แฟน ปาก หมา :: EPISODE II มนุษย์หมา

1944 Words
        [พาร์ท คาถา]         ครืด~~~ ครืด~~~         ฤกษ์ โทรหาคุณ...         "ว่า" ผมรับแล้วกรอกเสียงลงไปในขณะที่มือยังคงลูบหัวหมาตัวเมียขนปุยๆอยู่         [ปลอบขวัญได้ตารางเวรมึงไปแล้วนะ] ไอ้ฤกษ์พูดสั้นๆแล้วตัดสายไปในทันที         ติ๊ด!         ไอ้เวร! เป็นถึงผอ.โรงพยาบาลกะอีเรื่องแค่นี้ทำให้ไม่ได้         แล้วดูมัน โทรมาพูดแค่นี้ใครมันจะไปตั้งรับทันวะ ผมรู้แหละว่ามันกลัวผมด่า แต่แม่งช่วงถือสายให้กูถามซักหน่อยมั้ยว่าแฟนกูมันมาเอาอีท่ายังไง ตอนไหน นี่กะจะไม่ให้รายละเอียดกูเลยว่างั้น         ผมส่ายหัวกับมันนิดหน่อยก่อนจะเอาโทรศัพท์ใส่กระเป๋าเสื้อกาวน์ไว้ หันไปยิ้มให้กับเจ้าของหมาตัวเมียที่อยู่บนเตียงอย่างเป็นกันเอง ตั้งแต่มาประจำที่โรงพยาบาลไอ้ฤกษ์ แม่งรู้สึกได้ว่าเคสกูมีแต่ตัวเมีย ไม่ได้พูดถึงหมาหมายถึงเจ้าของน่ะ         "เป็นอะไรมาคะเด็กดี" ผมเอามือไปขยี้ขนฟูๆของหมาเบาๆแล้วถามเสียงหวาน ผมเป็นคนรักสัตว์มากนะ เห็นแล้วอยากเข้าไปฟัดอ่ะ เลยเลือกเป็นสัตวแพทย์ไง         "ทำหมันครับหมอ" พี่เล่ที่เป็นบุรุษพยาบาลเป็นคนตอบแทน         "เพิ่งพามาที่นี่ครั้งแรกหรอครับ" ผมเงยหน้าขึ้นถามเจ้าของที่กำลังยิ้มตาละห้อยมองผมอยู่นาน เลี่ยงไม่ได้ที่จะถาม แม่งในประวัติไม่มีห่าอะไรเลยนอกจากชื่อและอายุ         "ใช่ค่ะหมอ" เธอพยักหน้า         "อื้ม..." ผมพยักหน้ารับ "ก่อนหน้าที่จะเอามานี่ได้ให้ลูซี่งดอาหารรึเปล่าครับ?"         ลูซี่อ่ะหมายถึงชื่อหมานะ ไม่ใช่เธอ         "ไม่ค่ะ กินปกติเลยค่ะ แต่ถ้าหมออยากไปทานข้าวด้วยกันซักมื้อก็ได้นะคะ" เธอพูดพลางเอาผมทัดหูตัวเองไปด้วย จัดว่าเป็นคนสวยพอตัว แต่ไม่ใช่แนวผมว่ะ         ใจจริงอยากจะตอบไปว่า ถ้าหมายถึงไปกินข้าวกับคนผมขอกินข้าวกับหมาดีกว่า แต่ด้วยความที่ผมเป็นหมอ และต้องคีฟลุคความเป็นคนใจดีและมีมารยาทเลยตอบไปแค่ว่า         "ขี้เล่นทั้งหมาทั้งคนเลยนะครับ" พูดไปยิ้มไปเหมือนเป็นมุขให้เธอยิ้มแหยๆอย่างไม่เข้าใจกับคำพูดผม         แม่งมีเคสแบบนี้มาให้ผมทำเยอะจังวะ อารมณ์แบบหมาไม่มีประวัติ คนเลี้ยงบางคนแม่งไม่รู้ด้วยซ้ำว่าสัตว์ที่ตัวเลี้ยงอยู่อายุกี่ปี พอเป็นแบบนั้นผมก็ต้องมาตรวจเช็คสุขภาพของสัตว์ก่อน และต้องเอาสัตว์ไว้ในโรงพยาบาลเพื่อรอผ่าตัด แบบนี้พวกเจ้าของก็จะได้กลับมาที่โรงพยาบาลอีกครั้งไงล่ะ         ใครมันไปแชร์ว่ามีหมอหล่อป่ะวะ เห็นมากันจัง แย่ๆ         "หมอคาถา" พี่เล่เรียกผมแล้วเพยินหน้าเหมือนมีคนมาหา ผมเลยพยักหน้าเล้กน้อยเชิงรับรู้ ให้พี่เขากันไว้ก่อน ขอเวลาผมไล่เจ้าของหมานี่ออกจากห้องตรวจแปป         "งั้นผมคงต้องเอาลูซี่ไว้ที่นี่ก่อนนะครับ ต้องตรวจสุขภาพก่อนถ้าไม่มีปัญหาอะไรคงได้ผ่าตัดวันพรุ่งนี้ ตอนนี้ขอให้แม่ลูซี่ไปกรอกเอกสารและรับใบนัดด้านหน้าได้เลยนะครับ" ผมพูดยิ้มๆพลางตรวจสุขภาพลูซี่ไปด้วย ตรวจว่าท้องรึเปล่าน่ะ ถ้าท้องก็คงทำไม่ได้         "หมอพอจะมีเบอร์ติดต่อมั้ยคะ เผื่อจะถามเกี่ยวกับลูซี่น่ะค่ะ" เธอเดินตรงมาจับมือผมที่กดเบาๆแถวท้องของหมาเธอ ฉิบหาย รุกแรงเกินไปป่ะคุณ         "ขอได้จากพยาบาลด้านหน้าเลยครับ" ผมดึงข้อมือออกจากเธอเบาๆเพื่อไม่ให้เป็นการเสียมารยาท         "เป็นไลน์ก็ได้ค่ะ คือเคยขอด้านหน้าไปแล้วมันเป็นเบอร์โรงพยาบาลโทรไม่ค่อยติดเลย" ไม่ว่าเปล่า เธอยังเอาโทรศัพท์ขึ้นมากดเข้าไลน์ยื่นให้ผมอีกต่างหาก         ลำบากใจฉิบหาย นี่ต้องพูดปฎิเสธยังไงไม่ให้ดูปากเสียวะ...         "ไอดี kp507  อยากรู้ความหมายป่ะว่ามันหมายความว่ายังไง k ตัวแรกคือคาถา p ตัวที่สองคือปลอบขวัญ ส่วนเลข5คือปีที่คบกันมา 0กิ๊กคือจะหายสาบสูญ 7คือถ้าใครไปแจกไลน์มั่วซั่วจะโดนเมียตบ"         ผู้หญิงตัวเล็กๆที่เดินเข้ามาในห้องแล้วพูดประโยคนั้นพลางเหล่ตามองผมคือแฟนผมเอง ชื่อมันก็บอกไปแล้วเมื่อกี้ ปลอบขวัญหรือเรียกสั้นๆว่าขวัญ คบกันมา 5 ปีกับอีก 7 เดือน ผมน่ะจำไม่ได้หรอกว่าคบมานานแค่ไหน ที่จำได้เพราะมันมาย้ำนี่แหละ นอกจากมันจะได้ย้ำผมแล้วยังได้กันผู้หญิงตรงหน้าผมให้ออกไปได้ด้วย         เอาไปทำฮาวทูซะ หึงผัวยังไงให้ได้สองเด้ง!         หลังจากที่เจ้าของหมาออกไป ขวัญมันก็มายืนจ้องหน้าผมเพื่อดูท่าที แต่ผมไม่ได้เป็นคนเริ่มก่อนซักหน่อย ไม่เห็นจะต้องกลัวอะไรเลย         "มาทำไม"         ไม่ตอบผม แถมยังชักสีหน้าใส่อีก โว้ะ!         ผมก็ทำงานของผมไปเรื่อยๆ รอให้ขวัญหายเคืองเอง ไม่ต้องง้ออะไรมากหรอก งอนเองก็หายเอง เป็นงี้มากี่ปีแล้วก็ไม่รู้ บางทีผมก็เบื่ออ่ะ เวลาอยากคุยก็ไม่คุยงี้อ่ะโคตรน่าเบื่อ         "หมอออออ"         เสียงอ้อนหวานๆนี่แหละเป็นการบอกว่าขวัญหายงอนผมแล้ว         "สรุปมาทำไมเนี่ย" ผมถามอีกรอบ เพราะขวัญแม่งมาหาผมโคตรบ่อย มาจนคนทั้งโรงพยาบาลนึกว่าผมกับเธอเป็นสามีภรรยากันแบบถูกต้องตามกฎหมาย ที่ไหนได้แม่งแค่คบกันเป็นแฟน         "เมื่อวานหมอไม่ยอมกลับบ้านอ่ะ" ว่าพร้อมบุ้ยหน้า คิดว่าตัวเองน่ารักแค่ไหนวะ ถามใจดู         "เอ้า ไม่ได้บอกหรอว่าอยู่เวรแทนไอ้ปั๊กอ่ะ" ผมพูดด้วยสีหน้าเรียบ จริงๆก็ตั้งใจไม่บอกนั่นแหละ         เคยป่ะวะ มันจะมีบางอารมณ์ที่แบบไม่อยากเจอหน้าแฟน ไม่อยากกลับบ้าน ผมเลยแลกเวรดึกกับไอ้ปั๊กที่เป็นหมอเหมือนกัน อีกอย่างขวัญไม่มีตารางเวรผมด้วยมันเลยพูดได้ไงผมบอกไปแล้วหรือยังไม่บอก ขวัญไม่รู้หรอก ขี้ลืมจะตาย ทีกับเรื่องวันที่แม่งจำดีจัง         นี่แหละ สาเหตุที่ไม่อยากให้แฟนมีตารางเวร มันแถไม่ได้!         "หรอ ไม่เห็นจำได้เลยอ่ะ"         "แก่แล้วไง สมองก็เสื่อมเป็นธรรมดา" ผมว่างั้น ทำให้โดนฝ่ามือเล็กๆฟาดเข้าให้         "ไอ้หมอ!"         ปกติขวัญจะเรียกผมด้วยคำว่าหมอเฉยๆ แต่พอเริ่มมีน้ำโห คำว่าไอ้มันก็จะตามมาแบบนี้แหละ ปกติธรรมดามาก         "อย่าเสียงดัง เดี๋ยวลูซี่ตื่น!" ผมดุเสียงเข้ม ก่อนจะโน้มหน้าไปจุ๊บเบาๆที่จมูกหมาซึ่งพิสูจน์แล้วว่ามันสะอาด "ลูซี่ตื่นหมดแล้วใช่มั้ยคะ คนอะไรเสียงก็ดังตัวก็อ้วน เน้อ~"         "ไอ้หมอ!" แล้วผมก็โดนฟาดอีกรอบ         แม่ง สนุกสัส!         "อะไร อิอ้วน!" ใครมันจะไปยอมให้เรียกไอ้อยู่ฝ่ายเดียววะ ผมก็มีปากป่ะ         "แฟนกับหมาจะเลือกอะไร!!"         "โอ้ย ก็ต้องเลือกหมาอยู่แล้วป่ะ ไม่น่าถามอ่ะ"         "ฮื่อ!!!" ด้วยความเป็นคนที่ไม่ยอมคน ขวัญแม่งกระทืบเท้าเบาๆใส่ผมพร้อมกับเบะปากทำท่าจะร้องไห้ใส่ เออ...จะบอกว่าไอ้ท่าทางแบบนี้แหละ น่ารักดี         "อ้วนเป็นช้างก็รักกว่าหมาแหละ คิดมาก" ผมเอามือไปยีหัวเบาๆพร้อมกับปรายยิ้มไปด้วย         เอ้า...ลืมไป เมื่อกี้จับหมามาไม่ได้ล้างมือก็มาจับหัวขวัญ อุ๊บส์!         "วันนี้อยากกินไก่ทอดอ่ะ เลิกแล้วไปกัน" พอโดนผมลูบหัวเข้าให้หน่อยขวัญก็ยอมอ่อนลงแล้วก็มาอ้อนผมเหมือนเดิม ดูเผินๆมันก็เหมือนหมาอ่ะ เหมือนจริงๆ สัมผัสก็ใช่         จะหาเรื่องแถไม่ไปก็ไม่ได้ด้วยดิ ขวัญมีตารางเวรแล้วก็คงจะต้องรู้แน่ว่าวันนี้ผมเลิกเร็ว ไม่อยากไปเลยว่ะ เมื่อคืนผมก็นอนไม่ค่อยหลับ หมาแมวแม่งเห่ากันให้ว่อนโรงพยาบาล หนีเสือกปะจระเข้ชัดๆ         "เหนื่อยอ่ะ ไม่ไปได้ป่ะ" ผมส่ายหัวตอบ พอเห็นขวัญทำหน้าหมาหงอยแบบนั้นก็อดถามไม่ได้ "โอกาสพิเศษอะไรป่ะเนี่ย ปกติไม่เห็นจะมาชวน"         "ให้ทาย"         "บอกมาเลย ไม่อยากทาย" ผมส่ายหัวไม่รับมุข         "ทายก่อนนน"         จะให้ทายอะไรวะ วันๆขวัญแม่งอยู่แต่บ้าน ผมเห็นไปสมัครงานมาหลายที่แล้วก็ไม่ผ่านซักที ตอนนี้ก็คงใช้เงินเก็บตัวเองอยู่ด้วย เงินผมด้วย ผมรู้แหละว่าเธอเครียด แต่จะให้ผมช่วยอะไรได้วะ ทางบ้านผมก็สายหมอกันหมด ขวัญเรียนบริหารน่ะ ผมเคยจะให้พ่อฝากงานให้แต่เจ้าตัวก็ไม่เอาเพราะไม่อยากเป็นเด็กเส้น         จ้า...จ้า...จ้า...         "ซีรีย์ตอนใหม่ออกหรอ?"         "หมอก็ฉลาดนะทำไมคิดได้แค่นี้อ่ะ" คนตัวเล็กถอนหายใจมองบนกับคำพูดผม ก่อนจะปรับสีหน้าอมยิ้มนิดๆแล้วยักคิ้วให้ "ขวัญได้งานแล้ว เจ๋งป่ะ"         "จริงๆมันก็สมควรได้ตั้งนานแล้วป่ะ" ผมพูดแบบนั้น แต่ก็ดีใจแทนด้วย จะได้ไม่ต้องเห็นมานั่งเครียดน่ะ         "ปรบมือดิ" ขวัญอ้าแขนโค้งตัวให้ผมปรบมือให้ แต่ผมนิ่ง         "บอกให้ปรบมือ!!"         ปรบก็ได้วะ...         แปะ แปะ แปะ         "แล้วได้งานอะไร ไม่ใช่งานเถื่อนๆใช่มั้ย?" ผมถามหยอกๆ         "โหหมอ สวยๆแบบแฟนหมออ่ะนะจะไปทำงานเถื่อน" ว่าแล้วก็ยกนิ้วชี้ส่ายไปมาตรงหน้าบอกผม "นี่เป็นถึงผู้ช่วยเลขาประธานบริษัทเลยนะ โฮะๆๆๆ"         เชรดโด้ มีความได้งานดี         แต่ก็นะ ขวัญก็ไม่ใช่คนโง่อ่ะ จบเกียรตินิยมอันดับสอง ขี้ๆที่ไหนล่ะ         "เดี๋ยวนี้เค้าให้ช้างไปทำงานเป็นเลขาแล้วอ๋อ?" คำพูดผมแม่งทำให้แขนที่กำลังเสยผมตัวเองของขวัญถึงกับร่วงเลย         "..." ขวัญถอนหายใจอีกรอบแล้วจิ๊ปากมองผม         "ใครเป็นคนคัดเลือกเนี่ย สายตาเสียเปล่า ว่างๆบอกเค้าให้มาตรวจตาบ้างนะ" ผมว่าพลางส่ายหน้าแล้วอุ้มลูซี่ที่ตรวจเสร็จแล้วเข้ากรงไว้ "อยู่นี่นะคะ เป็นเด็กดีอย่าเห่าเข้าใจมั้ย"         "พูดกับแฟนให้เหมือนพูดกับหมาหน่อยได้มะ" ขวัญถอนหายใจอีกรอบอย่างเซ็งๆ         "มันไม่เหมือนกัน" ผมส่ายหัวบอก         "หมาดีกว่า?"         "เปล่า มันคนละชนิดกัน อันนั้นหมาก็ต้องพูดดีๆให้มันเชื่อฟัง แต่อันนี้ช้างพูดไปยังไงก็ไม่รู้เรื่อง" ผมพูดพลางอมยิ้มไปด้วย รู้สึกสุขใจฉิบหายเวลาได้กวนตีนขวัญ ยิ่งเวลาเห็นคนตัวเล็กดิ้นผมยิ่งปริ่มใจ         แต่ก็ปริ่มได้ไม่นานอ่ะ เพราะก่อนจะกวนตีน ก็ต้องทำใจไว้ก่อนว่าจะโดนฟาด         "ไอ้หมอออออออออออออ!"         ป๊าบบบบบบบบบ!!!                  TO BE CON...
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD