมือนทุกวันพร้อมกดริมฝีปากลงบนแก้มป่องๆ ฟอดใหญ่ ชื่นใจทั้งซ้ายและขวา "คิกคิก^0^" เด็กแสบหัวเราะคิกคักอย่างชอบอกชอบใจ ความน่ารักทำเอาผู้ใหญ่ 3 คนต่างจ้องมองด้วยความเอ็นดู "น้องเลิฟลืมอะไรไปหรือเปล่าครับ กลับจากโรงเรียนเจอย่าเพ็ญกับพี่ดาวต้องทำยังไง"คนเป็นแม่ทักขึ้นมาทันทีเมื่อย่าหลานออดอ้อนกันเสร็จ คนฟังเลยผละออกจากอ้อมกอดย่ามายืนตั้งท่าดีๆ ตามที่แม่เคยสอน "สวัสดีครับย่าเพ็ญ สวัสดีครับพี่ดาว" มือป้อมๆ ประนมเข้าหากันชิดอกพร้อมก้มศีรษะรับด้วยท่าทางน่าเอ็นดู ทำคนถูกไหว้ทั้งสองยิ้มจนแก้มปริ พอไหว้เสร็จใบหน้ากลมๆ ก็เงยขึ้นมาฉีกยิ้มแป้นจนตาหยี "เก่งมากครับ เอากระเป๋าไปเก็บในห้องก่อนไป เดี๋ยวแม่ตามไป ..ดาวไปเปิดประตูให้น้องหน่อยเร็ว" น้ำเสียงหวานของคนเป็นแม่พูดบอกพร้อมยื่นกระเป๋านักเรียนใบเล็กให้ลูก แล้วจึงหันไปบอกคนอายุน้อยกว่าให้ไปช่วยเด็กแสบเปิดประตูเพราะด้วยความสูงเพียงเท่านั้นมือป้อมยังคว้าไม่ถึงลูกบิดเลยต้องให้คนอื่นช่วย "คร้าบบบ" เด็กน้อยรับคำก่อนรับกระเป๋านักเรียนไปสะพายหลังแล้ววิ่งแจ้นออกไปจากครัวก่อนใคร ดาวเลยต้องรีบสาวเท้าเร็วๆ ตามไปดูเพราะกลัวจะไปสะดุดอะไรล้มเข้า "หึหึ ร่าเริงเชียววันนี้ เห็นแล้วพลอยทำให้หัวใจคนแก่มีชีวิตชีวา" ป้าเพ็ญพึมพำไล่หลัง 'หนูเลิฟ' ที่แกชอบเรียกหรือ 'น้องเลิฟ' ที่คนเป็นแม่เรียกยิ้มๆ ด้วยความเอ็นดูเพราะตนก็เลี้ยงเด็กคนนี้มาตั้งแต่เด็ก ยิ่งโตก็ยิ่งน่ารักน่าชังขึ้นทุกวัน "หึหึ ค่ะ.. เอ้อ ตอนเข้ามาเดียร์เห็นมีรถตู้จอดอยู่ ใครมาหรอคะป้าเพ็ญ" หญิงสาวร่างเพรียวเล็กในชุดเสื้อคอเช้าลายลูกไม้สีขาวกับผ้าซิ่นสีทึบและเรือนผมยาวถักเปียเดียวหลวมๆ เป็นเอกลักษณ์ผู้เป็นแม่ของเด็กน้อยถามคนตรงหน้าขึ้นมาด้วยความสงสัยเพราะเห็นมีรถตู้จอดอยู่หน้าบ้านแต่พอเข้ามากลับไม่เจอใคร "อ่อ เจ้านายน่ะ คุณปริ้นท์กับน้องชายและเพื่อนๆ จะมาเที่ยวที่ไร่หลายวัน เห็นคนแปลกหน้าก็ไม่ต้องตกใจล่ะ เอ้อ เมื่อกี้คุณปริ้นท์ถามหาเราด้วยนะ บอกจะพาเจ้าแสบไปให้น้องชายดู เห็นว่าตอนเด็กๆ หน้าตาเหมือนกันอย่างกับแกะ หึหึ" ป้าเพ็ญอธิบายยิ้มๆ เธอเองก็ไม่ค่อยรู้เรื่องที่เจ้านายว่าหรอกเพราะเจอเวย์อิ้งครั้งแรกเขาก็โตแล้ว ประมาณ 10 กว่าปีเห็นจะได้ใบหน้าก็เปลี่ยนไปตามอายุที่โตขึ้น แต่ถ้ามองดีๆ ก็อาจจะมีส่วนคล้ายกันบ้างแหละนะ ไม่งั้นคนเป็นพี่ชายคงไม่ดูตื่นตาตื่นใจขนาดนั้นหรอก "หรอคะ.. แล้วตอนนี้คุณๆ เขาไปไหนกันหมดคะ" คนฟังพยักหน้ารับอย่างไม่ค่อยใส่ใจเท่าไรออกจะขำเสียด้วยซ้ำ ก่อนจะเปลี่ยนเข้าเรื่องใหม่ทันที "พักอยู่ในห้องชั้นบน เพิ่งมาถึงคงจะเหนื่อย ตอนเย็นคงจะได้รู้จักกันเองนั่นแหละ" คนมีอายุบอกพร้อมหันไปสนใจงานในครัวที่ทำค้างไว้ 'นาเดียร์' ก็พยักหน้าเข้าใจไม่ได้ถามอะไรไปมากกว่านั้น ก่อนจะขอตัวไปดูลูก "ค่ะ งั้นเดียร์ไปดูลูกก่อนนะคะ" "จ้ะ"
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD