Chapter I : บ่อเกิดของ(ความแค้น)หนี้ชีวิต

713 Words
‘ แต่งงานแล้วอยากไปฮันนีมูนที่ไหน ?’  เสียงที่คุ้นหูดังอยู่ในโสตประสาท ก่อนที่ความเจ็บปวดจะวิ่งแปล๊บเข้ามาในหัวช่วยดึงสติที่หายไปกลับคืนมา “คุณหมอคะๆ!  คนไข้ฟื้นแล้วค่ะ!” หญิงสาวในชุดขาวรีบจัดแจงสถานที่เพื่อให้แพทย์เข้ามาตรวจ “คุณจำได้ไหมว่าคุณคือใครแล้วเกิดอะไรขึ้น” ชายวัยกลางคนกล่าวพลางตรวจสภาพร่างกาย “ฉัน.. ชื่อมีอาร์ ฉันพึ่งแต่งงานและเรากำลัง ..อ่ะ!” มือเรียวรีบกุมหัวทันทีที่รู้สึกเจ็บแปล๊บที่แผล “ค่อยๆคิดก็ได้ครับ อย่าเร่งรัดมันเลย” “เรา..เรากำลังจะไปฮันนีมูนกันค่ะ ระหว่างที่เดินทางมีเด็กคนนึงวิ่งตัดหน้ารถ เราเลยหักหลบ..หลังจากนั้นฉันก็จำอะไรไม่ได้แล้วค่ะ อ่ะ! ละ แล้วสามีฉันหละคะคุณหมอ!?” หญิงสาวรีบเขย่าแขนคุณหมอเพื่อถามไถหาสามีผู้เป็นที่รัก “อย่าพึ่งขยับตัวมากเลยครับคุณ สามีคุณปลอดภัยดีครับ” คุณหมอว่าพลางรูดม่านออกเพื่อให้มองเห็นเตียงข้างๆ ปรากฏร่างชายหนุ่มที่คุ้นตานอนหลับยังไม่ได้สติ หน้าตาเต็มไปด้วยบาดแผลที่เกิดจากรอยกระจกบาด เสื้อเชิ้ตตัวเก่งที่เปื้อนไปด้วยคราบเลือด ภาพที่เห็นเรียกน้ำตาให้ไหลอาบแก้มแทบจะทันที “คุณทั้งสองประสบอุบัติเหตุ หลังจากหักหลบแล้วรถพุ่งข้ามเลนไปชนประสานงานกับรถตู้ เป็นรถตู้ครอบครัว.. เสียชีวิต 3 .. สาหัส 1 คนครับ” “.....”พอได้ฟังเรื่องราวดังนั้นความเงียบก็เข้าปกคลุม ร่างบางเม้มปากแน่น ได้แต่กล่าวโทษตัวเองในใจ “งั้นคุณพักผ่อนจะดีกว่านะครับ มีอะไรเรียกพยาบาลได้ทันทีเลยนะครับ” ร่างบางพยักหน้ารับเบาๆก่อนจะกดหน้าซุกหมอนเพื่อซ่อนน้ำตาแห่งความผิดบาปก่อนจะผล็อยหลับเข้าสู่ห้วงนิทราไป   ทั้งสองรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลเป็นเวลา 2 อาทิตย์ หลังจากออกจากโรงพยาบาลทั้งสองต่างพยายามหาทางติดต่อครอบครัวผู้เคราะห์ร้าย เพื่ออยากจะยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือเผื่อมันจะช่วยลดความรู้สึกผิดในใจลงได้บ้าง แต่ก็ไร้วี่แวว..หมดหนทาง ไม่รู้ว่าพวกเขาเป็นใคร ผู้ที่บาดเจ็บเป็นอย่างไรบ้างแล้ว การสืบหากินเวลาไปเกือบ  3 เดือน จนพวกเขาถอดใจและได้แต่ภาวนาให้ผู้เสียชีวิตไปสู่สุขคติ ขอให้ผู้รอดชีวิตกลับมาใช้ชีวิตได้เหมือนเดิม .. . . . .... 1 ปี 6 เดือน .. เวลาที่เดินผ่านไปอาจทำให้หลายๆเหตุการณ์ในความทรงจำนั้นเลือนรางไป.. . . . หน้าหลุมศพประจำตระกูลปรากฏร่างสูงยืนก้มหน้านิ่งระลึกถึงครอบครัวอันเป็นที่รัก พ่อ แม่ และน้องชาย ที่จากไปเพราะอุบัติเหตุในครั้งนั้น เจ้าตัวเฝ้าแต่ถามพระเจ้าว่าทำไมถึงมอบชะตากรรมอันโหดร้ายนี้ให้แก่เขา ทำไมถึงไม่พาเขาไปกับครอบครัวผู้เป็นที่รัก….ทำไมถึงทิ้งให้เขาโดดเดี่ยว มีเพียงทรัพย์สิน ธุรกิจหมื่นล้าน และลูกน้องบริวารที่อยู่เคียงข้างแต่ก็ไม่ได้ทำให้ใจอบอุ่นเหมือนกับครอบครัว “นายครับกลับกันเถอะครับ ฝนตั้งเค้ามาแล้วครับ” ชายร่างใหญ่กล่าวพลางก้มหัวให้ผู้เป็นนายเล็กน้อย “.... ” ไร้เสียงตอบกลับจากผู้เป็นนาย “งั้นผมไปรอที่รถนะครับ”  กล่าวจบสมุนผู้ซื่อสัตย์ก็รีบกลับลำไปรอที่รถทันที “.. ผ่านมาปีครึ่งแล้วพ่อ แม่กับน้องจะเป็นยังไงบ้าง..ผมสบายดีนะ ไม่ต้องห่วง ผมกำลังทำทุกอย่างให้มันกลับมาดีเหมือนเดิม .. ” ชายหนุ่มก้มหน้านิ่งพลางกลั้นน้ำตาลูกผู้ชายไว้ “..และผม.. จะตามหาคนมาชดใช้หนี้ที่มันทำกับชีวิตผมให้ได้!”  ร่างสูงกำหมัดแน่นก่อนลั่นวาจาต่อหน้าหลุมศพบรรพบุรุษทั้งหลาย ว่าจบร่างสูงก้มโค้งทำความเคารพหลุมศพผู้มีพระคุณก่อนก้าวขายาวไปที่รถที่จอดรออยู่ “จาฟา ออกรถ! เราจะไปตามหาลูกหนี้กัน! ” ว่าแล้วรอยยิ้มที่เคยอบอุ่นกลับกลายเป็นยิ้มที่เย็นยะเยือกประดุจรอยยิ้มที่ปรากฏอยู่บนใบหน้าของซาตานก็ไม่ปาน   “ถึงเวลาทวงหนี้แล้ว .. หนี้ชีวิตของฉัน”.....                        
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD