Chapter 1.2

3278 Words
ณ โรงพยาบาลเอกชนมาตรฐานระดับโลก ในเครือเดอะแลนด์ริชกรุ๊ป ร่างบางค่อยๆ ได้สติ ลืมตาฟื้นขึ้นมาพบว่ามีคนมากมาย ทั้งหมอ พยาบาล และธีร์จุฑาผู้ชายที่เธอต้องการพบเขามากที่สุดตอนนี้ หญิงสาวรู้สึกเจ็บร้าวไปหมดทั้งเนื้อทั้งตัว หนุ่มผิวขาวร่างสูงโปร่งเจ้าของใบหน้าหล่อสไตล์ลูกครึ่ง ลักษณะแบบนี้เขาน่าจะเป็นลูกครึ่งอิตาลี แต่ถึงเขาจะเชื้อชาติไหนก็ช่างเถอะ พิมพ์พิชชาไม่สนใจทั้งนั้น สิ่งที่เธอต้องการที่สุดในตอนนี้คือมาเจรจาประนีประนอมกับเขามากกว่ามาเคลิ้มหลงความหล่อเหลาที่เป็นแค่เปลือกนอกนั่น! “คุณฟื้นแล้วเหรอ?” เขาถามอย่างเอาใจใส่ จะว่าห่วงอาการของหญิงสาวแปลกหน้านี่ก็ได้ แม้ว่าจะไม่เคยรู้จักกันมาก่อนเขาก็ไม่อยากเป็นต้นเหตุให้ใครต้องเจ็บหรือสูญเสีย “ฉะ... ฉันอยู่ที่ไหนคะ?” เสียงหวานเอ่ยถาม ไม่คิดว่ารู้สึกตัวขึ้นมาจะเจ็บร้าวไปทั่วทั้งตัวแบบนี้ เธอพลาดอะไรไปนะ ทำไมมันเกิดเรื่องมาไกลเกินคาดแบบนี้ล่ะ สรุปเขาคงเบรกไม่ทันที่เธอพุ่งตัวเข้าขวางสินะ! แต่รึเพราะเขาไม่เบรกกันแน่ ‘คนหน้าตาดีสะอาดสะอ้านอย่างเขาจะเหยียบคันเร่งชนคนให้ตายเลยหรือไง? ทั้งที่เขายังไม่รู้ว่าเราเป็นใครด้วยซ้ำ!’ หญิงสาวคิดทบทวนแต่ร่างกายก็ยังเจ็บและราวจนไม่อยากขยับทำอะไร “โรงพยาบาลราษฎร์ฤทัยเมเมอเรียลครับ” เขาหยุดจ้อง “เป็นโรงพยาบาลเอกชนในเครือบริษัทของผมเอง” เขาหยุดจ้องหญิงสาวก่อนถามถึงอาการเจ็บของหญิงสาว “ว่าแต่คุณเป็นยังไงบ้าง? ยังรู้สึกเจ็บตรงไหน?” ธีร์จุฑาเอ่ยถามถึงอาการเพราะเขาเป็นต้นเหตุทำให้หญิงสาวต้องเจ็บตัวแบบนี้ จะว่ารู้สึกผิดด้วยก็ใช่ “ฉันไม่เป็นไรแล้วค่ะ” หญิงสาวตอบสีหน้ายังคงซีดเผือดจนอีกฝ่ายก็อดห่วงไม่ได้ “เดินยังไง? ทำไมไม่ระวังเลย ตัวก็เล็กนิดเดียว ร่างกายเป็นเหล็กหรือไงถึงบอกว่าไม่เป็นไร” เขาเอ็ดสายตาคมมองร่างบอบบางอย่างเป็นกังวล “คุณ... ธีร์จุฑาใช่ไหมคะ? หญิงสาวเอ่ยถาม เธอไม่สนใจด้วยซ้ำว่าชายหนุ่มบ่นอะไร สิ่งที่เธอเริ่มเอ่ยปากถามนั้นทำเอาเขาหยุดกึก มองจ้องหน้าสวยนั้นอย่างมีเครื่องหมายคำถามบนใบหน้า แต่แล้วจู่ๆ เหตุการณ์ที่เลขานุการสาวใหญ่เคยบอกกับเขาว่ามี ‘ผู้หญิง’ มาเฝ้ารอพบเขาวันนี้แต่เขาบอกว่าคงให้พบไม่ได้เพราะมีประชุมต่อ แค่นั้นเขาก็เริ่มปะติดปะต่ออะไรได้ขึ้นมา.... ‘หรือว่าผู้หญิงคนนี้จะคือคนเดียวกันที่มาขอเข้าพบเขาเมื่อช่วงบ่าย’ แต่สีหน้าเขาเครียดขรึมและมีประกายที่ไม่เป็นมิตรเลยเมื่อมองมาที่เธอ “ฉันมีธุระจะต้องพบคุณ... ฉันมีเรื่องสำคัญต้องคุยกับคุณค่ะ” หญิงสาวเอ่ยแสดงเจตนาอย่างตรงไปตรงมาไม่อ้อมค้อม กว่าจะหาโอกาสเจอหน้าเขาได้เลือดตาแทบกระเด็น เวลามีน้อย “คุณนั่นเอง” ธีร์จุฑาเหวอเล็กน้อย และแล้วสิ่งที่เขาคาดเดาก็กลายเป็นจริง หญิงสาวคนนี้คือผู้หญิงคนเดียวกันที่พยายามมาพบเขา แต่เธอได้รับการปฏิเสธทุกครั้ง ชายหนุ่มคาดไม่ถึงว่าผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่ร่างกายบอบบางน่าทะนุถนอมแบบนี้จะใจเด็ดถึงขนาดว่าเอาตัวเองกระโดดขวางรถสปอร์ตส่วนตัวของท่านประธานแห่งเดอะแลนด์ริชกรุ๊ป เพียงเพื่อจะได้พบและเจรจาประนีประนอม กับไอ้เรื่องที่น้องชายตัวเองทำอัปยศกับหลานสาวของเขาเอาไว้งั้นเหรอ ‘นี่มันเรื่องบัดซบที่สุดที่เขาเคยเจอ บ้าฉิบ!’ คิดถึงตรงนี้แล้วธีร์จุฑาอารมณ์ขึ้นจนหน้าแดงเพราะความโกรธจัด “พระเจ้า!!” เขาอุทานออกมาด้วยความทึ่ง แต่ก็ไม่พอใจนักที่หญิงสาวใช้วิธีนี้ ถ้าหล่อนพลาดพลั้งถึงขั้นเสียชีวิตขึ้นมา เขาจะไม่กลายเป็นคนบาปทำให้ผู้อื่นถึงแก่ชีวิตโดยประมาทหรือไงกัน ผู้หญิงอะไรบ้าเลือด! เกิดมาไม่เคยเจอ! “ฉันมีเรื่องต้องคุยกับคุณค่ะ คุณธีร์จุฑา” หญิงสาวเอ่ย สายตาคมสวยจ้องหน้าเขานิ่ง ใบหน้าหล่อคมเข้มในแบบฉบับหนุ่มลูกเสี้ยวไทย- อังกฤษ-อิตาเลียน ด้วยคุณหญิงงามมาลีมารดามีเชื้อสายไทย-อังกฤษ ส่วนฝั่งบิดา เอ็ดมัลโด นิคโคลล์โลเป็นชาวอิตาเลียนที่มาทำธุรกิจในเมืองไทยจนพบรักกับมารดาที่ขณะนั้นเป็นไฮโซสาวสวยในวงสังคม เมื่อความรักของพวกท่านสุกงอมก็ให้กำเนิดทายาท ที่สำเนารูปลักษณ์ภายนอกพ่อหล่อแม่สวยมารวมไว้ในตัวเขาอย่างโดดเด่น หนุ่มลูกครึ่งหน้าหล่อแบบอิตาเลียนแต่ชื่อไทย ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพื่อตามความประสงค์ของคุณตาผู้มีความอนุรักษ์นิยมเมื่อครั้งที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ ธีร์จุฑาเกิดที่ลอนดอน มีชีวิตวัยเด็กที่เมืองไทย เมื่อเข้าสู่วัยรุ่นจึงเดินทางไปเรียนต่อที่อเมริกาตั้งแต่อายุสิบเอ็ดขวบ หลังจบการศึกษาเขาก็กลับมาช่วยบริหารธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของตระกูลและพลิกฟื้นอาณาจักรอันยิ่งใหญ่ให้กลับมาผงาดอย่างแรงกล้าอีกครั้งหนึ่ง แต่ไม่คาดคิดว่านักธุรกิจใหญ่ที่ไม่ครั่นคร้ามต่อสิ่งใดจะต้องมาเจอเรื่องกวนใจแบบนี้ ‘ยัยป่วนนี่เอง กัดไม่ยอมปล่อย’ พิมพ์พิชชาจ้องมองคนตรงหน้า เธอบอกตัวเองว่าชายคนนี้มีรูปลักษณ์ภายนอกช่างดูหล่อเหลาน่าหลงใหลราวเทพบุตรหนีเมืองสวรรค์มาเที่ยวเล่นในโลกมนุษย์ แต่นั่นมันก็แค่เปลือกเท่านั้น เพราะสิ่งที่เขาก่อไว้มันยากเกินที่เธอจะอภัยให้เขาได้ ‘คนรวยใจร้ายทุกคนหรือไงนะ?’ “พวกนายออกไปก่อน” เขาสั่งการ์ดสองคน “พวกคุณด้วย” คำสั่งนั้นส่งไปยังแพทย์และพยาบาลที่อยู่ในห้องนี้ด้วย น้ำเสียงราบเรียบไร้อารมณ์ความรู้สึกทั้งที่ดวงตาคมคร้ามยังจดจ้องคนหน้าหวานอย่างไม่วางตา เพียงไม่นานห้องพักผู้ป่วยก็เหลือเพียงเขาและเธอ “คุณมีอะไรก็ว่ามา” น้ำเสียงเขาช่างเรียบขรึม แปลกตรงที่สิ่งนั้นมันทำให้เธอรู้สึกประหม่าเกรงกลัวเขาอย่างบอกไม่ถูก “ฉันมาขอร้อง...” เขาหยุดจ้อง สายตาของเขาพิจารณาหน้าหวานสวย ตาโตร่างเล็กบอบบาง แต่ดูเหมือนจะซ่อนรูปบางสิ่งเอาไว้อย่างชวนค้นหา แต่ช่างเถอะ นั่นไม่ใช่สิ่งที่เขาอยากรู้ในตอนนี้ นอกเสียจากว่า เรื่องอะไรที่ทำให้ยัยตาโตนี่ถึงขนาดเอาร่างตัวเองเข้าแลก เพื่อการได้พบกับเขา “ฉันอยากขอให้คุณช่วยถอนแจ้งความที่คุณจับน้องชายของฉัน” เธอเอ่ยขึ้น ทันใดนั้นสีหน้าที่หล่อเหลาของเขาเครียดขึงและดูดุดันขึ้นมาทันที สมองของเขาประติดประต่อเรื่องราวขึ้นอีกครั้งอย่างรวดเร็ว “คดีอาญามันถอนแจ้งความได้ที่ไหนกันคุณ ผมว่าคุณน่าจะรู้เรื่องนี้ดีนะ หรือความจริงคุณเป็นพวกประเภทพูดภาษาคนไม่รู้เรื่อง?” เขาว่าเสียงดุ ดวงหน้าคมทว่าดุดันมองพิมพ์พิชชาด้วยสีหน้าเรียบนิ่งดูเย็นชา แววตาสีอำพัลที่ปราศจากความเป็นมิตรนั้นยิ่งมองยิ่งเหน็บหนาวจนน่ากลัว ทันทีที่หญิงสาวเปิดเผยฐานะตัวเองว่าเป็นพี่สาวของทรงพล ไอ้ไก่อ่อนเลวๆ พันธุ์นั้นที่มันมาตอแยหลานสาวคนสวยของเขา ความเดือดดาลที่มีอยู่ในใจก่อนแล้วก็พุ่งทยานลิ่วยิ่งกว่าปรอทหนึ่งร้อยหกสิบองศาฟาเรนไฮต์ “มันไม่ง่ายไปหน่อยเหรอ... หลานสาวผมเป็นฝ่ายเสียหาย ยังไงผมก็ไม่มีวันยอม” หลานสาวเพียงคนเดียวที่เขาต้องรับผิดชอบชีวิตเธอตั้งแต่พี่ชายและพี่สะใภ้จากไปพร้อมบิดาจากเหตุการณ์เครื่องบินหายสาบสูญครั้งนั้น เขารักหลานสาวยิ่งกว่าไข่ในหินราวกับว่าปลายฟ้าเป็นแก้วใสอันเปราะบาง แล้วจู่ๆ วัยรุ่นกุ๊ยไร้อนาคตไม่มีหัวนอนปลายเท้ามาตอแย แล้วที่ซ้ำร้ายยิ่งกว่านั้นมันพาหลานสาวหายไปไหนต่อไหนสามวันสองคืน ผู้ปกครองอย่างเขาไม่เอาผิดก็ดูจะผิดวิสัยจนเกินไป งานนี้เขาจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุดโดยไม่มีข้อยกเว้น พิมพ์พิชชารู้ดีว่าคดีความที่ทรงพลโดนแจ้งจับนั้นหนักพอสมควรในข้อหา ‘พรากผู้เยาว์’ ธีร์จุฑาในฐานะผู้ปกครองเข้าแจ้งความเอาผิดน้องชายของเธอตามมาตรา 319 ประมวลกฎหมายอาญา ด้วยความที่เขาวู่วามเข้าใจผิดว่าทรงพลพาปลายฟ้าหลานสาววัยสิบหกปีของเขาไปเกินเลยกัน ทั้งที่ความจริงเด็กๆ แค่ไปเที่ยวทะเลที่เกาะกะดาด เป็นการฉลองจบการศึกษาเท่านั้นเองและครั้งนั้นก็ไปกันหลายคนด้วย ตอนนี้เรื่องราวใหญ่โตแม้เธอจะเรียนนิติฯมา ก็ไม่สามารถทำหน้าที่ทนายว่าความให้น้องชายแท้ๆ ได้เพราะยังไม่มีตั๋วทนายถูกต้องตามระเบียบ เรื่องนี้มีทางเดียวที่จะประนีประนอมได้คือเธอต้องรุดมาขอร้องให้เขายอมความ “แต่น้องชายของฉันไม่ได้ทำอะไรผิด ทั้งหมดเป็นเพราะความเข้าใจผิดของคุณต่างหาก คุณต้องแก้ปัญหานี้นะคะ” หญิงสาวที่เจ็บร้าวไปทั้งตัวยังไม่เลิกตื้อ แน่ล่ะเธอมาวันนี้เพื่อขอร้องเขา เพื่ออิสรภาพของน้องชายเพียงคนเดียวที่เธอมี แม้ต้องแลกด้วยอะไรเธอยินดีจะทำ “ผมไม่อยากคุยกับคุณแล้ว ต่อไปไม่ต้องพยายามมาหาผมอีก ผมไม่มีอะไรต้องคุยกับคุณ” เขาสรุปก่อนหันหลังเดินจากไปอย่างเย็นชา “ไม่นะ! คุณจะทำอย่างนี้ไม่ได้นะคะ คุณนั่นล่ะเข้าใจผิดเอง จะทิ้งปัญหาให้คนอื่นยังไง?” พิมพ์พิชชารีบพุ่งมาคว้าแขนของเขาไว้อย่างไม่ยอมแพ้ “เรื่องแค่นี้เองเหรอที่เธอถึงกับใช้ร่างกายสกปรกๆของเธอกระโดดขวางรถของฉัน เพื่อที่จะได้ต่อรองเรื่องบ้าๆนี่น่ะ?” วาจาของเขานั้นช่างเหยียดหยันจนทำให้หญิงสาวรู้สึกปวดร้าวถึงหัวใจ ใช่สิ! พิมพ์พิชชารู้ดีว่าสถานะตนตอนนี้กับชายตรงหน้าอยู่คนละชั้นกัน ผู้หญิงธรรมดาๆ อย่างเธอเทียบกับชายหนุ่มนักธุรกิจพันล้าน เพียบพร้อมไปทุกอย่าง เธอก็คงเป็นแค่เศษฝุ่นผง... ที่พร้อมถูกคนเค้าย่ำอย่างไร้เงื่อนไข “เพราะฉันมีน้องชายเพียงคนเดียว และตอนนี้เขากำลังจะมีอนาคตที่สดใส ฉันมาขอร้องเพราะเขาไม่ได้ทำอะไรเสื่อมเสียอย่างที่คุณกล่าวหา” เสียงหวานสาธยายด้วยน้ำเสียงประนีประนอม ถ้าเขายังคงตรึงสายตาที่ดวงหน้าอ่อนหวานและริมฝีปากอิ่มระเรื่อนั้นนานๆ มันอาจทำเขาลังเลจนใจอ่อนได้ ชายหนุ่มเบือนหน้ามองไปนอกหน้าต่าง ก่อนหันมาแสยะยิ้มกับหญิงสาวอย่างเวทนา “ไม่มีทาง เธอรักน้องชายเธอ แล้วยัยฟ้าหลานสาวของฉันล่ะ เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น เธอคิดว่าใครเสียหายมากกว่ากัน” เขาหยุดสบตากร้าวเมื่อพูดถึงเหตุการณ์อัปยศที่เกิดขึ้นกับปลายฟ้าหลานสาวของเขา “หลายสาวของฉันกับน้องชายของเธอ ตอบสิ ใครเป็นฝ่ายเสียหายกันแน่ฮึ?” เขาคาดคั้นดวงตาลุกพราว “แต่น้องชายของฉันบริสุทธิ์ใจ ไม่ได้เจตนาร้ายอย่างที่คุณกล่าวหา หรือว่าคุณใช้มาตรฐานต่ำๆ ของตัวเองตัดสินคนอื่น อย่าคิดว่าผู้ชายคนอื่นๆ จะเลวเหมือนคุณสิคะ!” เธอเถียง สิ่งนั้นทำให้ชายหนุ่มยิ่งเดือดดาล “หุบปากเดี๋ยวนี้!” เขาตวาดดุดัน “ถ้าคุณอยากจะเอาตัวเข้าแลก ผมแนะนำว่าแลกด้วยวิธีอื่นดูสิ เผื่อว่าผมจะใจอ่อน” เขามองเรือนร่างที่นั่งอยู่บนเตียงผู้ป่วยก่อนเขยิบเข้ามาใกล้ และสำรวจสายตาคู่คมมาหยุดตรงส่วนอวบอิ่มซ่อนรูปของหญิงสาวอย่างไร้มารยาท “เลว! คุณมันเลว” หญิงสาวบริภาษตาขวางเมื่อถูกย่ำยีด้วยคำพูด ไม่อยากเชื่อเลยว่าหนุ่มนักธุรกิจไฮโซในฝันของสาวๆ ทั่วประเทศจะหยาบคายขนาดนี้... คนที่ฉากหน้างดงามย่อมมีด้านมืดซ่อนอยู่ นี่คือด้านมืดของคุณใช่ไหม ธีร์จุฑา! “แน่นอน ผมรู้ว่าควรเลวกับใครต่างหากล่ะ” เขามองสำรวจหญิงสาวอีกครั้งอย่างละเอียดลออจนใบหน้าของหญิงสาวเห่อร้อนด้วยความอาย “ถ้าเปลี่ยนใจอยากเอาตัวเข้าแลกในแบบที่ผมต้องการ...เพื่ออิสรภาพของน้องชายคุณก็บอกนะ ผมยินดีจัดให้” เผียะ! “เลว ฉันมาเจรจากับคุณดีๆ แต่คุณกลับพูดจาดูถูกฉัน โดนผู้หญิงตบแค่นี้ยังถือว่าน้อยไป!” “ผมชอบนะ ไอ้การใช้กำลังเนี่ย!” เขาขยับร่างเข้ามาใกล้ จมูกคมโด่งเกือบจรดหน้าสวยอย่างผู้มีชัยเหนือกว่า ก็แค่ร่างบอบบางของผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่ง เขาจะทำอะไรกับเธออย่างไรมันก็ได้ทั้งนั้นล่ะ ‘อย่ายั่วโมโหกันนักสิ รู้ตัวหรือเปล่าว่ากำลังท้าทายอยู่กับใคร’ “คุณมันก็เหมือนๆ พวกผู้หญิงหิวเงินทั่วๆ ไปนั่นล่ะ หาทางเข้าใกล้ผมเพราะหวังผลประโยชน์ทั้งนั้น น้องชายคุณก็ไม่ต่างกัน ตอแยยัยหนู คงคิดอยากจะตกถังข้าวสารละสิ มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอกนะ” เขาหยุดเว้นช่วงเพราะไม่รู้จะเรียกชื่อเธอว่าอย่างไร “คุณ...” เขาคำรามดวงตาดุพราวแต่สายตาไม่รู้จะเรียกผู้หญิงที่ไม่มีคุณสมบัติเป็นสุภาพสตรีสักนิดตรงหน้าอย่างไร “พิมพ์พิชชา ฉันชื่อพิมพ์พิชชา “ หญิงสาวเอ่ยชื่อตัวอย่างกับรู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ “และฉันจะไม่มีวันยอมรามือจากคุณง่ายๆแน่ จำไว้นะคะ” “พิมพ์พิชชางั้นเหรอ?” เขาหยุดจ้อง มุมปากยกยิ้มบางๆอย่างร้ายกาจ “คราวหน้าถ้าคิดจะเอาตัวเข้าแลก... ก็แลกให้มันถูกที่...ถูกจุดสิครับ” เขาหยุดมองจ้องส่วนอวบอิ่มใต้ร่มผ้าของเธออย่างเสียมารยาท หญิงสาวรู้สึกเหมือนถูกคุกคามทางสายตาหน้าซ่านแดงด้วยความอับอายถึงกับเบี่ยงลำตัวหลบสายตาอันเอาเปรียบอย่างน่าชิงชังนั้น “แล้วคุณจะได้ในสิ่งที่ต้องการ” เขาท้าทายอย่างหยามหมิ่น เผียะ!! มือบางลอยหวือมากระทบแก้มสากของเขาจนชาไปครู่หนึ่ง น้ำหนักกำลังเรียกรอยแดงๆ บนใบหน้าหล่อๆ นั่นได้เป็นอย่างดี “นี่เป็นการตอบแทนกับที่คุณดูถูกฉัน กล่าวหาน้องชายฉัน ถึงพวกเราจะไม่ร่ำรวย ไม่มีพ่อ...ไม่มีแม่... แต่พวกเราก็ไม่เคยจะปีนป่ายไปถึงความร่ำรวยด้วยวิธีบ้าๆ แบบที่คุณกล่าวหา” หญิงสาวพูดด้วยความโกรธเกรี้ยวที่ถูกอีกฝ่ายดูถูก ถึงเธอจะไม่ใช่ผู้หญิงรวย สวยระดับนางงาม แต่เรื่องศักดิ์ศรี พิมพ์พิชชาไม่น้อยหน้าใครแน่ แต่ใช่ว่าเสียงบริภาษจากหญิงสาวจะทำให้ธีร์จุฑาสะทกสะท้านไม่ เขากลับรวบข้อมือของหญิงสาวไว้แน่นแล้วกระชากอย่างโหดๆ จนร่างเล็กเซถลาเข้ามาในอ้อมกอดเถื่อนๆ ของเขา หญิงสาวสะบัดข้อมือสุดแรงพร้อมแหงนหน้ามองเทพบุตรผู้ใจร้ายอย่างขุ่นโกรธเจตนาจะร้องประท้วงคนจอมเผด็จการ แต่ขณะนั้นริมฝีปากหยักหนาได้รูปกลับฉกจูบริมฝีปากอิ่มสีสวยของเธออย่างรวดเร็วราวจงใจลงทัณฑ์! “อือ...” พิมพ์พิชชาพยายามส่งเสียงประท้วง แต่กลายเป็นการเปิดโอกาสให้เขายิ่งแทรกลิ้นร้อนชุ่มฉ่ำเข้ารุกรานเพื่อควานหาความหอมหวานภายในกลีบปากสีกุหลาบแรกแย้มนั้นได้อย่างแสนง่ายดาย เสียงบริภาษจากริมฝีปากอิ่มเงียบสนิทลงและถูกกลืนหายเข้าไปในริมฝีปากกล้าแกร่งของเขา ‘คนบ้า!! นี่มัน ‘เฟิร์สคิส’ ของฉันนะ.... ฉันจะเก็บไว้ให้ ‘คนรัก’ ฉันเกลียดคุณ!’ จูบที่ไม่พึงประสงค์สำหรับพิมพ์พิชชา! เขาบดจูบเธอในขณะที่ยังไม่ประสีประสา ทำให้หญิงสาวต้องตัวสั่นเทาราวกระต่ายน้อยตื่นตูม... สมองหมุนคว้าง ตัวเบาหวิวราวกับว่าโลกนี้ไร้ซึ่งแรงดึงดูด หัวใจสั่นวูบไหว... ปลายเท้ายืนไม่อยู่เธอรู้สึกเหมือนกับว่าปลายเท้ากำลังลอยได้สูงลิ่วๆอย่างไร้จุดหมาย เมื่อลิ้นร้อนๆ เกี่ยวกระหวัดรุกไล่ได้ใจอยู่ในโพรงปากชุ่มฉ่ำหวานอย่างเหิมเกริม ส่งให้เธออ่อนระทวยลงในอ้อมกอดของเขา หญิงสาวพยายามหาโอกาสหายใจเต็มปอดเมื่อเขาค่อยๆ คลายจูบออกไปอย่างช้าๆ ริมฝีปากอิ่มของเธอสั่นระริกและแสนยั่วยวนเขา จนอดไม่ไหวที่จะกลับบดเบียดด้วยจูบร้อนๆ อีกครั้งอย่างติดอกติดใจ คราวนี้ไม่จูบเปล่า มือหนาเลื่อนจากต้นคอลงไปยังแผ่นหลัง โอบแนบแน่นที่เอวคอดเล็กของเธอก่อนจะเลื่อนลงต่ำลงไปที่สะโพกกลมกลึงอย่างสนุกใจ “ไม่นะ ไอ้ลามก!!” ร่างเล็กผลักอกแกร่งออกไปสุดแรงจนเขาเซบ้างเล็กน้อย “หืม” เขากระชากเธอเข้าหาอ้อมกอดของตน และบังคับเธอให้ดิ้นไปไหนไม่รอดจนรู้สึกได้ว่าหายใจลำบาก “ไม่นะ!” หญิงสาวเบือนหน้าหนีรสจูบด้วยความตกใจ สติที่เตลิดหายกลับคืนมาแต่คนตัวโตกลับไม่ปล่อยโอกาสให้เธอได้ผลักไส เขาใช้อีกมือรวบท้ายทอยของหญิงสาวให้แหงนรับจุมพิตอันโหดเถื่อนของเขาได้อย่างถนัดแนบชิดขึ้น มือของเขาลูบไล้แผ่นหลังไล้ลงมาบั้นท้ายกลมกลึงอย่างรันจวนใจ เผียะ!! “คนเลว” ร่างบางสะบัดสุดแรงกระทั่งร่างน้อยหลุดจากอ้อมกอดเขาอย่างเป็นอิสระ ร่างบางถอยกรูออกห่างจากเขาจนหลังชิดผนังก่อนที่มือบางจะคว้านิตยสารเล่มหนานับสิบฉบับแล้วออกแรงปาไปที่หน้าของเขาอย่างไม่ยั้ง ฟึ่บ! ฟึ่บ! ฟึ่บ!! โป๊ก!! “โอ๊ย!” สันนิตยสารเล่มหนาสร้างรอยแผลที่หางคิ้วชายหนุ่มจนเลือดไหลซึมออกมา ส่วนร่างบางหลังจากฝากรักแบบโหดๆ ไว้ที่หางคิ้วของเขาแล้วก็อาศัยจังหวะที่คนเกเรกำลังมึน รีบวิ่งพรวดออกมาจากห้องไปอย่างไม่หันหน้ากลับมามองซาตานในคราบพระเอกอีกเลย! “พิมพ์พิชชา... “ เขาพึมพำเอ่ยชื่อหญิงสาวนักตบมือวางอันดับหนึ่ง ก่อนหันไปสั่งกับเลขานุการหนุ่มคนสนิทที่เดินเข้ามาดูเหตุการณ์ข้างใน เพราะแน่ใจว่าต้องเกิดอะไรขึ้นแน่ๆ หญิงสาวที่ท่านประธานช่วยไว้จึงวิ่งหน้าตื่นออกไปแบบนั้น เมื่อมาถึงในเวลาไม่นานนักว่า ท่านประธานหนุ่มก็ออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงเดือดดาลลอดไรฟัน “สืบประวัติให้ละเอียดว่าเธอเป็นใคร มาจากไหน ฉันต้องการด่วนที่สุด!” ดวงตาคู่คมและสีหน้าเย็นชาของเขามีประกายวาวขึ้นมาอย่างแปลกประหลาด “คุณผู้หญิงคนนั้นเธอลืมไว้ที่เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ที่ตึกครับ” บอดีการ์ดร่างบึกยื่นบัตรประจำตัวประชาชนของหญิงสาวให้ท่านประธานหนุ่ม เขาหยิบขึ้นมา ปกติรูปถ่ายบนบัตรประชาชนมักจะเป็นรูปที่ดูแย่ที่สุดอยู่แล้วในชีวิต แต่สำหรับผู้หญิงคนนี้เธอกลับดูต่างออกไป ‘พิมพ์พิชชา ศิธานันท์’ ชายหนุ่มอ่านชื่อเธอในใจ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD