“แสดงว่ามี” กริชารู้ทันเพื่อน เวลาพูดแบบนี้ทีไรได้เรื่องทุกที “แสนรู้นะมึงอ่ะ ตกลงเป็นหมาหรือเป็นหมอ” “เป็นหมอที่กำลังสแกนอาการหมา” “ใครหมาว่ะ!” “มึงไงไอ้น่าน นั่งเป็นหมาหงอยเลย” ไม่บ่อยครั้งนักที่กริชาจะได้เห็นเพื่อนรักนั่งหันหน้าหมาหงอยแบบนี้ ปกติเวลามาเที่ยวมันจะเริงร่ากับบรรดาสาวทรงอึ๋ม แต่วันนี้ไล่ไปหมดเอาแต่นั่งดื่ม นั่งเหม่อลอยเหมือนใจไม่ได้อยู่ตรงนี้ “...” “สองสามเดือนมานี้มึงหายไปไหนวะ?” พอเห็นเพื่อนเงียบเลยถามขึ้น โยธินพยัคฆ์แอบสืบรู้มาว่าช่วงนี้น่านฟ้าไม่ค่อยไปทำงานทำการ เอาแต่สั่งให้เลขาทำแทนมัวแต่ขลุกตัวอยู่ที่คอนโด “กูงานเยอะ” คนถูกถามอ้างไปเรื่อยเปื่อย “ตอแหล” โยธินพยัคฆ์ด่าอย่างรู้ทัน คนที่งานเยอะน่ะเลขาของมันนู้น “ก็เรื่องของกูไหมล่ะ” “มันผิดวิสัยต้องมีอะไรแน่ๆ” กริชาหรี่ตามองเพื่อน พยายามไล่ต้อนให้น่านฟ้าพูดความจริง การเสือกเรื่องเพื่อนเป็นความบันเทิงอย่างหนึ่ง

