ยอมเจ็บแทน

1181 Words
“มึงให้พวกนั้นล่อกูไปทางอื่นเหรอ กูไม่หลงหรอก พวกนั้นให้พวกไอ้แมนจัดการไป มึงมาเจอกู” ถึงเข้าใจตอนนี้ว่าโซ่พาฉันแยกกับเพื่อนๆ ทำไม “ว่าแต่ทำไมถึงหนีล่ะ เก่งนักไม่ใช่เหรอมึง ออ หรือว่าพาเมียมาด้วย” มันหันมามองฉันด้วยสายตาน่ารังเกียจน่าขนลุก “มึงเอาเมียกู กูเอาเมียมึงคืนมันก็หายกันไหมวะ” ประโยคนั้นยิ่งทำให้ฉันสั่นไปทั้งตัว “แต่รสนิยมมึงแปลกๆ นะ แต่ เออ สาวแว่นอาจจะแอบแรดก็ได้” ฉันชาทั้งหู ชาทั้งตัว ชาทั้งหัวใจ แต่สิ่งที่เหนือกว่าคือความหวาดกลัวที่มันจับหัวใจเลยละตอนนี้ “ยัยนี่ไม่ใช่เมียกู” แล้วโซ่ก็ปฏิเสธข้อกล่าวหานั้น “เออ กูก็ว่างั้น มึงไม่น่าจะตาต่ำแบบนี้” แต่คำด่านั้นก็ทำให้ความโมโหพุ่งเกินความกลัวขึ้นมาได้ชั่ววินาทีหนึ่ง “ตกลงเธอเป็นอะไรกับมัน เป็นเมียมันหรือเปล่า” “ไม่ใช่” “ยัยนี่ไม่ได้เกี่ยวอะไรด้วย” “มึงคาดหวังจะให้กูทำตัวเป็นสุภาพบุรุษปล่อยผู้หญิงไปเหรอวะ” มันพูดแล้วก็พากันหัวเราะ ก่อนจะทำให้ฉันกรี๊ดสุดเสียงเมื่อไอ้คนที่อยู่ข้างหลังเข้ามากอด ฉันทั้งสะบัดตัวทั้งใส่ศอกเตะกลางเป้าตามสัญชาตญาณที่จะป้องกันตัว แล้วโซ่ก็เข้ามาถีบมันไปไกลๆ อีกแรง ดึงฉันไว้ด้านหลัง เอาตัวบังไว้จนมิด “โอ๊ย อีนี่” มันล้มลงไปกองกับพื้น กุมเป้าตัวเองมองฉันหน้าแดงแบบโกรธจัด “หวงขนาดนี้บอกไม่ได้เป็นอะไร” ไอ้ตัวที่น่าจะเป็นหัวโจกหยิบไม้หน้าสามขึ้นมาอันหนึ่ง ร่างสูงบังตัวฉันไว้มิด มือข้างหนึ่งกุมมือฉันไว้แน่น ขณะที่ฉันก็ไม่ปล่อยมือเขาเหมือนกัน เราถอยร่นเรื่อยๆ จนหลังฉันชิดกำแพง “มึงจะเอายังไงกับกูก็เอา แต่อย่าให้เพื่อนกูมาโดนลูกหลงด้วย” โซ่พยายามจะกันฉันออกจากเรื่องนี้อย่างสุดความสามารถแล้ว แต่ดูท่าพวกนั้นไม่น่าจะสุภาพบุรุษขนาดนั้น ซึ่งพอโซ่พูดไปแบบนั้นพวกมันก็หัวเราะขบขัน ทำให้ฉันกลัวจับจิต จนต้องบีบมือเข้าแน่น “เออ กูไม่ให้มันโดนลูกหลงหรอก...กูตั้งใจให้มันโดนเลย พวกมึงไปเอาตัวอีนั่นมา” สิ้นเสียงนั้นความกลัวที่มากมายในอกก็ทำให้ฉันหูอื้อ ตื้อไปหมดทุกประสาทการรับรู้ รับรู้แค่พวกนั้นกรูเข้ามาแต่โซ่ก็พยายามสู้และบังฉันไว้ให้สุด “กรี๊ด” พวกนั้นพยายามดึงแขนฉันออกมา ฉันกรี๊ดสุดเสียงพยายามดึงตัวกลับ ทั้งถีบทั้งต่อย ทุกอย่างมันวุ่นวายจนฉันไม่อยากรับรู้อะไรอีกแล้ว จนโซ่หันกลับมาแล้วกอดฉันไว้แน่น ดันฉันชิดกำแพง...ปล่อยให้พวกนั้นทำร้างร่ายกายเขาโดยไม่สู้...เพราะเขาเอาแต่กอดและบังฉันไว้ ฉันร้องไห้ออกมาด้วยความกลัว...ทั้งกลัวสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเอง ทั้งกลัวว่าโซ่จะเป็นอะไร เสียงที่พวกนั้นทำบนร่างกายเขามันน่ากลัวเหลือเกิน มันยาวนานจนใจจะขาดเลยกว่าที่ทุกอย่างจะสิ้นสุดลง พวกนั้นวิ่งหนีไปแล้ว มีตำรวจเข้ามาห้าม โซ่ทิ้งน้ำหนักมาจนเราล้มลงด้วยกัน ฉันรีบตั้งสติ ดันคนที่ซบไหล่ฉันอย่างหมดแรงออก ยังไม่ทันจะถามอะไรเขา คนที่สะบักสะบอมไปหมดก็เปล่งเสียงถามเบาหวิว “เจ็บตรงไหนไหม” น้ำตาที่ไหลอยู่แล้วก็ปล่อยโฮออกมาอีก เขาเจ็บขนาดนี้ยังมาถามคนอื่น “ฮึก ไม่ นาย...ไหวไหม อย่าเป็นอะไรนะ” ฉันกลัวเขาจะตายจริงๆ นะ โซ่ยิ้ม ส่ายหน้า “แค่นี้เอง ไม่ตายหรอก” ยังมีอารมณ์มากวนฉันอีก “น้อง เป็นไงบ้าง พี่เรียกรถพยายาบาลแล้ว อดทนหน่อย” ตำรวจเข้ามาพยุงโซ่ออกจากตัวฉัน ยิ่งได้เห็นสภาพเขาชัดๆ ฉันยิ่งกลัวว่าเขาจะเป็นอะไร “นั่งไหวไหม นอนราบก่อน” ตำรวจประคองให้เขานอน ฉันก็เข้าไปช่วย ให้เขานอนหนุนตัก “น้องเรียกเพื่อนไว้นะ อย่าให้หลับ” คำสั่งของตำรวจทำให้ฉันยิ่งใจสั่น มันมีฉากของหนังหรือละครลอยเข้ามาในหัว รู้สึกว่าโซ่นอนหายใจรวยรินแบบนั้น ฉันแตะแก้มเขาเบาๆ พยายามเรียกเขาไว้เหมือนที่พี่ตำรวจบอก “โซ่ ห้ามหลับนะ” น้ำหูน้ำตาก็ไหลไม่หยุด “ไม่หลับหรอก แล้วเนี่ยมือไปโดนอะไร” เขายกมือฉันขึ้นมาดู ก็เห็นว่ามันถลอก คงถูกพวกนั้นกระชากไปขูดกับกำแพง “มีแผลตรงไหนอีกไหม” ฉันส่ายหน้า ร่างกายอาจจะเจ็บร้าวจากการถูกกระชากหรือถูกตีบ้าง แต่มันไม่น่าจะรุนแรงจนเกิดแผลแบบเขา “ดูคนเจ็บหน่อยครับ” พี่กู้ภัยเดินเข้ามาดูอาการโซ่ ประคองศีรษะเขาออกจากตักฉัน ส่วนตัวฉันเองก็มีพี่ผู้หญิงอีกคนมาถามอาการ จากนั้นไม่นานเราสองคนก็ขึ้นรถกู้ภัยไปโรงพยาบาลด้วยกัน โซ่นอนบนเตียง ส่วนฉันนั่งเบาะกับพี่ๆ ได้ พอถึงโรงพยาบาลก็ถูกส่งเข้าห้องฉุกเฉิน เราอยู่บนเตียงข้างๆ กัน “คนไข้ มองหมอหน่อยครับ” เพราะเอาแต่มองเตียงข้างๆ คุณหมอที่เข้ามาดูอาการฉันถึงเรียก “เอ่อ ขอโทษค่ะ” “หมอเข้าใจว่าเป็นห่วงเพื่อนนะครับ แต่เราก็ต้องห่วงตัวเอง เจ็บไม่น้อยเหมือนกันนะเรา ที่ศีรษะด้านหลังกระแทกอะไรไหม” หมอถามอาการฉันก็ตอบเท่าๆ ที่นึกได้ ขณะที่โซ่ถูกเข็นออกจากห้องไปแล้ว “ไม่ต้องห่วงเพื่อนหรอกครับ ไม่เป็นอะไรหรอก” คุณหมอก็พยายามปลอบฉัน ให้โฟกัสกับการรักษาตัวเอง ผ่านไปสักครู่ใหญ่ๆ ฉันถึงรู้สึกว่ามันปวดระบมไปทั้งตัวเลย ฉันถูกส่งไปเอกซเรย์แล้วก็เข็นกลับมาห้องฉุกเฉินตามเดิม พี่พยาบาลมาฉีดยาให้ จากนั้นก็หลับไม่รู้เรื่อง มาฟื้นอีกทีตอนอยู่ห้องพิเศษแล้ว “เป็นยังไงบ้างน้ำริน ยังเจ็บตรงไหนไหมลูก” แม่รีบเดินเข้ามาหา ฉันมองแม่ด้วยความงุนงง “แม่มานานแล้วเหรอ” “สักชั่วโมง” “หนูหลับนานขนาดนั้นเลยเหรอ” “แล้วเป็นไงบ้าง ปวดหัวมากไหม” พยายามนึกอาการถามที่แม่ถาม “ก็ปวด เจ็บไปทั้งตัวเลย” พอฉันตอบแบบนั้นแม่ก็ถอนหายใจ “แม่ แล้วโซ่เป็นยังไงบ้าง” หายเบลอจากความเจ็บของตัวเองก็รีบถามถึงเขาด้วยความร้อนใจ “รายนั้นก็น่าจะเจ็บเยอะอยู่ เห็นว่ากระดูกร้าว เย็บหลายเข็มด้วย” “แล้วเขาฟื้นหรือยังแม่” กลัวเหลือเกินว่าเขาจะไม่ฟื้น
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD