CHAPTER 01
ฉันยืนหมุนตัวอยู่หน้ากระจกบานใหญ่ภายในห้องของตัวเอง
อีกห้านาทีใกล้จะถึงเวลานัดระหว่างฉันกับธารา
ให้ตายเถอะ.. จะสู้หน้ามันยังไงดีวะ?
มองหน้ามันยังไงเพื่อไม่ให้เกิดเหตุทะเลาะวิวาทต่อกัน
"ต้องขึ้นรถไปกับก้อนหินเดินได้จริงดิ"
ฉันกุมขมับแล้วนวดคลึงเบา ๆ อารมณ์เหมือนหัวสมองจะแตกให้ได้ตั้งแต่ตอนนี้เลย
"เอ่อ ช่างแม่งเดี๋ยวก็ถึง"
เมื่อฮีลใจตัวเองเสร็จสรรพฉันก็หมุนตัวไปหยิบของขวัญที่เตรียมไว้ให้ไอ้ชายแล้วเดินไปสวมรองเท้าส้นสูงที่อยู่ในตู้รองเท้า
เสื้อผ้าที่ใส่วันนี้ก็เป็นชุดเดรสเกาะอกสีแดงสดที่เป็นธีมที่ชายกำหนดเอาไว้
ไม่แซ่บจนเข็ดฟันอย่าไปเรียกมันว่าไอ้ชาย
แกร๊ก..
เมื่อฉันเปิดประตูออกมาก็เป็นจังหวะเดียวกันกับห้องตรงข้ามที่เปิดประตูออกมาเช่นกันมันเลยทำให้เราสองคนเผลอมองตากัน
สายตาเรียบนิ่งมองฉันเหมือนเป็นอากาศก่อนจะเดินนำหน้าไป
เพราะมันเป็นแบบนี้ไงฉันถึงไม่อยากอยู่ใกล้อะ ใกล้ทีไรหัวร้อนเหมือนอยากจะฟัดให้ทุกทีเลย
"เบลล์ กูไปเองไม่ได้เหรอวะ"
ฉันต่อสายไปหาเบลล์ระหว่างที่เดินตามหลังธาราที่เว้นระยะห่างพอสมควร
" (ไม่ได้มึง ช่วงนี้ข่าวข่มขืนเยอะกูกลัว) "
"แต่มึงก็รู้ว่ากูกับธาราไม่ค่อยกินเส้นกัน"
แค่เห็นแผ่นหลังยังอยากข่วนให้มันร้องเลย
" (ทนหน่อย แล้วเจอกันมึง) "
เวรเถอะ!
รถก็ไม่น่ามาเสียตอนนี้เลย
จังหวะนรกจังหวะต่อไปคือเราต้องขึ้นลิฟต์ด้วยกัน
นรกของจริง เหมือนอยู่ในป่าช้าที่อึดอัดและว้าเหว่
"ธารา เดี๋ยวฉันไปเองก็ได้นายไปก่อนเลย"
ฉันพูดออกไปโดยที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองจะไปยังไง
ธาราที่ยืนพิงขอบผนังลิฟต์ตวัดสายตามามองฉัน ความว่างเปล่าที่ดูเหมือนเย้ยหยันกันนั้นทำให้ฉันสู้ตามันด้วยความเดือดพล่าน
"ทำไมชอบมองด้วยสายตาแบบนี้วะ"
เอ่อ!
ไอ้ปั้นแป้งมันเป็นชะนีที่ความอดทนต่ำไง!
"แบบไหน"
มันถามฉัน ครั้งแรกที่ได้ยินมันถามแล้วสองคิ้วก็มุ่นเข้าหากัน
"ก็แบบที่ทำอยู่"
ฉันเองก็หน้ายุ่ง แต่เพราะขี้เกียจคุยเลยหันหน้าหนี
"พวกมันบอกให้ไปด้วยกัน"
มันกล่าวประโยคทิ้งท้ายไว้สั้น ๆ แล้วเดินออกไปเมื่อประตูลิฟต์เปิดออก
แล้วฉันจะเลือกอะไรได้นอกจากเดินตามมันไปด้วยความหัวฟัดหัวเหวี่ยงที่เหมือนจะระเบิดออกมาอยู่รอมร่อ
ภายในรถยนต์ที่คับแคบยิ่งรู้สึกคับแคบกว่าเดิมเมื่อเราสองคนนั่งเงียบกันมาตลอดทาง
ไม่มีสักคำที่ถูกพ่นออกมาจากริมฝีปากคนขับรถที่นั่งข้าง ๆ กัน
"ขอเปิดเพลงได้มั้ย"
ความเงียบเป็นแรงที่เสริมสร้างความอึดอัดชั้นดีเลย ฉันทนไม่ไหวมันเหมือนจะขาดใจให้ได้
ฉันต้องการเสียงเพลงเพื่อบรรเทาจิตใจ!
"อื้ม"
มันตอบแค่นั้น แม้แต่หางตายังไม่มองกันเลย
ฉันแอบมองค้อนมันแล้วเอื้อมมือไปเปิดเพลงเบา ๆ ให้พอมีจังหวะให้คลายเครียดได้
แต่ทว่าสิบนาทีต่อมาธาราก็เลี้ยวจอดชิดฟุตบาทแล้วเลื่อนกระจกลง ฉันที่นั่งกดมือถือในมือเป็นต้องเงยหน้าขึ้นไปมองหน้ามัน
"ทำไรอะ"
แล้ววันนี้ฉันก็กลายเป็นคนขยันพูดขยันถามเสียด้วยเพราะคนที่นั่งมารับบทเป็นคนใบ้อยู่
"ดูดบุหรี่"
ถามคำตอบคำเหมือนประหยัดคำพูดอยู่
คำพูดไม่ใช่เงินมึงจะงกเพื่อ!
"แล้วทำไมนายไม่ไปดูดในงาน"
มันเงียบไปชั่วอึดใจแล้วเอื้อมไปหยิบซองบุหรี่ในเกะรถออกมาแล้วหยิบมาถือเอาไว้หนึ่งม้วน
"อยาก"
ก่อนจะหันมามองหน้าฉันแล้วตอบคำถามสั้น ๆ ที่ฟังดูห้วน ๆ จนฉันอยากจะกรี๊ด
"แต่มันจะสายเอานะธา"
ฉันเริ่มหัวร้อน มองหน้ามันพร้อมกอดอก
อย่าว่าอย่างนั้นอย่างนี้ ถ้าแม่วีนสิบล้อมาลากก็ดึงไม่อยู่นะบอกก่อน
"ช่างมัน"
ดูมัน
ทำหน้าเหม็นเบื่อใส่กันอีกแล้ว
"ถ้านายไม่ได้เต็มใจจะให้ฉันติดรถมาด้วยก็พูดตรง ๆ ได้ ไม่ต้องกั๊กก็ได้เดี๋ยวไปเอง"
"ใครพูด?"
ธาราที่กำลังจะจุดไฟเป็นต้องชะงักกลางอากาศ
มันหันมามองหน้าฉัน แววตาราบเรียบมีแววความหยาบจนร้อนผ่าวไปทั้งรถ
"ฉันนี้ไง ในรถมีอยู่สองคนแล้วใครมันจะพูด"
ธาราสบตาฉัน มันเงียบเหมือนกำลังใช้ความคิดแล้วสักพักก็ดุนดันลิ้นเล่นกับกระพุ้งแก้มตัวเอง
ดูมันดิ
กวนตีนหน้าตายแบบนี้ไงฉันถึงอยากจะกุยหน้าให้
"ไม่ได้ยินจากปากก็อย่าคิดเอง"
จะถือว่านี้คือประโยคที่ยาวที่สุดจากปากมันแล้วกัน
"ก็นายทำให้คิดมั้ยวะ อยากไปแล้วอะอยากถึงงานแล้ว"
ฉันแทบจะร้องไห้อยู่รอมร่อ ธารามันมองหางตาแล้วเหยียดยิ้มอย่างเย้ยหยัน
"งอแง"
คำสั้น ๆ ที่เหมือนถูกรีเซ็ทด้วยระบบโปรแกรมคอมพิวเตอร์ยิ่งทำให้ฉันร้อนรุ่มไปทั้งตัว
"ไม่ได้งอแงแต่ฉันโมโห!"
"แก่เร็ว"
"ธารา!"
หัวจะปวดให้ได้กันคนแบบมัน!
Talk
นางหน้ามึนจ้า นี้แค่เริ่มพอนางจ้องสวบนาวจะหน้ามึนหนักกว่านี้ ><
ครบ 5 เม้นมาอัปนะคะ