บทนำ
Demon's Love ทวงรัก... คืนใจ!
Writer : Aile'N
บทนำ
"จะไปไหนอีกล่ะ จะอยู่กินข้าวพร้อมหน้ากันไม่ได้เลยหรือยังไง" น้ำเสียงเข้มทรงพลังทว่าเอ่ยออกมาเพียงเรียบๆ ของคนเป็นหัวหน้าครอบครัวดังขึ้นขัดทันทีเมื่อเห็นลูกชายคนเล็กของบ้านเดินควงกุญแจรถผิวปากอย่างสุขสำราญใจกำลังจะเดินผ่านออกไป
"ไว้วันหลังนะป๊า วันนี้นัดเพื่อนไว้" ร่างสูงหยุดชะงักฝีเท้าหันมาคุยกับพ่อที่นั่งอ่านหนังสืออยู่บนโซฟารับแขกโดยมีคนเป็นภรรยานั่งปอกผลไม้ใส่จานให้ทานอยู่ข้างๆ สิ้นคำดวงตาคมปราดสองคู่ก็ตวัดมองลูกชายด้วยความไม่พอใจทันที
"กินเหล้ากับเพื่อนได้ทุกวี่ทุกวัน แต่กับครอบครัวกินข้าวด้วยกันสักมื้อก็ทำไม่ได้" สุรเสียงหวานดุจากคนเป็นแม่ตำหนิขึ้นมาบ้าง ถ้าเป็นเมื่อก่อนเธอคงจะไม่ห้ามเรื่องกินเที่ยวของลูกเพราะเข้าใจว่ากำลังอยู่ในช่วงวัยรุ่นมันถือเป็นเรื่องธรรมดาแต่ตอนนี้ลูกชายเธอเรียนจบแล้ว ควรจะสนใจใฝ่ช่วยงานพ่อกับพี่ชายไม่ใช่ยังคงเที่ยวเตร่ไม่เอาอะไรสักอย่างแบบนี้
"โถ่ ม๊าาา~ ก็เวย์กับเพื่อนเรียนจบกันแล้วอ่ะ เลยอยากฉลองความสำเร็จกันไงครับ ก่อนที่จะแยกย้ายกันทำการทำงาน เดี๋ยวพรุ่งนี้เวย์อยู่กับม๊าทั้งวันเลยครับ นะๆๆ" คนถูกดุรีบปรี่เข้าไปนั่งลงข้างมารดาพร้อมสวมกอดร่างเพรียวนั้นไว้หลวมๆ ลั่นวาจาออดอ้อนราวกับอายุเพิ่งจะสิบขวบ สิ้นคำก็หอมแก้มขาวซ้ายขวาเพื่อเอาใจ และรู้ด้วยว่าแม่จะต้องใจอ่อนแน่กับไม้ตายของเขา
"เฮ้อ.. ม๊ากับป๊าก็ไม่ได้อยากจะว่าหรอกนะ ถ้าเวย์มีจุดยืนให้ม๊ากับป๊าชื่นใจว่าจะช่วยงานป๊าที่นี่หรือจะไปช่วยดูไร่ตะวันฉายที่กาญฯ ไม่ใช่เอาแต่เที่ยวเตร่ไม่ทำอะไรสักอย่างแบบนี้ เรียนจบแล้วนะลูก หยุดเหลวไหลได้แล้วนะ เวย์ต้องช่วยงานป๊ากับพี่ปริ้นท์ได้แล้วนะครับ ให้พี่ปริ้นท์เทียวไปเทียวมาแบบนี้ม๊าสงสารพี่เขา ..นะลูก" คนฟังยกมือเกาหัวแกรกๆ ด้วยความหนักใจ เพราะจะเอาเรื่องเรียนมาอ้างไม่ได้อีกในเมื่อเรียนจบแล้วก็ต้องเดินตามรอยพี่ชายที่พอเรียนจบก็ออกมาช่วยงานพ่ออย่างขยันขันแข็ง แต่สำหรับเขายังอยากจะเที่ยวเล่นเหมือนเดิมอยู่ ยังไม่อยากมีชีวิตที่จริงจังแบบนั้นเพราะคิดว่ามันไม่มีอิสระและจะทำตัวแบบเดิมไม่ได้อีก!
"เวย์ช่วยงานป๊าที่นี่ก็ได้ครับ ให้ไอ้พี่ปริ้นท์มันไปเฝ้าไร่ที่กาญฯ เหอะ งานชาวไร่ชาวนาเข้ากับมันมากกว่าเวย์^0^" พอเจอสายตากดดันมากๆ ร่างสูงก็จำเป็นต้องก้มหน้ายอมรับชะตากรรม แต่ยังไงก็จะไม่ยอมไปอยู่ไร่ผลไม้ที่กาญจนบุรีแน่ๆ ที่ชนบทแบบนั้นเขาไม่คิดอยากจะไปสักนิด
"อะไรกับกูอีกล่ะ" เสียงทุ้มอีกเสียงแทรกขึ้นมาพร้อมการปรากฏตัวของชายหนุ่มร่างสูงโปร่งหน้าตาละม้ายคล้ายคลึงคนที่นั่งกอดแม่อยู่บนโซฟาเล็กน้อยถึงปานกลางถ้ามองดีๆ เพราะได้ยินชื่อตัวเองในประโยคของคนเป็นน้องชายจากที่จะเดินขึ้นห้องหลังกลับจากทำงานเหนื่อยๆ ก็เปลี่ยนใจแวะมาที่ห้องรับแขกควบห้องนั่งเล่นทันทีเพราะกลัวน้องชายตัวแสบจะเอาอะไรไม่ดีที่เกี่ยวกับเขาไปฟ้องพ่อกับแม่
"ตายยากจริงนะ.. ก็ไม่อะไร กูแค่บอกป๊าม๊าว่ากูจะอยู่ช่วยงานที่นี่แล้วเนรเทศมึงไปอยู่ไร่ หน้ามึงเข้ากับคนงานที่นั่น ฮ่าๆๆ" คนบนโซฟาแขวะคนเป็นพี่ขึ้นมาเจ็บๆ แล้วระเบิดเสียงหัวเราะออกมาดังลั่นจนคนเป็นแม่ต้องตีแขนปรามไว้เบาๆ คนถูกแขวะเดินมานั่งด้วยกันแต่เว้นระยะห่างพอสมควรแล้วตวัดสายตามองน้องชายนิ่งๆ ไม่ได้โกรธเคืองแต่อย่างใดเพราะมันเป็นเรื่องปากหมาปกติของน้อง ถ้ามันนั่งเงียบนี่สิแปลก! =_=^
"มึงไม่ลองไปเที่ยวดูสักหน่อยล่ะ คนใช้ที่นั่นหน้าตาดี๊ดี มีลูกหน้าตาเหมือนมึงตอนเด็กเลย พิมพ์เดียวกันเด๊ะ เห็นครั้งแรกกูยังตกใจ" ปริ้นท์บอกออกมาพร้อมใช้มือเสยผมสีทองสว่างของตัวเองขึ้นไปลวกๆ ด้วยความรำคาญ ก่อนลดลงมาปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตออก 2-3 เม็ดให้สบายตัว
"เด็กแม่งก็หน้าเหมือนกันหมดนั่นแหละ มึงคิดว่ากูไปไข่ไว้ไง๊? กูไม่ได้ไปที่นั่นมาจะ 10 ปีล่ะนะ" คนฟังตอบกลับขำๆ และไม่คิดจะสนใจเพราะไม่เคยไปมีสัมพันธ์อะไรกับสาวใช้ที่นั่น ไปล่าสุดก็ตอนอายุ 14-15 ปีเห็นจะได้ ไม่เห็นจะมีสาวสวยอย่างที่ว่าเลยด้วยซ้ำ มีแต่มันจะหลอกให้เขาไปเสียเวลาเปล่าๆ น่ะสิ!
"ก็จริง.. แล้วนี่มึงจะออกไปแรดไหน?" ใบหน้าหล่อเข้มกว่าพยักขึ้นลงเบาๆ เห็นด้วยกับคำพูดน้องก่อนจะเลิกสนใจเรื่องนั้นแล้วหันมาสนใจเรื่องของ 'เวย์อิ้ง' น้องชายสุดที่รัก(?)แทน เพราะเวลานี้มันสมควรใส่ชุดนอนไม่ใช่กางเกงยีนรัดเปรี๊ยะน้ำหอมฟุ้งแบบนี้
"แรดพ่องงง.."
"พ่อมันก็พ่อมึงด้วย!" ยังไม่ทันที่ลูกชายคนเล็กจะได้ด่าพี่ชายจบ คนเป็นพ่อก็แทรกขึ้นมานิ่งๆ ทำเอาคนที่กำลังจะพูดต่ออ้าปากค้างกลางอากาศอย่างเหวอๆ เพราะลืมไปว่าไม่ได้อยู่กันแค่ 2 คน เลยต้องยอมสงบปากสงบคำฉีกยิ้มแห้งๆ ให้บิดามารดาที่กำลังมองตำหนิมา แต่คนพี่กลับระเบิดเสียงหัวเราะเยาะดังลั่นห้องรับแขกด้วยความสะใจเมื่อเห็นคนปากดีทำหน้าเหรอหรา
"ฝากไว้ก่อนเถอะมึง.. ป๊าม๊าเวย์ไปแล้วนะครับ อยู่นานจะได้วางมวยกับใครบางคน!" คนถูกหัวเราะเยาะขบฟันคาดโทษพี่ชายด้วยความหงุดหงิด ก่อนหันมาบอกพ่อกับแม่แล้วลุกขึ้นเดินออกไปทันที ไม่วายได้ยินเสียงเยาะเย้ยตามหลังมาอีก
"อย่าลืมมาเอาคืนนะเว้ย กูไม่รับฝากนาน ฮ่าๆๆ"
"แม่งงงง.."
..
..
คิงผับ..
ที่นี่มีชื่อเรียกยาวๆ ว่า K.Inter Night Club คนวงในชอบเรียกกันว่า 'ผับของคิง' หรือ 'คิงผับ' เป็นสถานบันเทิงยามค่ำคืนที่มีชื่อเสียง หรูหรา ปลอดภัย และแพงที่สุดในขณะนี้ มีเจ้าของที่เป็นหุ้นส่วนร่วมกันทั้งหมด 5 คน เป็นกลุ่มคนที่มีอิทธิพลในประเทศด้วยคุณสมบัติรอบด้านทั้งรูปร่าง หน้าตา ฐานะ สติปัญญาและชื่อเสียงวงศ์ตระกูล.. นอกจากด้านดีแล้วยังมี 'ด้านมืด' ที่คนทั่วไปไม่อาจล่วงรู้นอกจากจะได้พบเจอด้วยตัวเองเท่านั้น! ซึ่งน้อยคนนักจะได้พบเจออันตรายจากพวกเขาและมีชีวิตรอดเอาไปบอกคนอื่นๆ หลายคนที่ได้ยินเลยขนานนามพวกเขาว่า 'เดมอนส์' ปีศาจในคราบเทพบุตร! จนกลายเป็นชื่อกลุ่มของพวกเขาไปโดยปริยาย
ในเวลานี้ร่างสูงของหนึ่งหนุ่มที่เป็นเจ้าของผับคิงกำลังก้าวฉับๆ เข้ามาข้างในโดยผ่านการ์ดชุดดำก้มหัวให้เป็นขบวนด้วยอารมณ์ไม่ค่อยจะดีเท่าไร เหตุก็มาจากเรื่องที่พ่อกับแม่พูดก่อนที่เขาจะมานั่นแหละ ไม่น่าเชื่อว่าชีวิตวัยรุ่นของเขาจะจบลงในเร็วๆ นี้แต่ก็หวังว่าพ่อจะไม่ใช้งานเขาเยี่ยงทาส คงมีอิสระบ้างไม่มากก็น้อยแหละ ไม่งั้นเฉาตายแน่!
"เห้ยยย! แปลกๆ ว่ะวันนี้! ขี้ไม่ออกหรอวะ? ฮ่าๆๆ" ทันทีที่ก้าวเข้ามาในห้องวีไอพีชั้น 2 ที่ๆ มีไว้สำหรับ 'คิง' ผู้เป็นใหญ่ที่สุดในที่แห่งนี้น้ำเสียงกวนๆ ก็ดังขึ้นมาทักทายพร้อมเสียงหัวเราะร่วนราวกับมันมีอะไรน่าขำมากมาย คนถูกแซวตวัดสายตามอง 'ฟิลลิกค์ เรย์สัน' เพื่อนปากหมาเจ้าของเสียงแซวเมื่อครู่นิดๆ ก่อนเดินไปนั่งลงร่วมวงกับเพื่อนที่โซฟาอย่างเซ็งๆ ไม่ต่อปากต่อคำเพราะแจกนิ้วกลางให้เพื่อนไปเชยชมเรียบร้อย แต่พอนั่งลงและได้มองสำรวจเพื่อนร่วมวงดีๆ แล้วกลับยิ่งทำให้หงุดหงิด.. เพราะมีแค่เขาคนเดียวที่ยังไม่มีคู่ในขณะที่เพื่อนๆ มีคนรักเป็นตัวเป็นตนกันหมดแล้วและวันนี้ก็มากันพร้อมหน้าเสียด้วย ..กลับตอนนี้เลยได้มั้ย! =_=^
"เครียดจริงนะนั่น.. เป็นไรวะมึง? โหมดนี้พวกกูไม่คุ้นนะเนี่ย!" หนุ่มหน้าสวยนามว่า 'แอล คราวรี่' ทักขึ้นบ้างแต่มีสาระกว่าคนแรกเป็นไหนๆ คนถูกทักที่กำลังก้มหน้าก้มตาชงเหล้าให้ตัวเองเลยเงยหน้าขึ้นมามองไล่ใบหน้าเพื่อนทีละคนอย่างชั่งใจ
"เฮ้อ.. พ่อกูจะให้ช่วยงานเลย แต่กูยังไม่พร้อมอ่ะ เพิ่งเรียนจบเองนะเว้ย" คนกลุ้มใจถอนหายใจหนักๆ ออกมาก่อนยอมเล่าให้เพื่อนฟังหน้าเจื่อนๆ ลึกๆ แล้วก็ละอายเพราะอย่าง 'เนตัน ควอล์ซ' เพื่อนอีกคนที่เสียพ่อกับแม่ไปตั้งแต่ยังเรียนอยู่ ม.ต้น ก็ยังต้องแบกรับภาระของวงศ์ตระกูลมากมายแต่กลับไม่เคยปริปากบ่นเลยสักคำแถมยังสานต่อจนได้ดีกว่าเดิมเสียอีก เมื่อเทียบกับเขาแล้วเขาไม่ได้ครึ่งความเก่งของเพื่อนเลยด้วยซ้ำ แต่ถึงจะคิดแบบนั้น.. ยังไงก็ยังยืนยันคำเดิมว่ายังไม่พร้อมอยู่ดี!
"เนี่ยนะ.. เรื่องที่ทำให้มึงเครียด?" แอลถามย้ำอย่างไม่อยากจะเชื่อหู ส่วนฟิลลิกค์ระเบิดเสียงหัวเราะไปเรียบร้อย เนตันกับ 'ซีเตอร์ ฟิลเลอร์' ตามประสาคนขรึมก็แค่นั่งฟังเงียบๆ
"อืม.. มันเรื่องใหญ่สำหรับกูเลยนะเว้ย พวกมึงไม่เข้าใจ กูยังอยากเที่ยวอยู่อ่ะ เมียก็ยังไม่มีถ้าขืนทำงานงกๆ กูขึ้นคานแน่!" เวย์อิ้งอธิบายหน้าเครียดราวกับมันเป็นปัญหาระดับประเทศที่กำลังดำเนินมาถึงช่วงวิกฤต พูดจบก็ซัดเหล้าเข้าปากรวดเดียวหมดแก้วแล้วชงใหม่อีกครั้ง
"มึงแม่งเว่อร์อ่ะ! ทำงานนะเว้ย ไม่ใช่ถูกส่งเข้าเรือนจำ เลิกงานมึงก็มาเที่ยวก็ได้เนี่ย กับพวกกู จะคิดมากทำเหี้ยไร!" ฟิลลิกค์ว่าออกมาขำๆ ไม่รู้เพราะอะไรเวย์อิ้งถึงได้คิดมากได้ขนาดนี้กับแค่ช่วยงานพ่อที่เป็นถึงเจ้าของบริษัทอสังหาริมทรัพย์มากมายพ่วงด้วยตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยที่เพิ่งจบมา ตัวเองก็เป็นลูกจะได้ทำอะไรแค่ไหนกันเชียว ตื่นเต้นไปได้ - -;;
"พวกมึงไม่เข้าใจกูอ่ะ! เลิกงานกูก็ต้องเหนื่อยป้ะ แล้วพอเหนื่อยกูก็ต้องนอนอยู่บ้าน พอนอนอยู่บ้านกูก็จะไม่มีเวลาหาเมียอย่างพวกมึงอ่ะ! กูไม่ยอมโสดอยู่คนเดียวหรอกนะเว้ย พวกเหี้ย! อึก..อึก..อึก" คนถูกว่าสวนกลับยาวเหยียดอย่างใส่อารมณ์สิ้นคำก็แจกนิ้วกลางเพื่อนอีกครั้งแล้วกระดกเหล้าเข้าปากรวดเดียวจนหมดแก้ว และกลับเข้าสู่วัฏจักรเดิม.. คือชงใหม่ - -^
"เอ้าๆ เป็นเอามากเว้ยไอ้นี่.." คนมองถึงกับถอนหายใจส่ายหน้าไปมาพร้อมกันด้วยความเอือมระอา ทั้งสงสารทั้งสมน้ำหน้า! ไม่รู้จะปลอบหรือหัวเราะเยาะดี -..-
"เที่ยวกันป้ะ.. เลี้ยงส่งมึงไง หึหึ" เนตันพูดขึ้นมาเป็นประโยคแรกโดยที่มองหน้าเวย์อิ้งอยู่ พอเห็นเพื่อนตวัดสายตามองเคืองกลับมาก็ยกยิ้มเยาะใส่สุมไฟเข้าใจคนโสดด้วยท่าทางยียวนเป็นพิเศษ
"ก็ดีนะ.. ไปไหนกันดีอ่ะ?" แอลพยักหน้าเห็นด้วยพลางทำท่าครุ่นคิดว่าจะไปเที่ยวไหนกันดี
"ไม่เอาเกาะมึงล่ะนะ กูเบื่อ!" ฟิลลิกค์แย้งขึ้นทันที เกาะที่ว่าคือเกาะส่วนตัวของเนตันที่ภูเก็ตซึ่งพวกเขาไปบ่อยมากจนออกอาการเบื่อทะเลเต็มที อยากไปที่อื่นบ้างแต่ถ้าให้คิดก็คิดไม่ออกอีกนั่นแหละ ต่างประเทศก็ไม่อยากไป อยากไปที่ๆ ไม่เคยไปมากกว่า
"อืม.. กูจำได้ว่าพ่อมึงมีไร่อะไรสักอย่างนะ หรือฟาร์มวะ ไม่แน่ใจ" แอลทักขึ้นมาด้วยความไม่แน่ใจ ก่อนส่งสายตามองไปที่เวย์อิ้งเพื่อต้องการให้เพื่อนสานต่อคำพูดของเขา ทุกคนเลยมองตามอย่างสนใจ คนที่กำลังจะยกเหล้าขึ้นดื่มอีกเลยลดแก้วลงมาตอบด้วยท่าทางเซ็งๆ เขาเครียดแทบตายมีหน้ามาหาเรื่องเที่ยว.. รักกันมากสินะ! =_=;;
"ที่จำได้ก็ไร่ผลไม้.. มีฟาร์มม้ากับวัว.. แล้วก็รีสอร์ตด้วย.. มั้ง! กูก็ไม่ได้ไปนานล่ะ ไม่ได้สนใจด้วย" บอกจบมือหนาก็ยกแก้วน้ำสีอำพันขึ้นดื่มต่อ ไม่ได้มีท่าทีสนใจเพราะไม่คิดอยากจะไปอยู่แล้วชนบทแบบนั้น
"ไปที่นั่นกัน!"
"ห้ะ!?"
..
..
..
..