หญิงสาวหลับตาพริ้มในวงแขนอันอับอุ่นของเขา ใบหน้าซบแนบกับแผ่นอกกว้าง ในขณะที่มือของเขากำลังลูบไล้อย่างซุกซน
..... ฝนยังคงตกโปรยปราย กระทบหลังคารถ ไหลลงหน้าต่างกระจก มองเห็นเป็นหยดน้ำกระจายทั่วบาน เสียงฝนดังกลบเสียงอื่นใดแม้กระทั่งเสียงหัวใจของหญิงสาวที่เต้นโครมครามอยู่ขณะนี้ อากาศภายนอกแม้จะเย็น แต่ร่างกายของเขาและเธอกลับตรงกันข้าม ฝ่ามือของเขาที่ลูบไล้เริ่มรุนแรง จากอ่อนโยนเริ่มหนักหน่วง เหมือนพร้อมจะฉีกทึ้งร่างเธอให้เป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
จมูกที่ซุกไซร้บริเวณซอกคอเริ่มเลื่อนลงต่ำ ฝ่ามือที่โอบด้านหลัง ไหลขยับมาด้านหน้าเสมือนพร้อมที่จะ 'ขยำ' บางสิ่งอย่างมันเขี้ยว และก่อนที่สติจะเตลิดไปมากกว่านี้ หญิงสาวรีบคว้ามือเขาไว้
"หยุดก่อนค่ะติณณ์ นี่มันในรถนะคะ"
ชายหนุ่มชะงัก ทิ้งตัวพิงเบาะรถ ถอนหายใจอย่างเสียดาย "ธิดา ... คุณไม่เคยตามใจผมเลย"
หญิงสาวมองชายคนรักอย่างเอ็นดู พร้อมหยิกจมูกเขาเบา ๆ "วันมะรืนก็จะเป็นวันแต่งงานของเราแล้ว อดใจอีกนิดนะคะ ธิดาอยากให้ทุกอย่างถูกต้องตามธรรมนองคลองธรรมน่ะค่ะ"
ติณณ์ชายหนุ่มคนรักจุ๊ปากเบาๆ พร้อมยื่นหน้าไปจุ๊บแก้มธิดา พร้อมกล่าวว่า "คร๊าบบบ ในเมื่อมาหลงรักแม่ชี ก็ต้องอยู่ในโอวาท นอกลู่นอกทางไม่ได้ มันจะผิดผีคร๊าบบบ" พูดจบติณณ์ยกมือขึ้นพนมทำท่าสาธุอย่างประชดประชัน
ธิดาภัสหัวเราะร่วน "เอาเถอะค่ะ ยังไงธิดาก็ต้องเป็นของคุณอยู่ดี แต่ตอนนี้ขับเข้าไปในบ้านก่อนเถอะค่ะ จอดหน้าบ้านแบบนี้มาสักพักแล้ว คนในบ้านจะสงสัยนะคะ"
"คุณก็บอกไปสิว่าผมจูบคุณ" พร้อมกับพูดติณณ์ยื่นหน้ามาใกล้ๆ หมายจะจูบอีกรอบ มันคงยังไม่ 'สะใจ' เขา
"บ้า" ธิดาภัสผลักอกเขาเบาๆ ท่ามกลางความสลัวในรถ ทำให้เขาไม่ทันสังเกตว่าหญิงสาวหน้าแดงเพียงใด
ประตูคฤหาสน์เปิดออก ติณณ์ขับรถเข้าไปในบ้าน จอดเทียบเชิงบันไดหินอ่อน และยังไม่ทันที่จะเปิดประตูรถ สาวรับใช้ 2-3 คน ก็ออกมาต้อนรับ รอรับคำสั่งจากคุณหนูของบ้าน
"จะลงไปดื่มอะไรอุ่น ๆ ก่อนไหมคะ"
"ไม่ล่ะ ขอบคุณครับ ผมจะรีบกลับไปจัดการเรื่อง Welcome board หน้างานอีกสักหน่อย ผมยังไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ ออกจะทางการไปนิด ผมอยากให้ดูเป็นกันเองกว่านี้ ไม่รู้ทาง Organize จะแก้ทันไหม"
ธิดาภัสยิ้ม นี่แหละคือเสน่ห์ในตัวคนรักของเธอ ใส่ใจในทุกรายละเอียด ทำให้เธอรู้สึกเป็นคนพิเศษในทุกๆ วัน เธอมองคนรักอย่างชื่นชม และนึกขอบคุณคุณพ่อ ที่แนะนำให้เธอได้รู้จักผู้ชายที่แสนดี น่ารัก อบอุ่นคนนี้
"ค่ะ .... แต่อย่านอนดึกนะคะ เดี๋ยวจะป่วยวันงาน" พร้อมกับ Goodnight kiss เบาๆ ที่แก้มของเขา ธิดาภัสลงจากรถมองดูติณณ์ขับรถออกจากบ้านเธอไปจนลับตา
..... ฝนยังคงตกต่อเนื่อง พร้อมกับเสียงครืนของฟ้าร้องเป็นระยะ ธิดาภัสอยู่ในชุดนอนผ้าซาติน ยังคงง่วนอยู่กับ List รายการในวันสำคัญที่กำลังจะมาถึง เกรงว่าจะมีอะไรตกหล่น ระหว่างอ่านแผ่นกระดาษในมือ ธิดาภัสรู้สึกถึงความยุ่งยากในพิธีการ รวมทั้งขั้นตอนที่มากมาย นึกชื่นชมคนที่สามารถจัดการเรื่องราววุ่นวายเหล่านี้ให้ดูเป็นเรื่องที่สะดวกสบายขึ้นได้ คนนั้นก็คือติณณ์ คนรักของเธอ ติณณ์ช่างรอบรอบ พิถีพิถัน ทำงานละเอียดเสียจริง สามารถทำเรื่องยากให้กลายเป็นเรื่องง่ายได้ ซึ่งตรงข้ามกับเธอที่มักทำอะไรไม่เป็นประสา ขาดตกบกพร่อง และมักตีโพยตีพายเกินเหตุไปเสมอ
ธิดาภัสคิดเกินเลยไปถึงความกังวลในอนาคต ที่ติณณ์บอกกับเธอไว้ว่า หลังจดทะเบียนสมรส เขาจะยกธุรกิจหลายอย่างของเขามาเป็นชื่อเธอ ซึ่งผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายพลอยก็เห็นดีเห็นงามไปด้วย ธิดาภัสถอนหายใจ คนอย่างเธอที่ปราศจากประสบการณ์ และหัวคิดทางธุรกิจจะทำอะไรได้
เธอเคยเปิดร้านดอกไม้เล็ก ๆ เพียงเพราะใจชอบ แต่ขาดความรู้ในงานบริหาร ผลสุดท้ายคือเจ๊งไม่เป็นท่า นับประสาอะไรกับธุรกิจของครอบครัวติณณ์ที่มีมูลค่ามหาศาล
แต่ถึงเธอจะกังวลใจเพียงใด ในเวลานี้เธอคงปฏิเสธไม่ได้แล้ว เพราะอีกไม่กี่ชั่วโมงนับจากนี้ เธอจะขึ้นชื่อว่าเป็นสะใภ้ในตระกูลอันมั่งคั่งของเขา เมื่อสามีเห็นดีอย่างไร หน้าที่ของภรรยาคงไม่อาจจะทัดทาน
เสียงเคาะประตูห้องนอนดังขึ้นทำลายความคิดของเธอชั่วขณะ
"เชิญค่ะ" ธิดาภัสเอ่ยขึ้นโดยไม่ละสายตาจากแผ่นกระดาษตรงหน้า "คุณหนูคะ ป้าเอานมมาให้ค่ะ ฝนตกอากาศเย็น ดื่มนมอุ่นๆ สักหน่อยนะคะ"
ธิดาภัสเงยหน้าขึ้นมองหญิงวัยชรารุ่นป้า 'ป้าสายใจ' แม่บ้านเก่าแก่ของคฤหาสน์หลังนี้ ตั้งแต่ธิดาภัสเกิด เธอไม่เคยเห็นหน้าแม่ เพราะแม่เสียชีวิตตั้งแต่เธอยังจำความไม่ได้ มีแต่ป้าสายใจ ที่ให้ความรักและดูแลเธอประดุจแม่แท้ๆ
"ขอบคุณค่ะคุณป้า" ธิดาภัสพูดพร้อมกับรับแก้วนมอุ่นมาประครองในมือ จริงอย่างที่ป้าสายใจบอก นมอุ่นๆ ในวันอากาศหนาว ๆ ช่วยให้รู้สึกดีขึ้นได้จริง ๆ
"คุณพ่อกลับมาหรือยังคะ"
"กลับมาแล้วค่ะ อยู่ในห้องโถงรับแขก กำลังคุยกับคนของสมาคมอะไรสักอย่างนี่แหละค่ะ"
ธิดาภัสพยักหน้า เป็นธรรมดาของคุณพ่อและคฤหาสน์หลังนี้ที่จะมีมูลนิธิหรือสมาคมการกุศล มาพบคุณพ่อเธอเสมอ
'คมธรรม' บิดาของเธอเป็นนักธุรกิจใหญ่ หัวใจคุณธรรม ที่ประสบความสำเร็จ สร้างเนื้อสร้างตัวจากติดลบสู่มหาเศรษฐีระดับต้นๆ ของประเทศได้ ไม่ใช่เพราะโชคช่วยอย่างเดียว แต่สิ่งที่บิดาของเธอพร่ามสอนเสมอคือ ความซื่อสัตย์ กตัญญู ด้วยความดีงามเหล่านี้ทำให้กิจการการค้าเจริญรุ่งเรือง ไม่มีวันตกอับยากจน
"งั้น .. ธิดาไปหาคุณพ่อก่อนนะคะ" ธิดาภัสพูดพลางจิบนมอุ่นๆ
ธิดาภัสลงไปหาคุณพ่อ ก็พอดีเป็นเวลาที่แขกกำลังขอตัวกลับ เธอไม่ได้เข้าไปทักทายเพราะยังอยู่ในชุดนอน เพียงแต่แอบมองจากมุมของบันได เธอเห็นชาย 3 คน กำลังร่ำลาคุณพ่อด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม ชายทั้ง 3 ดูหนุ่มเกินกว่าจะเป็นนายกสมาคมใดได้
เมื่อแขกกลับ ธิดาภัสก็วิ่งเข้าไปกอดคุณพ่อจากด้านหลัง คมธรรมหันมาโอบกอดลูกสาวด้วยความเอ็นดู เมตตา "จะเป็นฝั่งเป็นฝาอีกวันสองแล้ว ยังอ้อนพ่อเป็นเด็กๆ อีก" คมธรรมกล่าวด้วยความเอ็นดูบุตรสาว
"ใครเหรอคะคุณพ่อ สมาคมอะไรเหรอคะ"
ทั้งคู่พากันนั่งที่โซฟา คมธรรมกล่าวว่า "ยังไม่ได้จัดตั้งเป็นสมาคมอะไรหรอก พวกเขาทำงานด้านแก้ปัญหาคนไร้บ้านน่ะ พ่อก็ให้คำปรึกษาเขาไป เด็กหนุ่มพวกนี้หัวคิดก้าวหน้านะ แบบนี้พ่อสนับสนุนเต็มที่"
"คุณพ่อทำงานเพื่อสังคมมาเยอะแล้ว มีมูลนิธิที่ต้องดูแลมากมาย คุณพ่อจะเหนื่อยนะคะถ้ามีเพิ่มมาอีก" ธิดาภัสกล่าวด้วยความเป็นห่วง
คมธรรมโบกมือ "โอ้ย .. ไม่เหนื่อยหรอก เหนื่อยกายแค่นอนก็หายเหนื่อยแล้วลูก ถ้าลมหายใจยังมี อะไรที่ทำประโยชน์ได้ พ่อก็พร้อมจะทำ"
ธิดาภัสเขยิบเข้าไปกอดพุงอุ่นๆ ของคุณพ่ออย่างรักใคร่ คมธรรมลูบศีรษะลูกสาวสุดที่รัก พร้อมเอ่ยว่า
"นี่ถ้าแม่อยู่ ......"
"นี่ถ้าแม่อยู่ แม่จะมีความสุขมากที่เห็นหนูจะเป็นฝั่งเป็นฝา ... คุณพ่อพูดรอบที่ล้านแล้วค่ะ" ลูกสาวชิงตัดบทพูด ทั้งคู่หัวเราะร่วน
"ถึงหนูจะมีคุณพ่อคนเดียว แต่หนูก็อบอุ่นมากกก" ธิดาภัสลากเสียงยาว "หนูไม่รู้สึกขาดอะไรเลยนะคะ คุณพ่อเป็นพ่อที่ดีที่สุดในโลก เป็นพ่อที่ดี และเป็นคนดีด้วย หนูภูมิใจในตัวคุณพ่อค่ะ"
คมธรรมยิ้มในคำพูดลูกสาว ลูบหัวลูกเบาๆ พร้อมกับกวาดตามองไปรอบๆ ห้องโถงรับแขกขนาดใหญ่ จริงอย่างที่ลูกสาวเขาพูด ถ้วยรางวัล โล่ห์รางวัล งานการกุศลมากมาย ต่างมอบให้เขา ด้วยคุณงามความดีที่เขามอบให้สังคม ช่างมากมายเหลือเกิน
สายตาคมธรรมกวาดมองไปรอบ ๆ จนไปหยุดที่ภาพครอบครัวพ่อแม่ลูก มันเป็นภาพเดียวที่เขาได้ถ่ายรูปกันพร้อมหน้าพร้อมตาพ่อแม่ลูก หญิงสาวที่ปรากฎในภาพ เธอสวย สูงโปร่ง ผมยาวประบ่ากำลังอุ้มลูกวัยไม่กี่เดือน แม้ภาพนั้นจะผ่านมากว่า 27 ปีแล้ว แต่หญิงสาวในภาพยังสวยเด่นชัด
คมธรรมมองเธอด้วยสายที่อ่อนโยน ก่อนที่ความทรงจำบางอย่างจะผ่านเข้ามา สายที่อ่อนโยนเปลี่ยนเป็นแข็งกร้าวในทันใด พร้อมทั้งมีแววอาฆาตในดวงตาคู่นั้น