12 ไม่ช่วย
“ตื่นเดี๋ยวนี้นะพิมพ์ลดา!!” ชายหนุ่มพยายามใช้มือตบไปที่แก้มซีดไร้สีสัน แต่หญิงสาวกลับไม่ตื่น แถมหน้าก็ยังซีดเข้าไปทุกที
เหมือนหัวใจหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม เขาแค่อยากแกล้งเธอเฉยๆ ไม่ได้ถึงกับอยากให้พิมพ์ลดาตาย
“เกิดอะไรขึ้นคุณอัคคี!!” ป้าเนียมบังเอิญเดินผ่านมาเห็นพอดี
“พิมพ์ลดาเป็นลมครับ”
“เกิดอะไรขึ้น หนูพิมพ์เป็นลมได้ยังไง!”
“ผมใช้ให้เธอขุดแปลงดอกกุหลาบครับ”
“โถ่คุณอัคคี แดดร้อนขนาดนี้ทำไมถึงกล้าให้หนูพิมพ์มาทำงานกลางแดดล่ะ เผื่อเธอช็อคขึ้นมาจะทำยังไง”
“ไม่รู้สิครับ ผมแค่กลัวดอกกกุหลาบจะเหี่ยวซะก่อน” ชายหนุ่มตอบหน้านิ่ง เมื่อสักครู่เขาเผลอแสดงความเป็นห่วงออกมาอย่างลืมตัว จนปรับสีหน้าแทบไม่ทัน
เขาไม่ได้เป็นห่วงพิมพ์ลดาขนาดนั้น แค่ตกใจที่เห็นเธอเป็นลมตรงหน้า
อัคคีตัดสินใจวางร่างไร้สติของพิมพ์ลดาลงก่อนจะหยัดกายลุกขึ้นยืน ปรายตามองร่างของหญิงสาวด้วยสายตาสุดเย็นชา เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“งั้นผมฝากป้าเนียมพาผู้หญิงคนนี้เข้าบ้านละกัน ถ้าอุ้มไม่ไหวก็ไปเรียกคนขับรถมาช่วย”
“ละ...แล้วคุณอัคคีจะไปไหนคะ”
“จะกลับไปทำงานต่อครับ เวลาของผมเป็นเงินเป็นทอง ถ้าคิดว่าผู้หญิงคนนี้เป็นภาระ...” สายตาคมหยุดที่ใบหน้าสวย แววตาดุจัดไม่ได้แสดงความรู้สึกใดๆ ออกมา จนไม่มีใครรู้ว่าลึกๆ แล้วอัคคีกำลังคิดอะไรอยู่ “ก็ทิ้งไว้ตรงนี้แหละครับ”
“ตะ...แต่คุณอัคคีคะ ป้าว่า...เอ่อ....อุ้มหนูพิมพ์เข้าไปในบ้านก่อนได้ไหม ตรงนี้มันร้อน”
“ผมบอกป้าไปแล้วนะครับ ถ้างั้นก็ทิ้งเธอไว้ตรงนี้แหละ”
ป้าเนียมถอนหายใจให้กับความร้ายกาจของนายน้อยที่หล่อนเคยเลี้ยงมาตั้งแต่แบเบาะ นึกไม่ถึงเหมือนกันว่าโตขึ้นอัคคีจะกลายเป็นคนแบบนี้ เมื่อก่อนเขาเป็นเด็กร่าเริงมากจนกระทั่งพ่อกับแม่เสีย เอาแต่ร้องไห้ฟูมฟายจนกลายเป็นเด็กมีปัญหาทางจิต พอเข้ารับการรักษาทุกอย่างก็ดีขึ้น แต่มันก็เปลี่ยนให้เด็กชายที่เคยร่าเริงกลายเป็นคนเคร่งขรึม ชอบเก็บตัวเงียบๆ ไม่ชอบพูดกับใคร จนหลายคนไม่รู้ว่าลึกๆ แล้วเขากำลังคิดอะไรอยู่
ภายในห้องเล็กชั้นล่างสุดของคฤหาสน์ปรากฏร่างของหญิงสาวกำลังนอนหายใจรวยรินเพราะพิษไข้กำลังเล่นงาน โชคดีที่ป้าเนียมคอยดูแลไม่ห่าง เช็ดตัวให้ตลอดเวลาเพราะใจหนึ่งก็รู้สึกสงสารพิมพ์ลดา เธอไม่ควรเข้ามาที่นี่ตั้งแต่แรก ถึงแม้หล่อนจะเกลียดเกรียงไกรที่เป็นต้นเหตุทำให้ประมุขทั้งสองของบ้านจากไป แต่พอเห็นพิมพ์ลดาแล้วกลับรู้สึกสงสารอย่างบอกไม่ถูก
อัคคีเองก็เหมือนกัน เกลียดเกรียงไกรก็ไม่น่าไปลงที่พิมพ์ลดาเลย
“อื้อ...” เสียงร้องแผ่วเบาของพิมพ์ลดาดังในลำคอ คนแรกที่เธอลืมตาขึ้นมาเจอนั่นก็คือป้าเนียม “คะ...คุณป้า”
“เป็นยังไงบ้างหนูพิมพ์” ป้าเนียมรีบถามด้วยความเป็นห่วง ใจจริงก็อยากพาพิมพ์ลดาไปหาหมอแต่เจ้าของคฤหาสน์ไม่อนุญาต แถมยังบอกว่าแค่เป็นลมเฉยๆ ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร
“ปวดหัวนิดหน่อยค่ะ” เหมือนมีอะไรมากกดทับร่างของเธอจนปวดเหมื่อยไปหมด ฝ่ามือเรียวเล็กแสบร้อน มีรอยถลอกจนเลือดซึม “หนูมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง”
“ป้ากับลุงคนขับรถเป็นคนอุ้มหนูเข้ามาเองจ้า”
“ละ...แล้วคุณอัคคี” เธอกลืนคำพูดแทบไม่ทัน ตอนแรกคิดว่าอัคคีเป็นคนอุ้มเข้ามาเสียอีก
“คะ...คุณอัคคีเขางานยุ่งจ้ะ แต่หนูพิมพ์ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว มา....เดี๋ยวป้าทำแผลที่ฝ่ามือให้”
พิมพ์ลดาน้ำตาไหลริน ตอนนี้ไม่ไหวแล้ว สภาพจิตใจของเธอย่ำแย่เหลือเกินและบุคคลที่จะช่วยให้เธอรู้สึกดีขึ้นนั่นก็คือพ่อของตัวเอง อยากขอโทษท่าน อยากกอดท่านใจจะขาด อยากก้มกราบที่เป็นต้นเหตุทำให้ครอบครัวเจอกับอะไรก็ไม่รู้ และถ้าวันหนึ่งต้องเสียทุกอย่างไปจริงๆ ต้นเหตุทั้งหมดก็คือเธอเอง
ชายหนุ่มใบหน้าคมเข้มยืนมองร่างของหญิงสาวที่กำลังเดินออกจากบ้าน นิ้วยาวเคาะบนแก้วกาแฟ ใบหน้าเรียบเฉยเหมือนไม่ได้รู้สึกอะไรที่เห็นพิมพ์ลดาออกจาบ้านไป เขาเชื่อว่ายังไงเธอก็ต้องกลับมา ไม่มีทางที่พิมพ์ลดาจะออกไปจากกรงขังของเขาได้ง่ายๆ หรอก
“คุณอัคคีจะไม่ขับรถไปส่งหนูพิมพ์จริงๆ หรอคะ ฝ่ามือของเธอเป็นแผล ขับรถไม่ได้”
“ถ้าแค่นี้ยังไม่มีปัญญากลับ ผมก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้วครับ”
“แต่หนูพิมพ์ยังไม่หายดีนะคะ มะ...เหมือนๆ เธอจะมีไข้ด้วย”
“นั่นมันเรื่องของเธอครับ จะเป็นตายร้ายดียังไงก็ช่าง ผมไม่สนใจหรอก” เขาย่นคิ้วเหมือนกำลังหงุดหงิดที่ป้าเนียมเอาแต่คะยั้นคะยอให้ไปส่งพิมพ์ลดาที่บ้าน
เขาหันหลังพิงกรอบหน้าต่าง เชื่อว่ายังไงพิมพ์ลดาก็ไม่กล้าบอกความจริงกับพ่อ คงจะกลับบ้านไปให้พ่อเลียแผลใจแล้วกลับมาใหม่
“คุณอัคคีอย่าใจร้ายนักสิคะ ป้าสงสารหนูพิมพ์ เธอไม่รู้เรื่องอะไรด้วย”
“แต่พิมพ์ลดาผิดที่เกิดมาเป็นลูกของมัน ผมไม่จับบีบคอให้ตายก็บุญหัวเท่าไหร่แล้ว”
“แต่คุณอัคคีก็ไม่ควรหลอกให้เธอรักตั้งแต่แรกเลยนะคะ ดูก็รู้ว่าหนูพิมพ์รักคุณมาก สายตาของเธอเจ็บปวดทุกครั้งเวลาที่โดนคุณทำร้ายจิตใจ”
อัคคีนิ่งไป...
ใช่! พิมพ์ลดารักเขาจริงๆ เธอยอมทำทุกอย่างเพื่อเขา ยอมแม้กระทั่งให้ผู้ชายที่รู้จักกันได้ไม่กี่เดือนเข้าไปดูแลบริษัทให้ ผู้หญิงแบบนี้นอกจากจะโง่แล้วยังจูงจมูกง่ายที่สุด
“ช่วยไม่ได้ครับ อยากมารักผมทำไม”