เขายังคงเดินต่อไป ด้วยใบหน้าเรียบนิ่งจนกระทั่งมาหยุดลงที่หน้าร้านขายของกระจุกกระจิกแห่งหนึ่ง เชนจ้องมองไปยังหมวกหูกระต่ายสีเทาๆ หน้าตาขี้หงุดหงิดที่แขวนโชว์หน้าร้านนั่น มันเป็นแบบเดียวกันกับที่พาวินใส่เมื่อวานนี้ในตอนที่พวกเขาออกมาข้างนอกด้วยกัน
“....คุณพาวิน...” ยังคงจ้องมองหมวกนั่นอย่างไม่เข้าใจ “ใส่แล้ว..จะ..น่ารัก?” ริมฝีปากเผยยิ้มอ่อนๆ จนกระทั่งทุกอย่างจบลงด้วยเสียงที่เอ่ยเรียกจากด้านหลัง
“ไม่ได้เจอกันนานเลยนะครับ NT627”
เสียงเรียบนิ่งเอ่ยมาจากด้านหลัง ในขณะที่เชนค่อยๆ หันกลับไปหาเจ้าของน้ำเสียงนั่นพร้อมสีหน้าเรียบนิ่งเช่นเดิม “คุณเองเหรอครับ...”
...
ประตูบ้านถูกเปิดออกกว้างขณะฝีเท้าหนาเดินเข้ามาในบ้านด้วยมือทั้งสองข้างที่ถือถุงนิตยสาร กับอีกถุงที่ถือซื้อติดมือมาด้วย
“โอ๊ะ กลับมาแล้วเหรอ?” ร่างเล็กนั่งอิงโซฟาเปิดทีวีสบายใจเฉิบในชุดนอน กล่าวทักทายอีกฝ่ายทันทีที่มาถึง “.....คุณบอกว่าจะนอนพักรอผมดีๆ?”
“อ๋า~ อะไร? มันน่าเบื่อฉันนอนไม่หลับ ก็เลยออกมานั่งดูทีวีนี่เอง อีกอย่างไข้ก็ไม่ค่อยมีแล้วถ้าไม่เชื่อเอาประหลอดวัดไข้มาวัดเลยสิ” ใบหน้าพุ่งตรงเข้ามาใกล้อีกฝ่ายด้วยท่าทีมั้นใจพลางดึงมือของเชนขึ้นมาทาบหน้าผากตัวเอง เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ
“เห็นไหม ไข้ลดแล้ว”
“....ครับ” เชนหลบตาเล็กน้อย ชักมือออกเบาๆ ก่อนจะยื่นถุงทั้งสองถุงที่ซื้อมาให้พาวิน “หื้ม? ฉันบอกว่าเอาแค่นิตยสารที่ซื้ออย่างเดียวแล้วนี่... อะไรเนี่ย?! หมวกหูกระต่ายหน้าบู้นี่มันอะไร? ซื้อมาทำไมเนี่ย?” มือคว้านถุงอีกใบหยิบหมวกขึ้นมามองด้วยแววตากระเตื้องไม่ค่อยพอใจ
“ผมเห็นว่ามันเหมาะกับคุณ”
“เงินใคร? เงินฉันหนิ นายนี่มัน อ้า!! อยากโดนไล่ออกจากบ้านไหมล่ะห้ะ? ทีหลังถ้านายซื้ออะไรนอกเหนือจากของที่ฉันบอก ถ้าไม่ใช่ของกินฉันจะเตะนายออกจากบ้าน”
“เข้าใจแล้วครับ งั้นผมจะไปเตรียมอาหารกลางวันมาให้” เชนเอ่ยเสียงเรียบเฉยแบบทุกครั้งพลางก้มโค้งลงเล็กน้อยแบบทุกทีก่อนเดินกลับเข้าไปยังครัว ร่างเล็กจ้องมองแผ่นหลังนั่นเดินกลับเข้าไปในครัวแล้วเอียงหัวเล็กน้อยแต่ก็หันวกกลับมามองหมวกกระต่ายนั่นอีกครั้งสลับมองแผ่นหลังที่เดินกลับเข้าครัวนั่นไปมา ด้วยความแปลกใจที่เชนนั้นทำท่าทางแปลกๆ “เป็นไรวะ งอนเหรอน่ะ”
“เฮ้ ไม่เอาข้าวต้มแล้วนะ จะกินข้าว”
“จะดีเหรอครับ....”
“ดีสิ อ่ะ กินปลาที่ซื้อมาเมื่อวานดีกว่า ทำต้มยำไข่ปลากินเป็นไง? อะ..อะไร? มองงั้นทำไม” เชนกระตุกเล็กน้อยหลังจากเห็นพาวินยอมสวมหมวกหูกระต่ายที่เขาซื้อมา
“อ่ะ... ซ...ซื้อมาเสียดายของ ไม่ใส่มันเปลืองนะ แล้วก็! เลิกมองได้แล้ว! ไม่งั้นฉันจะถอดเอาไปเก็บ”
“ย..อย่าครับ ไม่มองแล้ว แค่....คุณใส่แล้ว.. น่ารักมากเลยครับ” น้ำเสียงเอ่ยอย่างเอ็นดูทั้งที่หน้าไม่ได้หันมามองทางพาวินเลยแม้แต่น้อยแต่มุมปากของเขามันกระตุกยิ้มนิดหน่อย แต่ถึงอย่างนั้น มันก็เป็นคำชมที่ทำให้อีกฝ่ายรู้สึกใจหายวาบด้วยความตกใจตีกับความเขินแล้วหันมองด้วยท่าทางประหลับประเหลือก
“อึก..” พาวินจ้องมองเชนตาลุกวาว ไม่รู้ว่าเขาควรจะเคอะเขินที่อีกฝ่ายบอกว่าชอบที่ใส่ก่อน หรือควรจะแปลกใจกับตอนนี้ ที่เชนเผยยิ้มออกมาให้เห็นแบบจริงๆ จังๆ หลังจากที่เขาเอาแต่หน้านิ่งให้เห็นตลอดเวลา “ล..เลิกชมว่าน่ารักได้แล้วน่ะ...” ริมฝีปากบดเม้มไปมาด้วยท่าทางเคอะเขินอย่างบอกไม่ถูกก่อนเผยแก้มที่แดงละเลื่อเล็กน้อย
“ (. .) ? คุณหน้าแดงนะครับ หากรู้สึกไม่สบายให้นอนพัก”
“เอ๊ะ? ป..เปล่า ไม่ได้ไข้ขึ้น แค่..เอ่อ.. อากาศน่ะ! มันร้อนก็เลยหน้าแดง”
“งั้นผมจะชงน้ำผึ่งผสมมะนาวอุ่นๆ ให้ ไปนั่งพักรอก่อนนะครับ”
“..อื้ม ง..งั้นช่วยทีนะ” พาวินกลอกตาไปมาพร้อมน้ำเสียงก่ำกวม ฝีเท้าเดินล่าถอยกลับมานั่งที่โซฟา ยกขาขึ้นกอดเข่าเล็กน้อย “.....” ฉันแค่..รู้สึกไปเองเฉยๆ ไม่ใช่หรือไง... ใบหน้าซุกลงบนหัวเข่าเบาๆ แล้วส่ายไปมาอย่างไม่มีทางเลือก ขณะนั้นเอง เชนที่ชงน้ำผึ้งเสร็จก็ค่อยๆ เดินนำมาเสิร์ฟไว้ตรงหน้าอีกฝ่ายที่กำลังครุ่นคิดยกคิ้วขมวดเข้มจนเหม่อมองลืมตัวว่ามีใครบางคนมายืนอยู่ข้างๆ ตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้
“....คุณพาวินครับ”
“เหวอ! อ่ะ อะไร?” ร่างกระตุกพรวดหลุดออกมาจากภวังค์ความคิด พาวินหันหน้ากลับไปมองอีกฝ่ายด้วยท่าทีลนลานอย่างเห็นได้ชัด
“ไม่ดื่มมันจะเย็นเอานะครับ”
“อ่ะ..โทษที คิดอะไรเพลินไปหน่อย” ตอบกลับไปด้วยสีหน้ายิ้มแบบปกติ แต่นั่นก็ไม่สามารถอำพรางใบหน้าที่สับสนนั่นได้จนกระทั่งมือหนาขยับเลื่อนเข้ามาทาบลงบนแก้มทั้งสองข้าง “อึก...จะ..จะทำอะไรน่ะ..” นิ้วเรียวยาวสำผัสที่มุมปากทั้งสองข้างอย่างอ่อนโยนแล้วค่อยๆ ดึงนิ้วฉีกยิ้มให้อีกฝ่ายดูสีหน้ายิ้มแย้มขึ้นมาให้เห็น เพราะพาวินเอาแต่ทำสีหน้าหงุดหงิดสับสนตลอดเวลาตั้งแต่ช่วงเช้าที่ลืมตาตื่นด้วยซ้ำ
“คุณยิ้มแบบนี้ดูดีกว่านะครับ”
“....” สายตาจ้องเข้าหากันเหมือนมีแรงดึงดูด ขณะที่ริมฝีปากได้แต่บดไปมาด้วยความเคยชิน ดวงตาสีฟ้าพราวที่จดจ้องเข้ามาในดวงตาสีน้ำตาลเข้ม ถึงอย่างนั้นก็ดูไม่ออกเลย ว่าเชนกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่ “อ่ะ!” พาวินขยับตัวเบนหน้าออกมาจากฝ่ามือหนานั่นอย่างระมัดระวัง
“.. ไม่ทำแล้วหรือไง อาหารกลางวันน่ะ ฉันไม่ค่อยสบายนะ เป็นหุ่นภาษาอะไรลืมอาหารเจ้านายตัวเองได้ไงเนี่ยเดี๋ยวก็แจ้งซะหรอก”
“โอ๊ะ จริงด้วย”
“ไม่ต้องมาโอ๊ะจริงด้วยเลย! ฉันหิวแล้ว”
“ครับ จะไปทำมาให้” ร่างสูงกลับขึ้นมายืนตัวตรง เดินกลับเข้าไปที่ครัวเพื่อเริ่มทำอาหารสำหรับมื้อกลางวันอีกครั้ง มือเรียวเล็กยกถ้วยน้ำผึ้งขึ้นมาเป่าเล็กน้อย ริมฝีปากจรดลงบนขอบถ้วยยกขึ้นดื่มเบาๆ รสชาติหวานหอมมีรสเปรี้ยวนิดหน่อยแล่นเข้าสู่ร่างกายอย่างง่ายดาย ขณะนั้นเองที่ใบหน้าของเขาเริ่มแดงละเลื่อขึ้นอีกครั้ง
“ฉันว่าฉันต้องเป็นไข้อีกแน่ เลย หรือไม่ก็เป็นบ้าอะสักอย่าง” ริมฝีปากผละออกจากถ้วยน้ำผึ้งวางลงบนโต๊ะเล็กน้อยพลางหยิบนิตยสารที่ซื้อมา ขึ้นมาไล่เปิดเรื่อยๆ “ย้าส์ นิตยสารปีนี้ตรีมหน้าหนาวหมดเลยเหรอ... ตรีมหน้าหนาวแต่อากาศเหมือนหน้าร้อนสามฤดูเนี่ยนะ จะขายออกป่าวก็ไม่รู้” สีหน้าครุ่นคิดจ้องมองนิตยสารแฟชั่นที่ดูไม่ค่อยเข้าข่ายน่าสนใจเท่าไหร่ พลางเทตัวล้มลงนอนบนโซฟา วางนิตยสารลงบนหน้าเพื่อพักสายตา
ขณะเดียวกัน เชนที่กำลังทำอาหารสำหรับมื้อกลางวันอย่างตั้งอกตั้งใจ สายตาเฉียบคมเพียงจ้องมองแค่วัตถุดิบก็รู้แล้วว่าปรุงแบบไหนรสชาติและคุณค่าอาหารถึงดี ท่าทางจริงจังทำอาหารอยู่ภายในครัวอย่างมีความสุขจนกระทั่งอาหารกลิ่นหอมกลุ่นยกลงมาเสิร์ฟที่โต๊ะทานอาหาร ฝีเท้าก้าวเดินตรงมายังโซฟาเพื่อเรียกร่างที่นอนอิงเงียบๆ ให้ลุกขึ้นมา
“คุณพาวินครับ?”
“.....อื้อ..” มือเรียวยาวเคลื่อนเปิดนิตยสารที่คลุมใบหน้านั้นเล็กน้อยถึงได้รู้ว่าพาวินนั้นผล็อยหลับไปเสียแล้ว “....” มือผละออกอย่างแผ่วเบาก่อนจ้องไปยังอาหารบนโต๊ะแล้วส่ายหน้าเล็กน้อย บางทีเวลานี้เขาไม่ควรเข้าไปรบกวนเจ้านายตอนกำลังหลับจะดีกว่า “พักผ่อนเยอะๆ นะครับ”
...
ในคืนนั้นเองหลังจากที่ทุกอย่างจบลง ร่างฟุบตัวลงนอนบนเตียงอย่างเหนื่อยล้าและอาการไข้ที่หายไปปลิดทิ้ง “เฮ้อ.. พลังงานสูบฉีดหมดลงแล้ว~ ขอโทษนะที่กลางวันเผลอหลับ ขอบคุณด้วยที่นายยังอุส่าซิลอาหารเก็บไว้ให้” ใบหน้าบดลงกับหมอนถูไปมาอีกครั้งเพื่อเติมพลังให้กับวันพรุ่งนี้
“ไม่เป็นไรครับ ร่างกายที่เหนื่อยล้าควรได้รับการพักผ่อน ขอบคุณสำหรับวันนี้เช่นกันครับ” เชนเอ่ยขึ้นก่อนก้มโค้งลงแบบทุกครั้งที่เคยทำ
“เหมือนกัน”
“ก่อนเข้านอน ผมมีแบบสอบถามความพึงพอใจในการบริการของผม คุณพึงพอใจกับการทำงานของผมหรือเปล่า?”
“ก็...ไม่ได้แย่ แค่..อืม ไม่มีอะไรหรอก วันนี้นายทำได้ดี เก่งมาก” พาวินยกนิ้วโป้งเพื่อแสดงความชื่นชมด้วยสีหน้าเคร่งครึมเหมือนกับผู้คุมเข้ม
“งั้นเหรอครับ~” เขาตอบกลับด้วยเสียงที่มีความสุขพร้อมกับรอยยิ้มที่เริ่มเผยออกมาเรื่อยๆ “ฝันดีนะครับ ผมจะอยู่ที่ห้องรับรองแขก หากมีอะไร เรียกผมได้ทุกเมื่อหากต้องการความช่วยเหลือ” กล่าวเสร็จพร้อมฝีเท้าเดินกลับออกไปยังห้องด้านนอก ในห้องกลับขึ้นมาเงียบอีกครั้ง ขณะร่างเล็กพลิกตัวไปมาเพื่อทำให้ตัวเองนอนท่าสบายที่สุด จนกระทั่งเปลือกตาค่อยๆ หรี่ทีละน้อยและผล็อยหลับลงสู่ห้วงนิทรา
“แกร๊กๆ ... แอ่ด....”
ลูกบิดประตูถูกหมุนออกเบาๆ ก่อนที่มันจะเปิดอ้ากว้างขึ้น เสียงฝีเท้าเดินสบกันบนพื้นเล็กน้อยเข้ามายังห้องที่มืดสนิทตรงมายังเตียงนอนเล็กๆ ที่มีร่างหลับใหลอยู่บนนั้น ท่าทางหลับปุ๋ยราวกับเด็กน้อยดูไม่ระวังตัวเลยสักนิดหากมีใครบุกเข้ามาในบ้าน เขาคงถูกจับเป็นตัวประกันได้อย่างง่ายดาย
“อึก.. งึม~...”
“....”
ร่างสูงภายใต้เงาขยับตัวลงนั่งข้างๆ เตียงนั่นอีกครั้ง แม้จะเข้าใกล้อีกฝ่ายที่ยังคงหลับแต่ถึงอย่างนั้น ร่างบนเตียงก็ยังคงนอนหลับใหลอยู่อย่างไม่รู้ตัว
“.....” นิ้วเรียวยาวขยับเข้ามาใกล้กับไรผม ค่อยๆ ใช้นิ้วเกลี่ยลูบไปมาอย่างเบามือที่สุด จนกระทั่งโน้มใบหน้าเข้าใกล้ทีละน้อย
“ขอบคุณสำหรับสิ่งที่คอยสอนผมครับ” ทันทีที่สิ้นสุดเสียงนั้นเองริมฝีปากทาบลงบนหน้าผากเล็กอย่างเอ็นดูท่ามกลางความเงียบงัน มีเพียงเสียงลมหายใจแผ่วเบาที่ส่งออกมาจากร่างที่นอนหลับบนเตียงกับเสียงของริมฝีปากที่จรดบนหน้าผากเบาๆ เพียงแค่นั้นก่อนที่ค่ำคืนนี้จะสิ้นสุดลง...
...
[ความรู้เพิ่มขึ้น 27% ความแปลกใหม่ที่ไม่รู้จัก]