รอยร้าว
ฝนเมื่อคืนทำให้เช้าวันนี้อากาศเย็นสบาย ลมพัดเอากลิ่นดินชื้นลอยมาแตะจมูก หมวยเล็กยืนอยู่หน้าร้านปาท่องโก๋ของพ่อแม่ มือเล็กกำลังจัดถุงกระดาษเรียงไว้ให้พร้อมขาย สายตาเธอเหม่อไปไกล ไม่ได้โฟกัสกับเสียงเจี๊ยวจ๊าวของตลาดเช้าที่คุ้นเคยเลยสักนิด
“อาหมวยเล็ก…เป็นอะไร เหม่ออีกแล้วนะ”
แม่ถามพลางหยิบแป้งมาปั้น ก่อนที่หมวยเล็กจะสะดุ้ง และรีบยิ้มกลบเกลื่อน
“เปล่าค่ะแม่ แค่คิดเรื่องเรียน”
แม้จะเอ่ยตอบออกไปอย่างนั้น แต่ภายในใจ…เธอรู้ดีว่าภาพเมื่อคืนตอนยืนอยู่ใต้ร่มกับภัทร มันยังติดตา เสียงของแทนไทที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจยังดังก้องในหัว
เธอควรจะอธิบายให้แทนไทฟังให้เข้าใจ แต่ความจริง…เธอเองก็ยังไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน
คาบเช้าวันนี้มีเรียนวิชาพื้นฐาน หมวยเล็กนั่งอยู่กับยุนอาและเฟลอกี้ที่มุมห้อง ฝนที่ยังพรำลงมาเบา ๆ ทำให้บรรยากาศขมุกขมัว แต่สิ่งที่ทำให้ใจเธอหนักไม่ใช่อากาศ…แต่เป็นคน
คนที่เพิ่งเดินเข้ามาในห้องทั้งที่วิชานี้ไม่เกี่ยวกับเขาเลย
“พี่ภัทร”
“โอ้โห…รุ่นพี่ภัทรมาโผล่ในคลาสเพื่อนเราอีกแล้ว” เฟลอกี้กระซิบอย่างตื่นเต้น
ยุนอากลอกตาพร้อมกับเอ่ยออกไป
“ฉันว่ามันไม่ใช่บังเอิญหรอก”
หมวยเล็กพยายามก้มหน้าจดเลคเชอร์ แต่หัวใจกลับเต้นแรงเมื่อรู้ว่าภัทรเดินมานั่งเก้าอี้ว่างข้างหลังเธอ กลิ่นน้ำหอมจาง ๆ ลอยมากระทบจมูก ซึ่งเธอจำกลิ่นนั้นได้เป็นอย่างดี
เสียงกระซิบต่ำดังขึ้น “เช้านี้ปาท่องโก๋อร่อยนะ”
เธอเม้มปากแน่น “แอบไปซื้อตอนไหนคะ”
“ไม่บอก” เขาหัวเราะเบา ๆ “แต่ได้จากมือเธอเอง”
หมวยเล็กใจสั่นวูบ รู้สึกเหมือนถูกต้อนให้จนมุม ทั้งที่ยังไม่ได้เงยหน้ามอง
หลังเลิกคาบเช้า โทรศัพท์หมวยเล็กก็สั่น เธอเห็นชื่อแทนไทบนหน้าจอ ใจหนึ่งอยากกดรับ แต่อีกใจก็หวั่นว่าจะต้องเผชิญกับน้ำเสียงแข็ง ๆ แบบเมื่อคืนแต่สุดท้ายเธอก็กดรับเพราะแพ้เสียงในหัวของตัวเอง
“หมวยเล็ก วันนี้ว่างไหม” เสียงเขายังคงขรึม
“เอ่อ…เย็นนี้มีทำรายงานกับเพื่อนน่ะ”
เธอตอบอย่างลังเล
“เพื่อน…หรือรุ่นพี่คนนั้น”
คำถามนั้นทำให้หมวยเล็กชะงัก
“แทน…อย่าพูดแบบนี้สิ มันไม่มีอะไรจริง ๆ”
“งั้นก็ดี” น้ำเสียงเขาเย็นลง “ไว้เราคุยกัน”
สายถูกตัดไป ทิ้งความอึดอัดไว้ให้เฌออย่างเต็มอก
ภัทรที่ยืนพิงกำแพงอยู่ห่าง ๆ มองเห็นสีหน้าหมวยเล็กชัดเจน เขาไม่ได้ยินเนื้อหาการคุย แต่แค่เดาก็รู้ว่าอีกฝ่ายคือใคร
ช่วงบ่าย หมวยเล็กกับเพื่อนนัดกันทำรายงานที่ร้านกาแฟเล็ก ๆ หน้ามหาวิทยาลัย เธอกำลังตั้งสมาธิพิมพ์ข้อมูลในโน้ตบุ๊ก แต่ก็รู้สึกได้ว่ามีคนเดินเข้ามาและนั่งเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม
“ขอร่วมโต๊ะหน่อยนะ”
“พี่…มาที่นี่ทำไมคะ” เธอเอ่ยถามออกไปทั้งที่รู้อยู่แก่ใจ
“คิดถึง” เขาตอบง่าย ๆ พร้อมจ้องตาไม่กระพริบ
ยุนอากับเฟลอกี้ที่นั่งอยู่ด้วยแอบหัวเราะคิกคัก หมวยเล็กพยายามไม่สนใจ แต่ยิ่งเขานั่งอยู่ตรงข้าม ความรู้สึกตื่นเต้นก็ยิ่งพุ่งสูง
“พี่ไม่กลัวแฟนหนูเข้าใจผิดเหรอ” เธอถามออกไปตรง ๆ แม้หลายวันที่ผ่านมาภัทรจะรู้อยู่แก่ใจว่าเธอมีคนรักอยู่แล้ว แต่ชายหนุ่มก็ไม่มีท่าที ที่จะละความพยายามในการเข้าหาเธอแม้แต่น้อย
ภัทรยิ้มบาง “ฉันว่าเขาก็เข้าใจถูกนะ ดีซะอีกจะได้รู้ว่าฉันเอาจริง”
คำตอบนั้นทำให้หมวยเล็กส่ายหน้าอย่างเบื่อหน่าย จนต้องก้มหน้าหลบสายตา
หลังจากทำรายงานเสร็จ หมวยเล็กเดินออกจากร้านพร้อมเพื่อน ๆ แต่กลับเห็นรถสปอร์ตสีดำของภัทรจอดอยู่ริมถนน เขากวักมือเรียกอย่างไม่สนสายตาคนรอบข้าง
“ขึ้นมา เดี๋ยวไปส่ง”
“ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวแทนไทมารับ” เธอปฏิเสธออกไปตรงๆ เพราะเธอไม่อยากมีปัญหากับคนรัก
“เขายังไม่มา”
“พี่จะไปรู้ได้ไง”
“วิธีของฉัน”
สุดท้ายเธอก็จำใจขึ้นรถ เพราะฝนเริ่มลงเม็ดอีกครั้ง แต่ตลอดทางหัวใจเธอกลับเต้นแรงยิ่งกว่าตอนวิ่งฝ่าเม็ดฝนเสียอีก
เมื่อรถมาถึงหน้าบ้านหมวยเล็ก กลับพบว่าแทนไทยืนรออยู่แล้ว สีหน้าเขามืดครึ้มเมื่อเห็นเธอลงจากรถของภัทร
“หมวยเล็ก” เสียงเขาตึง “นี่มันอะไรกัน”
“แทน…ฟังฉันก่อนนะ” เธอรีบพูด
แต่ทว่าแทนไทกลับหันไปมองภัทร
“เลิกยุ่งกับแฟนกูสักที น่ารำคาญฉิบหาย อย่าคิดว่ากูไม่รู้นะ ว่ามึงคิดอะไรอยู่”
“แล้วมึงคิดว่ากูไม่รู้เหรอ? ว่ามึงกำลังทำระยำอะไรลับหลังแฟนมึงก็จริง แต่อนาคตไม่แน่”
คำพูดนั้นเหมือนตบหน้ากันกลางอากาศ แทนไทกำหมัดแน่นแต่พยายามควบคุมตัวเอง ก่อนจะพาหมวยเล็กเข้าบ้าน ทิ้งให้ภัทรยืนอยู่กับรอยยิ้มเจือความท้าทาย
คืนนั้นหมวยเล็กนั่งกอดหมอนบนเตียง น้ำตาไหลเงียบ ๆ เธอรู้ว่าแทนไทไม่ใช่คนขี้หึงไร้เหตุผล แต่เหตุการณ์ช่วงนี้ทำให้เขาเริ่มไม่เชื่อใจเธอ
เสียงแจ้งเตือนโทรศัพท์ดังขึ้น
(ภัทร: ร้องไห้เหรอ)
(หมวยเล็ก: พี่รู้ได้ไง)
(ภัทร: เดา…เพราะฉันก็คิดถึงเธอจนใจมันเจ็บเหมือนกัน)
หมวยเล็กหลับตาแน่น พยายามจะไม่ตอบ แต่สุดท้ายก็พิมพ์กลับ
(หมวยเล็ก: หยุดเถอะค่ะ พี่กำลังจะทำให้ทุกอย่างแย่ลง)
(ภัทร: จะให้ฉันหยุดจริงเหรอ ถามใจตัวเองก่อนดีไหม ? หรือจริง ๆ แล้ว…เธอก็ไม่ได้อยากให้ฉันหยุด)
เธอวางโทรศัพท์ลง แต่หัวใจกลับเต้นแรงกว่าทุกครั้ง
เช้าวันต่อมา หมวยเล็กตัดสินใจจะคุยกับแทนไทให้ชัดเจน แต่เมื่อไปถึงมหาวิทยาลัย กลับเห็นเขายืนคุยกับผู้หญิงคนหนึ่งด้วยท่าทีสนิท มือหนาที่เคยลูบหัวเธอในตอนนั้น กลับมีใครอีกคนก็ได้รับมันเช่นกัน และรอยยิ้มบนใบหน้าแทนไทก็เป็นรอยยิ้มที่เธอไม่ได้เห็นมันมานานมากแล้ว
หัวใจเธอสั่นระรัว เนื้อตัวสั่นเทา จิตใจเธอหายวาบ และยิ่งไปกว่านั้น…ภัทรเองก็ยืนอยู่ไม่ไกล จ้องมาที่เธอด้วยแววตาที่บอกว่า “ฉันบอกแล้ว”