หลังมื้ออาหาร ลูกเกดสังเกตเห็นว่าแต่ละคนจะทยอยอาบน้ำกันทีละคน แต่พอมาถึงคิวของลูกเกด พอได้ยินเสียงแม่เรียกให้ไปอาบน้ำ เจ้าตัวต้องรีบบอกแม่
“แม่อยู่เป็นเพื่อนหน้าห้องน้ำนะ หนูกลัวผีหลอก” เด็กน้อยเอ่ยขึ้น
“โอ๊ย มันไม่มีอะไรหรอก” แม่ตอบ
ลูกเกดบ่นในใจ ก็ในครัวที่ติดกับห้องน้ำ พอกลางคืนมันก็มืด ๆ คนก็ไม่อยู่ หนูก็กลัวนี่นา ไม่กล้าบ่นดัง ๆ เดี๋ยวจะโดนว่าไปใหญ่
เด็กหญิงเลยต้องกลั้นใจพยายามรีบอาบน้ำ ส่วนตาก็พลางมองรอบ ๆ ห้องน้ำว่าจะมีอะไรโผล่เข้ามาไหมหนอ
ห้องน้ำนี้เป็นห้องน้ำปูนก่อด้วยอิฐ แล้วจะมีช่องระบายอากาศที่เกิดจากอิฐสีขาวก้อนสี่เหลี่ยมตั้งอยู่บนสุดของผนังห้องน้ำ ช่องรู ๆ ตรงนั้นแหละ ที่ลูกเกดกลัวเป็นนักหนา กลัวจะมีอะไรโผล่เข้ามา เลยเข้าสู่การรีบเอาขันจ้วงน้ำตักอาบให้เร็วที่สุด
พออาบเสร็จเรียบร้อยแล้วก็รีบวิ่งออกมาจากห้องน้ำ แทบจะลืมเอาผ้าเช็ดตัวห่อตัวมาด้วย จนแม่ต้องทัก
“อ้าว ๆ พื้นบ้านเปียกหมดแล้ว” แม่บ่นพลางรีบเอาผ้าเช็ดตัวมาห่อตัวให้ลูกสาวตัวน้อย แล้วเด็กหญิงก็รีบวิ่งเข้าไปอวดคนในบ้าน
“หนูอาบน้ำเรียบร้อยแล้ว หนาว ๆ ๆ” ลูกเกดวิ่งพร้อมกระโดดโหยงเหยง ร้องไปมา จนยายก็มาช่วยจับใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อยพร้อมกับทาแป้งขาว ๆ
“เสร็จแล้ว ๆ” ลูกเกดร้อง พร้อมกับไปนั่งดูทีวีใกล้ตา
ขณะที่กำลังดูทีวีอยู่เพลิน ๆ เสียงร้องของเด็กน้อยก็ดังขึ้น
“แง ๆ ๆ”
ซ่อนกลิ่นน้องเล็กของบ้าน ร้องไห้หน้าตาแดงก่ำ ขณะที่แม่กำลังช่วยจับอาบน้ำ ได้ยินเสียงแม่พูดเพราะ ๆ แล้วก็อาบน้ำให้น้องไปว่า
“นิดเดียวเนาะ เดี๋ยวก็เสร็จแล้ว แป๊บเดียว อะ แต่ช้าแต่ อะ แต่ช้าแต่” สักพักเสียงร้องของน้องคนเล็กก็ค่อยเบาลง
“ตา หนูว่าน้องคงไม่ชอบอาบน้ำแน่ ๆ เลย” ลูกเกดเอ่ยขึ้น
“ไม่มีอะไรหรอกลูก” ตาบอก
ดูละครหลังข่าวกับตายาย พ่อแม่ น้อง ได้แป๊บเดียว เสียงแม่ก็พูดว่า
“เดี๋ยวตอนนี้จบก็เข้านอนได้แล้วนะลูก พรุ่งนี้ต้องไปโรงเรียนแต่เช้า”
“จ้ะ แม่” ลูกเกดตอบแต่ยังมิวายจะมีทีท่าอิดออด “ยังไม่อยากนอนเลย หนูยังอยากดูทีวีต่อ” ลูกเกดอ้อนต่อรองกับแม่เบา ๆ
“ไม่ได้ลูก ได้เวลานอนแล้ว ประเดี๋ยวพรุ่งนี้ไม่ตื่นนะ แล้วจะไปโรงเรียนสาย” แม่ตอบพลางขยี้หัวอย่างเอ็นดู สายตามองลูกทั้งสองด้วยความรัก
ถึงแม้ว่าพ่อแม่ก็จะต้องไปทำงานเหนื่อยเพียงใด หากแค่เพียงเห็นลูกสาวทั้ง 2 ความเหน็ดเหนื่อยนั้นก็หายไป กลายเป็นความสุข ส่วนตากับยายนั้น หลังจากมีหลานน้อยทั้ง 2 คน ก็ไม่ต้องทำนา แต่ใช้เวลาทั้งหมดดูแลหลานทั้งสองคน แววตาทั้งคู่เปี่ยมไปด้วยความรัก ความอิ่มเอมใจ ช่างเป็นงานที่มีความสุขและมีชีวิตชีวา ความร่าเริง ความงอแง ความไร้เดียงสาของเด็ก ๆ นั้น ช่วยเติมเต็มสีสันให้บ้านหลังเล็ก ๆ น่าอยู่ขึ้นอีกเป็นเท่าตัว
พอละครจบตอน ตายายก็พาหลานคนโตเข้านอน
ห้องนอนของตายายใหญ่มาก อันที่จริงไม่ใช่ห้องนอนหรอก แค่เอาตู้หลังใหญ่ ๆ ที่มีกระจกเอาไว้ใส่ของโชว์มากมายที่พ่อแม่ยายมีสะสมไว้ แต่ที่ลูกเกดและน้องชอบไปดูบ่อย ๆ ก็จะเป็นพวกของชำร่วยที่เวลาไปงานแต่งงานก็จะได้ติดไม้ติดมือกลับมา มีชิ้นหนึ่งเป็นตุ๊กตาเจ้าสาวคู่กับเจ้าบ่าวแต่งชุดแต่งงานคู่กัน มีหลายแบบหลายสี เด็กน้อยทั้งสองมักจะชอบเอาออกมาดูเล่นบ่อย ๆ แล้วก็ตู้เสื้อผ้าที่เป็นตู้ไม้ หลังใหญ่สูงกว่าตัวลูกเกดเยอะเลย กั้นระหว่างห้องนอนของตายายกับห้องพระ
ลูกเกดชอบห้องนอนของตายายมาก เพราะห้องนอนของตายายกว้างมาก เตียงก็กว้างมาก ๆ เพราะจะมีเตียงขนาดใหญ่ 2 เตียงวางต่อชิดกัน เวลานอน ตานอนเตียงหนึ่ง ยายนอนเตียงหนึ่ง ลูกเกดนอนตรงกลาง มีพื้นที่ให้ดิ้นมากมาย
ส่วนน้องซ่อนกลิ่น นอนกับพ่อแม่อีกห้องหนึ่งที่ถูกกั้นเป็นห้องแต่เล็กกว่าห้องของตายายเพราะมีแค่เตียงเดียว และมีประตูไม้ลงกลอน ระหว่างห้องของพ่อแม่กับตายายนั้น จะมีพื้นที่ว่างตรงกลางที่พ่อจัดวางโต๊ะหมู่บูชาไว้ไหว้พระ
“ลูกเกด ซ่อนกลิ่นลูก มา ๆ มากราบพระก่อนนอนลูก” เสียงพ่อเรียกลูกสาวทั้งสองคน
“ทำไมต้องกราบพระด้วยคะพ่อ” ลูกสาวคนโตถาม ขณะที่ลูกสาวคนเล็กร้องไห้งอแงอยู่ในอ้อมแขนของแม่
“การกราบไหว้พระก่อนนอน จะเป็นการทำบุญ ทำสมาธิ ทำให้เราเรียนหนังสือเก่ง ๆ นะลูก” ผู้เป็นพ่อตอบ แล้วพ่อก็เปิดกระปุกสีขาวสูง ๆ อันใหญ่ออก ข้างในเต็มไปด้วยเศษเหรียญ ทั้งเหรียญบาทอันกลม ๆ ใหญ่ ๆ เหรียญสลึง เหรียญ 5 บาท อยู่เต็มกระปุก
“เอ้า เอาเหรียญไปหยอดบาตรสิลูก” พ่อบอก ขณะที่เด็ก ๆ มองดูสิ่งที่พ่อบอกด้วยความสนใจ ความอยากรู้ทำให้เจ้าคนเล็กหยุดร้องไห้แล้วพยายามจะเข้าไปดูสิ่งที่พ่อบอกให้ทำ
“จ้า พ่อ ไหน ๆ ๆ” สองมือน้อย ๆ ของลูกสาวทั้งสองแบมือยื่นออกไปรับเศษเหรียญตรงหน้าพ่อ แล้วค่อย ๆ เอาไปหยอดบาตรสีดำลูกเล็ก ๆ ที่วางอยู่ตรงหน้าโต๊ะหมู่บูชา
“สาธุ” เสียงสาวน้อยทั้งสองของบ้านเอ่ยดัง ๆ
“อย่าลืมอธิษฐานด้วยนะลูก” พ่อบอก
“ขอให้หนูเรียนหนังสือเก่ง ๆ สอบได้ที่ 1” ผู้เป็นพี่สาวอธิษฐาน
“เอ้า ช่วยน้องใส่บาตรด้วยกันสิ”
ผู้เป็นพี่สาวค่อย ๆ ช่วยน้องเอาเงินเหรียญไปหยอดในบาตรสีดำหน้าพระ ซ่อนกลิ่นยังตัวเล็ก ๆ เวลาก้มกราบพระ ก้นกระดกเลย ลูกเกดเห็นน้องเป็นอย่างนั้นก็อดที่จะหัวเราะไม่ได้
“ไป ๆ ได้เวลาเข้านอนแล้วเด็ก ๆ” พ่อพูดพร้อมพาน้องคนเล็กเข้านอน ส่วนลูกเกดก็เดินไปนอนกับยาย
“ยายจ๋า กอดหน่อย” หนูน้อยเอ่ย
ท่าที่ชอบนอนสบายที่สุด คือ นอนกอดยาย ส่วนตาบางทีลูกเกดหลับไปแล้วแต่ต้องสะดุ้งตื่นเพราะเสียงของยายบ่นตาว่า
“ตา ตา กรนเสียงดัง นอนไม่ได้”
“อะไร ขนาดหลานยังนอนได้เลย” ตาตอบอย่างหงุดหงิดที่โดนปลุกกลางดึก
ยายก็เลยหันมาถามหลานว่า “นอนได้ไหมหนูเกด”
หลานตอบอย่างไร้เดียงสาว่า “นอนได้จ้ะ”
“เห็นไหม ขนาดหลานยังนอนได้เลย” ตาเถียงต่อ
“ที่หนูนอนได้เพราะหนูชินกับเสียงกรนของตาที่ฟังเหมือนเป็นเพลงทุกคืนน่ะจ้ะ” หลานคนโตพูดต่อ
ยายบ่นตาพึมพำ ก่อนจะบอกว่า “เอ้า นอนต่อ ยังดึกอยู่”