ดวงใจนที ตอนที่ 3

1132 Words
แกร๊ก !!! เสียงไขกุญแจ ... ธิดาภัสใจหายวูบ หันควับไปทางเสียงนั้นทันที ใจหนึ่งนึกดีใจที่ 'อาจจะ' ได้ออกไปแต่อีกใจก็สังหรณ์ว่าคนที่อยู่หลังประตูนั้น เป็นใคร ? มาดี หรือมาร้าย ? ลุ้นระทึกว่าใครกันที่กำลังจะก้าวเข้ามา ธิดาภัสหันซ้ายหันขวา หมายจะหยิบฉวยอะไรสักอย่าง ไว้เป็นอุปกรณ์ป้องกันตัว แต่รอบตัวไม่มีอะไรสักอย่าง ก็เป็นเวลาเดียวกับที่ประตูได้เปิดออก คนที่เข้ามาคนแรกเป็นหญิงสาวอายุประมาณ 15 -16 ปีแต่งกายด้วยชุดพื้นเมืองชาวเขา ผิวพรรณดี หน้าตาน่ารัก ถือตระกร้าหวาย ภายในมีเสื้อผ้าหลายชุด ... ส่วนอีกคนที่เดินตามมา คือชายลักษณะสูงโปร่ง หน้าตาดี ดูมีการศึกษา ใส่เสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อนแขนสั้น กางเกงสแล็คสีดำ ลักษณะท่าทางการแต่งตัวไม่น่าจะใช่คนพื้นเมือง เขาเดินถือถาดอาหารกลิ่นหอมโชยเข้ามาด้วย ธิดาภัสไม่รอช้า ถอยกรูดไปที่มุมหนึ่งของห้อง เพราะเธอไม่รู้จุดประสงค์การมาของทั้งสองคน "พวกเธอเป็นใคร จับฉันมาทำไม ตอนนี้ฉันอยู่ที่ไหน ปล่อยฉันไปนะ" ธิดาภัสถามอย่างกระวนกระวาย น้ำเสียงร้อนรนตื่นตระหนก ชายหญิงทั้งคู่ ไม่มีท่าทีรีบร้อนใด ๆ บรรจงวางสิ่งของที่ถือมาอย่างใจเย็น ตรงกันข้ามกับธิดาภัส "นี่พวกเธอจับฉันมาเรียกค่าไถ่ใช่ไหม จะเอากี่บาท ฉันรวยนะ พ่อฉันให้ได้ จะเอาเท่าไหร่ว่ามาเลย เสร็จแล้วก็ปล่อยตัวฉันไปนะ" ธิดาภัสกล่าวอย่างร้อนรน ไม่มีคำตอบใดจากทั้งสองคน ธิดาภัสเห็นจังหวะเหมาะที่ประตูกำลังแง้มอยู่ เธอรีบวิ่งอ้อมชายหญิงทั้งสองและตรงไปที่ประตู แต่ยังช้ากว่าแขนของเขาที่เอื้อมมาจับต้นแขนของเธอไว้ เพียงเบาๆ ด้วยกำลังของผู้ชาย ร่างอันบอบบางของหญิงสาวก็หยุดกึก เขาเดินมาด้านหน้าของเธอในขณะที่ยังจับต้นแขนเธอไว้ พร้อมกับพูดว่า "ผมขอยืนยันว่าคุณไม่ได้ถูกพามาเพื่อจุดประสงค์ร้าย ตรงกันข้ามคุณจะปลอดภัยเมื่ออยู่ที่นี่" เขาหลีกเลี่ยงที่จะพูดคำว่า 'เธอถูกจับตัวมา' นับว่าเป็นความฉลาดในการสื่อสารของเขา แต่ธิดาภัสอยู่ในอาการตระหนกจนไม่ทันสังเกตสิ่งนี้ พร้อมกับพูดเขาปล่อยมือจากแขนหญิงสาวให้เป็นอิสระด้วยกิริยาที่นุ่มนวล "คุณเป็นใคร จับฉันมาเพื่อจุดประสงค์อะไร" ธิดาภัสถามด้วยความหวาดกลัว "ผมเป็นหมอ ... ส่วนเรื่องที่คุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง ไม่ใช่ผมที่ทำหน้าที่บอกคุณ แต่คุณจะได้รู้ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า" เขาตอบอย่างเรียบเฉย ทันทีที่ธิดาภัสได้ยินว่าเขาเป็นหมอ เธอก็ดวงตาเบิกโพลงด้วยความตกใจ รีบเปิดเสื้อขึ้นดูเอามือลูบคลำบริเวณท้อง "นี่คุณเอาไตฉันไปขายเหรอ" "เพ้อเจ้อใหญ่แล้วคุณ ... ตอนนี้รู้สึกยังไงบ้าง เชิญคุณนอนบนเตียงก่อน ขอผมตรวจร่างกายหน่อยนะ" คุณหมอพูดพร้อมกับหยิบหูฟังแพทย์มาคล้องคอ เธอไม่ทันสังเกตว่าตอนเข้ามาในห้องนี้ เขาถือหูฟังแพทย์มาด้วย "ไม่ ... คุณจะตรวจฉันเรื่องอะไร เป็นหมอจริงหรือเปล่าก็ไม่รู้" เธอปฏิเสธ "คุณสูดดมยาสลบเข้าไป ผมจะตรวจว่า ... ช่างเถอะ ไม่ตรวจก็ไม่ตรวจ เอาเป็นว่าตอนนี้คุณรู้สึกอยากจะอาเจียน หรือมึนงงสับสนบ้างไหม" แทนคำตอบธิดาภัสส่ายหน้า "แต่ดูมีเรี่ยวแรงขนาดนี้ คุณคงโอเคแล้วแหละ ... คุณคงหิว ทานข้าวซะนะ และนี่คืออาลู เธอช่วยงานผม เธอจะดูแลคุณ เธอจะอยู่หน้าห้อง ถ้าอยากได้อะไรบอกเธอได้ตลอดเวลา" เขาชี้มือไปยังเด็กสาว "ปล่อยฉันไป" ธิดาภัสเสียงแข็ง เสมือนไม่สนใจคำพูดของเขาก่อนหน้านี้ "ปล่อยแน่ ... แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้" พูดจบเพียงเท่านี้ เขาก็หันหลังเดินออกจากห้องไป ทิ้งให้เธออยู่กับความมึนงง ธิดาภัสเปลี่ยนเป้าหมายในทันที "อาลูใช่ไหม นี่คือชื่อของเธอใช่ไหม ปล่อยฉันไปเถอะนะ ฉันรวยนะ ฉันจะให้เงินเธอ จะเอาเท่าไหร่ว่ามาเลย ฉันให้เธอได้" สาวน้อยไม่โต้ตอบคำใดมองหน้าธิดาภัสตาปริบๆ และเดินออกจากห้องตามชายที่อ้างตัวเองว่าเป็นหมอคนนั้นไปและปิดประตูอย่างรวดเร็ว อารมณ์โกรธของธิดาภัสพุ่งสู่จุดสูงสุด เธอกรีดร้องออกมาอย่างคนบ้า "กรี๊ดดดดด ... อีบ้า ได้ยินฉันไหม หูหนวกเป็นใบหรือยังไง บอกให้ปล่อย" เธอทุบประตู ถีบประตู ทั้งที่รู้ว่ามันไม่ได้ผล แต่อย่างน้อยเธอก็ได้ระบายอารมณ์ที่มันอัดอั้นออกมา เธอกลับมาร้องไห้อีกครั้ง ตอนนี้เธอเหมือนคนบ้า เดี๋ยวโกรธ เดี๋ยวร้องไห้อยู่คนเดียวในห้อง ไม่มีใครสนใจเธอทั้งนั้น ภายนอกฝนเริ่มตกหนักขึ้น เสียงฟ้าร้องดังสนั่น ลมกรรมโชกพัดแรง เหมือนพายุฟ้าคะนอง ธิดาภัสนั่งลงสะอื้นบนเตียง ไม่สนใจอาหารที่วางอยู่ตรงหน้า ฟ้าผ่าลงมาอีกครั้ง ครั้งนี้เสียงดังกังวาน น่าจะผ่าลงใกล้ ๆ บริเวณนี้ ด้านนอกลมพัดแรงมาก หน้าต่างที่ถูกปิด ถูกเขย่าด้วยแรงลมดังกึก ๆ ละอองฝนเล็ดลอดสาดเข้ามาทางช่องหน้าต่าง ลมพายุต้องแรงมาก ละอองฝนถึงผ่านช่องหน้าต่างเข้ามาได้ ธิดาภัสสัมผัสถึงละอองน้ำฝนที่กระทบผิวกายเธอ ช่องหน้าต่าง!!! ... ใช่สิ เธอหันควับไปทางบานหน้าต่าง นึกตำหนิตัวเองว่าถ้ามีสติสักนิด เธอคงไม่ต้องไปทุบประตูให้เสียเวลา เพราะบานหน้าต่างทั้งเล็กและบางกว่าประตูมากนัก เธอพยายามหาช่องว่างระหว่างหน้าต่าง 2 บาน ไม่เกินความพยายามนัก เจอจนได้!! เธอมองลอดออกไปทางช่องนั้น เห็นอะไรได้ไม่มากนอกจากม่านฝนที่กำลังตกกระหน่ำอยู่ในขณะนี้ รวมถึงเห็นพุ่มไม้อยู่ใกล้ ๆ ธิดาภัสใช้สติ คิดหาวิธีที่จะทำให้หน้าต่างบานนี้เปิดออกให้ได้ ระหว่างคิดนั้น ฟ้าแลบแปลบเกิดสายฟ้าเป็นเส้นในอากาศ ฟ้าผ่าเสียงดังสนั่นหวั่นไหว เธอสะดุ้งสุดตัวรีบเอามือปิดหู หลังจากฟ้าผ่ายังตามด้วยเสียงฟ้าร้องคำรามอีกหลายครั้ง ความคิดหนึ่งแล่นเข้ามา ฟ้าฝนช่างเมตตา เธอจะใช้วิธีนี้แหละ หนีไปจากที่นี่ .....
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD