“นายรู้จักเธอหรือครับ”
สุทินถามผู้เป็นนาย เมื่อสังเกตจากแววตาในขณะที่เจ้านายมองไปยังหญิงสาว มันดูไม่เป็นปกติเหมือนดังเช่นบุคคลอื่นทั่วๆไป คนถูกถามเพียงแต่ปรายสายตามองไปที่สุทิน แต่เขากลับไม่ได้ตอบคำถามนั้นแต่อย่างใด
“ติดต่อได้แล้วครับนาย”
เขาเอื้อมมือรับโทรศัพท์มือถือจากลูกน้องอีกคนที่ยืนอยู่
“ฮัลโหล”
เสียงทุ้มต่ำแต่ทว่าฟังดูมีอำนาจ เขารอให้ปลายสายตอบกลับมา
‘สวัสดีครับมิสเตอร์ลีโอนาร์ด’
“คุณรู้ดีอยู่แล้วว่าผมโทรไปด้วยเรื่องอะไร เพราะฉะนั้นอย่าอ้อมค้อมให้ผมต้องหงุดหงิดไปมากกว่านี้ อรณีอยู่ที่ไหน”
กรามแกร่งบดเข้าหากันแน่นจนขึ้นเป็นสันนูนด้วยความไม่พอใจ
‘ใจเย็นๆก่อนนะครับ ลูกสาวผมมีสองคน แต่ที่ผมส่งลูกสาวคนเล็กไปเพราะนะรินทิพย์จะเป็นงานมากกว่า น่าจะทำให้คุณพึงพอใจมากว่านะครับ’
“แต่ที่ตกลงกันไว้มันไม่ใช่แบบนี้ หรือคุณอยากลองดีกับผม”
‘ไม่ครับๆ ผมขอโทษ แต่ลูกสาวคนเล็กของผมขอเสนอตัวไปเอง ผมเป็นพ่อก็ไม่อยากขัดใจลูก รับรองว่ายัยบีจะบริการคุณให้มีความสุขจนถึงใจแน่นอนครับ’
“หึ! ถ้าดีจริงอย่างที่คุณโฆษณา ผมก็จะรับไว้แก้ขัดสักสองสามวันในระหว่างที่รออรณี แต่ถ้าช้าเกินกว่าสามวัน ผมจะจัดการเองตามวิธีของผม หวังว่าคุณกำพลคงเข้าใจนะครับ”
ไม่รอให้ปลายสายตอบตกลง เขาก็กดตัดสายเองเสียก่อน
“เอาไงต่อครับนาย”
สุทินยังคงรอรับคำสั่ง
“ฉันจะไปคุยกับผู้หญิงคนนั้น ห้ามใครเข้าไปรบกวน”
ร่างใหญ่กระชับเสื้อสูทสีดำ ก่อนจะก้าวขาเดินผ่านสุทินออกไปจากห้องทำงาน มุ่งตรงไปยังห้องพักที่อยู่ทางขวามือ
ใบหน้าคมคายยังคงเรียบนิ่งไม่แสดงสีหน้าหรือความรู้สึกใดๆออกมา หัวใจของผู้ชายคนนี้ด้านชาและแข็งกระด้างแทบไม่มีสิ่งใดในโลกหล้าที่จะทำให้เขาหวั่นไหวได้ เขาไม่เคยกลัวสิ่งใด
ร่างบางยังคงพยายามดิ้นรน
อยู่บนอะไรสักอย่างที่นุ่มพอสมควร เมื่อตามองไม่เห็นและสองแขนถูกมัดรวบตึงไว้ด้านหลัง เธอจึงเดาว่ามันคือเตียงนอน ภายในห้องเงียบสงบหลังจากที่โดนจับมาปล่อยและขังเอาไว้ในนี้ อุณหภูมิในห้องนี้มันยิ่งกว่าคำว่าร้อน มันอบอ้าวเสียจนรู้สึกหายใจไม่ออก
และในขณะนั้นเองเธอก็ได้ยินเสียงไขกุญแจและประตูก็ถูกเปิดออก นะรินทิพย์เอียงหูฟังเพื่อจับจังหวะการก้าวเดินของบุคคลที่มาเยือน แต่ทว่ามันกลับเงียบมาก ไม่มีเสียงจนเธอนึกแปลกใจ
“ฉันมาคนเดียว ไม่ต้องเสียเวลาฟังฝีเท้าหรอกนะ เพราะเธอจะไม่ได้ยินการเคลื่อนไหวอะไรทั้งนั้น”
ร่างใหญ่เดินเข้ามาแล้วหยุดอยู่ที่ปลายเตียง มองหญิงสาวตรงหน้าที่กำลังกระเถิบกายถอยหนีจนติดหัวเตียง
“มิสเตอร์ลีโอนาร์ด”
ใช่เขาจริงๆ คนที่สั่งขังเธอ เธอจำเสียงของเขาได้
“ใช่ ฉันคือมิสเตอร์ลีโอนาร์ด เธอเข้าใจถูกแล้ว”
เป็นการแนะนำตัวที่เขาไม่ได้อยากพูดเลยสักนิด
นะรินทิพย์ชักเริ่มหวั่นใจ คนอะไรเดินแล้วไม่มีเสียง เขาคงไม่ได้ย่องเบาเข้ามาโดยการถอดรองเท้าหรอกนะ เพราะมันไม่มีเหตุผลอะไรมาสนับสนุนเลยว่าเขาจะต้องย่องเบาเข้ามาหาเธอ
“หยุดวิเคราะห์ฉัน แล้วมาคุยเรื่องธุรกิจของเราดีกว่า”
ลีโอนาร์ดเปลี่ยนเรื่อง รีบเข้าประเด็นเพราะไม่อยากเสียเวลานาน
‘ตานี่! ทำไมถึงแอบรู้ความคิดของเราได้นะ’
“ฉันขอไม่อ้อมค้อมเลยนะ”
อากาศในห้องร้อนจนได้เขาได้เหงื่อ จนต้องปลดเสื้อสูทตัวนอกออกแล้ววางพาดไว้บนโต๊ะด้านข้าง
“ค่ะ ดิฉันรอฟังคุณอยู่”
ใจจริงเธออยากจะขอให้เขาถอดผ้าปิดตาออกให้ แต่ก็รู้ดีอยู่แก่ใจว่าเขาคงไม่ทำเช่นนั้นแน่
“ฉันจะถอดเสื้อผ้าของเธอออก”
“ห๊ะ!!! ว่าไงนะ”
นะรินทิพย์โพลงเสียงดังลั่นห้องจนกึกก้อง เธอต้องหูฝาดไปแน่ๆ เขาจะถอดเสื้อผ้าของเธอทำไม นี่มันอะไรกัน ไหนพี่อรบอกว่ามิสเตอร์ลีโอนาร์ดเพียงแค่ชอบมองสาวๆสวยๆเท่านั้นไง
“ฉันไม่พูดซ้ำสอง”
มือใหญ่จับหมับเข้าที่ข้อเท้าเล็ก แล้วออกแรงถึงจนร่างบางไถลมาอยู่ตรงกลางเตียง
“คุณจะทำอะไร อย่านะ อย่ามาแตะต้องตัวฉันนะ”
ขาเรียวทั้งสองข้างถีบยันเพื่อเอาตัวรอด เขาอายุมากกว่าบิดาของเธอเสียอีก ไม่ต่างอะไรกับพวกเ*******ูตัณหากลับ
คนตัวเล็กฤทธิ์เยอะกว่าที่เขาคิดเอาไว้ มือใหญ่รีบดึงเนกไทออกจากลำคอ ก่อนจะใช้มันเข้ามัดพันธนาการสองขาเรียวเอาไว้ไม่ให้เจ้าตัวขยับร่างกายไปไหนได้อีก
“คุณอายุมากกว่าพ่อฉันอีกนะคะ ฉันว่ามันไม่เหมาะหรอก ฉันมาเพื่อเจรจาธุรกิจ ไม่ได้มาเพื่อขายตัวให้คุณ”
หัวใจของเธอหล่นลงไปกองอยู่ที่ตาตุ่ม เมื่อโดนมือกระด้างสัมผัสเอวบางอย่างหยาบโลน
“ว่าไงนะ อายุมากกว่าพ่อเธอ?”
ร่างใหญ่หยุดชะงัก คิ้วหนาขมวดเข้าหากันจนเป็นปม อยากจะรู้นักว่าเธอไปเอาข้อมูลผิดๆพวกนี้มากจากไหน
“ก็คุณอายุห้าสิบแล้วนี่คะ”
“หึ! งั้นมาลองดู ว่าผู้ชายวัยห้าสิบอย่างฉันจะเป็นยังไง จะอร่อยเท่าเสี่ยใหญ่ที่อายุหกสิบไหม”
กรามแกร่งบดเข้าหากันแน่น คนที่อายุห้าสิบคือบิดาของเขาที่เสียชีวิตไปแล้ว ไม่ใช่เขา
“เอ๊ะ!”
เขาพูดเหมือนรู้ว่าเธอเคยคบหาอยู่กับเสี่ยอายุหกสิบจริงๆ และเสี่ยซ้งก็เสียชีวิตไปหลายปีแล้ว น้ำเสียงของเขาเหมือนเคยได้ยินมันมาก่อน ผู้ชายคนนี้เป็นใครกันแน่
และความคิดสงสัยของเธอก็พลันหายไป เมื่อเธอถูกเขาดึงร่างให้ขึ้นมาจากที่นอนและผลักลงให้นั่งอยู่บนพื้นกระเบื้องเย็นๆอย่างรุนแรงไร้ความปรานี พลันจะอ้าปากเปล่งวาจาด่าทอ แต่ก็กลับมีอะไรบางอย่างที่ทั้งอุ่นและร้อนดันเข้ามาแทนที่ มันใหญ่และคับแน่นแทบจะหายใจไม่ออก รู้สึกราวกับกลีบปากของเธอแทบจะปริขาด
NC ตอนหน้ามาแน่ฮับ
อย่าลืมกดไลค์เพื่อติดตามการอัพเดทนิยาย
เข้ามาพูดคุยกับหญิงแพรวได้ที่ Facebook (เพจ)
พิมพ์ตรงช่องค้นหา >> อรภาวาสิริ หญิงแพรว